สอนถูกต้องมีคนเห็นดวงธรรม
ผมได้เขียนอธิบายไปบ้างแล้ว ในหลายๆ แห่ง หลายๆ ที่ว่า บุคลากรของวัดพระธรรมกาย ไม่รู้จักวิชาธรรมกายที่ถูกต้อง ในบันทึกนี้ จะเอาข้อเขียนจากหนังสือของ "มหาวิทยาลัยไชยบูลย์" มาเป็นหลักฐานเลยว่า มีการสอนผิดอย่างไร และการสอนที่ถูกต้องนั้น ควรเป็นอย่างไร
คำว่า "มหาวิทยาลัยไชยบูลย์" ของผมนั้นหมายถึง "มหาวิทยาลัยธรรมกาย" นั่นแหละ แต่ผมเห็นว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ไม่ได้นำหนังสือของหลวงพ่อวัดปากน้ำไปสอน มีแต่หนังสืออื่นๆ ผมจึงเห็นว่า มหาวิทยาลัยแห่งนี้ นำชื่อของหลวงพ่อวัดปากน้ำไปหากินอีกแล้ว ผมจึงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า "มหาวิทยาลัยไชยบูลย์" เนื้อหาที่ผมจะนำมาวิเคราะห์ในบันทึกนี้ มาจากเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยไชยบูลย์ในส่วนที่เป็นหนังสือเรียน
เนื้อหาที่จะนำมาวิพากษ์วิจารณ์นี้ อยู่ในบทที่ 1 ชื่อบทว่า "หลักการปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย" หัวข้อย่อยที่ 1.6 " วิธีปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงธรรมกาย เนื้อหาดังกล่าวมีข้อความดังนี้
พระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ได้สรุปแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกายตามแนวทางที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนีสอนไว้ว่ามี 2 แบบ คือ
แบบที่ 1 กำหนดบริกรรมนิมิตเป็นดวงแก้วหรือองค์พระอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจะใช้ควบคู่กับบริกรรมภาวนาก็ได้
แบบที่ 2 คือ วางใจนิ่งเฉยอยู่ในกลางท้องที่ศูนย์กลางกาย โดยไม่กังวลว่าตรงฐานที่ 7 หรือไม่
กำหนดไปเรื่อยๆ พอใจหยุดนิ่งถูกส่วนก็จะเข้าถึงปฐมมรรคเอง ซึ่งจะอยู่ในลักษณะของการวางใจนิ่งเฉยอย่างเดียวก็ได้ หรือจะใช้ควบคู่กับบริกรรมภาวนาก็ได้
ตรงนี้ข้อวิจารณ์เป็นการด่วนไปก่อนว่า ผิดทั้งนั้น หลวงพ่อวัดปากน้ำไม่ได้สอนแบบนี้ สมีธัมมชโยสอนมั่วนิ่มไปเรื่อย ตรงนี้ ขอเพิ่มเติมหลักฐานเชิงประจักษ์ ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธดังนี้
1) ถ้าสมีธัมมชโยสอนถูก พระในวัดไชยบูลย์ก็น่าจะเห็นดวงธรรมเห็นกายธรรมกันเป็นจำนวนมาก แต่นี่ ไม่มีใครในวัดไชยบูลย์ เห็นดวงธรรมและกายธรรมอย่างถูกต้องตามหลักวิชา แม้แต่คนเดียว
จากการสัมภาษณ์ ผู้ที่สึกออกมา (บุคคลผู้นี้บวชอยู่ในวัด 2 พรรษา) เพิ่งสึกออกมา ท่านเล่าให้ฟังว่า ตอนบวชใหม่ๆ จะมีพระพี่เลี้ยงมาสอนหลายคน แต่ละคนก็สอนไม่เหมือนกัน มั่วไปหมด จึงไม่เห็นดวงธรรมเลย พอตัวเองกลายเป็นพระเก่าแล้ว ไม่ได้มีโอกาสปฏิบัติธรรมอีกเลย ทำแต่งานโยธาอย่างเดียว
ปรากฏว่า ในการบวช 2 พรรษา (อุตส่าห์ drop เรียน) ไม่ได้ความรู้ใดๆ เกี่ยวกับวิชาธรรมกายที่ถูกต้องออกมาจากวัดเลย
2) ถ้าสมีธัมมชโยสอนถูก พุทธศาสนิกชนที่เข้าวัดกันเป็นแสนๆ เป็นล้าน ก็น่าจะมีคนเห็นดวงธรรม กายธรรมแบบถูกหลักวิชาบ้าง แต่นี่ไม่มีเลย มีผู้เห็นดวงธรรม กายธรรมบ้างเหมือนกัน ด้วยบารมีเก่าของบุคคลเหล่านั้น แต่ไม่มีใครในวัดสามารถสอนวิชาชั้นสูงให้ได้เลย
ในหนังสือได้อธิบาย แนวทางปฏิบัติเพื่อให้เข้าถึงพระธรรมกาย แบบที่ 1 ไว้ดังนี้
ตัวอย่าง วิธีปฏิบัติเพื่อการเข้าถึงธรรม แบบที่ 1
เอาใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายให้กำหนดเครื่องหมายเป็นเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว โตเท่ากับแก้วตาของเรา กำหนดเครื่องหมายให้ใสสะอาดบริสุทธิ์อยู่ตรงฐานที่7 แล้วก็ตรึก นึกถึงความใสบริสุทธิ์ของเครื่องหมายนั้น
ใจหยุดอยู่ตรงกลางความใสบริสุทธิ์ของเครื่องหมาย หยุดนิ่งอย่างเดียวไปเรื่อยๆ โดยไม่คิดเรื่องอื่นใดทั้งสิ้น หยุดนิ่งเฉย ตรึกนึกถึงความใส คือนึกถึงความใสไปเรื่อยๆ นึกเบาๆ สบายๆ คล้ายเรานึกถึงสิ่งที่เราคุ้นเคย แต่อย่าไปเค้นภาพ นึกเบาๆ คือนึกว่ามีเพชรอยู่ในกลางท้องเรา นึกเหมือนมีแล้วก็คล้ายกับไม่มี คือนึกเหมือนเป็นความรู้สึกว่ามีเครื่องหมายเป็นเพชร แต่ทำคล้ายกับเราไม่ได้นึก นึกนิ่งเฉยกับเครื่องหมายที่ใสสะอาดนั้น
แล้วก็อย่าไปคิดเรื่องอื่น แต่ถ้าห้ามใจไม่ให้คิดเรื่องอื่นไม่ได้ให้ภาวนาสัมมาอะระหังกำกับไปด้วย โดยให้เสียงภาวนาดังออกมาจากจุดกึ่งกลางของเครื่องหมายที่ใสสะอาด เหมือนเพชรลูกที่เจียระไนแล้ว ไม่มีขีดข่วนคล้ายขนแมว
เราภาวนาเรื่อยไป ให้เสียงดังมาจากตรงนั้น สัมมาอะระหังๆ ๆ ดังจากกลางท้อง ควบคู่กับดวงใส อย่าให้หลุดภาวนาไปเรื่อยๆ จนกว่าใจจะหยุดนิ่ง16
( เลขที่ 16 นั้น คือ เลขที่เชิงอรรถ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ เขียนเชิงอรรถไว้ดังนี้ 16) พระราชภาวนาวิสุทธิ์ พระธรรมเทศนา 6 กรกฎาคม 2540.
ซึ่งก็หมายความว่า หนังสือได้นำคำสอนของสมีธัมมชโยมาขยายความ ตรงนี้ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนว่า ทำไมไม่เอาข้อเขียนของหลวงพ่อวัดปากน้ำมาเขียน สมีธัมมชโยเป็นผู้ค้นพบวิชาธรรมกายหรืออย่างไร?