ตายแล้วเกิด เป็นความเห็นที่ผิด
|
 |
ความเห็นผิด ๒ ประการ คือ ตายแล้วมีตัวตนเกิดใหม่อีก เรียกว่า สัสสตทิฎฐิ กับ ตายแล้วตัวตนสูญหายไป เรียกว่า อุทเฉททิฎฐิ
ผู้ที่มีความเห็นว่า เมื่อตายไปแล้วสิ่งที่รู้สึกนึกคิดว่าเป็นตัวเรานี้จะมีการเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีก อันเป็นความเห็นที่ทำให้เกิดความเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตาย-เกิด เรื่องนรก-สวรรค์อย่างเป็นสถานที่ และเรื่องเวรกรรมจากชาติปางก่อน เป็นต้น อย่างนี้เรียกว่าเป็นความเห็นผิดพวกสัสสตทิฎฐิ
ส่วนผู้ที่มีความเห็นว่า เมื่อตายไปแล้วสิ่งที่รู้สึกนึกคิดว่าเป็นตัวเรานี้ จะสูญหายไปเลย ไม่มีการเกิดขึ้นมาใหม่ได้อีก แล้วก็ไม่เชื่อเรื่องการกระทำว่าจะมีผลใดๆ อย่างนี้เรียกว่าเป็นความเห็นผิดพวกอุทเฉททิฎฐิ
พุทธศาสนาที่แท้จริงจะอยู่ตรงกลางระหว่างความเห็นผิดทั้งสอง คือ จะสอนว่ามันไม่มีตัวเราอยู่จริง มีแต่ตัวตนมายาหรือตัวคนชั่วคราวเท่านั้น หรือเท่ากับว่า มันไม่ได้มีตัวเรามาเกิดและไม่มีตัวเราตาย เพราะสิ่งที่เป็นตัวเรานี้เป็นเพียงสิ่งที่ธรรมชาติปรุงแต่งขึ้นมาชั่วคราวเท่านั้น เมื่อสิ่งที่ปรุงแต่งขึ้นมาแตกสลายไป สิ่งที่เป็นตัว(คือจิต)นี้ก็จะดับหายตามไปด้วย แต่ก็สอนว่า การทำดีก็มีผลดี คือสุขใจอิ่มใจ, การทำชั่วก็มีผลชั่ว คือทุกข์ใจ ร้อนใจ ,การปรุงแต่งกิเลส ก็ทำให้จิตเกิดทุกข์,การไม่ปรุงแต่งกิเลส ก็ไม่ทำให้จิตเป็นทุกข์ คือยอมรับว่า แม้จะไม่มีตัวเราอยู่จริง แต่ตัวเราชั่วคราวนี้ก็มีการกระทำและรับผลจากการกระทำของตนเองได้ในปัจจุบัน
สรุปว่า ความเห็นถูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างตายแล้วเกิดกับตายแล้วสูญ คือจะเห็นว่า ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครตาย ดังนั้นจึงเท่ากับมันสูญจากตัวเรามาตั้งแต่เรายังไม่ตาย แต่ตัวเราที่มีอยู่นี้ มันก็ทำกรรมและรับผลจากการกระทำของมันได้ ไม่ใช่ว่าจะทำกรรมแล้วไม่ต้องรับผลอย่างพวกอุทเฉททิฎฐิ จึงขอให้ชาวพุทธช่วยกันศึกษาเรื่องขันธ์ ๕ เป็นอนัตตาตามหลักวิทยาศาสตร์ให้ถูกต้อง ก็จะเข้าใจเรื่องสูญก่อนตายนี้ให้ถูกต้อง
จากคุณ |
:
What am I?
|
เขียนเมื่อ |
:
22 เม.ย. 55 19:49:27
|
|
|
|