ความคิดเห็นที่ 1 ความบริสุทธิคุณนี้ หมายถึงความพ้นจากอาสวะ (กิเลสที่หมักหมมหรือดองอยู่ในสันดาน) กิเลส (ความเศร้าหมอง) ตัณหา (ความพยายามอยาก) มานะ (ความถือตัว) ทิฐิ (ความเห็นผิด) หรือพ้นจากความผูกพันในกาม พระพุทธเจ้าทรงมีพระบริสุทธิคุณเหนือปุถุชน มิได้มีความมัวหมองและไม่มีมลทินอันเป็นวิสัยปกติของบุคคลผู้ยังหลงระเริงอยู่ในโลกียสุข กิเลสไม่สามารถจะแปดเปื้อนพระพุทธองค์ได้ ดังคำอุปมาในอปทานว่า ดอกบัวหลวงเกิดในน้ำ งดงามอยู่กลางน้ำ ดอกบัวหลวงนั้นยังคงบริสุทธิ์ ไม่ติดอยู่กับน้ำ ฉันใด ข้าแต่พระองค์ผู้มีความเพียรมาก พระองค์ก็ทรงเป็นฉันนั้น เป็นมหามุนี เกิดมาแล้วในโลก (แต่) ไม่ทรงติดอยู่กับโลก ดุจดอกบัวหลวงไม่ติดอยู่กับน้ำ ฉะนั้น จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:12:43

ความคิดเห็นที่ 2 ในสภิยสูตร มีเรื่องว่าสภิยปริพาชกเที่ยวไปในสำนักของเจ้าลัทธิต่าง ๆ เพื่อถามปัญหาที่ตนเรียนมาจากเทวดา แต่ไม่มีเจ้าลัทธิคนใดตอบได้ ภายหลังเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเพื่อทูลถาม พระพุทธองค์ตอบสภิยปริพาชกทุกข้อ จนสภิยปริพาชกหมดความสงสัย กราบลงแทบพระบาท พร้อมกล่าวว่า “ภาษิตของพระองค์ชัดเจนไพเราะยิ่ง ..... ทรงประกาศธรรมอย่างแจ่มแจ้งโดยประการต่าง ๆ เปรียบเหมือนบุคคลหงายของที่คว่ำ เปิดของที่ปิด” สภิยปริพาชกกล่าวสรรเสริญพระพุทธองค์โดยเปรียบกับดอกบัวว่า พระองค์ทรงล่วงพ้นอุปธิกิเลสได้ ทำลายอาสวะได้แล้ว ไม่มีอุปทาน (ความถือมั่น) ละความหวาดกลัวภัยได้ เหมือนพญาราชสีห์ไม่กลัวต่อหมู่เนื้อ พระองค์ไม่ทรงติดอยู่ในบุญและบาปทั้งสอง เหมือนดอกบัวขาวที่สวยงามไม่ติดอยู่ในน้ำ จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:13:21

ความคิดเห็นที่ 3 บุคคลผู้ปฏิบัติธรรม ก็มีคำเปรียบเทียบกับดอกบัวไว้ว่า บุคคลผู้เป็นนาคะสงัดจากทิฏฐิเหล่าใด พึงเที่ยวไปในโลก ไม่พึงพูดจายึดถือทิฏฐิเหล่านั้น ดอกบัวก้านมีหนาม เกิดในน้ำ ไม่แปดเปื้อนด้วยน้ำและโคลนตม ฉันใด มุนีผู้กล่าวเรื่องความสงบ ก็ไม่ยินดี ไม่แปดเปื้อนในกามและโลก ฉันนั้น และ มุนีไม่ติดพันในรูปที่เห็น เสียงที่ได้ยินและอารมณ์ที่รับรู้ เหมือนหยาดน้ำไม่ติดบนใบบัว เหมือนหยาดน้ำไม่ติดบนดอกบัว ฉะนั้น ขุ.ม. (ไทย) ๒๙/๘๐/๒๓๗. ขุ.ม. (ไทย) ๒๙/๔๗/๑๖๔. จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:13:43

ความคิดเห็นที่ 4 นอกจากนี้ มีคำยกย่องพระราชาผู้ปฏิบัติพระองค์ให้อยู่ในครรลองแห่งกฎหมาย ไม่ลุแก่อำนาจ ตัดสินความโดยปราศจากความโกรธ ทรงความเป็นกลาง เปรียบเหมือนตราชู ไม่ทรงผลุนผลันตัดสินคดี แสดงถึงความบริสุทธิ์ในการปกครอง “พระราชาผู้เช่นนั้นทรงได้ชื่อว่าอันอะไรไม่เปื้อน เหมือนดอกปทุมที่เกิดในสระโบกขรณี อันอะไรไม่แปดเปื้อน” ขุ.ชา.อ. (ไทย) ๕๙/๒๑๕ ดังที่พระอรรถกถาบรรยายว่า ดอกบัวแย้มบานได้ เมื่อมีแสงอาทิตย์ เมื่อโผล่พ้นน้ำแล้ว โคลนตมก็ย่อมไม่เปรอะเปื้อน พระราชาผู้ซึ่งตัดสินคดีความโดยชอบธรรม ถูกต้องตามกฎหมาย ไม่ลุแก่อำนาจ ตัดสินความโดยปราศจากความโกรธและเป็นกลาง เปรียบเหมือนตราชู เพราะพระองค์ไม่ทรงผลุนผลันนั่นเอง ขุ.ชา.อ. (ไทย) ๕๙/๒๑๓-๓๑๔. จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:14:18

ความคิดเห็นที่ 5 อ้างอิง พระวิมลศีลาจารย์ พระพุทธโฆสาจารย์ จารวี มั่นสินธร มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย  ภาพประกอบอินเตอร์เน็ต กระทู้ย้อนหลัง สัญลักษณ์แห่งความดีงาม [ดอกบัว] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11976755/Y11976755.html สระโบกขรณี [ดอกบัว] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11981714/Y11981714.html ดอกบัวกับพระพุทธเจ้า [ดอกบัว] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11983460/Y11983460.html เครื่องสักการะพระรัตนตรัย [ดอกบัว] http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y11989784/Y11989784.html สรุป ดอกบัวมีหลายชนิด ธรรมชาติของดอกบัวทุกชนิดล้วนเกิดในโคลนตม แต่ชูช่อเบ่งบานในทุกที่ที่มีน้ำหล่อเลี้ยง เมื่อผลิดอกพ้นน้ำและต้องแสงพระอาทิตย์แล้ว ย่อมมีรูปทรงที่งดงาม มีสีสันสดสวย และมีกลิ่นที่หอมจรุงใจ เปรียบเช่นชาวพุทธทั้งหลายเกิดมาในท่ามกลางกองกิเลส เมื่อน้อมรับคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และนำมาประพฤติปฏิบัติตามด้วยใจอันบริสุทธิ์ กิเลสไม่สามารถแปดเปื้อนได้เช่นเดียวกับดอกบัวที่ไม่ติดโคลนตม จบเรื่องดอกบัวตอนสุดท้าย ขอให้ทุกท่านมีความสุขครับ จากคุณ : ebusiness เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 09:18:36

ความคิดเห็นที่ 6 อนุโมทนาครับ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 23 เม.ย. 55 11:44:27