 |
ตอนที่ 9 (จบ)
......สวนสันติภาพเมืองฮิโรชิม่า
ตอนช่วงเช้าของวันที่ 25 มิถุนายน 2532 อาจารย์ก็บิณฑบาตอยู่ในตัวเมืองฮิโรชิม่าแล้ว ทางสถานีโทรทัศน์ก็ตามมาถ่ายสารคดีด้วย วันนั้นมีโยมศรัทธามาใส่บาตรเยอะมาก ไม่นานอาหารก็ค่อนข้างจะเต็มบาตร ทีมถ่ายทำสารคดีบอกว่า เพราะชาวเมืองฮิโรชิม่ามีนิสัยชอบช่วยเหลือคนเดินทาง คุ้นเคยกับการอนุเคราะห์อาคันตุกะ
พอฉันเสร็จอาจารย์ก็ออกเดินต่อจนมาถึงจุดหมายปลายทาง Peace Memorial Park จิตอาจารย์ก็รู้สึกแปลกๆ นับตั้งแต่เดินทางออกจากสนามบินนาริตะมาจนถึงที่หมาย สิ่งที่อาจารย์เป็นห่วงที่สุดในการธุดงค์ครั้งนี้คือห่วงว่าจะเจอกลุ่มวัยรุ่นมาก่อกวน ที่ญี่ปุ่นมีปัญหาเด็กวัยรุ่นชอบทำร้ายคนจรจัด รวมทั้งห่วงว่าจะมีปัญหากับตำรวจ ทั้งเรื่องไปพักตามที่จอดรถหรือสวนสาธารณะและการบิณฑบาต เพราะการบิณฑบาตในญี่ปุ่นจะต้องมีใบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่เสียก่อน แต่อาจารย์ไม่มีและไม่ได้ติดต่อไว้ เห็นว่าเราบิณฑบาตอาหาร ไม่ได้ไปรบกวนหรือเรี่ยไรปัจจัยใคร ก็ไม่น่ามีปัญหาอะไร สุดท้ายเรื่องไม่ดีที่อาจารย์เป็นห่วงก็ไม่เกิดขึ้นเลย ถึงที่หมายได้โดยสวัสดิภาพ
อนุสาวรีย์ทรงอานม้าในบริเวณ Peace Memorial Park สถานที่เด่นที่สุดใน Peace Memorial Park ซึ่งมีบริเวณกว้างขวางใหญ่โตก็คือ A-Bomb Dome เป็นซากตึกศูนย์แสดงสินค้าที่อยู่บริเวณใกล้ใจกลางจุดทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ โดนระเบิดจนเหลือแต่ซากตั้งอยู่ เป็นอนุสรณ์สถานของเหตุการณ์ทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ที่เมืองฮิโรชิม่าเมื่อวันที่6 สิงหาคม พ.ศ.2488 มีคนเสียชีวิตทันทีที่โดนระเบิด 70,000ถึง 80,000 คน เสียชีวิตหลังจากนั้นอีกราว 70,000คน รวมแล้วมีคนเสียชีวิตไปไม่น้อยกว่า 140,000คน
บริเวณรอบๆอนุสรณ์สถานก็มีอนุสาวรีย์ต่างๆที่เป็นเครื่องเตือนใจถึงผลเสียหายในครั้งนั้น และเรียกร้องให้ทุกคนบนโลกใฝ่หาสันติภาพ เช่นอนุสาวรีย์ที่ระลึกถึงเด็กๆที่เสียชีวิตไปในเหตุการณ์ครั้งนั้น ตัวยอดของอนุสาวรีย์เป็นรูปเด็กผู้หญิงชูนกกระเรียนกระดาษ เด็กผู้หญิงคนนี้ชื่อซาดาโกะ ซาซากิ บ้านของเด็กคนนี้อยู่ห่างจากจุดระเบิดไปหนึ่งกิโลเมตรกว่า ตอนที่ระเบิดนิวเคลียร์ถูกทิ้งลงที่เมืองฮิโรชิม่านั้น ซาดาโกะเพิ่งอายุได้2ขวบ พออายุได้12ปีก็ป่วยเป็นโรคลูคีเมียอย่างรุนแรง เพราะผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสีในตอนนั้น ซาดาโกะเชื่อว่าถ้าพับนกกระเรียนครบ1,000ตัวแล้วก็จะหายจากโรคนี้ได้ แต่สุดท้ายซาดาโกะก็เสียชีวิตลง แม้ว่าจะพับได้มากกว่า1,000ตัวก็ตาม นกกระเรียนทั้งหมดถูกฝังลงในหลุมศพของเด็กคนนี้ด้วย ในปัจจุบันนี้รอบอนุสาวรีย์ก็มีจัดแสดงนกกระเรียนกระดาษที่เด็กทั่วโลกพับส่งมาเพื่อเป็นการแสดงความรำลึกและเรียกร้องสันติภาพ
ดูแล้วก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ จิตส่วนหนึ่งก็รู้สึกพอใจที่ทำตามเป้าหมายได้สำเร็จ จิตอีกส่วนหนึ่งก็คิดถึงความสูญเสียจากสงครามที่มีคนตายมากมาย ทั่วทั้งโลกจากสงครามโลกครั้งที่2ก็ร่วม70ล้านคน เลยทำให้ไม่ค่อยสบายใจ อาจารย์กับญาณะซังก็ไปนั่งสมาธิเจริญเมตตาภาวนาให้แก่ผู้คนทั้งหมดที่เสียชีวิตไปในครั้งนั้นอยู่ตรงบริเวณอนุสาวรีย์ทรงอานม้าที่สลักชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดไว้บนนั้น นั่งสมาธิอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง ถ้ามองลอดอนุสาวรีย์นี้ไปก็จะเห็นกองไฟแห่งสันติภาพที่จุดไว้ตั้งแต่ พ.ศ.2507 และจะไม่ยอมให้ดับลงจนกว่าโลกนี้จะพ้นจากภัยของอาวุธนิวเคลียร์ ถ้าทอดสายตาต่อไปก็จะเห็น A-Bomb Dome ที่เป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้คนเห็นความสำคัญของสันติภาพ
พอนั่งสมาธิเสร็จแล้วอาจารย์กับญาณะซังเข้าไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ Peace Memorial Museum ภายในพิพิธภัณฑ์มีภาพถ่ายของผู้ที่ถูกระเบิดนิวเคลียร์ คนที่อยู่ใกล้จุดระเบิดแล้วถึงกับระเหยไปเลยก็มี บางคนอยู่ห่างออกมาก็ถูกความร้อนเผาจนผิวไหม้เกรียมทั้งตัว ที่ถูกเผาจนลายของเสื้อผ้าที่สวมฝังลงไปในผิวก็มี ผู้ที่อยู่ห่างๆก็โดนผลกระทบจากกัมมันตภาพรังสี ทั้งมีเนื้องอกทั่วตัว ผมร่วงเกือบหมดศีรษะ และเป็นโรคต่างๆนานา
นอกจากนี้ก็มีข้าวของเครื่องใช้ที่เหลือรอดมาได้ นาฬิกาที่หยุดเดินเมื่อเวลา 8นาฬิกา 15นาทีซึ่งเป็นเวลาที่เกิดระเบิด กล่องข้าวกลางวันของเด็กคนหนึ่งที่หาร่างไม่เจอ รถสามล้อถีบของเด็กที่ถูกระเบิดเสียชีวิต เสื้อผ้าที่ผู้ถูกระเบิดสวมใส่ในวันนั้น พร้อมภาพถ่ายเจ้าของที่ไหม้เกรียมไปทั้งตัว ไปจนถึงเส้นผมและชิ้นส่วนอวัยวะบางชิ้น อย่างเล็บที่ดำเกรียมบิดเบี้ยวผิดรูปของผู้รับผลกระทบจากระเบิด
คืนนั้นอาจารย์ได้พักที่โรงแรมโดยทางทีมถ่ายทำสารคดีเป็นคนจัดการให้ พอตอนเช้าก็พาพวกอาจารย์ไปเลี้ยงโอโคโนมิยากิหรือพิซซ่าญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงของฮิโรชิม่า ระยะทาง1,000กิโลเมตร ใช้เวลาทั้งสิ้น 72วัน เดิน2,200,000ก้าวโดยประมาณจนมาถึงที่หมาย
ปัจจุบัน ท่านญาณรโต(ญาณะซัง) เป็นรองเจ้าอาวาสอยู่วัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ ขอขอบคุณเนื้อหาจากหนังสือ "ธุดงค์ญี่ปุ่น" ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก -------------------
รูปอนุสาวรีย์ที่รำลึกถึงซาดาโกะ ซาซากิ
จากคุณ |
:
goodfriday
|
เขียนเมื่อ |
:
23 เม.ย. 55 10:22:18
|
|
|
|
 |