วิญญาณ ที่แท้จริงในพุทธศาสนา
|
 |
คำที่ชาวพุทธส่วนใหญ่เข้าใจผิดกันมาช้านานแล้วก็คือคำว่า วิญญาณ ที่แปลว่า แจ้ง หรือหมายถึงการรับรู้ที่เกิดขึ้นมาเพียงชั่วคราวตามระบบประสาททั้ง ๖ ของร่างกายที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งนี่คือความหมายของคำว่าวิญญาณที่แท้จริงในพุทธศาสนา ที่มีลักษณะเป็นอนัตตา คือไม่ใช่ตัวตนของเราหรือของใครๆ แต่เป็นวิญญาณของธรรมชาติที่ต้องอาศัยสิ่งอื่นเพื่อเกิดขึ้นมา ไม่สามารถที่จะเกิดขึ้นมาแล้วจะตั้งอยู่ได้ด้วยตัวของมันเอง
แต่ชาวพุทธบางคนก็เข้าใจผิดไปว่าวิญญาณหมายถึงจิตใจที่เป็นตัวเรา ที่มีความรู้สึกนึกคิดได้ ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วเพื่อไปเกิดใหม่ได้ หรือบางคนก็เรียกว่า ผี ที่ชอบหลอกให้คนกลัว ซึ่งคนที่พอจะเข้าใจอยู่ธรรมะบ้างก็จะรู้ได้ว่า นี่ไม่ใช่วิญญาณในพุทธศาสนา เพราะมีลักษณะของอัตตาหรือตัวตนอมตะ(ไม่ตาย)ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ แต่เป็นวิญญาณของศาสนาพรามหณ์ที่เชื่อว่าจิตหรือวิญญาณนี้เป็นอัตตา (คือเป็นตัวตนอมตะที่เป็นตัวตนของมันเองโดยไม่ต้องอาศัยสิ่งอื่นมาปรุงแต่งมันขึ้นมา และจะมีอยู่ไปได้ชั่วนิรันดร)
ชาวพุทธบางคนที่รู้ว่าวิญญาณที่ออกจากร่างกายยที่ตายไปแล้วได้นั้นไม่ใช่วิญญาณของพุทธศาสนา แต่ก็ยังเชื่อว่ามีวิญญาณตัวใหม่ที่มีลักษณะเป็นอัตตา แต่มาเรียกเสียใหม่ว่าเป็น วิญญาณธาตุ ซึ่งเขาก็หมายถึง จิตใจที่เป็นตัวเรา ที่รู้สึกนึกคิดได้ ที่สามารถออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วเพื่อไปเกิดใหม่ได้
แต่บางคนก็เรียกว่าเป็น ปฏิสนธิวิญญาณ คือเป็นตัววิญญาณที่ไปเกิดใหม่ได้ ซึ่งวิญญาณในลักษณะนี้ก็ยังคงมีลักษณะของอัตตาตามความเชื่อของศาสนาพราหมณ์อยู่เหมือนเดิมชาวพุทธบางคนก็เข้าใจว่าวิญญาณนี้ก็คือตัวจิต ที่รู้สึกนึกคิดได้ ที่รู้สึกว่าเป็นตัวเรา แต่เพื่อไม่ให้วิญญาณนี้มีลักษณะเป็นอัตตาที่จะออกจากร่างกายที่ตายไปแล้วได้ จึงได้บอกว่าวิญญาณนี้ไม่ใช่วิญญาณตามระบบประสาททั้ง ๖ ของร่างกาย แต่เป็นจิตที่เกิดขึ้นในร่างกายในปัจจุบัน โดยอาศัยกิเลสหรือกรรมเก่าจากร่างกายเก่า(จากชาติก่อน)มาปรุงแต่งขึ้น และวิญญาณหรือจิตนี้ถ้ายังมีกิเลสครอบงำอยู่ เมื่อร่างกายตายแล้ววิญญาณหรือจิตนี้ดับลง กิเลสนี้ก็จะส่งผลให้เกิดวิญญาณหรือจิตใหม่ที่มีลักษณะเหมือนวิญญาณหรือจิตเก่าในร่างกายใหม่ขึ้นมาได้
ซึ่งความเชื่อเช่นนี้จะเป็นการเบี่ยงแบนไม่ให้ตรงกับวิญญาณหรือจิตที่เป็นอัตตา ที่จะออกจากร่างกายได้โดยตรง แต่จะใช้วิธีการอธิบายเพื่อเบียงเบนว่า เมื่อวิญญาณเก่าดับไป มันจะไปเกิดเป็นวิญญาณใหม่ที่เหมือนวิญญาณเก่าขึ้นมาได้ จึงทำให้ดูเหมือนว่าวิญญาณนี้ไม่มีลักษณะของอัตตา แต่ว่าเมื่อพิจารณาดูในความหมายแล้วเราก็จะพบว่า มันก็มีลักษณะเหมือนอัตตาอยู่นั่นเอง เพราะมันก็ยังมีตัวตนเหมือนเดิมที่สืบต่อกันอยู่เรื่อยไปอย่างไม่รู้จักจบสิ้น เพียงแต่มาพูดเบี่ยงเบนเพื่อให้เข้าใจว่าไม่ใช่อัตตาเท่านั้น แต่โดยความหมายแล้วมันก็เหมือนกัน
จึงขอให้ชาวพุทธทำความเข้าใจเรื่องวิญญาณนี้ให้ถูกต้อง จะได้ไม่เข้าใจผิดเรื่องวิญญาณนี้อย่างเช่นที่กำลังเป็นกันอยู่
จากคุณ |
:
What am I?
|
เขียนเมื่อ |
:
24 เม.ย. 55 19:48:37
|
|
|
|