ความคิดเห็นที่ 1 สิ่งหนึ่งที่จะได้รับคือ การเปิดเครื่องขยายเสียงสวดตามพิธีกรรมของชาวอิสลามตามช่วงเวลาในแต่ละวัน ... ^^ จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 11:47:57

ความคิดเห็นที่ 2 อาจจะเป็นพระประสงค์ของอัลเลาะฮฺ ที่ให้ชาวบ้านคัดค้านไม่ให้สร้างก็ได้นะครับ อัลเลาะฮฺอาจจะทรงประสงค์ให้ไปสร้างที่อื่น จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 11:59:03

ความคิดเห็นที่ 3 ดุอา ค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:00:18

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องนี้ อ่อนไหวและหลายมุมมองมากเกินไป.... จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:02:17

ความคิดเห็นที่ 5 แถวนั้นมีมุสลิมด้วยเหรอ เชียงรายรู้แต่แม่สายกับอำเภอเมือง มีมุสลิมพอควร แม่สายเป็นจีนฮ่อ ในอำเภอเมืองเป็น ปาทาน แล้วแถวเวียงป่าเป้านี่กลุ่มไหนหนอ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:17:35

ความคิดเห็นที่ 6 หวังว่าคงไม่ใช่โครงการ 1 มัสยิด 1 จังหวัดตะเข็บชายแดนนะครับ ... = = จากคุณ : หน้าม้าคุง ... ฮี้ฮี้ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:21:33

ความคิดเห็นที่ 7 ต้องถามคุณ tonyma muslimchiangmai http://goo.gl/pPCFb จากคุณ : SalaDin (A.TheRipper94) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:24:37

ความคิดเห็นที่ 8 อาจจะเป็นพระประสงค์ของอัลลอฮฺ ที่ต้องการให้ ชาวบ้าน บางคน ที่ชอบนอนตื่นสาย โดยเฉพาะเวลา ตี5 ได้ลุกขึ้น เพราะเสียงอะซาน ได้ตื่นแต่เช้า ส่วนข้ออ้างของชาวบ้าน เรื่องความมั่นคง เพราะเห็นจากเหตุการณ์ที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ วิถีชีวิตจะเปลี่ยนไป วัฒนธรรมที่จะถูกกระทบ เนื่องจากบริเวณดังกล่าว ตั้งอยู่ติดกับวัด  ..... คิดว่าเป็นข้ออ้างที่ ไม่สมเหตุสมผลเท่าไหร่ค่ะ เพราะจังหวัดอื่นๆ สร้างมัสญิด ก็ไม่เคยมีระเบิดกัน วัฒนธรรมก็ยังเหมือนเดิม ผีตาโขน บั้งไฟ ก็ยังอยู่ แต่ไม่ทราบว่าถ้าสร้างใกล้กับ วัด แล้วพระท่านศีลจะขาด หรือเปล่า *ลบ 2 บรรทัด แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 22:36:04 แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 22:27:58 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:29:45

ความคิดเห็นที่ 9 คราวก่อนมีคนมาตั้งถึงมัสยิดที่น่าน ผมอยากให้ทำแบบจีน คือสร้างด้วยศิลปะของท้องถิ่นเลย ของจีนอลังการมากสวยด้วย ของทางเหนือน่าจะทำได้นะครับ มัสยิดไม่ได้ต้องมีโดมนี่ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:33:18

ความคิดเห็นที่ 10 อันที่จริงจากที่เคยสัมผัสมา ชาวลานนา ส่วนใหญ่ใจกว้าง สันติสุขก็มีให้เห็นแล้ว http://youtu.be/OqKWZXNnQt4 จากคุณ : SalaDin (A.TheRipper94) เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:34:32

ความคิดเห็นที่ 11 ต้องยอมรับว่าปัจจุบันศาสนาอิสลามถูกบิดเบือนจากคำสอนไปมาก มุสลุมหัวรุนแรงก็มีมากขึ้น และเหตุก่อการร้ายที่เกิดจากชาวมุสลิมก็มีให้เห็นทั่วโลก ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะกลัวว่าปัญหาทางศาสนาและความรุนแรงจะตามมา ถ้าปล่อยให้สร้างมัสยิด จากคุณ : ilovekenchou เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 12:48:13

ความคิดเห็นที่ 12 ผมว่าชาวบ้านกลัวลูกหลานตัวเองจะเปลียนไปเข้ารับอิสลามมากกว่า เพราะมันมีกรณีแบบนี้เยอะแถวชาวเขา  เนื่องจากเยาวชนที่เปลียนเป็นอิสลามจะละทิ้งความเชื่อและพิธีกรรมเดิมของบรรพบุรุส ไม่เหมื่อนกับชาวพุทธหรือคริสที่มิได้ละทิ้งพิธีกรรมความเชื่อในเรื่องผีดั้งเดิมของศาสนานับถือบรรพบุรุส ซึ่งเป็นศาสนาดั่งเดิมของชาวเขา จากคุณ : ใจนิ่ง เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 13:00:52

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องยอมรับว่าปัจจุบันศาสนาอิสลามถูกบิดเบือนจากคำสอนไปมาก มุสลุมหัวรุนแรงก็มีมากขึ้น และเหตุก่อการร้ายที่เกิดจากชาวมุสลิมก็มีให้เห็นทั่วโลก ไม่แปลกที่ชาวบ้านจะกลัวว่าปัญหาทางศาสนาและความรุนแรงจะตามมา ถ้าปล่อยให้สร้างมัสยิด เห็นด้วยครับ น่าจะจัดการกลุ่มมุสลิมของตัวเองให้เรียบร้อยระดับหนึ่งก่อน นี่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทั่วไป จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 14:09:09

ความคิดเห็นที่ 14 เนี้ยละ ปลาเน่าตัวเดียวก็เหมาว่าเน่ามั้งหมด  จริงๆแล้วรัฐบาลไทยน่าจัดการขั้นเด็ดขาดกับพวกกบฏที่อ้างศาสนาอิสลามแล้วทำร้ายคนบริสุทธ์ในสามจังหวัด สงสัยจริงๆว่าขีดความสามารถของตำรวจ ทหารไทยที่ส่งลงไป ไม่ทำให้พวกโจรหมดไปได้สักที จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 14:13:42

ความคิดเห็นที่ 15 ชาวมุสลิมใจกว้างพอที่จะยินดีต้อนรับให้สร้างวัดในดงมุสลิมหรือไม่ ถ้าไม่ ผมก็ไม่เห็นด้วยกับการสร้างมัสยิดในดงพุทธ จากคุณ : karawara เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 15:54:37

ความคิดเห็นที่ 16 ควรสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านก่อนที่จะสร้างมัสยิด เช่น แสดงให้เห็นว่า มุสลิมเป็นมิตรอย่างไร ผมว่า ประเด็นที่ชาวบ้านคัดค้านนั้น   ๑. เนื่องจากบริเวณนั้น ไม่มีมุสลิมอาศัยอยู่เลย การมาของมุสลิมในท้องที่จึงเป็นเรื่องใหม่ ที่ควรต้องทำความเข้าใจกับชาวบ้านก่อนจะกระทำการใดๆ หรือ  ๒.บริเวณนั้น มีมุสลิม แต่มุสลิมบริเวณนั้น ไม่สามารถเข้ากับสังคมนั้นๆ ได้ เช่น สังคมนั้นรังเกียจมุสลิมกลุ่มนั้นเพราะอาจไม่เป็นมิตรเช่นเดียวกับมุสลิมกลุ่มอื่นๆ ที่อาศัยอยู่กับท้องถิ่นชาวพุทธ หรืออาจเป็ฯเพราะชุมชนชาวพุทธที่นั่น เค้าเป็นพวกแอนตี้มุสลิมแบบเกลียดเข้าไส้ก็ได้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเหตุและปัจจัย และการสร้างความเข้าใจกันในระหว่างมุสลิมและพุทธ มากกว่าที่จะเกิดจากอำนาจเหนือธรรมชาติใดๆ เข้ามาเป็นเหตุแทรกแซง หรือเป็นเพราะกรรมเก่ากรรมใหม่ใดๆ เลย จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:20:33

ความคิดเห็นที่ 17 ชาวบ้านมองกาลไกล คงจะกลัวว่าถ้าศาสนาอิสลามแพร่ขยายมากขึ้นในอนาคตข้างหน้า   อาจถึงขั้นทำลายวัดพุทธที่บรรพบุรุษของพวกเขาช่วยกันสร้างมาก็ได้ครับ จากคุณ : ZHEZA_N1 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 16:52:49

ความคิดเห็นที่ 18 ความคิดเห็นที่ 2     ไม่ใช่ความประสงค์ของใครทั้งนั้นหรอก เนื่องจากพฤติกรรมเก่าๆ ที่พรรคพวกก่อไว้ ในภาคใต้ และทั่วโลก ทำให้คนทั่วไป กลัวและไม่ชอบ พวกที่ย้ายไปอยู่ เลยต้องรับ วิบากกรรม ไป จากคุณ : AvijJA เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 17:33:35

ความคิดเห็นที่ 19 ข่าวนี้ งงมากครับ เท่าที่ทราบ เวียงป่าเป้า เป็นอำเภอ ที่เป็นบ้านป่ามาก่อนนะ เกือบ100% เป็นชาวพุทธ ซึ่งจริงๆแล้วผมว่ามันต้องมีเบื้องหลังแน่ๆ เพราะจริงๆแล้วทางภาคเหนือ มัสยิด จะไม่สร้างกันได้ง่ายๆหรือสร้างกันเพิ่มจากเดิมเลย เพราะมัสยิดนั้นจะอยู่ในชุมชนมุสลิมดั้งเดิมอยู่แล้ว ทที่นี้วันดีคืนดี อำเภอบ้านป่าบ้านดอย อย่างเวียงป่าเป้า (ตามภูมิศาสตรือำเภอนี้เป็นแบบนั้นจริงๆครับ) กลับมีการสร้างมัสยิดขึ้นมา แน่นอนว่าย่อมไม่ได้มาจากชาวมุสลิมดั้งเดิมในภาคเหนือแน่ๆเพราะ พวกนี้เค้าไม่ค่อยย้ายถิ่นฐานมาเป็นจำนวนมากจนตั้งมัสยิดได้อยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการอพยพแบบเทครัวมาจากท้องที่อื่นเช่น 3จังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งการย้ายเข้ามามากแบบนั้นย่อมทำให้เกิดการระแวงเป็นธรรมดา อนึ่งมุสลิมดั้งเดิมในภาคเหนืออาจจะมีวัฒนธรรมปลีกย่อยแตกต่างออกไป หรือการเคร่งในข้อบังคับของศาสนาอาจจะไม่เท่าที่อื่น เช่นฮ่อที่เป็นอิสลาม จะหยุดฉลองตรุษจีน เป็นต้น จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 17:56:04

ความคิดเห็นที่ 20 นั่นสินะ  สร้างมัสยิดในพื้นที่ ที่ไม่มีมุสลิมอาศัยอยู่ สร้างไปทำไม ประเด็นนี้น่าสงสัยจริง ๆ  แถมยังมาสร้างติดวัดอีก  มาแปลก ๆ แบบนี้ ก็น่าอยู่หรอกที่คนในพื้นที่เค้าถึงไม่ยอมรับน่ะ จากคุณ : ckman เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 18:32:29

ความคิดเห็นที่ 21 เราก็ได้แต่คาดเดากันไปซึ่้งเราก็ไม่มีทางรุ้ ไปคาดเดาจะทุกข์เ้อาเปล่าๆ โดยส่วนตัวเรื่องการสร้างมัสยิด -ผู้สร้างต้องมีที่ดิน -และต้องมีมุสลิมในพื่้นที่มากพอที่จะมามัีสยิด เพราะที่สร้างเพื่อให้คนในพื้นที่ ทำภารกิจทางศาสนาได้ ประเ็ด็นคือ ทุกคนก็ยังมีข้อมูลกันน้อยเกินไป จึงเปล่าประโยชน์ที่จะคาดเดาว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมืองหรือไม่ อย่าถึงกับมาขัดแย้งในเรื่อง เราๆเองก็ยังรุ้ไม่จริงเลยครับ ผมอยู่ในพื้นที่ มัสยิด โบสต์ วัด อยู่กันอย่างสันติ ก็ไม่เคยเห็นจะมีปัญหา เพราะการสร้างศาสนสถานสร้างจากคนในพื้นที่ ซึ่งคนในพื้นที่ ส่วนใหญ่ก็อยู่กันได้ อยู่กันมานาน รุ้ทางกันเข้าใจกัน อายุก็ไล่ๆกันคือ เป็นผู้ใหญ่เหมือนกันๆ การสร้างศาสนาสถานในความเป็นจริง จึงเป็นเรื่อง ของการถ้อยทีถ้อยอาศัย มากกว่าที่จะเอาเรื่องตัวบทกฏหมายมา พูดกัน ก็ต้องดูํว่า สร้งทำไม สร้างให้ใคร มีคนต้องการใ้ช้หรือไม่   และสร้างในพื้นที่ใคร ถ้ามีเหตุมีผล การประท้วงก็ไม่ชอบธรรม แต่ถ้าไม่ีีมีเหตุมีผลการประท้วงก็ชอบธรรม เพราะโยงไปการเมืองได้ ส่วนเราที่นี่ก็ไม่มีใครุ้จริงสักคน อย่าตีกันฟรีเลยครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 20:54:18

ความคิดเห็นที่ 22 ที่อำเภอปาย สมัยก่อนไม่เคยมีมุสลิม   เดี๋ยวนี้ มีชุมชนฯใจกลางเมืองปายเลย จากคุณ : ลาดปลาเค้า เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 55 21:24:41

ความคิดเห็นที่ 23 ผมมาออนแอร์หลังจากเข้าที่พักที่สิงคโปร์เห็นประเด็นนี้ เกรงว่าเข้าใจไปกันใหญ่ การจะสร้างมัสยิดได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ขั้นตอนแรก ต้องเป็นสถานปกิบัติธรรมขนาดเล็กก่อน จนมีคนละหมาดมากพอและลงทะเบียสัปบุรุษถูกต้องตามกฎหมาย คืออย่างน้อย 40 ครัวเรือนในละแวกนั้น ถ้ามีการก่อสร้างที่ถุกตามกฎหมายแล้ว ย่อมแสดงถึงว่าตรงนั้นได้เกิดชุมชนมุสลิมขึ้นมาถึงทำการสร้างมัสยิดได้ การที่จะเกิดชุมชนใหม่ขึ้นมานั้น หมายถึงว่า ชาวบ้านท้องที่เองก้ยอมขายที่ดินให้คนอพยพมาใหม่ เข้ามาอยู่ เพื่อคาดหวังเงินจากการขายที่ดิน เมื่อยินยอมขายที่ดินนั่นหมายถึง การยอมรับการเข้ามาของชุมชนใหม่ นั่นหมายถึง ชาวบ้านเองรับสภาพไปโดยปริยาย เรื่องการชุมนุมชาวบ้าน อาจเป้นข่าวเต้า ที่ทำเพื่อให้เกิดประเด็นขึ้นมาก้ได้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 01:13:03

ความคิดเห็นที่ 24 เคยเล่าถึงการย้ายถิ่นกันแบบแปลกๆของพี่น้องมุสลิม(น่าจะมาจากสามจังหวัดใต้)แบบแปลกๆครับ คือมากันประเภทเทครัวกันเลยทีเดียว ก็คือแถวๆบ้านผมนี่แหละ แต่ไม่แน่ใจว่าเค้ามาซื้อบ้าน ซื้อที่กันอย่างไร บางครั้งผมไปซื้อโรตี คนขายมี2-3คน แต่คนที่พูดหรือฟังภาษาไทยได้ มีแค่คนหรือ2คน ถ้าคนๆนั้นไม่อยู่จะซื้อขายกันไม่รู้เรื่องเลยทีเดียว แต่ไม่ใช้ว่าเค้าพูดหรือฟังไม่ได้นะครับ แต่มันไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้พอรู้ว่าเค้ามาจาก3จังหวัดใต้ โอเค อาจจะหนีร้อนมาพึ่งเย็น แต่ที่เป็นห่วงก็คือ การที่พยายามไม่ปรับเข้ากับท้องถิ่นนั้นๆ เพื่อนผมเป็นจีนอิสลาม เคยคุยกันบอกว่า เค้าพยายามทำตัวไม่ให้มุสลิมเคร่งๆที่มาจาก3จังหวัดใต้รู้ว่าเป็นมุสลิมด้วยกันหากต้องติดต่อกัน เพราะเพื่อนผมคนนี้ทำตัวไม่เคร่งเลย เอาจริงๆก็ไม่กินหมู กินเหล้าได้ตามแต่โอกาส(มันเคยชวนผมไปกินเบียร์โปร แต่ผมกินได้แค่เหล้าปั่นเท่านั้นบอกตรงๆไม่อบรสชาตเหล้าเอาเสียเลย) ละหมาดไม่ครบ5เวลา ถ้าว่างๆวันไหนก็จะพยายามละหมาดให้ครบ ซึ่งคิดว่ามุสลิมเชื้อสายใจในเชียงใหม่ วัยทำงาน ก็น่าจะประมาณเพื่อนผมคนนี้เป็นส่วนมาก ซึ่งนี่คือวิถีชีวิตการอยู่ร่วมกันต่างศาสนาในเชียงใหม่ ที่เป็นแบบนี้มาเกือบร้อยปีครับ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 01:23:25

ความคิดเห็นที่ 25 ท่านยอง  การย้ายถิ่นฐาน มูฟวิ่งไปเรื่อยๆ หาที่ทำกินนั้น ผมยืนยันได้ว่าไม่เกี่ยวกับ ศาสนา เพราะคนใต้ ไม่ว่านับถือศาสนาอะไร ก็ย้ายกระจายตามแหล่งทำกิน ในกทม เอง ก็มียกชุมชนกันเลย ที่คนใต้ย้ายถิ่นฐานกันไป เพราะเรื่องทำมากิน เพราะต้องการความเอกภาพของเค้าเอง ซอยกิ่งเพชร เพชรบุรี 3-5 กลายเป็นเมื่องหลวงของคนใต้ ไปแล้ว สมุทรปราการแถวแพรกษา ถนนตลอดสาย ไม่ว่าจะมีกี่หมู่บ้าน คนใต้มากวาดซื้อไปหมด ส่วนคนไทยมุสลิม ไม่ว่าจะมากจากภาคไหน ชอบเล่นอสังหาริมทรัพย์ เฉกเช่นคนจีน นี่คือนิสัยส่วนตัวของกลุ่มชน ดังนั้นเรื่องนี้จึงมีคนพยายามโยงประเด้นสร้างภาพเรื่องไม่เป็นเรื่อง ให้เป็นเรื่อง เพื่อความวุ่นวายในบ้านเมือง เพื่อวัตถุประสงค์อะไรบางอย่าง จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 05:29:49

ความคิดเห็นที่ 26 จริงอยู่ว่าการสร้างมัสยิดตามหลักศาสนาจำต้องมีสัปบุรุษไม่น้อยกว่า ๔๐ คน ที่ปฏิบัติศาสนกิจเป็นประจำ แต่ข้อเท็จจริงแล้วมีหลายท้องที่ที่สร้างมัสยิดไว้สำหรับคนเดินทางโดยไม่มีมุสลิมปฏิบัติศาสนากิจเป็นประจำเลย บางทีก็อาจจะมีเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้น ที่ปฏิบัติศาสนกิจ ซึ่งกรณีดังกล่าว อาจคาดหมายได้ว่า ท้องที่นั้นไม่ได้มีมุสลิมอาศัยอยู่ หรืออาศัยอยู่ก็อาจจะเพียงครอบครัวเดียวหรือมีน้อยมาก และแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้านในท้องที่นั้นๆ เลย จึงทำให้เกิดปัญหาดังกล่าวขึ้น จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 07:40:44

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องย้อนกลับไปถามว่าประเทศที่มีอิสลามเยอะๆ ยอมให้สร้าง วัดพุทธเช่น อิรัก อิหร่าน อัฟกัน ซาอุ หรือไม่ ถ้ายอมเราก็ยอมให้สร้าง ตอนนี้ประเทศไทยยอมให้มีมัสยิด มากเกินไปเเล้ว เดี๋ยวมีเยอะๆก็สร้างปัญหาแบบ 3จังหวัดใต้ ประเทศอื่นๆที่มีอิสลามเยอะๆ มักจะโดนแบ่งแยกดินแดน อยู่ตลอด สำหรับ ท่านที่กลัวว่าอิสลามมีเยอะๆจะทำลายวัดพุทธหรือไม่ คำตอบอยู่ในคลิปครับ  สมัยก่อนในบามิยัน ก็เป็นเมืองพุทธ ครับ แต่พอโจรมุสลิมเข้ามาปล้นและยึด นานๆไปพวกอิสลามมีเยอะๆเข้า จนถึงปัจจุบัน ก็เป็นอย่างที่เห็นครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 09:24:31 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:17:56

ความคิดเห็นที่ 28 บางทีอาจคิดมาดไปก็ได้ จริงแล้วที่เค้าย้ายกันมายกครัว. เพราะเค้าก็กลัวตายเหมือนกัน :D. คนมีกำลังก็ย้ายคนไม่มีกำลังมีภาระผูกผันก็ทนอยู่หรือเปล่า จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 12:18:23

ความคิดเห็นที่ 29 เป็นคนสตูล นับถือพุทธ ถัดจากบ้านไปทางขวามือ 100 เมตร มีวัด ทางซ้ายมือประมาณ 200 เมตร มีมัสยิด เพื่อน 50% เป็นมุสลิม ก็อยู่กันมา สบายดี ไม่ว่าวัด หรือ มัสยิดล้วนเป็นสัญลักษณ์สมมติ ทำไมต้องขัดแย้งกันเพราะสิ่งสมมติ จิตใจต่างหากเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนปัญหา 3 จังหวัด มันไม่ใช่เหตจากศาสนาเพียงอย่างเดียวนะคะ สตูลมีชาวมุสลิมมากกว่า 90 % ทำไมถึงไม่เป็นปัญหาละ ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นของเรานะคะ จากคุณ : โลกนี้ไม่มีอะไรเลย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 13:39:05

ความคิดเห็นที่ 30 ในภาคเหนือนั้น สภาพสังคมแบบหมู่บ้านดั้งเดิมนั้นมีความเป็นปัจเจกสูงครับ จึงไม่แปลกที่หากกลายย้ายถิ่นแบบเทครัว จะถูกมองอย่างแปลกๆในชุมชนดั้งเดิม วกมาหา คห. 26 ของท่าน aramis_s ซึ่งผมไม่ทราบคำจำกัดความของ มัสยิด ว่าเป็นศาสนสถานประกอบพิธีกรรมประมาณไหนอย่างไร แต่วัดในศาสนาพุทธนั้นดั้งเดิมแล้วไม่ใช่ศาสนสถานดังบริบทในปัจจุบัน หากแต่เป็นเพียงที่อาศัยของสงฆ์ หรือคณะสงฆ์ เพื่อบำเพ็ญภาวนา เท่านั้น อาจจะมีอาคารให้ญาติโยมมาฟังธรรมบ้าง แต่ดั้งเดิมนั้นวัดไม่ใช้สถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาระหว่างสงฆ์กับฆราวาสแต่อย่างใด หากแต่ประเพณีเหล่านั้นได้เพิ่มเติมขึ้นมาเรื่อยๆนั้นเอง มาถึงเรื่องการสร้างมัสยิดที่ว่าเพื่อการละหมาดของนักเดินทาง ความจริงผมไม่แน่ใจว่าจำเป็นแค่ไหนที่ต้องละหมาด5 เวลาในมัสยิดเพราะผมไม่ใช่มุสลิม แต่ที่เคยเห็นตามปั๊มน้ำมัน จะมีที่สำหรับละหมาดให้อยู่แล้ว หรือหากสร้างเพื่อครอบครัวเดียว ผมว่าตามที่ท่านพี่จิมได้บอกไว้ว่าหลักเกณฑ์การตั้งนั้นเป็นอย่างไร ซึ่ง ผมคิดว่ากฏหมายข้อนี้ย่อมไม่ขัดต่อหลักศาสนาแน่ๆและแบบนั้นกฏหมายข้อนี้ย่อมมีไว้เพื่อความสงบเรียบร้อยในหมู่ประชาชน และหากอ้างตามนั้น ผมคนเดียวไปตั้งเทวาลัยเจ้าแม่กาลี กลางดงต่างศาสนิกอื่น เชือดแพะเชือดวัวบูชาทุกวัน มันก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เพราะความสะดวกของผมเอง เสริมอีกเรื่องคือ วัดสะดือเมืองเชียงใหม่ ก่อนหน้าที่จะมีการเวนคืนที่ดินบางส่วน นอกจากหลวงพ่อขาวพระประธานที่มีเพียงหลังคาบังแดดบังฝน ตัววัดสะดือเมืองนั้น มีสำนักงาน(จะเป็นโบสถ์หรือวิหารอย่างไรก้ไม่ทราบ)ตั้งอยู่ในห้องแถว หรือพูดง่ายๆก็คือเป็นวัดห้องแถว ซึ่งก็ยังมีสถานะเป็นวัด หรือคริสจักรบางแห่งก็เป็นห้องแถว ซึ่งผมไม่แน่ใจว่าทางศาสนาอิสลามจะมีมัสยิดในลักษณะนี้เป็นมัสยิดห้องแถวหรือไม่ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 17:00:04

ความคิดเห็นที่ 31 อยากให้กิฟท์ คห .29 จังค่ะ   แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 20:20:16 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 20:19:54

ความคิดเห็นที่ 32 ท่าน aramis_s มัสยิดแบบที่ท่านว่า เค้าไม่เรียกว่ามัสยิด เค้าเรียกว่าสถานปฏิบัติธรรม มัสยิดไม่มีคนละหมาด ก้ไม่ใช่มัสยิด มัสยิดไม่มีสัปบุรุษ ที่ลงทะเบียน ต้องส่งให้กรมการศาสนา ก็ไม่ได้รับใบอนุญาต ดังนั้นสถานะมัสยิดขึ้นอยู่กับสัปบุรุษ ทางกฎหมายโลกและศาสนา ไม่มีคนละหมาด ก็กลายเป้น โบรานสถานกลายเป็นตึกรูปโดม เมื่อไม่มีคนละหมาด แล้วจะไปซีเรียสทำไม ใช่ไหมครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 21:42:45

ความคิดเห็นที่ 33 # 22 ลาดปลาเค้า ขอโทษนะ... ไปปายมาไม่กี่ครั้ง ที่ช่วงหลังๆบูม รึป่าวครับ มุสลิมที่ปาย อาศัยอยู่ที่นั่นมามากกว่า 20 -30 ปี ก่อนที่ปายจะบูมอีกครับ จากคุณ : Lyuk! เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 21:49:39

ความคิดเห็นที่ 34 ความคิดเห็นที่ 8    อาจจะเป็นพระประสงค์ของอัลลอฮฺ ที่ต้องการให้ ชาวบ้าน บางคน ที่ชอบนอนตื่นสาย โดยเฉพาะเวลา ตี5 ได้ลุกขึ้น เพราะเสียงอะซาน ได้ตื่นแต่เช้า ออกทำงาน หากินไม่นอนตื่นสาย ขี้เกียจตัวเป็นขน หรือถ้าจะโทษ กรรม  ชาติที่แล้ว คงมีใคร ไปฉี่รดมัสญิด ก็ได้ค่ะ กรรม เลยส่งผลให้ต้องมาลำบากประท้วงกันแบบนี้ @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@   เพราะมีมุสลิมสันดานแบบนี้ไง ชาวบ้านเขาถึงไม่ชอบ ข้อความด้านบนนี้ หากอ่านผ่านฉาบฉวยจะไม่เห็นว่ามีอะไร แค่การโต้ตอบ คห.ข้างบนตามสันดานเดิมเท่านั้น แต่ถ้าคนในพื้นที่ที่กระทู้กล่าวถึงคือแม่เจดีย์ หรือคนแม่ขะจาน เวียงป่าเป้า เชียงรายเข้ามาอ่าน พบข้อความที่ดูถูกคนในพื้นที่ ว่าขี้เกียจตัวเป็นขนนั้น เรื่องราวในกระทู้ก็คงจะเป็นเรื่องต่อไปอีก หากไม่อยากให้เรื่องราวใหญ่โตไป ขอร้องเจ้าของข้อความนี้ โปรดถอนคำพูด หรือลบข้อความเปลี่ยนแปลงในบรรทัดแรกนั้นด้วยตัวเองเถิด นะนู๋นะ     จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 22:07:42

ความคิดเห็นที่ 35 ได้ค่ะ คุณ มุสลิมยูซุฟ เพราะเราเองตอนที่พิมพ์นั้น ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะคิดแบบนั้น อยู่แล้ว เดี๋ยวลบค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 22:26:36

ความคิดเห็นที่ 36 ถ้าใครมาดูถูก มุสลิมที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย  ว่าไม่ใช่คนไทย มุสลิมทุกคนเป็นผู้ก่อการร้าย หรือมา ดูถูก อัลลอฮฺ พระเจ้าของคุณ ยูซุฟ หวังว่าคงจะได้เห็น คุณยูซุฟ เทคแอคชั่น ในการกระทำของคนพาล เหล่านั้นบ้างนะคะ จักขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 22:42:53

ความคิดเห็นที่ 37 "ก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะคิดแบบนั้น" นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะครับ หวังว่าคงไม่ลิ้นสองแฉกนะครับ แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 23:29:04 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 23:28:38

ความคิดเห็นที่ 38 "ท่าน aramis_s มัสยิดแบบที่ท่านว่า เค้าไม่เรียกว่ามัสยิด เค้าเรียกว่าสถานปฏิบัติธรรม มัสยิดไม่มีคนละหมาด ก้ไม่ใช่มัสยิด มัสยิดไม่มีสัปบุรุษ ที่ลงทะเบียน ต้องส่งให้กรมการศาสนา ก็ไม่ได้รับใบอนุญาต ดังนั้นสถานะมัสยิดขึ้นอยู่กับสัปบุรุษ ทางกฎหมายโลกและศาสนา ไม่มีคนละหมาด ก็กลายเป้น โบรานสถานกลายเป็นตึกรูปโดม เมื่อไม่มีคนละหมาด แล้วจะไปซีเรียสทำไม ใช่ไหมครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy)   " ใช่ครับ ผมก็ตอบไปแล้วว่า โดยหลักศาสนาเป็นเช่นนั้น แต่ทว่า จะมีชาวพุทธสักกี่คนละครับที่เข้าใจ แล้วจะมีมุสลิมซักกี่คนละครับที่ไปสร้างความเข้าใจ เรื่องนี้ เกิดจากความไม่เข้าใจของคนในพื้นที่ และมุสลิมที่สร้างมุสยิดล้วนๆ ครับ ว่าพวกเค้าเคยปฏิสัมพันธ์กันหรือไม่ ถ้ามีปัญหาย่อมอาจจะไม่เกิด หรือเกิดน้อยลง จากคุณ : aramis_s เขียนเมื่อ : 27 เม.ย. 55 09:15:06