ความคิดเห็นที่ 1 1.  ใช่แล้ว  นับถือพระพุทธเจ้าเป็นศาสดาองค์เดียวกัน   เพราะก็เป็นศาสนาพุทธเหมือนกันนั่นแหละ  แต่ต่างนิกายกัน เท่านั้น 2.  เทพต่างๆตามแนวนิยมของมหายาน  ก็ถือว่าเป็นเทพที่นับถือพุทธ เป็นศาสนาพุทธนั่นแหละ  โดยเฉพาะเจ้าแม่กวนอิม  ถือว่าเป็นเทพที่สำคัญที่สุดของมหายาน   เพราะเป็นพระโพธิสัตว์ -  เข้าใจแบบนั้นก็ใช่   ทำนองคล้ายๆของไทย ที่ไหวเจ้าที่ เจ้าป่าเจ้าเขาต่างๆ นั่นแหละ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 02:30:28

ความคิดเห็นที่ 2 1. ใช่ในบางนิกาย เช่น นิกายเซ็น  นิกกายนิชิเรน  เพราะ  นิกายวัชรยาน   มีพระไวโรจนพุทธะ[1]เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 องค์  ทรงเป็นประธานของพระพุทธะทั้ง 5 หมายถึงปัญญาอันสูงสุด     ส่วนนิกาย สุขาวดี มีเน้นการเจริญพุทธสติถึงพระอมิตาภพุทธะและปรารถนาไปเกิดในแดนสุขาวดี  2.  เทพต่างๆ มาจาก เต๋าค่ะ   แต่ในจีน ญี่ปุ่น เกาหลี  เต๋ากับพุทธผสมกลมกลืน  แต่เต๋ามี เหลาจื๊อ  , ลี่ เล่า กุง  , ไท้ ซาง เล่า กุง   เกิดร่วมสมัยพุทธกาล  เป็นปรมาจารย์ จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:15:00

ความคิดเห็นที่ 3 ปล.เหลาจื๊อ  = ลี่ เล่า กุง = ไท้ ซาง เล่า กุง    คนเดียวกัน  เต๋าเชื่อว่า  เหลาจื้อ  บรรลุเป็นเทพอยู่บนสวรรค์ นิรันดร ๒.  เทพไฉ่สิ่งเอี้ย เทพไท้ส่วยเอี้ย   ล้วนเคยเป็นเละก็เป็นมนุษย์ที่ดี เลยได้เป็นเทพที่ดีอยู่บนสวรรค์  สามารถ หาประวัติ เทพไท้ส่วยเอี้ย ที่เคยเป็นแม่ทัพ อ่านได้ในหนังสือชุด ห้องสิน สนุกดี เป็นเรื่องราวของเทพจีน เพิ่มเติม แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 08:21:52 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:19:57

ความคิดเห็นที่ 4 คงจะเป็นองค์เดียวกัน ของจีนเขาก็นับถือพระพุทธเจ้า แต่เขาอีก ว่า พระยูไล  ปราบเห้งเจียเสียอยู่หมัด จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:24:40

ความคิดเห็นที่ 5 สิ่งแวดล้อมย่อมสัมพันธ์กัน..........หัดคิดแบบองค์รวมหรือบูรณาการให้เป็นนะ    ไม่มีอะไรแยกกันโดยเด็ดขาด ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงก็โดยอ้อม ฉนั้นสิ่งที่ดีอ่อนน้อมได้ทั้งนั้น เป็นมงคล และลดการยึดตนลงด้วย ดีไหมล่ะ ? จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 08:34:06

ความคิดเห็นที่ 6 อนุโมทนา คุณ ไม่คิดมาก จากคุณ : กุ๊กเทวดา เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:07:01

ความคิดเห็นที่ 7 สิ่งต่างเกิดมามีเหตุครับ...  มหายานหรืออาจาริยวาท  แพร่เข้าในจีน เลยต้องมีการปรับตัว ครับ องค์หญิงเมี่ยวซ่าน ก็มาเป็นเจ้าแม่กวนอิม  พระพุทธเจ้าต่าง ๆ ทางมหายานมีเพิ่มมาก เพื่อช่วยกันครับ  ที่ต้องมีแบบเทวนิยม(พระพุทธ)มาก ก็เพราะสู้กับพราหมณ์   พราหมณ์ก็ปรับตัวเป็นฮินดู มีเทพแบ่งอวตารมาข่มกัน... มหายานชนะฮินดูในจีนโดยการปรับแปลง ให้ง่ายกับคนในท้องถิ่น  จริงแพร่ได้มากมาถึง เอเชียตอนใต้ ทั้งอินโดครับ  ส่วนเถรวาทไปโดยกลืนไปกับพราหมณ์ครอบไปด้วยกัน แถวสารขันธ์.. ก็เลยทำให้เป็นแบบลูกผสม แบบนี้ ความจริง พระพุทธองค์สอนไว้ให้ปฏิบัติครับ การบูชาเทพอะไรมาจากคนท้องถิ่นไป ปรับ อแดปเอาเอง อย่างวัชระยาน ก็สร้าง นางตารา มาช่วยพระพุทธเจ้า  ในบ้านเราก็จะมี ลัทธินึง อยากปราบมาร  ช่วยพระพุทธเจ้า  ของเถรวาทเราถือองค์ปัจจุบันคือ พระพุทธโคดม เป็นสำคัญครับ  มากกว่าไปรอ อนาคต แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 09:25:01 จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:23:16

ความคิดเห็นที่ 8 คำถามทั้งสองข้อเป็นคำถามของคนที่ยังไม่ทราบอีกเป็นจำนวนมาก ก่อนตอบคนตอบก็ขอใช้คำปวารณาของคุณโรงงาน.ในย่อหน้าสุดท้ายร่วมด้วย ถ้าจะตอบให้ได้อย่างถูกต้องครบถ้วนคงไม่สะดวกเพราะมีรายละเอียดมาก เอาเป็นว่าพอจะตอบได้โดยย่อดังนี้ ข้อแรกตอบว่าพระพุทธเจ้าองค์เดียวกันแต่ต่างมุมมองในการปฏิบัติ มุมที่ต่างกันสืบเนื่องมาจากพุทธานุญาติก่อนปรินิพาน ที่ว่าเมื่อสงฆ์ต้องการก็ให้เพิกถอนสิกขาบทเล็กน้อยบ้างก็ได้ แต่ในที่ประชุมปฐมสังคายนาไม่สามารถตกลงกันได้ว่า สิกขาบทใดบ้างที่เป็นสิกขาบทเล็กน้อย จึงให้ยึดถือตามเดิมทั้งหมดโดยไม่มีการตัดทอนหรือเพิ่มเติม นี่คือจุดเริ่มต้นของเถรวาทคือยึดถือตามคำสอนของเดิมอย่างเคร่งคัด (เถรวาท=เถร+โอวาท คือพระเถระ500รูปที่เข้าร่วมปฐมสังคายนา) ส่วนฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยเพราะถือว่ามีพุทธานุญาติแล้ว ก็คือจะยึดถือความเห็นและคำสอนของอาจารย์ผู้สอนแต่ละท่าน (อาจาริยวาท=อาจารย์+โอวาท คำสอนของอาจารย์) ในเวลาต่อมาเมื่อมีการเผยแผ่ไปดินแดนใด นิกายอาจาริยวาทก็มีการหล่อหลอมรวมเข้ากับคติความเชื่อที่มีอยู่เดิมในท้องถิ่นนั้นๆ ดังจะเห็นได้ว่ามหายานของทางจีนก็มีรายละเอียดที่แตกต่างจากมหายานในญี่ปุ่น ต่างจากเถรวาทที่ยังคงรักษาของเดิมจึงมีจุดร่วมเดียวกันแม้จะอยู่คนละประเทศ ยกตัวอย่างเช่นการยึดถือพระไตรปิฎกบาลีเป็นคำสอนสูงสุดที่จะต้องรักษาไว้ให้คงเดิมที่สุด ดังจะเห็นได้ว่าพระไตรปิฎกบาลีฉบับสยามรัฐของไทย ก็จะมีเนื้อหาหลักๆที่สำคัญเหมือนกับฉบับฉัฐสังคีติของพม่า ฉบับสิงหลของลังกา... จะมีต่างก็เป็นเพียงรายละเอียดเล็กน้อยเป็นต้นว่าตัวอักษร หรือการใช้ภาษาบาลีที่ถือว่าเป็นภาษาที่พระพุทธเจ้าทรงใช้ในการเผยแผ่ศาสนา นิกายเถรวาทไม่ว่าจะอยู่ทีใดก็จะใช้ภาษาบาลีเป็นหลักในการทำสังฆกรรม ส่วนข้อสองมุมมองของเถรวาทที่มีต่อเทพเทวดานั้นก็ต่างจากมหายาน กล่าวคือเถรวาทมองเทพเทวดาทั้งหลายเป็นเพื่อนร่วมสังสารวัฏเท่านั้น การบูชาเคารพก็จะเป็นในลักษณะให้เกียรติแต่ไม่อ้อนวอนขอร้อง แต่มหายานจะนับถือเคารพบูชาและมองว่าเทพเทวดาเหล่านั้นว่าให้คุณให้โทษได้ การบูชาก็จะเป็นแบบอ้อนวอนขอร้องให้ผลดลบันดาล นี่คือข้อมูลคร่าวๆส่วนเรื่องการถือปฏิบัติของคนไทยโดยทั้วไปนั้น... ไม่ขอออกความเห็น........ จากคุณ : by iPad (ad law) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 09:58:16

ความคิดเห็นที่ 9 ศาสนาพุทธทั้งเถรวาท และมหายาน ต่างก็มีพระพุทธเจ้าองค์เดียวกัน พระธรรมวินัยเหมือนกัน ธรรมะก็เหมือนกันไม่มีข้อแตกต่างในหลักการสำคัญ ในแนวคิดของ 2 นิกายในเรื่องคติของพระพุทธเจ้า ก็เหมือนกัน เพียงแต่เถรวาทเน้นหนักในเรื่องการบำเพ็ญอันไปสู่หนทางในการตรัสรู้ของตน เป็น อนุพุทธะ (หรือพระอรหันต์) เราเรียกว่าสาวกยาน ; ส่วนมหายานเน้นหนักในการบำเพ็ญเพื่อไปสู่การบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระพุทธเจ้าในอนาคต "เถรวาท" เป็นหนทางที่เหมาะสำหรับผู้มีสติปัญญาและศรัทธาอันยิ่ง มองเห็นทุกข์โทษภัยของสังสารวัฎ มีความเพียรที่ประหารกิเลสให้เด็ดขาดภายในภพชาตินี้หรือในภพชาติอันใกล้ ไม่ยินดีในภพ และพระธรรมอันลึกซึ้งนี้ ไม่เป็นสาธารณะแก่ชนทั่วไป คนทั่วไปรู้ได้โดยยาก เข้าใจได้ยาก "มหายาน" เป็นหนทางที่กว้างใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่มีสติปัญญาและศรัทธาแตกต่างกัน รองลงมาจากเถรวาท เน้นคนกลุ่มใหญ่ที่มีหลากหลายคติความเชื่อ  แตกต่างในบุญบารมี แม้แต่ชาวบ้านทั่วไปก็เข้าถึงได้โดยง่าย เน้นหนักในกุศลโลบาย อันที่นำพาสรรพสัตว์เข้าสู่พระพุทธศาสนา เชื่อมั่นในปาปบุญคุณโทษ รู้จักพระธรรมวินัยของพระศาสดาจนกระทั่งสามารถสั่งสมบุญกุศล สั่งสมปัญญาณ สามารถประพฤติตนให้เห็นทุกข์โทษภัยของสังสารวัฏ จนกระทั่งหลุดพ้น ซึ่งมีหลายระดับ สูงสุดก็คือไปสู่การปรารถนาตรัสรู้เพื่อบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในความรู้เกี่ยวกั[มหายานในบ้านเรา มักเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับมหายาน บ้างก็เชื่อว่าเป็นสัทธรรมปฎิรูปบ้าง ไม่ใช่พุทธศาสนาบ้าง หรือก็เชื่อว่าเป็นมิจฉาทิฐิไปเลยก็มี สาเหตุก็เพราะว่า ตำราทางศาสนาพุทธที่เกี่ยวกับมหายานนั้น แทบไม่มีเลย จะมีก็เพียงแต่หนังสือต่างๆในเชิงวิชาการ ที่ถูกแปลมาจากภาษาอังกฤษอีกที ซึ่งส่วนมากฝรั่งผู้เขียน ก็แทบจะเรียกได้ว่า ฝรั่งไม่เคยมีพื้นฐานเกี่ยวกับหลักแนวคิดของชาวตะวันออกและแนวคิดทางพุทธศาสนามาก่อนเมื่อเขียนออกมาก็ยากที่ถ่ายทอดความคิดที่ถูกต้องออกมาได้ ผมเคยอ่านเอกสารและตำราในระดับมหาวิทยาลัย ที่เกี่ยวข้องกับพุทธศาสนามหายาน หลายต่อหลายเล่ม นับย้อนหลังไปหลายสิบปี ล้วนแต่แปลมาจากภาษาอังกฤษอีกที และอธิบายแนวคิดของพุทธปรัญามหายานผิดพลาดเป็นอย่างมาก ส่วนในเรื่องเทพต่างๆของจีน ก็คือการผสมผสานกับลัทธิเต๋าและพุทธศาสนาเข้าด้วยกันคล้ายกับ พุทธและพรามณ์ในบ้านเรา เต๋าเองก็ไม่ปฎิเสธพุทธ และพุทธเองก็ไม่ได้ปฎิเสธเต๋า (โดยรวม) เทพเจ้าไฉ่ซิ้งเอี๊ย ก็มีทั้งพุทธและเต๋า ผสมผสานกัน เทพฝ่ายเต๋าส่วนมาก็ล้วนแต่เป็นธรรมบาลในพุทธศาสนา(ของจีน) ส่วนพระโพธิสัตว์กวนอิมนั้นมีคติมาจากมหายานของอินเดีย ซึ่งมหายานนั้นมักจะใช้กุศโลบาย โดยนำเอาบุคลาธิษฐาน และธรรมธิษฐาน มาเป็นตัวแทนของพระธรรม เช่น "พระโพธิสัตว์กวนอิมเป็นพระโพธิสัตว์"ซึ่งเป็นตัวแทนพระมหากรุณาธิคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ "พระมัญชุศรีโพธิสัตว์" เป็นตัวแทนของปัญญาณ ความรู้ และสติปัญญา แก้ไขเมื่อ 26 เม.ย. 55 10:13:44 จากคุณ : Neemo (Astro Neemo) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 10:11:38

ความคิดเห็นที่ 10 ขอแสดงความเห็นต่างจากคคห.9 ที่จริงทุกคนควรจะยอมรับความจริงว่า แตกต่างก็คือแตกต่าง ไม่เหมือนก็คือไม่เหมือน การแสดงความเห็นที่อาจจะมีความตั้งใจที่ดีว่าไม่อยากให้เกิดการโต้เถียง แต่ต้องไม่ลืมว่าความจริงก็คือความจริง ทีนี้ถ้าคนเขาต้องการข้อมูลตามความจริงเพื่อการศึกษา แต่ได้รับข้อมูลตามความเห็นที่ไม่ตรงตามความจริง....คงจะไม่ดีเท่าไร ที่ว่าไม่มีข้อแตกต่างในหลักการสำคัญแต่ความเป็นจริง มีข้อแตกต่างทั้งในหลักการสำคัญมากมายรวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อย ทั้งนี้เจตนาดีที่ไม่อยากให้แตกแยกนั้นสามารถเลี่ยงได้ โดยไม่พูดถึงข้อดีข้อเสียของแต่ละฝ่ายก็น่าจะเพียงพอ เพื่อยืนยันคำกล่าวข้างต้นขอยกตัวอย่างความแตกต่างที่ว่า ไม่ต้องพูดถึงมหายานของเขาเอาแค่เถรวาทในไทยของเราด้วยกันนี้ล่ะ อย่างที่ทราบกันอยู่ว่าพระไทยเรานี้มีสองนิกายคือมหานิกายกับธรรมยุต ซึ่งแบ่งแยกอุปสัปทาวงศ์กันอย่างชัดเจน มีการแยกวัดแยกสายการอุปสมบท...แยกอะไรต่อมิอะไรอื่นๆอีกมากมาย ในเรื่องความต่างนี้ถึงกับมีหลัก "นานาสังวาส" เอาไว้พิจารณาด้วยซ้ำ แล้วจะว่าเหมือนกันได้อย่างไรนี่ยกตัวอย่างแค่เถรวาทในไทยด้วยกันนะ สิ่งที่คววรพิจารณาคือถึงจะแตกต่างก็ว่ากันไปตามความเป็นจริง แต่ขอให้อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสันติก็พอ อย่าได้มีความคิดที่จะมาหล่อหลอมกลมกลืนแล้วมาเปลี่ยนแปลง......ฯลฯ ขออภัยหากความเห็นนี้อาจทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่เป็นการแสดงความเห็นที่ถือเอาความจริงเป็นที่ตั้ง จากคุณ : by iPad (ad law) เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 11:13:40

ความคิดเห็นที่ 11 "มหายาน" เป็นหนทางที่กว้างใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่มีสติปัญญาและศรัทธาแตกต่างกัน รองลงมาจากเถรวาท  มองกันแบบนี้จริงๆหรือ จากคุณ : พยัคฆ์น้อย เขียนเมื่อ : 26 เม.ย. 55 17:38:00