ความคิดเห็นที่ 1 เตรียมตัวเป็นเศรษฐีได้แล้วครับ จากคุณ : จักรขวด เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:28:42

ความคิดเห็นที่ 2 HACKER สามารถเจาะ Facebook ดูโปร์ไฟล์ที่ถูกล๊อคปิดไว้ได้ จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 15:51:30

ความคิดเห็นที่ 3 สมมติว่า จริงตามที่จขกทเล่านะ คือ ยกกรณีป่วยทางกายและทางจิตออก จะบอกว่า เทวดาไม่ทำเรื่องแบบนั้นหรอก ภูมิเทวดาละเอียดกว่ามาก ไม่ลงมาเกลือกกลั้วกับมนุษย์หรอก หากจะเป็นไปได้ ก็น่าจะพวกอสุรกายที่พอมีฤทธิ์หน่อย พวกนี้จะอยากให้คนมาเคารพ กราบไหว้ อยากได้ของเซ่น แนะนำให้แม่ จขกท ไปปฏิบัติธรรมที่วัด รักษาศีลแปด อยู่ยาวเลยซักสิบห้าวัน วัดอัมพวันก็ได้ ธรรมจะรักษาผู้ประพฤติธรรม ศีลจะคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม พุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ มีอานุภาพสูงที่สุดในสามภพอยู่แล้ว จากคุณ : อาตาปี สัมปชาโน สติมา เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:01:11

ความคิดเห็นที่ 4 ถือศีลปฎิบัตธรรมก็หายได้ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:05:20

ความคิดเห็นที่ 5 คุณจักรขวด // ทำให้ดิฉันยิ้มได้ subpersub // ดิฉัน เจาะไม่เป็นค่ะ อาตาปี สัมปชาโน สติมา // ดิฉันเคยเห็นคุณแม่ไปทำบุญตอนคุณยายเสียใหม่ ๆ เท่านั้น จากนั้นก็ไม่เคยเห็นท่านเข้าวัดปฏิบัติธรรมใด ๆ ดิฉันเองก็ห่างจากเข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่ไกลโขอยู่เหมือนกัน จากคุณ : หมูปิ้งริมรั้ว เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:09:50

ความคิดเห็นที่ 6 แล้วญาติคุณจขกท ไปรู้มาจากไหนครับ? ่เชื่อถือได้? ปกติคุณแม่ ท่านมีความเชื่อถือศรัทธาการทรงเจ้าหรือเปล่าครับ หรือว่าคุณจขกท ลองพาไปหาหมอที่มีความรู้ทางจิตวิทยาดูไหม เผื่อๆ ไว้ว่าอาจเพราะสาเหตุอื่น  ดูความเป็นไปได้หลายๆ แนว ส่วนผมนั้นไม่มีข้อมูล ก็ได้แต่เดาไปเรื่อย ------------- แต่ถึงเป็นเรื่องจริง ที่ว่ามีเจ้า...? ต้องการให้คุณแม่เป็นร่างทรง ดูจากอาการคุณแม่ท่านแล้ว เจ้า...ที่ว่า ไม่น่านับถือสักนิด -การจะเข้าทรง มีผลทำให้สุขภาพร่างกาย สุขภาพจิต แปรปรวนไปในด้านเสื่อมเสียหาย หรือว่า - อยากจะเข้าทรง แต่ตัวคุณแม่ไม่ยอม หรือยังไม่รู้ว่ามีความต้องการจากสิ่งแปลกปลอม เจ้า...ที่ว่าเลยแสดงอำนาจเพื่อบีบบังคับ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไหนก็ไม่น่าต้อนรับพอๆ กัน อย่าไปยอมครับ หาวิธีปฏิเสธให้ได้ เช่น เข้าวัดปรึกษาพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ทำบุญตักบาตร กราบไหว้พระพุทธรูป อธิษฐาน...ฯลฯ ------------ อีกอย่าง เคยได้ยินว่า ร่างกายมนุษย์นั้น   เทวดาว่าเหม็น จากคุณ : ปล่อย เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 16:18:50

ความคิดเห็นที่ 7 ไปหาพระสิครับ พระสายปฏิบัติเก่ง ๆ อย่าง หลวงปู่พุทธอิสระ จากคุณ : ไฟไฟ เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 17:05:51

ความคิดเห็นที่ 8 คณ ปล่อย // แม่ดิฉันท่านมีสมาคมกับญาติที่มาบอกนั่นแหล่ะคะ ญาติเขาอยู่กลุ่มความเชื่อนี้  ดิฉันคิดว่าเหมือนอุปทานหมู่ ตอนนี้แม่เชื่อไปแล้วเต็มตัว กำลังหารือกับญาติว่าจะบูชาอย่างไร  แต่ขัดใจดิฉันนี่สิคะ ไม่อยากให้รับ มาแบบนั้นไม่น่าเคารพ ว่าเป็นผีมาขอส่วนบุญยังเชื่อได้มากกว่า   มีวิธีปฏิเสธอย่างไรบ้างคะ ที่ดิฉันทำได้ เพราะแม่เชื่อไปแล้วรับไปแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในอาการงอน เสียใจที่ดิฉันกับคุณพ่อไม่ยอมรับ  ดิฉันกับพ่อไม่ยอมรับด้วยการ เฉย ค่ะ ปล่อยเป็นธุระของแม่ ของญาติ ๆ  อาของดิฉันเล่าให้ฟังว่าแม่ร้องให้ เสียใจที่ดิฉันกับพ่อ ไม่เออออด้วย จากคุณ : หมูปิ้งริมรั้ว เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 17:08:56

ความคิดเห็นที่ 9 ถาม จขกท ค่ะ อาการที่คุณแม่เป็น ทราบได้อย่างไรว่าเป็นจริงๆ หรือว่าแกล้งทำเพื่อหาเหตุให้สมจริง แล้วให้ญาติมาบอกกล่าวว่าเทพฯ ต้องการประทับ หากเป็นความต้องการของคุณแม่เอง อย่างนั้น จขกท ลองพิจารณาสาเหตุดีไหมคะว่าอะไรทำให้คุณแม่ต้องการอย่างนั้น - ขาดความสนใจจากคนในครอบครัว เลยต้องการได้รับการยอมรับจากคนอื่นมาทดแทน? - ต้องการายได้เพิ่ม? จากคุณ : LazyOx เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 18:24:42

ความคิดเห็นที่ 10 ให้ข้อคิด  1. คุณแม่ทำให้ใครเดือนร้อนหรือไม่  2. คุณแม่เรียนร้องที่จะเป็นหรือไม่  3. คุณแม่ต้องการหาประโยชน์จากสิ่งที่เป็นหรือไม่  4. คุณแม่ท่านเสแสร้งแกล้งทำหรือไม่ ถ้าตอบคำถามเหล่านี้ได้ก็ สบาย แต่ ลึก ๆ ดูแล้ว ผมว่าคุณรู้ว่ามีอะไรที่มากกว่านั้นใช่ไหม ย้ำ  สิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นมีอยู่จริง  ขึ้นอยู่กับว่าใคจะประสบพบเจอ จากคุณ : เด็กวัด (boss11589) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 19:03:39

ความคิดเห็นที่ 11 เทพไม่ทำร้ายมนุษย์ :-) ตามที่กล่าวมาผมคิดว่าอาจเป็นเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ก็ผีชั้นต่ำ จากคุณ : สัมมาอรหังอิติปิโสนะโมพุทธายะ (NetPop) เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 19:19:49

ความคิดเห็นที่ 12 มีสติ ใช้เหตุและผล ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นเอง ทุกอย่างล้วนมาจากการกระทำของเราเอง เป็นกำลงัใจให้แล้วกันครับ ปล. ........................ จากคุณ : เข้าขั้น เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 20:03:22

ความคิดเห็นที่ 13 - ต้องการรายได้เพิ่ม   ประเด็นนี้ไม่น่าใช่ เพราะที่บ้านหากกินใช้อย่างที่เป็นอยู่ พ่อแม่สามารถกินใช้ได้จนสิ้นอายุ โดยไม่เป็นหนี้ - เรียกร้องความสนใจ  อาจเป็นไปได้ เพราะพ่อกับตัวดิฉันชอบอยู่สงบ มีมุมของตัวเอง ขณะที่แม่ ชอบไปคุยกับญาติช่วงเย็น ๆ ทุกวัน - เจ้ากรรมนายเวรหรือฝีชั้นต่ำ จากคุณ : หมูปิ้งริมรั้ว เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 20:49:59

ความคิดเห็นที่ 14 หากจะยังไม่สาย จขกท คงต้องสละเวลาส่วนตัว ใช้เวลาช่วงเย็นทำกิจกรรมแม่ๆ ลูกๆ แบบจัดหนักกันเลยนะคะ ทั้ง 7 วันอย่าให้แม่ได้มีเวลาไปสมาคมกับญาติที่จะชักนำไปสู่ทางนั้น ดิฉันเชื่อค่ะ ว่าแม่ต้องเลือกลูกมากกว่า จากคุณ : LazyOx เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 21:21:16

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกท่านค่ะ  ตอนนี้ดิฉันคิดว่าจะไปปฏิบัติธรรม ถือศิล 8  สัก 3 วัน อุทิตส่วนกุศล และสงบใจตัวเองก่อน จากคุณ : หมูปิ้งริมรั้ว เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 21:34:20

ความคิดเห็นที่ 17 ถ้าคุณแม่ไม่อยากเป็นร่างทรง วิธีของคห.3 ที่ให้พาคุณแม่ไปห่มขาวถือศีลในวัดสักพัก.. น่าสนสุด แต่ท่าทางท่านจะนิยมฝักใฝ่ไปทางนั้นแล้วสิ ประมาณอ้าแขนเต็มใจรับเจ้า ชวนให้ไปจะยอมหรือ? เป็นเงื่อนตายเลย -*- เปลี่ยนทิฏฐิความเชื่อของคน ยากมาก ไปเจอเวบนึงจากกูเกิ้ล แต่เป็นเวบแนวพราหมณ์-ฮินดู   ไม่ใช่พุทธ เขาต่อต้านการทรงเจ้าเข้าผีมากๆ เลย บอกว่าเทพชั้นสูงย่อมไม่ลงมาสิงมนุษย์ปัจจุบันนี้ คุณจขกท สนใจก็ลองอ่านดู เผื่อได้ไอเดียอะไรขึ้นมา ปล. ถ้าคุณแม่นับถือศรัทธาพระสงฆ์ ลองพาท่านไปกราบ ให้พระภิกษุที่น่าเลื่อมใสเป็นคนคุยเกลี้ยกล่อมแทน หรือถ้านับถือแนวลัทธิจีน หาซินแสคนไหนมาเกลี้ยกล่อมแทนได้ไหม อะไรประมาณนี้ ปล.2 อนุโมทนาคห.15 ด้วยครับ ถ้าสุดท้ายจะห้ามคุณแม่ได้หรือไม่ได้ หรือต่อไปจะมีปัญหาจากเรื่องนี้เกิดขึ้นให้ยุ่งยากกว่านี้ การปฏิบัติธรรมก็จะช่วยเราได้มาก ปล3 ตะกี้โพสต์แล้วหาย น่าจะเพราะลิงค์ เลยลงรูปแทน จากคุณ : ปล่อย เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 22:19:16

ความคิดเห็นที่ 18 ลองใช้วิธีหนามยอกเอาหนามบ่ง  แกล้งองค์ลงตอนร่างทรงเข้าประทับแม่ เอ็ดตะโรขโมงโฉงเฉงข่มร่างทรงไปเลย  เดี๋ยวก็รู้ ของจริงหรือของปลอม จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 22:44:14

ความคิดเห็นที่ 19 จขกท.ได้มีโอกาสพาคุณแม่ไปพบผู้เชี่ยวชาญทางจิตเวชหรือยังครับ อยากให้ไปพบว่ามีเงื่อนปมอะไรในระดับจิตใต้มำนึกหรือไม่ เพราะสมาชิกนห้องนี้อาจไม่ผู้เชี่ยวชาญในสาขานี้ แต่ถึงแม้ว่าเป็น ในเมื่อไม่ได้พบ case ด้วยตนเองก็ไม่อาจให้ความเห็นถึงสาเหตุที่แท้จริง(ถ้ามี) แต่ถ้าหลังจากไปพบแล้วไม่สามรถแก้ปัญหาได้ ก็ต้องลองใช้ทางเลือกอื่น อาทิ อธิษฐานโดยอาศัยบุญญาบารมีของตนเองและครอบครัว อาศัยบารมีจากพระรัตนตรัยที่เรายึดถือเป็นสรณะ หรืออาศัยารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อื่นๆ หรืออาศัยไสยศาสตร์ ฯลฯ ไว้ค่อยว่ากันทีหลัง จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 29 เม.ย. 55 23:12:02

ความคิดเห็นที่ 20 ปล่อยค่ะ.. การที่จะเปลี่ยนคุณแม่หรือคนรอบข้างเค้าที่สนับสนุนเป็นเรื่องยาก ที่จะทำให้คุณและคุณพ่อเจ็บปวด ทุกคนก็มีกรรมเป็นของตัวเอง ทุกอย่างมันก็คงมีที่มา เปลี่ยนตัวเราดีกว่า ชวนคุณพ่อพากันเข้าวัด ทำบุญ นั่งกรรมฐาน ให้เราใจสบายดีกว่าค่ะ ถ้าวันนี้คุณแม่หมดกรรมเค้าก็คงมาร่วมบุญกับพวกคุณ พ่อ ลูก  แต่ก็แนะนำให้เค้าไปหาที่ทำตำหนักอย่าใช้ที่บ้าน จะได้มีความเป็นส่วนตัว และไม่ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันในครอบครัว เวลานั่งกรรมฐานหรือทำบุญ ไหว้พระสวดมนต์ ก็แผ่ให้คุณแม่ให้หมดกรรมจากเรื่องตรงนี้เร็วๆ ขอให้โชคดีนะค่ะ เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : สามชั้น เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 00:32:39

ความคิดเห็นที่ 21    อุเหม่...อุเหม่....พรรค์นี้ทำไม ผมจึงมีแนวคิด คล้าย ๆ คุณ Bg-View บ่อยจัง..          ........................................................................................   ผมก็ขอแนะนำ ว่า เอาหนามยอก หนามบ่ง อ่างที่คุณ Bg-view บอกนั่นแหล่ะครับ น่าจะเวิร์คที่สุด  และผมขอแนะนำวิธีทำ ดังต่อไปนี้...  ๑. เมื่อคุณแม่ลงประทับทรง เราก็ต้องรู้ให้ได้ว่า ท่านลงประทับทรง โดยเทพองค์ใด (ข้อมูล เป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ ยุคนี้เป็นยุค ข่าวสารข้อมูล  เราต้องฉับไว)  ๒. เมื่อทราบ ชื่อ - ที่อยู่ สถานะ ของเทพองค์นั้น ๆ แล้ว เราก็ต้องอัญเชิญเทพที่เหนือกว่า มาลงประทับทรงเราบ้าง  ๓. วิธีการลงประทับทรงองค์เทพนั้น  โดยธรรมเนียมปฏิบัติแล้ว พึงแสดง ดังต่อไปนี้...       ๓.๑. พึงแสดงตนเป็นคนอ่อนแอ ที่พร้อมจะสูญสิ้นสติสมปฤดี หรือเป็นลมได้ง่าย ๆ กล่าวคือ เป็นคนที่ สามารถสลบได้ทุกเมื่อนั่นเอง      ๓.๒. การเป็นลมนั้น หากไม่มีใครเห็นก็จะไร้ประโยชน์  ดังนั้น เราจึงควรเข้าไปอยู่ในวงที่คุณแม่กำลังประทับทรงลงองค์เทพนั่นแหล่ะ แล้วจงเรียกร้องความสนใจ เช่น กระทืบเท้าโครม ๆ (เลือกตรงที่มีพื้นกระดาน หรือโต๊ะเก้าอี้ ที่สามารถทำเสียงดังได้ กันเท้าเราแพลง หากไม่ระวังไปกระทืบเอาพื้นปูน ฯลฯ  การลงองค์เทพ ควรระมัดระวัง)     ๓.๓. หากไม่มั่นใจว่า จะมีคนหันมาสนใจหรือไม่ ก็ควรร้องกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด.....ให้ดังมาก ๆ (แนะนำให้เอาอย่าง สาว ๆ ในละครหลังข่าว ที่ตบตี แย่งผู้ชายกัน นั่นแหล่ะ)     ๓.๔. เมื่อกรี๊ดดดด และกระทืบเท้าโครมคราม พอเป็นอารัมภบท แห่งพิธีการลงองค์เทพแล้ว  คุณก็พึงหลับตา แล้วลมลง สลบไปในทันที  ...แต่...การล้มนั้น ก็ควรแอบเหล่ ๆ สังเกตสังกาให้ดี ๆ ว่า หัวจะฟาดพื้นหรือไม่  หากล้มผิดท่า เห็นทีจะไม่คุ้ม....ผมขอแนะนำว่า ให้เล็ง ๆ ไปที่หนุ่มที่หล่อที่สุด ในกลุ่มคนที่มามุงดูพิธี แล้วคุณก็รีบ ๆ ล้มลงบนตักของเขา .... หากไม่มีหนุ่มหล่อเลยในกลุ่มคนเหล่านั้น ก็ควรหลังไมค์ มาหา รถเรณู ก็ได้....กระผม ยินดี ที่จะไปเป็นหน้าม้า นั่งให้คุณล้มลงมาหนุนตัก....(แฮ่ะ แฮ่ะ ๆ) ด้วยความยินดี   ๓.๕. จากนั้น ก็ควรทำทีเป็นสลบไป สัก ๓ นาที วิธีการกำหนดว่า จะได้ครบสามนาทีเมื่อไหร่ ก็ให้ร้องเพลงที่เราชอบในใจ จนจบ เมื่อเพลงจบ ก็ครบสามทีแน่นอน โดยประมาณ   ๓.๖. หากไม่มีใครสนใจ ก็อย่าเพิ่งลืมตา แม้เพลงจะจบแล้วก็ตาม  ก็ควรนึกร้องเพลงต่อไปอีกสักเพลง  ก็อาจจะได้ ห้า-หก นาที......    อนึ่ง...การนึกร้องเพลงในใจนั้น หากจะนึกเป็นเพลงที่มีทำนอง ให้เข้ากับการเข้าทรง ๆ ผมก็ขอแนะนำเพลงของไมเคิล แจ๊กสัน ชุด "มูนวอล์ค" ประมาณนั้น ๆ นะ  คุณก็อาจจะได้ขยับ เขยื้อน ท่าทางแบบชักกระตุก ๆ ได้อย่างแนบเนียน ไปกับอาการสลบ   เป็นการสื่อให้รู้ว่า  ร่างกายและจิตใจ ของเรา กำลังดิ้น และต่อต้าน อำนาจเทพเจ้าอยู่ จนกว่าเพลงจบ เราแน่นิ่ง นั่นแสดงว่า เทพได้รับชัยชนะ  เราไม่ขัดขืนแล้ว ...เทพก็ได้เรา..อุ๊ย ..เทพ ก็เข้าร่างเราได้สำเร็จแล้วฯลฯ     ระหว่างนั้น โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ผู้คนก็จะหันมาสนใจคุณแทน (อาจรวมทั้งคุณแม่ด้วย) และมักจะมียาดม ยาลม ยาหม่อง มาแตะ ๆ ทา ๆ ถู ๆ ที่จมูก อาจจะมีคนมาช่วยพัด ๆ ให้หายร้อน  ก็เป็นสัญญาณว่า คุณควรลืมตาได้แล้ว  (เป็นอันเสร็จสิ้น การเริ่มพิธีลงประทับทรง เบื้องต้น)   ๔. ตอนนี้ มหาเทพมาลงแล้ว  สายตาของคุณ ที่ลืมตาขึ้นมานั้น ควรลืมตาให้เป็นรูปแบบ ขององค์เทพ ไม่ควรลืมตาแบบค่อย ๆ ลืมเหมือนคนเป็นลมธรรมดา ๆ.....แต่คุณควรลืมตาแบบกระทันหัน คือลืมตาอย่างเร็ว แล้วรีบหันไปมอง จ้อง ที่คุณแม่ของคุณทันที  สายตาต้องเกี้ยวกราด...ดุร้าย และมีอำนาจ ฯลฯ   ยังมีต่อนะคร๊าบบบ... แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 08:44:51 จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 08:34:23

ความคิดเห็นที่ 22   ๕. ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ตึ๋ง ตึง ตึ่ง ตึ้ง  อยู่นั้น  คุณก็ต้องเป็นนักฉวยโอกาสชั้นเทพ โดย..รีบลุกขึ้นยืนอย่างกระฉับกระเฉง  จากนั้นก็.....   ๖. ให้ยืนคล้าย ๆ กับตัวละครในเวทีแสดงโขน ตัวที่แสดงเป็นทศกัณฑ์น่ะ  คือยืนอกผายไหล่ผึ่ง กางแขนิด ๆ  กรอกลูกกะตาไปมา หันซ้าน หันขวาช้า มองหน้าผู้คนด้วยสายตาเอาเรื่อง และอาจจะหยุดนิ่ง ที่ใครคนใดคนหนึ่งสักครู่ แล้วทำท่าทางกระตุกเร็ว ๆ (คล้าย ๆ สะดุ้ง) กระทืบเท้า ทำตาดุ ไปที่คน คนนั้น  ......หากเขาคนนั้น สะดุ้งโหยง  ...นั่นแสดงว่า  คุณโอเคแล้ว..เวิร์ค...ใช้ได้ ๆ...  ถือเป็นการเช็คเรตติ้ง ในเบื้องต้น เป็นผลสำเร็จพอควร   ๗. ก้าวย่างสามขุม เดินส่ายอาด ๆ (การก้าวย่างสามขุมนั้น เป็นอย่างไร ก็ควรหมั่นเปิดพวกคลิปการแสดงโขนดูบ่อย ๆ  .....ส่วนการเดินส่ายอาด ๆ แบบไม่เกรงกลัวใครในโลกานั้น  หากหาดูไม่ค่อยได้ ก็ให้ดูตัวอย่างภาพข่าวเก่า ๆ  สมัยที่ทั่นรองนายกเทพเทือก  ท่านเดินลงจากรถยนต์หุ้มเกาะ ประจำตำแหน่ง นั่นแหล่ะครับ เรียกว่าเดินส่ายอาด ๆ ล่ะ)  คุณก็เดินไปที่ตำแน่ง ที่คุณแม่คุณควรจะนั่ง ในพิธี    จากนั้น...  ๘. กระทืบเท้าแรง ๆ อีกครั้ง (ระวังเข่าทรุดด้วย) จากนั้น ก็เริ่มบทพูด.............   การจะเริ่มบทพูดอย่างไรนั้น....คุณต้องรู้เสียก่อนว่า เทพที่มาลงประทับร่างแม่นั้นเป็นใคร  เพื่อที่จะได้พูดให้ถูกวงศ์วานว่านเครื่อกัน เช่น ....     ๘.๑. หากคุณแม่เป็น พระพิฆเณศวร์  คุณก็จะได้เป็น พระแม่ปารมิตา  พระแม่อุมาเทวี หรือพระแม่ดุรคากาลี  ปางไหน ๆ ก็ว่ากันไป  แนะนำว่า ให้มาในปางเจ้าแม่ดุรคา (ทุรคา) หรือเจ้าแม่กาลี  จะได้โหดได้สะใจ....จะได้กาตื๊บคนได้แบบมันส์ ๆ โดยเฉพาะ ไอ้พวกที่ชอบมาอุปโลกน์ให้คุณแม่คุณ เป็นร่างทรงน่ะ   ถือโอกาสกาตื๊บซะเลย (ดีไหม?) หรือไม่ก็ ถือโอกาสด่า แบบว่าเนียน ๆ อ่ะ   ตามบทพูดของเจ้าแม่ทุรคา  555    ๘.๒. หากคุณแม่ประทับทรง หงอคงเห้งเจีย  คุณก็ควรประทับทรงพระถังซำจั๋งซะเลย    ๘.๓. หากคุณแม่ประทับทรงเจ้าแม่กวนอิม  คุณก็ประทับทรงเป็น พระอมิตาภะ ซะเลย   ๘.๔. หากคุณแม่ประทับทรงเป็นเจ้าพ่อพันท้ายนรสิงห์ คุณก็ประทับทรงเป็น เจ้าแม่นวล ซะเลย  (ใครบ้างไม่กลัวเมีย แม้แต่เทพ เจ้าพ่อ ก็เถอะน่ะ)   แต่อย่าไปประทับมั่วให้ผิดฝาผิดตัวนะครับ  เช่น...   คูณแม่ประทับทรง "เจ้าพ่อกวนอู"   แต่คุณดันไปประทับทรง "หนุมาน.."   ผมว่ามีหวัง ได้ปวดหัวแน่ ๆ  เพราะ นอกจากคุยกันคนละเรื่องแล้ว  ต่างคนต่างก็ไม่รู้ประวัติเรื่องราวของกันและกัน   หนุมานอาจจะเข้าใจผิดว่า เจ้าพ่อกวนอู เป็นทศกัณฑ์ แล้วบุกไปเผาเมือง หรือแกล้งเอาไฟไปจุด เผาหนวด เผาเครา ลนคางเจ้าพ่อกวนอู ..แบบว่าซน ๆ ไปตามประสาลิง ......ผมว่า เจ้าพ่อกวนอู ก็คงมีเคือง แล้วควงทวนหนักสิบหกชั่ง ไปตัดหางหนุมาน เพื่อที่จะเอาไปให้เทพเล่าปี และเทพเตียวหุย ได้ดู เป็นขวัญตา ฯลฯ   ลงอีแบบนี้ ผมว่า เทพขงเบ้ง คงได้นั่งดีดพิณไป ขำก๊าก หัวเราะ ดังลั่นไปทั่วทั้งหุบเขาโงหลั๋งกั๋ง แน่ ๆ   จบเหอะนะ....  ปล. หากต้องการคำปรึกษา เรื่ององค์เทพองค์ไหน ที่มีบารมีเหนือองค์เทพที่ประทับทรงคุณแม่อยู่  ก็ลองถามมาอีกทีนะครับ  ผมจะได้ช่วยอัญเชิญ ให้ไปลงประทับร่างคุณ เพื่อแก้ปัญหา ให้เสร็จสิ้น กันไป  ดีไหมครับ แก้ไขเมื่อ 30 เม.ย. 55 14:03:41 จากคุณ : รถเรณู เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 09:29:25

ความคิดเห็นที่ 23 ^ 555555555555555555++++++++++++++++++++ จัดตัวอย่าง Moonwalk ให้ จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 10:37:53

ความคิดเห็นที่ 24 เทพ ถ้าเป็นเทพจริงๆ ไม่ทำร้ายร่างทรงหรอกค่ะ มีแต่แนะนำให้ทำบุญ ปฎิบัติธรรม การเป็นร่างทรง ไม่ใช่อยากจะเป็นก็เป็นได้ เทพจะเป็นคนเลือกร่าง ยื่งเป็นเทพชั้นสูง ร่างต้องเป็นคนที่เคยเกี่ยวพันกัน ในอดีตชาติ อาจเคยเป็นลูกหลานหรือบริวารกันมาก่อน จากคุณ : ปักไหมทอง เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 13:27:26

ความคิดเห็นที่ 25 อ่านวิธีแก้ของคุณรถแล้วหัวเราะท้องแข็ง งานการไม่เป็นอันทำ เมื่อสมัยสาวๆเจ๊เคยโดนลากไปบ้านคนทรงบ้างไปหาหมอดูบ้าง มีครั้งหนึ่ง ผัวเมียทะเลาะกันเรื่องผัวมีเมียน้อย คนผัวเลยอยากเอาใจเมีย ผู้ที่คงจะชอบเรื่องทรงเจ้าเข้าผี ก็เลยลากเมียสุดที่รักมากราบเจ้าพ่อคนทรงที่เคารพอย่างยิ่ง จริงๆก็จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เพราะนานแล้ว แต่คิดว่าเจ้าพ่อท่านคงจำผิดจำถูกว่าไอ้ที่ลากมานั้นเมียน้อยหรือเมียหลวง พอท่านประทับลงทรงก็เลยวางท่าตวาดใส่ผู้ผัว เอ็งมีปัญหาอะไรวะ ไอ้เนี่ยจดทะเบียนซ้อน พอเจ้าพ่อพูดจบ เท่านั้นแหล่ะ ฝ่ายเมียก็กรีดไม่รู้เจ้าแม่อะไรลงประทับ เธอโคตรเก่งเลยทุ่มเททั้งฝีไม้ลายมือแม่ไม้มวยไทยประเคนไปที่ผัว จนผัวต้องวิ่งหนีตายลงเรือนไป จริงๆเจ๊รินตาก็อยากจะตามลงไปดูเหมือนกันนะว่า นอกจากหัวผัวจะเละแล้ว รถจะพังด้วยหรือปล่าว แต่กลัวลูกหลงเจ้าแม่จริงๆ ท่านดุเหลือเกิ๊น จากคุณ : Rinta เขียนเมื่อ : 30 เม.ย. 55 17:32:35