ถ้าเป็นรัฐแบบสมัยท่านศาสดา หรือรัฐอิสลามในยุคต้น มุสลิมย่อมอยากให้เกิดนะครับ แต่รัฐอิสลามแบบนั้น ไม่ได้มีแต่มุสลิม ก็มีคนต่างศาสนาอาศัยอยู่ครับ การปกครองก็ใช้หลักศาสนา กฎหมาย อะไรแบบนั้น ตัวอย่างการนำอิสลามมาใช้ ทำไมมุสลิมถึงอยากให้เป็นรัฐอิสลาม ภารกิจแรกเริ่มของอุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ ก็คือการปฏิรูปเพื่อบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนจากการกระทำของระบอบปกครองของราชวงศ์อุมะวียะฮฺ ท่านเริ่มตรวจสอบกิจการงานต่างๆของรัฐ มีการปลดผู้ปกครองบางคนออกจากตำแหน่ง ในเมื่อสงสัยว่ามีพฤติกรรมที่ทุจริต และได้มีการแต่งตั้งผู้ที่มีความยุติธรรมให้ดำรงตำแหน่งแทน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างระบอบการปกครองที่ยุติธรรม
นอกจากนี้อุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ ได้ฟื้นฟูกฎหมายอิสลามพร้อมกับการนำไปใช้อย่างยุติธรรม ท่านกำชับให้ผู้ปกครองในการดูแลของท่านเอาใจใส่ต่อการปกครองด้วยความยุติธรรม และไม่อนุญาตให้ลงฑัณฑ์ขั้นอุกฉกรรจ์ เช่น การตัดมือ การประหารชีวิต จนกว่าจะได้รับความเห็นชอบจากท่านเสียก่อน การเน้นความยุติธรรมและความเสมอภาคในการใช้กฎหมาย ทำให้ความนิยมในกฎหมายอิสลามจึงได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง
ในสมัยของท่านได้เน้นโครงการสวัสดิการอย่างมากมาย การสร้างที่พักคนเดินทาง การขุดบ่อน้ำและคลองในหลายพื้นที่ และมีการอุปถัมภ์คนยากจนและเด็กกำพร้า และอื่น ๆ อีกมากมาย
...... ภารกิจสำคัญอย่างมากของอุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ ก็คือ การปฏิรูปบัยตุล มาล(คลังสาธารณะ) เนื่องจากเคาะลีฟะฮฺคนก่อน ๆ ได้ยึดมาเป็นของตนเอง และนำไปใช้จ่ายตามอำเภอใจ อีกทั้งคนในราชวงศ์อุมะวียะฮฺและผู้มีอิทธิพลได้ยึดเอาทรัพย์สินสาธารณะมาเป็นของตนเองอย่างมากมาย ท่านจึงออกคำสั่งให้มีการนำทรัพย์สินเหล่านั้นมาคืนแก่คลังสาธารณะ มาตรการนี้ถูกคัดค้านจากพวกคนชั้นสูงอย่างหนัก แต่ก็ไม่เป็นผล ท่านสามารถผลักดันมาตรการดังกล่าวอย่างเป็นขั้นตอนจนสำเร็จ ท่ามกลางความพึงพอใจของประชาชน
อุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ ตระหนักดีถึงความมั่งคั่งและทรัพย์สินได้เปลี่ยนแปลงนิสัยของเคาะลีฟะฮฺและชนชั้นปกครองไปอย่างไร และได้สร้างความเสียหายเพียงไรให้อาณาจักร ท่านได้วางมาตรการที่เข้มงวดในการตรวจสอบคลังสาธารณะ แม้แต่อัญมณีส่วนตัวของภรรยาของท่านก็ถูกนำมาเก็บไว้ที่คลังสาธารณะ ตัวท่านเองไม่เคยเบิกสิ่งใดจากคลังสาธารณะเลย หลังจากเสร็จราชการในยามค่ำคืน ท่านจะดับตะเกียงที่เป็นของคลังสาธารณะก่อน หากจะทำงานส่วนตัว
อุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ ยังได้หันมาเอาจริงเอาจังกับเรื่องการจัดเก็บภาษี ท่านเห็นว่ามีทรัพย์สินจำนวนมากที่ได้ถูกเรียกเก็บจากบรรดามุสลิมอย่างไม่เป็นธรรม ดังนั้น ท่านจึงได้สั่งให้บรรดาผู้ปกครองตามเมืองต่าง ๆ ยุติการเก็บทรัพย์สินดังกล่าว พร้อมกับได้ลดอัตราการจับเก็บภาษีด้วย บรรดาเคาะลีฟะฮฺก่อนหน้าท่านได้ยึดครองที่ดินของประชาชนโดยไม่ชอบธรรม ท่านจึงสั่งให้คืนที่ดินให้แก่เจ้าของเดิมของเขา ถ้าหากว่าเจ้าของเดิมไม่มีที่อยู่ก็ให้มอบที่ดินดังกล่าวให้กับกองคลังกลาง
อุมัร อิบนุ อับดุล อะซีซ พยายามขัดขจัดความเดือดร้อนของประชาชนโดยการยกเลิกภาษีต่าง ๆ ทั้งหมดที่กำหนดขึ้นโดยขัดกับกฎหมายอิสลาม คงเหลือแต่ภาษีที่สอดคล้องกับกฎหมายอิสลามเท่านั้น ท่านได้กล่าวถ้อยคำที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์อิสลามว่า มุฮัมมัดถูกส่งมาเป็นผู้เชิญชวน(สู่สัจธรรม) ไม่ได้ถูกส่งมาเป็นคนเก็บภาษี
การปฏิรูปทางเศรษฐกิจของเขากระจายความมั่งคั่งไปสู่ชนชั้นล่าง ทำให้ประชาชนไม่ต้องแบกรับภาษีที่หนักเกินไป และสามารถยืนบนขาของตัวเองได้ ผลที่เกิดขึ้นก็คือพวกเขาสามารถยกระดับมาตรฐานชีวิตจากสภาพที่ยากจนได้สำเร็จ และเป็นครั้งแรกที่อาณาจักรอิสลามไม่มีคนยากจนมารับซะกาต ดังการรายงานของยะหฺยะ อิบนฺ สะอีด ซึ่งเป็นคนที่อุมัร อิบนฺ อับดุล อะซีซ ส่งไปเก็บซะกาตในแอฟริกา เมื่อเขาเก็บซะกาตได้ก็เริ่มหาคนรับซะกาต แต่เข้าได้แจ้งกลับมาว่า ไม่พบคนยากจนที่จะมารับซะกาตแม้แต่คนเดียว
การปฏิรูปทั้ง ระบอบการบริหาร และ ระบอบการคลัง ที่มีประสิทธิภาพตามหลักการอิสลาม ทำให้ประชาชนในอาณาจักรอิสลามได้สัมผัสกับระบอบการปกครองที่ยุติธรรมอย่างแท้จริง http://khozafi-shahaan.** ไม่ใช่ลิควิด **/2010/10/8.html
ตัวอย่างครับ
จากคุณ |
:
Carroth
|
เขียนเมื่อ |
:
30 เม.ย. 55 21:14:46
|
|
|
|