PANTIP.COM : Y12040844 ในทกๆความสุข มีความทุกข์เจืออยู่เสมอ []

ความคิดเห็นที่ 2

หลวงพ่อชา สุภัทโท ท่านเคยกล่าวว่า...จริงๆ แล้ว "สุข" กับ "ทุกข์" มันเป็นอันเดียวกัน....

กล่าวคือ ความสุขก็คือความทุกข์อย่างละเอียด ความทุกข์ก็คือความสุขอย่างหยาบ....เพราะว่าไม่มีสุขใดปราศจากความทุกข์ และไม่มีทุกข์ใดปราศจากความสุข....ทั้งสุขและทุกข์จึงเป็นอันเดียวกัน เป็นแท่งเดียวกัน เพียงแต่อยู่คนละข้างกันเท่านั้นเอง สุขอยู่ข้างหนึ่ง ทุกข์อยู่ข้างหนึ่ง เปรียบได้ดังงูพิษที่มีความสุขเป็นหัวงูและมีความทุกข์เป็นหางงู....

หากไม่พิจารณาให้รู้เห็นตามความเป็นจริงในข้อนี้ก็จะพากันเข้าใจว่าความสุขที่กำลังได้รับนั้นเป็นสุขอย่างแท้จริงโดยไม่มีทุกข์เจือปน หรือความทุกข์ที่กำลังได้รับนั้นเป็นทุกข์อย่างแท้จริงไม่มีความสุขเจือปน....จิตใจก็จะเคล้าคลึงความสุขความทุกข์นั้นอย่างไม่มีประมาณ.....ยามสุขก็สุขจึงลืมทุกข์ ยามทุกข์ก็ทุกข์จนลืมตัว....ไม่สามารถประคองใจให้เป็นกลางต่อความรู้สึกสุขทุกข์ที่เข้ามากระทบได้....จิตใจจึงดิดดิ้นไปตามอารมณ์ที่เข้ามากระทบตลอดเวลา เปรียบเสมือนคนที่จับงูโดนไม่รู้ว่าสิ่งนั้นเป็นงูจึงโดนงูนั้นฉกกัดเอาทำให้ต้องดิดดิ้นไปตามพิษงูตลอดเวลาไม่มีวันได้สงบใจเลย

หลวงพ่อชาท่านจึงสอนให้เราวางใจให้เป็นกลาง...ให้ปล่อยวางต่อความรู้สึก สุข ทุกข์ ที่เข้ามากระทบ....ยามสุขก็ให้รู้ว่าสุข ยามทุกข์ก็ให้รู้ว่าทุกข์ อย่าไปดิดดิ้นกับความรู้สึกเหล่านั้นจึนเกินไป ให้วางใจให้เป็นกลาง เมื่อจิตใจเราไม่แกว่งไปตามอารมณ์ที่เข้ามากระทบ จิตใจก็เริ่มสงบ เป็นกลาง ปล่อยวาง เหมือนกับคานของตราชั่งที่ตั้งบนจุดสมดุล ไม่เอียงซ้ายเอียงขาวไปตามสุขทุกข์ที่เข้ามากระทบ

เมื่อนั้นเราจึงจะพบว่าแท้จริงแล้วความสงบอยู่ตรงกลางไม่แกว่งไปตามอารมณ์ที่มากระทบนั้นแหละคือสุขที่ยิ่งกว่า....เป็นสุขที่แท้จริง....เป็นสุขด้วยความสงบ เป็นสุขด้วยความปล่อยวาง เป็นสุขด้วยปัญญาที่รู้เห็นตามความเป็นจริงว่าสุขกับทุกข์มันเป็นอันเดียวกัน...เป็นแท่งเดียวกัน....ความสุขความทุกข์ที่มนุษย์เรียกกันจึงเป็นเพียง "สมมุติบัญญัติ" ที่มนุษย์บัญญัติขึ้นมาว่าสิ่งนั้นคือสุข สิ่นนั้นคือทุกข์ เท่านั้นเองทั้งที่มันก็คืออันเดียวกัน....เป็นงูพิษตัวเดียวกันนั้นเอง....

เมื่อ "จิต" รู้เห็นตามความเป็นจริงของธรรมในข้อนี้แล้ว จิต ก็จะปล่อยวางมันเอง ไม่ไปเค้าคลึงกับความรู้สึกสุขทุกข์ที่เข้ามากระทบอีกต่อไป....เหมือนกับคนที่รู้ว่าสิ่งนี้มันคืองูพิษและไม่เข้าไปจับมันก็ไม่อาจโดนงูพิษนั้นฉกทำร้ายเอาได้...ฉันใดก็ฉันนั้นแล

ที่กล่าวมาทั้งหมดเป็น "ธรรม" แบบป่าๆ เถื่อนๆ ไม่มีพระสูตร หรืออรรถกาใดรับรอง....เป็นธรรมที่พ่อแม่ครูอาจารย์ท่านได้มาจากป่าๆ เขาๆ ผู้เขียนก็ด้นเดาไปตามความโง่เขลาของตนเท่านั้นเอง....หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

จากคุณ : ดอกหญ้าสีนวล

เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 00:25:52