ความคิดเห็นที่ 1 ต้องถามผู้พูดว่า  ผู้ที่พูดหมายถึงอะไร ... การออกกรรม  บางทีอาจจะหมายถึง การครบกำหนดอยู่ปริวาสกรรมของพระ   ก็ออกจากการเข้าปริวาสกรรมนั้น   .. จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 11:46:16

ความคิดเห็นที่ 2 ท่าน จขกท. ครับ   กับดักของคนไทยก็คือคำว่า ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่  นี่คือทางหากินของหลายสำนักครับ   อย่าไปคิดอะไรมากขอให้มั่นใน ศีล สมธิ ปัญญา เรื่องไปทำบุญทำนั่นแล้วเจอคนร้องกรี๊ดอะไรเทือกนี้อย่าไปถือสาหาความครับ ท่านจงมั่นใจว่าเมื่อท่านรักษาศีลได้ครบทุกข้อ ตามรู้จิตได้ทุกลมหายใจเข้าออก แล้ว  ท่านไม่ต้องกลัวเศษกรรม เศษบุญอะไรทั้งนั้นครับ  การวิปัสนเจริญสมาธิ นี่ถือว่าเป็นสุดยอดแล้วครับ  ขอให้มั่งใจในคุณพระพุทธ คุณพระ คุณพระสงฆ์ ปฏิบัติให้เต็มที่ รักษาศีลให้บริสุทธิ์ ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นครับ  อย่าไปติดกับดักอะไรกับใครเขาเลย จากคุณ : กระจอกจัง เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 12:14:52

ความคิดเห็นที่ 3 สำนักปฏิบัติธรรมที่สอนให้หายใจแรงๆนี่ได้ยินมาหลายสำนัก และแต่ละสำนักก็จะมีผู้เข้าร่วมปฏิบัติแสดงอาการแปลกๆ โดยส่วนตัวผมไม่เชื่อว่าเป็นแนวทางปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องในพระพุทธศาสนาครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 13:18:45

ความคิดเห็นที่ 4 สัมมาสมาธิเป็นไปเพื่อจิตสงบตั้งมั่น และเกิดปัญญารู้ตามความเป็นจริง เรื่องกรรมเก่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้ จากคุณ : venture เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 14:12:45

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณทุกความเห็นค่ะ จากคุณ : LittleFaith เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 15:18:58

ความคิดเห็นที่ 6 ก็เพราะหายใจแรงๆนี่แหละครับ ทำได้จิตหลุด ไม่เก่งจริงควบคุมไม่ได้หรอกครับ เป็นบ้ากันไปหมด จากคุณ : นักฆ่าดาบเดียว เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 15:50:28

ความคิดเห็นที่ 7 เรื่องกรรมฐานเปิดโลกนี้เห็นพูดถึงกันหลายครั้งในห้องศาสนา แต่ผมไม่ค่อยอยากจะอธิบายซักเท่าไหร่ เพราะรู้ได้เฉพาะตน พูดให้คนนอกฟัง เขาก็ว่าอุปทานหมู่ ประสาท  คิดไปเอง ฯลฯ อุปมาเหมือนเอาไม้ไปขวางน้ำกระแสเชี่ยว ไม่ค่อยได้ประโยชน์ แต่กระทู้นี้ เห็น จขกท ไปมาด้วยตัวเองแล้ว จึงอยากจะให้เข้าใจให้ถูกต้อง เพราะตัวผมเองกับแฟน เคยไปมาสองสามครั้ง เมื่อหลายปีก่อน 1.  ลักษณะการหายใจแรงๆ จะทำให้หัวตื้อน่ะ ตรงนี้จะทำให้จิตสำนึกไม่ทำงาน จิตไร้สำนึกจะทำงาน .... สิ่งที่เก็บไว้อยู่ในจิตไร้สำนึกทั้งในชาติปัจจุบันและอดีตชาติจึงแสดงออกมา .. ปรากฏเป็นอาการ อากัปกิริยา ต่างๆ เช่น ผมเคยเห็นคนแสดงอาการเป็นหมูป่า ร้องฮึดอัดอยู่เป็นชั่วโมง 2. บางคน จะมีวิญญาณในภพภูมิอื่น (ที่มาได้) เช่น อสุรกาย หรือ เทวดา มาทับซ้อนในร่างเรา และสามารถสนทนาได้ (มีทั้งที่เรารู้สึกตัวและไม่รู้สึกตัว) เช่น กรณีแฟนผม เทวดาเจ้าที่ มาบอกว่า อีกไม่นานคุณพ่อจะเสียแล้ว ให้รีบกลับไปดูแล ... ซึ่งอีกไม่กี่เดือนต่อมา คุณพ่อของแฟนผมก็เสียจริงๆ หรือบางคน วิญญาณเจ้ากรรมนายเวร(ในภพที่มาได้) ก็จะมาปรากฏ แม่ชีก็จะช่วยขอให้เขาอโหสิกรรมให้ รวมถึงเราก็จะรู้ตัวนะว่า เคยทำกรรมอะไรมา.. เมื่อปฏิบัติธรรม เราก็จะได้ระลึกถึงเขา เพื่อแผ่ส่วนบุญและขออโหสิกรรมได้ บางคน ปวดต้นคอไม่ทราบสาเหตุ รักษาไม่หาย .. ถึงได้ทราบว่า เคยตัดคอคนเมื่อชาติก่อนๆ .. เมื่อขออโหสิกรรม+ทำบุญไปให้ อาการก็ดีขึ้น 3. ด้วยลักษณะที่กล่าวมาข้างต้น เพราะฉะนั้น กรรมฐานเปิดโลกนี้จึงอันตรายมาก ต้องอยู่ในความดูแลของพระและแม่ชี อย่างใกล้ชิด  ห้ามทำเองโดยเด็ดขาด 4. กรรมฐานเปิดโลกนี้ มีไว้เพียงเพื่อช่วยพิสูจน์ว่า กฏแห่งกรรมมีจริง ภพภูมิอื่นมีจริง ไม่ใช่มรรคแปด ไม่ใช่ทางไปพระนิพพาน (แม่ชีท่านจะย้ำอยู่เสมอ) และต้องเข้าใจว่า สามารถทำให้ทราบกรรมได้เพียงแค่บางอย่างเท่านั้น และ เราทุกคนก็ต้องรับผลของกรรมที่ก่อขึ้นทั้งสิ้นอยู่แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดจึงคือ ศีล สมาธิ ปัญญา 5. หลายคนที่ทำกรรมฐานเปิดโลกแล้ว แม่ชีท่านจะไม่แนะนำให้ทำอีก เพราะ ท่านว่าไม่เกิดประโยชน์ 6. สายหลวงพ่อคงท่านจะเน้นสมถะเป็นหลัก (พุทโธ) เพราะฉะนั้น เรื่องญาณ หรือ การทราบวาระจิต เป็นเรื่องปกติของพระและแม่ชีที่นี่ จึงอยากให้ระวังความคิด  เพราะผมกับแฟนก็เจอกับตัวหลายครั้ง จากคุณ : อาตาปี สัมปชาโน สติมา เขียนเมื่อ : 3 พ.ค. 55 16:04:05

ความคิดเห็นที่ 8 เห็นด้วยกับ คุณ อาตาปี สัมปชาโน สติมา   ผู้ปฎิบัติ ผึงจะเห็นได้ด้วยตนเอง การที่เราได้ยินเสียง  ของคนอื่น เราก็อย่าเอาจิตเราไปเพ่งอยู่กับเสียงเหล่านั้น ถ้าท่านมีสมาธิจริงแล้ว  จิตของท่านจะสงบดับนิ่งสนิท  ไปเอง ท่านจะได้รู้ว่าการนั่งสมาธิของท่านนั้น  ท่านมีสมาธิจริงๆเหรอไม่ เหรอว่านั่งหลับตาแล้วท่อง พุทโธๆ เฉยๆ (อันนี้ผมไม่ได้ลบหลู่ใครน่ะครับ ) แล้วแต่จริต ของแต่ละคนว่าชอบแบบไหน  ชอบแบบเงียบๆ   เหรอว่าจะทดสอบสมาธิจริงๆ ต่อให้เสียงดังขนาดไหน ก็ยังมีสมาธิอยู่น่ะครับ ผมก็เป็นคนนึงที่แต่ก่อนก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้   แต่ผมก็เคยไปทำสมาธิที่วัดเขาสมโภชน์ มาแล้ว   จึงได้ทราบด้วยตัวเองมา  และเริ่มมีดวงตาเห็นธรรม กรรมของใครก็ของคนนั้นน่ะครับ อย่าไปสนใจกรรมของคนอื่น ถ้าเราคิดว่าเรามาเพื่อนั่งสมาธิ  เราก็รวบรวมสมาธิฝึกจิตใจของเราไป อย่าหวั่นไหวกับเสียงต่างๆครับผม    คนฝึกปฎิบัติ จงอย่ากลัวในสิ่งที่จะรู้ จะเห็น จะได้ยิน คนมีบุญ มีสมาธิจริงๆ นั่งแป๊บเดียว ก็เห็นก็รู้  แต่คนที่ไปนั่งเพราะอยากรู้อยากเห็น แต่ไม่เคร่งปฎิบัติ  นั่งไป......ก็เห็นแต่สีดำ และก็ลมหายใจตัวเอง ส่วนคนที่ออกกรรมเสร็จแล้ว  ก็จะได้สมาธิ และ ฌาน อีกระดับนึงน่ะครับ เอาใจช่วยครับทุกคน  การทำสมาธินั้นทำได้ทุกที่ ไม่ว่าคุณจะ ยืน เดิน นั่ง นอน หรือ ให้คุณลอง เอานิ้วชี้ กับ นิ้วโป้ง ถูกัน แล้วคุณทำอย่างอื่นไปด้วย เช่น คุย หรือดูทีวี ถ้าคุณรู้ได้ว่าตอนนี้ ขณะที่คุณทำอย่างอื่นนั้น คุณยังรู้สึกว่านิ้วยังถูกันอยู่  นั่นก็คือสมาธินั่นละครับ  เหมือนที่ พระจีน ท่านจะสวดมนต์ ไปนับประคำไป ประมาณนั้น น่ะครับ ผมก็ไม่ได้เก่งอะไร  คนพึ่งจะฝึกเหมือนกัน........ จากคุณ : เลนส์ระเริง (เลนส์ระเริง) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 00:06:51