ตามความคิดเห็นส่วนตัวของผม....
ความมุ่งหมายของการมีความศรัทธาในศาสนาต่างๆซึ่งมีการสอนให้มีความเชื่อทางจิตวิญญาณและ/หรือ สภาวะการตามธรรมชาติ เพื่อเป็นหลักในการดำเนินศาสนปฏิบัติเพื่อ ให้ประสพผลในการปรับปรุงคุณภาพ ชีวิตมนุษย์ ทางจริยาธรรมและคุณธรรมของแต่ละบุคคล เพื่อให้เกิดความสุขทั้งทางสุขภาพจิตและความสุขทางกายภาพ
หลักการในทุกๆศาสนาสอนให้มนุษย์ใช้สติปัญญา สอนให้มีสติ สอนให้มี สมาธิ
ศาสนาสอนให้มนุษย์ ใช้สติ,ปัญญา,และสมาธิ ในการประกอบกิจการในชีวิตประจำวันเพื่อนำไปสู่ความ สำเร็จ
สอนไม่ให้มนุษย์หลงเชื่อในสิ่งที่ ปราศจากเหตุผล และงมงาย ซึ่งเป็นหนทาง นำไปสู่ความล้มเหลวในชีวิต และออกนอกแนวทางของความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มีปะปนอยู่ ในทุกๆความศรัทธา แล้วแต่ว่าจะมีมากน้อยเท่าใด
จากเรื่องตามหัวข้อกระทู้นี้เรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลักความเชื่อ หรือ ศรัทธาของ ของทุกๆศาสนา ก็คือ
การที่มนุษย์ไม่ปฏิบัติตามหลักการของคำสอนของศาสนาที่สอนให้ ใช้ สติ, ปัญญา,และสมาธิ หรือ ศีล,สมาธิ ปัญญา เป็น เป็นครื่องคุ้มครอง การประกอบกิจกรรมของตน และความปลอดภัยให้กับตนเอง
เครื่องจักรกลขนาดใหญ่ตามโรงงานต่างๆมีประโยชน์อย่างมหาศาลในการสร้างผลผลิตให้แก่มนุษย์ แต่การใช้เครื่องมือเหล่านั้น มีอันตรายมากต่อผู้ใช้ ถ้าไม่มีการป้องกันและฝึกอบรมผู้ใช้ในการ ใช้เครื่องมือนั้นๆให้ถูกต้อง ตามกฏหมายความปลอดภัยในโรงงาน ซึ่งรัฐบาล ออกกฎหมายเพื่อคุ้มครอง สุขภาพของคนงาน
ในกรณีนี้มีกฎความปลอดภัยโดยสังเขปดังนี้คือ: -
1.อย่าใช้เครื่องจักรกลหนักในขณะที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของแอลกอฮอล์หรือยาเสพติดภายในสถานที่ทำงาน, ยาบางอย่างยังทำให้เกิดอาการมึนงงหรือทำให้ความตื่นตัวน้อยกว่าปกติ
2.สวมชุดป้องกันที่ถูกต้องเสมอ, เช่นรองเท้า, ถุงมือ, หมวก, เสื้อคลุมความปลอดภัย
3. ผูกผมที่ยาวและมัดให้เป็นผมมวย,ซ่อนใส่ไว้ภายในหมวกกันนอ๊คและถอดเครื่องประดับก่อนที่จะเริ่มทำงาน
4. เครื่องจักที่ไม่อนุญาตให้โดยสาร(ที่เคลื่อนไหวได้)เว้นแต่จะมีที่นั่งผู้โดยสารที่โดยเฉพาะกับเข็มขัดนิรภัยสำหรับพวกเขา
5.ไม่ให้ผู้ใดที่ไม่เกี่ยวข้องในการใช้เครื่องมือเข้าไปในบริเวณการปฏิบัติงาน
6. มีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลความปลอดภัยของคนงาน
และอื่นๆอีก