ถึงคุณ What am I?

ต้องขออภัยที่ครั้งก่อน ผมบอกว่า จะหยุดการสนทนาด้วย แต่จำเป็นต้องขอสนทนาอีกครั้ง เพราะจากที่ผมอ่าน ผมพบว่า ในการแสดงธรรมะข้อนี้ ไม่ตรงกับที่พระพุทธเจ้าทรงสอน

เราจะไม่ตำหนิกันว่าใครเก่งกว่าใครนะครับ ผิดที่เนื้อหา ก็แก้ตรงเนื้อหาก็พอ


จากข้อความของคุณ

"นิพพาน คือ อะไร?    
คำว่า นิพพาน แปลว่า ดับเสียซึ่งความร้อน หรือแปลตรงๆว่า เย็น หรือ ความสงบเย็น  ซึ่งเป็นคำที่ใช้สมมติเรียกจิตขณะที่ไม่มีความทุกข์ ความทุกข์นั้นก็เปรียบเหมือนความร้อนที่แผดเผาจิต เมื่อจิตไม่มีทุกข์ ก็เปรียบเหมือนจิตไม่มีความร้อนมาแผดเผา ซึ่งก็เท่ากับมีความเย็นปรากฏขึ้นมาแทน"


- ขอเรียนว่า นิพพาน ตามรากศ้ัพท์เดิม ภาษามคธ มาจากคำว่า "นิระ" สนธิกับคำว่า "วานะ"

คำว่า "นิระ" หมวยถึง ความพ้น ความไม่มี เช่น นิรทุกข์ หมายถึง ไม่มีทุกข์ นิรโทษกรรม หมายถึงพ้นโทษ

ส่วนคำว่า "วานะ" หมายถึง สิ่งที่ผูกพันธ์ร้อยรัดไว้ ไม่ให้เป็นอิสระ คือตัณหา ดังนั้น สองคำนี้ สนธิกัน จึงได้ความหมายว่า สภาพที่พ้นจากกิเลสตัณหา  ไม่ใช่จิตที่ไม่มีทุกข์  เพราะแม้แต่การฟังเพลง การนอนเล่น การกอดกับแฟน นี่ก็ไม่มีทุกข์  การแสดงเนื้อหาอย่างนี้ ถือว่ายังไม่ตรงนัก



"นิพพานนี้ก็มีอยู่ ๓ ลักษณะ อันได้แก่

๑.นิพพานชิมลองหรือนิพพานตัวอย่าง คือเป็นความเย็นอกเย็นใจที่เกิดขึ้นเองได้ตามธรรมชาติ ขณะเมื่อกิเลสได้ดับลงเองเพราะจิตได้พบกับสิ่งที่ทำให้จิตสลด เช่น พบเห็นนตาย หรือคนประสบภัย หรือได้พบสภาพแวดล้อมที่ชวนให้จิตสงบ เช่น ป่า เขา แม่น้ำ ลำธาร เป็นต้น หรือเมื่อกิเลสมันได้เกิดขึ้นมาจนถึงที่สุดแล้วมันก็จะดับลงได้เอง ซึ่งนิพพานชนิดนี้ยังเป็นความเย็นไม่มาก และยังเป็นนิพพานชั่วคราวเท่านั้น ซึ่งนิพพานชิมลองนี้เองที่ได้หล่อเลี้ยงจิตของเราเอาไว้ไม่ให้เป็นบ้านตายไปเสียก่อนเพราะถูกกิเลสแผดเผาอยู่ตลอดทั้งวันทั้งคืน"

- การแสดงในข้อนี้ ว่า การที่จิตสงบเพราะได้พบเจออะไรที่ทำให้สบายใจ เรียกว่านิพพานนั้น ดูจะยังไม่ถูกต้อง  อย่างที่เรียนมาก่อนหน้านี้  นิพพานนั้น คือความสุขที่เป็นอิสระจากการไม่ต้องขึ้นกับสิ่งใด  การที่เห็นภูเขา ต้นไม้ แล้วสบายใจ เท่ากับการได้ความสุขทางกามคุณห้าเท่านั้น เพราะเกิดจากการที่ตาเห็นรูป  ตาเห็นรููปแล้วสบายใจ เกิดสุข   นี้เป็นแค่ความสุขจากสุขเวทนา สุขที่เนื่องในขันธ์  ภูเขา ต้นไม้่ เป็นรูปขันธ์  ตาเห็นรูป ก็เป็นรูปขันธ์  ความสบายใจ  นั้นเป็นเวทนาขันธ์  ความสุขนี้ไม่ได้พ้นไปจากขันธ์ 5 เลย  

ตรงกันข้าม  ถ้าหากภูเขา แม่น้ำ ลำธาร ทำให้เกิดนิพพานชิมลอง  เมื่อภูเขา แม่น้ำ ลำธาร นั้น สิ้่นไป เพราะความไม่เที่ยง ในไตรลักษณ์ คนที่สัมผัสนิพพานชิมลองนั้นแหละ จะต้องพบกับนรกชิมลอง  เพราะตาไม่ได้เห็นแม่น้ำเสียแล้ว แต่เห็นคนฆ่ากัน ยิงกัน

ต้องไม่ลืิมว่า รูป ไม่เีที่ยง ดังนั้น ตาไม่ใช่ว่าจะเห็นแต่รูปที่ดีอย่างเดียว รูปที่ไม่ดีก็มี การที่กำหนดว่า นิพพานมาจากอารมณ์ที่สบายใจภายนอก ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้ทุกข์  เพราะถ้าคนที่ต้องเกิดอยู่ในสลัม  ชาตินี้คงไม่ได้มีโอกาสเห็นนิพพานชอมลองนี้เลย คงต้องทุกข์ทั้งวัน

เจ้าชายสิทธัตถะ ทรงอยู่ในปราสาทสามฤดู มีสวนรื่นรมย์ มีแต่สาว ๆ ร้องเพลง ให้สบายใจ ใบไม้ดอกไม้ในอุทยานแสนสะพรั่ง ที่พระบิดาทรงปลูกไว้ ล้อมไว้ให้พระโอรสเห็นแต่สิ่งดี ๆ มากมาย แต่พระองค์์กลับรังเกียจนิพพานชิมลองนี้เต็มทน  ทรงต้องหนีนิพพานชิมลองนี้ออกจากวังโดยไม่บอกกล่าวใคร เป็นที่กล่าวขานกันทั้งเมืองเพราะอะไร

คุณได้แสดงว่า การได้เห็นคนตาย ก็ทำให้มีนิพพานชิมลอง คุณรู้หรือไม่ คนบางคนแทบจะขาดใจตายเพราะคนรักของตัวเองตาย  บางคนลงไปกลิ้งกับพื้น ร้องไห้แล้วร้องไห้อีก  การเห็นคนตายอย่างนี้เป็นนิพพานชิมลองหรือไม่

คุณแสดงว่า การเห็นคนประสบภัย เป็นนิพพานชิมลอง เพราะอะไรเหตุการณ์ 911 คนอยู่ใต้ตึกเวิลด์เทรดไม่มีใครยิ้มสักคน

เมื่อเดือนก่อนระเบิดที่หาดใหญ่  ทำไมมีแต่คนร้องไห้

ปีที่แล้ว น้ำท่วม ทำไมมีจำนวนคนฆ่าตัวตายเพราะนิพพานชิมลองนี้ด้วย


"๒.นิพพานจากสมาธิ คือเมื่อจิตมีสมาธิจากการปฏิบัติ  จนกิเลสและนิวรณ์ก็จะดับลงอย่างสนิท นิพพานที่เย็นสนิทก็จะปรากฏขึ้น ซึ่งจะยังไม่ถาวร เพราะถ้าสมาธิเสื่อมไป นิพพานนี้ก็จะเสื่อมหายตามไปด้วยทันที"

- ในข้อนี้ พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า  

"มีสมณะพราหมณ์พวกหนึ่ง  เป็นมิจฉาทิฏฐิ เข้าใจว่านิพพาน มีได้ในปัจจุบัน เพราะเขาได้สมาธิ เลยคิดว่าถึงนิพพานแล้ว"


ตามปรกติคุณไม่้ค่อยชอบพระไตรปิฎกนัก ทั้งที่พระอานนท์ท่านบันทึกมาให้ แต่พระไตรปิฎกชุดนี้ คงไม่เป็นที่คัดค้านของคุณ เพราะไม่ได้กล่าวถึงนรกสวรรค์เลย กล่าวถึงเนื้อหาของความเห็นผิดในเรื่องการคิดว่าสมาธิเป็นนิพพาน

"ท่านผู้เจริญ เพราะอัตตานี้สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม บรรลุปฐมฌาน
มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่ ฉะนั้น จึงเป็นอันบรรลุนิพพานปัจจุบัน อันเป็นธรรมอย่างยิ่ง พวกหนึ่งย่อมบัญญัติว่า นิพพานปัจจุบันเป็นธรรมอย่างยิ่งของสัตว์ผู้ปรากฏอยู่อย่างนี้"


เป็นหลายครั้งแล้ว ที่คุณได้แสดงธรรมโดยขาดการตรวจตรา ขอให้พิจารณา

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=9&A=827&w=%B9%D4%BE%BE%D2%B9%E3%B9

จากคุณ	: Real~Fine
เขียนเมื่อ	: 6 พ.ค. 55 11:37:20