Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
กรรมทันตา โอ้..อินเดีย 18 ติดต่อทีมงาน

โอ้..อินเดีย 18

สวัสดีครับ วันนี้มาเล่าถึง เมือง...สาวัตถี
ชื่อ นครสาวัตถี เนี่ยะผมได้ยินมาตั้งแต่เด็ก ๆ หลายครั้งหลายหนมาก
ก็เพิ่งจะได้มาถึงจริง ๆ ก็ครั้งนี้
อย่างที่เคยบอกนะครับว่า การมากราบสังเวชนียสถาน ที่อินเดีย
ทำให้เกิดความมั่นใจใน พระพุทธศาสนา ขึ้นมาอีกมากมาย
ซึ่งแต่เดิมนั้นก็เชื่อนะ แต่เป็นความเชื่อแบบถูกสั่ง และสอนมาให้เชื่อ
มันเป็นความเชื่อในระดับหนึ่งเท่านั้น...
หลายครั้งหลายหน หลายเรื่องที่ยังอดสงสัย อดเคลือบแคลงใจไม่ได้
โดยเฉพาะเกี่ยวกับปาฏิหารย์ เกี่ยวกับตัวบุคคลซึ่งเป็นเหมือนตัวละครในนิทาน
หรือสถานที่บางแห่งที่นึกภาพไม่ออก เพราะเราคุ้นเคยแค่ในบ้านเมืองของเราเท่านั้น
แต่พอได้มาถึง อินเดีย มาถึงสถานที่สำคัญ ๆ ทางประวัติพุทธศาสนา
ได้เห็นภูมิประเทศ ได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งหมดรับรู้
ถึงได้เข้าใจอย่างทะลุปรุโปร่ง ได้เชื่ออย่างสนิทแนบแน่น...อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
ยกตัวอย่างเรื่องวันก่อน ตรัสรู้
พระพุทธเจ้าซึ่งขณะนั้นยังไม่ได้บรรลุสัมโพธิญาณ ยังไม่ได้เป็น...พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ท่านได้อธิษฐานลอยถาด แล้วเดินลุยแม่น้ำเนรัญชราไปอีกฝั่งหนึ่ง
ในตอนที่อ่านเรื่องนี้ ผมไม่ค่อยเชื่อว่าแม่น้ำที่กว้างใหญ่คล้าย ๆ แม่น้ำเจ้าพระยา หรือแม่น้ำปิง แม่น้ำแคว
จะเดินลุยข้ามไปได้ยังไง
แต่พอมาเห็นสถานที่จริง..จริง ถึงได้เข้าใจว่าเมืองของเขาเวลาที่น้ำมากก็คงคล้าย ๆ บ้านเรา
แม่น้ำคงทั้งลึกทั้งเชี่ยว แต่พอฤดูน้ำแห้ง...มันก็แห้งผากจนเห็นแต่ผืนทรายยาวเหยียด

เมือง สาวัตถี นี้อยู่ในแคว้น...โกศล
อ้อ..ต้องเล่าก่อนว่าในสมัยพุทธกาล หรือสมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ยังทรงมีพระชมม์อยู่นั้น
ประเทศอินเดีย หรือชมพูทวีป แบ่งออกเป็นแคว้นใหญ่ ๆ ถึง 16 แคว้น คือ
อังคะ , มคธะ , กาสี , โกสละ , วัชชี , มัลละ , เจตี , วังสะ , กุรุ , ปัญจาละ , มัจฉะ , สุรเสนะ , อัสสกะ , อวันตี , คันธาระ , กัมโพชะ.
แต่แคว้นใหญ่ที่เป็นมหาอำนาจ มีอยู่ 5 แค้วน คือ
มคธะ หรือมคธ
โกสละ หรือโกศล
วังสะ
วัชชี
อวันตี

สาวัตถี นี่แหละคือเมืองหลวงของ...แคว้นโกศล
มีพระเจ้าปเสนทิโกศล เป็นพระราชาอันเข้มแข็งครองอำนาจอยู่
นอกจากนั้นพระองค์ยังครอง แคว้นกาสี อีกด้วยนะ
แม้แต่ แคว้นสักกะ ซึ่งเป็นแคว้นเล็ก ๆ บริเวณที่ราบเชิงเขาหิมาลัย
ของพวกศากยะ หรือต้นตระกูลของเจ้าชายสิทธัตถะ พระพุทธเจ้าของเรา
ก็ยังขึ้นอยู่ในความปกครอง แคว้นโกศล ด้วยเหมือนกัน

จะว่าไปแล้ว กรุงสาวัตถี นี้มีเรื่องราวอันเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวพุทธเราเยอะแยะเลย
อย่างแรกคือ เป็นเมืองที่ พระพุทธองค์ ได้ประทับอยู่มากที่สุดถึง 25พรรษาในช่วงปลายของพระชนม์ชีพ
แต่ไม่ได้ต่อเนื่องกันตลอดนะ พระองค์ท่านเสด็จไปโปรดไปยังที่ต่าง ๆ มากมายทั่วไปหมด
ในสมัยพุทธกาลตอนนั้น สาวัตถี เป็นเมืองหลวงของแคว้น โกศล
อันเป็นรัฐใหญ่ มีอิทธิพลกำลังอำนาจมาก
ในทางการศึกษา ทางแนวคิดปรัชญา หรือทางศาสนาก็
อุดมไปด้วยนักบวชลัทธิต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะพราหมณ์ฮินดูผู้บูชาเทพเจ้าทั้งหลาย
เต็มไปด้วยเจ้าสำนักอาจารย์ที่ตั้งตนว่าเก่งกาจเหนือใครเยอะแยะในทางเศรษฐกิจก็ถือว่าเป็นศูนย์กลางความเจริญทางการค้าขนาดใหญ่
และในเมืองนี้ก็มีเศรษฐีติดอันดับว่าทรัพย์สินขนาด..นับไม่ถ้วน หลายคน
ที่สำคัญ ๆ ก็คือตระกูลของท่าน สุทัตตะ หรือฉายาว่า...อนาถบิณฑิก แปลว่าผู้เป็นที่พึ่งของคนยากไร้
ที่ได้รับฉายานามดังนี้ก็เพราะท่านมีนโยบายให้ทานด้วยอาหารแก่คนยากจน ที่ไม่มีข้าวจะกิน
เรื่องนี้ก็เหมือนกันนะ แต่ก่อนผมก็นึกภาพไม่ออกว่า คนยากจน ยากไร้ มันจะมีมากขนาดไหน
แต่พอมาถึงอินเดียจริง ๆ ถึงได้เห็นเลยว่าคนประเภทนี้มันมีมากมายอย่างนึกไม่ถึง
ตระกูลเศรษฐีที่สำคัญต่อ ศาสนาพุทธ ของเราอีกท่านหนึ่งคือ...นางวิสาขามหาอุบาสิกา
ทั้งพระราชา คือพระเจ้าปเสนทิโกศล ทั้งเศรษฐีใหญ่หลายคนต่างก็ศรัทธานับถือพระพุทธองค์อย่างแรงกล้า
และได้เป็นกำลังสนับสนุนสำคัญที่ช่วยให้ ศาสนาพุทธ ของเราก่อร่างสร้างความมั่นคงจนแผ่ขยายออกไปทั่วโลกจนถึงทุกวันนี้
อุบาสก อุบาสิกา ถือได้ว่าเป็นเสาเข็มหลักของศาสนาเลยทีเดียวนะ

ในอีกมุมหนึ่ง เมืองสาวัตถี ในครั้งพุทธกาล
ก็มีคนที่มาฟังธรรมจาก พระพุทธเจ้า แล้วเกิดปัญญาญาณจนบรรลุโสดาบันไปจนกระทั่งถึง อรหัตผล มากมายก่ายกองนับไม่ถ้วน
ดังนั้นก็ถือได้ว่าเป็นสถานที่ชุมนุมของ พระอรหันต์ มากที่สุดก็ว่าได้
และก็เป็นเมืองที่ก่อให้เกิดเรื่องราวสารพัด เกิดพระสูตรสำคัญต่าง ๆ เยอะแยะ
แต่....
ก็ยังมีตัวละครในด้านความชั่วจนถูก...ธรณีสูบถึง 4 คน
คือ พระเทวทัต ผู้อาฆาตและทำร้ายพระพุทธองค์จนห้อเลือด
พระเจ้าสุปปพุทธะ หรือพ่อของพระเทวทัต ที่โกรธแค้นพระพุทธองค์ ว่าเป็นเหตุให้ลูกของท่านถูกธรณีสูบ จนมากลั่นแกล้งขวางทางเสด็จบิณฑบาตร
นางจิญจมานวิกา ผู้ทำอุบายให้ร้ายว่ามีความสัมพันธ์ฉันท์ชู้สาว
และ นันทมาณพ ผู้ทำร้ายข่มขืนพระอรหันต์ ท่านอุบลวรรณาเถรี
ภิกษุณีที่ออกบวชตั้งแต่อายุ 16 ปี และต่อมาได้สำเร็จอรหันต์ผล

ที่สาวัตถี นี้มีวัดสำคัญทางประวัติศาสตร์ของ พุทธศาสนา เราคือ...
วัดเชตวันมหาวิหาร...ที่ท่านอนาถบิณฑิกะเศรษฐี เป็นผู้สร้างถวาย
วัดบุปผาราม...ที่นางวิสาขามหาอุบาสิกา สร้างถวาย
วัดราชการาม...ที่พระเจ้าปเสนทิโกศล สร้างถวาย
ที่อยากจะเล่าก็เรื่องของวัด เชตวันมหาวิหาร
วัดนี้พระบรมศาสดา ได้ประทับจำพรรษามากถึง 19 พรรษา
มีเนื้อที่กว้างใหญ่ถึง 80 ไร่ มีกุฏิของพระบรมศาสดา และพระอรหันต์สาวกหลายท่าน
มีสถานที่แสดงธรรม และส่วนสังคสภา ที่ใช้ในการบริหารงานพระศาสนาให้เห็นเป็นหลักฐานอยู่จนทุกวันนี้
มีต้นโพธิ์ ที่พระอานนท์ท่านขออนุญาตปลูกเพื่อเป็นที่บูชาสักการะของประชาชนในยามที่พระพุทธองค์ เสด็จจาริกไปที่อื่น
ซึ่งเรียกว่า ต้น...อานันทโพธิ์ หรือ โพธิ์พระอานนท์
ปลูกโดยที่พระโมคคัลลานะ เหาะไปอธิษฐานขอเมล็ดจากต้น พระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา
ซึ่งคือต้นที่พระพุทธองค์ประทับในเวลาที่ตรัสรู้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นเอง
ที่สำคัญก็คือ  เมื่อได้เมล็ดมาแล้ว พระอานนทเถระ ตั้งอ่างทองใบใหญ่ไว้ในที่เป็นที่ปลูกต้นโพธิ ให้เจาะก้นอ่าง แล้วให้ลูกโพธิสุกแด่พระเจ้าโกศล ทูลว่า มหาบพิตร พระองค์จงปลูกโพธิสุกนี้เถิด พระเจ้าโกศลทรงพระดำริว่า ความเป็นพระราชามิได้ดำรงอยู่ตลอดไป ควรที่เราจะให้อนาถปิณฑิกมหาเศรษฐีปลูกต้นโพธินี้ ทรงดำริดังนี้ แล้วได้วางลูกโพธิสุกนั้นไว้ในมือของมหาเศรษฐี
พระพุทธองค์โปรดให้ อนาถบิณฑิกะเศรษฐี เป็นผู้ลงมือปลูก
แล้วพระองค์ท่านได้นั่งปฏิบัติเข้าสมาธิ ณ.ที่นั้น...ทั้งคืน
ปัจจุบันนี้ ต้นอานันทโพธิ์ ก็ยังยืนต้นอยู่
ถึงแม้อายุจะมากเกือบ 2,600 ปีแล้ว แต่ก็ยังเป็นต้นเดิมแท้
มีคนไปเคารพกราบไหว้กันมากทุกยุคทุกสมัย...จนถึงทุกวันนี้
ซึ่งจะว่าไปแล้ว วัดเชตวันมหาวิหาร แห่งนี้
ช่างมีเรื่องราวเกิดขึ้น หรือเกี่ยวพันกับหลักคิด รวมถึงวิธีปฏิบัติตนของศาสนาพุทธ หรือชาวพุทธอย่างเรามากหลายเหลือเกิน
บางเรื่องก็ได้ยินได้ฟังบ่อยมาก เช่นเรื่องของบุคคลสำคัญในประวัติศาสนา
อย่างเช่น พระองคุลิมาล พระเทวทัต นางวิสาขา นางปฏาจาราเถรี
แต่ก็มีเรื่องราวอีกมากที่ไม่ค่อยได้ยินอย่างเช่นเรื่อง...เศรษฐีตีนแมว

ความสนุกของการมาเที่ยวเมืองสาวัตถี ก็คือได้เห็นสถานที่จริงในประวัติศาสตร์
ได้รู้ ได้เห็น ได้สัมผัสกลิ่นอาย รวมทั้งยังได้ยินเรื่องราวอีกมากหลากหลายเรื่อง
ทำให้เราเกิดความสนใจอยากรู้อยากเห็น ตั้งใจฟังจากท่านพระอาจารย์วิทยากร
แม้ว่ากลับมาถึงเมืองไทยบ้านเราแล้ว ก็ยังอดไปค้นหาทบทวนอ่านศึกษาอย่างละเอียดเพิ่มอีก
แต่เป็นการอ่านการเรียนที่เข้าถึงใจ อย่างทะลุปรุโปร่ง
ซึ่งมันส่งผลให้เกิดความเชื่อมั่นศรัทธาในคำสอน
เมื่อศรัทธาเกิดแล้ว ก็พากเพียรปฏิบัติได้ไม่ยาก
จะว่าไปแล้วมันเป็นตัวเร่ง...พละ 5
ศรัทธา วิระยะ สติ สมาธิ ปัญญา...อย่างดีทีเดียว

สาวัตถี เมืองนี้มีเรื่องราวเยอะจริง ๆ
ไว้ค่อยฟังกันต่อนะ


อนณ 089-995-9377
tobeteam@yahoo.com

แก้ไขเมื่อ 15 พ.ค. 55 08:16:18

จากคุณ : tobeteam
เขียนเมื่อ : 7 พ.ค. 55 23:42:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com