ความคิดเห็นที่ 1 ฮื่อ กี่คนที่เกิดมาแล้วเป็นเลย ส่วนใหญ่ใฝ่จะเป็นกันมั้งครับ จากคุณ : nomeny เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 11:07:11

ความคิดเห็นที่ 2 ต้องอย่าลืมว่า "กรรม" นั้นก็คือการกระทำของเราเอง แม้ว่าจะเป็นการกระทำที่ลืมไปแล้วก็ตาม ฉะนั้น ไม่ว่าการกระทำในอดีต หรือการกระทำในปัจจุบันก็ย่อมมีผลทั้งสิ้น เช่น แต่ก่อนเราดื่มเหล้า ต่อมาเลิกดื่ม แต่ผลของการดื่มก็ยังมีอยู่ ทำให้เราเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยดี เป็นต้น ทว่าหากเลิกดื่มแล้วรักษาสุขภาพดี ๆ มันก็พอจะผ่อนปรนกันได้ นี่มีทั้งการกระทำในอดีตและปัจจุบัน หรือก็คือกรรมในอดีต กับกรรมปัจจุบันนั่นเอง กรรม คือ เหตุ และ ผล คือทำเหตุอย่างไรก็มีผลอย่างนั้น เหตุปัจจัยและกรรม จึงเป็นเรื่องเดียวกัน กรรมไม่ได้ถูกลิขิตมา แค่เราลืมไปว่าเราเคยทำอะไรเท่านั้น ซึ่งการลืมก็มีเหตุปัจจัยอื่น ๆ อีก เช่นกัน เหตุปัจจัย ไม่ได้เกิดขึ้นมาลอย ๆ เหตุปัจจัยย่อมเกิดขึ้นได้หลายกรณี เหตุปัจจัยบางอย่าง เป็น "อุบัติเหตุ" คือเหตุที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ไม่ได้เกิดเพราะกรรมแต่เพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้น ตัวเลือก 3 ข้อแรกจึงเป็นการเลือกซ้ำซ้อน เพราะมันเป็นเรื่องเดียวกัน พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนว่าทุกอย่างเกิดเพราะกรรม เพียงแต่การกระทำทุกอย่างที่จะไม่มีกรรมเข้ามายุ่งเกี่ยวนั้น ไม่มีเลย อย่างไรก็ดี ภาวะผิดเพศ ไม่ใช่ความเลวร้าย เพียงแต่ก็ไม่ใช่ภาวะปกติ ถ้าถามคนที่เป็นแบบนี้ว่าเขาอยากเป็นแบบนี้ไหม เขาก็ไม่อยาก ทุกคนอยากเป็นชายจริงหญิงแท้ แต่ว่าเป็นไม่ได้ เพราะฉะนั้นมันไม่ใช่เรื่องปกติ เรื่องนี้เพราะ "สิ่งที่เราเคยทำไว้ในอดีตชาติ" เป็นหลัก แต่ไม่ได้หมายความว่าเหตุอื่น ๆ จะไม่มีเลย ผู้ที่กรรมเบาบาง หรือมีกรรมอื่น ๆ มาตัดรอนกรรมเก่า ก็สามารถพ้นกรรมนั้นได้ แต่หากเป็นผู้มีกรรมหนัก หรือไม่มีกรรมอื่น ๆ มาตัดรอน จะฝ่าฝืนกรรมนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ อย่างเช่น ผู้ที่อยู่ในนรก ที่ว่าจะหนีออกมาจากนรกนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่ทุกอย่างก็ย่อมเป็นไปตามเหตุปัจจัย จึงปรากฏว่าผู้ที่หนีออกมาจากนรกได้ก็มีเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 10 พ.ค. 55 11:38:37 จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 11:36:14

ความคิดเห็นที่ 3 จขกท. ไม่ได้หมายถึงเพียงแค่ มีเชื้อความเป็นเพศทางเลือกแต่เกิด แต่หมายถึง เป็นเกย์ตุ๊ดทอมดี้ แม้ในช่วงชีวิตด้วยนะครับ - กรรมพันธุ์ จากพ่อแม่ - การได้ทดลองหลับนอนกับเพศเดียวกัน - สังคม สภาำพแวดล้อม เช่นนร.รร.ประจำ - ฯลฯ จากคุณ : หน้ากาก ธรรมะ เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 11:52:10

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่ขอโหวตนะคะ แต่ขอนำเรื่องจากพระไตรปิฎกมาให้ศึกษา ตัวอย่างการเกิดแต่ละชาติของพระอานนท์ที่เป็นผลจากการผิดศีลข้อสาม กระหม่อมฉันจุติจากชาติเป็นโคนั้นแล้ว มาบังเกิดเป็นกะเทย ในตระกูลที่มีโภคสมบัติมากในแคว้นวัชชี จะได้เกิดเป็นมนุษย์ยากจริงๆ   นั่นเป็นผลแห่งกรรม คือ การที่กระหม่อมฉันคบชู้ภรรยาผู้อื่น http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/r.php?B=28&A=5180&w=มหานารทกัสสปชาดก จากคุณ : ทุกคนประเสริฐได้ด้วยการฝึก (b-file) เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 12:27:38

ความคิดเห็นที่ 5 ผู้ศึกษาศาสนาพุทธ จะคุ้นเคยกับคำว่า "เรามีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย" กรรมนั้นจำแนกสัตว์และบุคคลไปตามแต่กรรมนั้น เช่น การได้พ่อแม่แบบนั้นแบบนี้ การได้รับการเลี้ยงดูอย่างนั้นอย่างนี้ การพบเจอสังคมแบบนั้นแบบนี้ การได้ประสบเหตุการณ์แบบนั้นแบบนี้ อาจไม่น่าเชื่อ แต่ทั้งหมดนั้นก็เพราะกรรมเป็นเครื่องจำแนก เปรียบเหมือนปลา ก็ต้องไปอยูี่่ในทะเล มาอยู่บนบกไม่ได้ ปลาน้ำจืดก็ไปอยู่น้ำเค็มไม่ได้ เมื่อเกิดเป็นปลาแล้ว ความคิด สังคมก็เป็นแบบปลาหมด ชาวอเมริกัน ก็มีสังคมแบบหนึ่ง ชาวฝรั่งเศสก็มีสังคมแบบหนึ่ง ชาวไทยก็มีสังคมอีกแบบหนึ่ง นี่เป็นลักษณะของสิ่งที่ไหลไปรวมกัน เหมือนน้ำมันย่อมไหลไปเกาะตัวรวมกัน ไม่ปะปนกับน้ำ เรื่องกรรมนี่เป็นเรื่องน่าศึกษามาก เพราะว่ากรรมไม่ใช่เรื่องลึกลับ แต่การศึกษาทำได้ยาก เพราะเรามองไม่เห็นตัวกรรม เหมือนที่เรามองไม่เห็นคลื่นวิทยุ แต่ผู้ปัญญาก็ยังรู้ถึงการมีอยู่ของคลื่นวิทยุ อย่างไรก็ดี กิเลสที่อยู่ในใจ สามารถทำให้เราสร้างกรรมใหม่ ๆ ได้ เช่น เมื่อมีราคะมาก แม้เพศเดียวกันก็สมสู่กันได้ แม้เป็นคนกับสัตว์ก็สมสู่กันได้ ฉะนั้น กรรมเก่าจึงไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากรรมแล้วยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ทำให้ชีวิตของเราไม่คงที่ เช่นกัน ธรรมที่เกิดขึ้นในใจเป็นปัจจุบัน ก็สามารถทำให้กรรมเก่ามีผลน้อยลงได้ และสร้างกรรมใหม่ที่ดีขึ้นมาแทนได้นั่นเอง จากคุณ : พักผ่อน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 12:53:43

ความคิดเห็นที่ 6 ผมเชื่อว่าจริงครับ เพราะเกย์ กระเทย ใช่ว่าอยากเป็น บางคนฮอร์โมนเพศหญิงมากเกินไปตั้งแต่กำเนิด แต่เรื่องของกรรมเป็นเรื่อง อจินไตย ครับ เพราะถ้าไม่ใช่คนที่มีญาณ จริงๆ คงบอกไม่ได้ว่า ชาติก่อนทำกรรมใดมา แถมก็ไม่รู้ว่าผู้รู้ รู้จริงหรือเปล่า และบางทีมันไม่มีประโยชน์ด้วย จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 13:10:16

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณความเห็นที่ ๔ มากครับ :) จากคุณ : เพื่อมหาชน เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 15:42:58

ความคิดเห็นที่ 8 ศีลห้าทุกข้อ แค่รักษาได้ ผลที่ได้รับมันก็ดีทันตาเห็นแล้วครับ ดังนั้นผมจึงไม่ไปปวดหัวกับเรื่อง ถ้ารักษาไม่ได้ล่ะ จะเป็นอย่างนั้น จะเป็นอย่างนี้จริงหรือไม่จริง อะไรทำนองนั้นอีก เพราะประโยชน์ในปัจจุบันขณะที่รักษาศีลไว้ได้นั้น มันเพียงพอแล้วสำหรับผม จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 16:10:32

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนตัวแล้วเชื่อค่ะ จากคุณ : หลงซิล่า เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 17:57:48

ความคิดเห็นที่ 10 เรื่องอย่างนี้ ไม่มีใครตอบได้หรอกครับเพราะไม่มีใครรู้จริง อยู่ที่ความเชื่อ สำหรับผมแล้ว ผมเชื่อในกฎแห่งกรรม แต่ไม่เชื่อกฏแห่งกรรมในลักษณะที่ทำผิดศีลข้อนั้นข้อนี้แล้วจะเกิดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้นะครับ เป็นการขู่กันให้กลัวมากกว่าผลกรรมขึ้นอยู่กับกรรมเหตุ ซึ่งมีปัจจัยต่างๆมาเกี่ยวข้องมากมาย จากคุณ : Sisyphus เขียนเมื่อ : 10 พ.ค. 55 20:50:03

ความคิดเห็นที่ 11 จะเป็นการขู่หรือไม่ แต่ถ้าผิดศีลแล้วคุณก็จะได้รับกรรมแห่งการผิดศีลนั้นแน่นอน มนุษย์ทั้งหลายส่วนมากจำไม่ได้หรอกว่าที่ตนเป็นเช่นนี้เกิดจากสาเหตุใด จึงเป็นเหตุให้ไม่กลัวการทำบาปทำกรรม(ที่ไม่ดี) เพราะทำไปแล้วผลมันไม่ได้เกิดเหมือนเปิดปิดทีวี จึงตั้งหน้าตั้งตาทำบาปเพราะกิเลสทั้งนั้น ได้ยินมามากว่่า ถ้าใครระลึกชาติได้ แล้วเห็นตัวเองเคยทำกรรมไว้เช่นใด มักจะเสียใจว่าตนไม่น่าทำแบบนั้น จึงต้องมารับกรรมอย่างนี้ ธรรมชาติยุติธรรมเสมอ เมื่อเกิดใหม่ก็ reset ความจำใหม่ ไม่ต้องดีใจหรือเสียใจในสิ่งที่เคยทำมา จึงไม่มีใครรู้ได้ถึงผลที่มีอยู่ในปัจจุบันนั้นเกิดแต่เหตุใด ก็ได้แต่ศึกษาจากท่านผู้รู้ผู้มีบุญทั้งหลาย ที่สามารถ สัมผัสอดีตชาติได้มาบอกเล่า เขียนเป็นเรื่องรวบอกกล่าวกันมา สุดแล้วแต่ใครจะเชื่อเพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ ไม่ให้ทำเช่นนั้น ก็นับว่าไม่เลว แต่ถึงท้ายที่สุดหากท่านเชื่อหรือไม่ หรือจะเชื่อในลักษณะใด การเกิดมนุษย์เป็นมนุษย์ ผู้แปลว่ามีใจสูง จะไม่ทำผิดศีลกัน ถ้ายังทำผิดศีลอยู่ก็จัดว่าเป็น "คน" ถ้าทำผิดศีลแล้วผลที่ได้ในทันทีคือการเบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าทางกาย วาจา ใจ ไปแล้ว ไม่ว่าการผิดศีลจะให้ผลในรูปแบบใด อย่างไรเสียก็ไม่ควรทำผิดศีลเลย จากคุณ : กระต่ายน้อยดัดฟัน เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 19:37:34

ความคิดเห็นที่ 12 อันที่จริงแล้วในความเห็นส่วนตัว ผมคิดว่าคนที่มีพฤติกรรมเบี่ยงเบนทางเพศไม่ได้เป็นคนเลวร้าย หรือน่ารังเกียจแต่อย่างไร มีหลายคนที่ทำประโยชน์ให้สังคมในทางสร้างสรรค์จนมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ เพียงแต่บางคนซึ่งอาจเป็นส่วนน้อยซึ่งมักจะมีพฤติกรรมสำส่อนทางเพศจนเกินระดับปกติ แบบว่าขนาดคนปกติที่เป็นคนเจ้าชู้ก็ยังไม่มีพฤติกรรมสำส่อนขนาดนั้น อาจเป็นเรื่องนี้ก็ได้ที่เป็นเหตุให้สังคมตั้งข้อตำหนิคนเหล่านี้ จริงอยู่ที่ว่าการแสวงหาความสุขทางเพศรสเป็นสิทธ์ส่วนตัวของแต่ละคน(ตามค่านิยมสมัยนี้) แต่ลองคิดดูสิครับ หากท่านต้องร่วมงาน หรือต้องอยู่ร่วมสังคมกับไครสักคนที่หมกมุ่นแต่เรื่องราคะ และมีพฤติกรรมสำส่อนไม่เลือกหน้า ท่านจะรู้สึกอย่างไร อาการเบี่ยงเบนเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องเวรกรรมหรอกครับ หากแต่เป็นอาการเสพติดเมถุนธรรมมากเกินขีดปกติของมนุษย์ จนไม่อาจรับรู้ถึงเหตุผลทางจริยธรรมขาดความละอาย ขาดความยับยั้งจนบางครั้งก็แสดงความกำหนัดจนออกนอกหน้าซึ่งถ้าเป็นคนปกติเขาจะรู้จักระงับอาการ ก็เท่านั้นเองครับ จากคุณ : phusak p7 (phusak p7) เขียนเมื่อ : 11 พ.ค. 55 21:41:21