ดังนี้ครับ บรรดาภิกษุทั้งหลาย ซึ่งเข้ามาในสำนักสมเด็จพระทศพล ในระยะหลังไม่เคยเห็นภิกษุชราแปลกหน้าผู้นี้ จึงถามกันเซ็งแซ่ว่า ภิกษุชราผู้มีร่างกายซูบผอม เส้นเอ็นสะพรั่ง นุ่งห่มด้วยผ้าจีวรอันเก่าคร่ำคร่านี้เป็นผู้ใด สมเด็จพระบรมครู จึงดูทรงเมตตาและแสดงความคุ้นเคยนัก ปกติ สมเด็จพระบรมศาสดา ทรง วาง ทุกอย่าง ไม่ทรงแสดง กิริยาดีใจ ไม่ทรงแสดง กิริยาเสียใจ ให้ปรากฏ แต่เมื่อทอดพระเนตรเห็นภิกษุชราผู้มีร่างกายซูบผอม เส้นเอ็นสะพรั่ง นุ่งห่มจีวรอันเก่าคร่ำคร่า ก็ได้เห็นสีพระพักตร์แช่มชื่นขึ้นด้วยความยินดี ประหนึ่งบิดาได้ประสบหน้าบุตรสุดที่รักที่จากไปในแดนไกล กลับมาเยี่ยมบ้านฉะนั้น ใครทราบบ้างไหม ท่านเป็นใคร มาแต่ไหน เสียงถามกัน แต่ก็ไม่มีภิกษุองค์ใดตอบได้ เพราะต่างองค์ก็เพิ่งเข้ามาสู่สำนักสมเด็จพระบรมศาสดาในเวลาไม่นานนัก สมเด็จพระบรมครู ทรงทราบวาระจิตของเหล่าภิกษุทั้งหลาย จึงเสด็จมาในที่ประชุมนั้น และรับสั่งว่า นี่แหละ เชษฐภาดาของพวกเธอ มหากัสสปะ ผู้เป็นพี่ชายใหญ่ของเธอทั้งหลาย เธอออกจากป่าจากเขามาหาเรา แล้วทรงสรรเสริญวัตรของพระมหากัสสปะต่อไปว่า เธอเป็นผู้พอใจในเสนาสนะป่าเขาอันเงียบสงัด เธอมีความมักน้อย สันโดษ ใช้แต่ผ้าบังสุกุลจีวร ๓ ผืนเป็นวัตร ไม่ชอบระคนด้วยหมู่เธอผู้บุตรของเรา เธอเป็นที่รักของเหล่าเทวดาและมนุษย์
จากคุณ |
:
ไม่รู้อะไรเลยซักอย่างเดียว (ongardnrp)
|
เขียนเมื่อ |
:
11 พ.ค. 55 19:09:28
|
|
|
|