ความคิดเห็นที่ 1 เมื่อก่อนผมก็เชื่อว่าผีไม่มีนะ ตอนเด็กๆผมเดินไปลากสายยางจากเปลว(ที่เผาศพ) มาบ้าน  สูบน้ำเสร็จ เดินกลับ ดึกๆสบายๆ แต่หลังๆ ปฏิบัติธรรม มีช่วงนึง ทำต่อเนื่อง   แล้วหมาที่เลี้ยงไว้ตาย เป็นครั้งแรกเลยที่เจอผี คือผีของหมาที่ตายไป  มาตอนที่กลับเข้าบ้าน สัก 3- ทุ่ม เก็บรถเข้าบ้านจะไปปิดประตู ได้กลิ่นมาเลย กลิ่นเหมือนมันมารับตอนมีชีวิต เป๊ะ แถมแรงกว่าปกติ   กลิ่นของหมาแต่ละตัวมันมี character เฉพาะนะครับ   ศพจัดการเรียบร้อยแถมอยู่ซะไกลลิบ  ไอ้เรื่องกลิ่นค้างอยู่เป็นไปไม่ได้แน่ ยืนๆสักพัก กะว่าให้มันหายคิดถึง  แล้วก็ขึ้นไปเดินจงกรม นั่งสมาธิต่อ   แล้วก็อุทิศบุญให้     หลังจากนั้นไม่เจออีกเลย       ทุกวันนี้ก็ได้เรื่องนี้เตือนให้อย่าประมาทในวัฏสงสารนี่ล่ะครับ จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 23:25:23

ความคิดเห็นที่ 2 ทุกชาติ ทุกศาสนา ทุกวัฒนธรรม ก็มีเรื่องผีๆด้วยกันทั้งนั้นแหละครับ เพียงแค่ว่าจะอธิบายออกมายังไงรูปแบบไหนแค่นั้นเอง สมมติว่า พุทธ คริสต์ อิสลาม 3คน เจอผีผู้หญิงชุดไทย นั่งบนหลังคารถ เหมือนกัน พร้อมกัน แน่นอนว่า3คนนั้นเจอผีคนเดียวกัน แต่ทั้ง3คนนั้นจะอธิบายตามหลักศาสนาไม่เหมือนกันครับ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 23:26:13

ความคิดเห็นที่ 3 เอาของผมมั่ง ไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี จะหวาดเสียวก็ไม่ใช่ ตอนผมเรียนปอเนาะอยู่ สมัยนู้น ก็จะนอนอยู่หอพักติดกับกุโบร์ติดกับมัสยิด นักเรียนที่อยู่หอพักก็จะมีการแบ่งเวรกันอะซานคนละวัน แล้ววันนั้นเป็นเวรผมคืนนั้นก็เจอดีเข้า หอพักที่ผมนอนจะแบ่งเป็นห้องๆโดยมีอยู่ทั้งหมด 6 ห้อง นักเรียนหอพักมีกันอยู่ 10 คน ก็จะแบ่งกันนอนห้องละคนมั่งสองคนมั่ง แต่ผมนอนคนเดียว คืนนั้นก็กำลังหลับอยู่ แล้วก็รู้สึกว่ามีใครมาเขย่าตัวผม แล้วพูดว่า เศาะลาฮฺ เศาะลาฮฺ ผมก็ลืมตามาเห็นเหมือนคนใส่โต๊บสีขาวนั่งข้างตัวผมแต่หันหลังให้กำลังลุกขึ้นยืน แล้วก็เดินเหมือนกับทะลุประตูห้องออกไป ตอนนั้นกะลังเบลอๆอยู่เพิ่งตื่นก็ไม่ได้สนใจอะไร ใครมาปลุกหว่า แล้ววันนี้เวรตูอะซาน ก็ลุกขึ้นไปหยิบแปรงสีฟันยาสีฟันแล้วเดินออกจากห้อง พอไปที่ประตู อ้าว! ประตูล็อกนี่หว่าแล้วไอ้มะกี้มันใครวะ ก็ไม่ได้คิดอะไรถือแปรงกับยาสีฟันตรงไปที่อาบน้ำละหมาด ก็เห็นชุดขาวๆ เดินเข้ามัสยิดไป ผมก็จัดแจงล้างหน้าแปรงฟัน ทำน้ำละหมาด เสร็จแล้วเดินเข้ามัสยิด เข้าไปถึงก็เปิดไฟ แต่ไม่มีใครอยู่ ก็เริ่มงงมะกี้มันใครหว่า แต่ก็นึกขึ้นได้ว่า มะกี้มันบอกว่า เศาะลาฮฺ เศาะลาฮฺ สงสัยจะมาบอกว่าได้เวลาละหมาดแล้ว ก็จัดแจงเปิดไมค์แล้วก็อะซาน พออะซานเสร็จหันมาดูหน้าประตูมัสยิด เพื่อนมันมากันเต็มเลย บอกเมิงทำอะไรแหกตาดูนาฬิกาหน่อยเด๊ะ ผมก็หันไปมองนาฬิกา เวรแล้ว เพิ่งจะตีสี่ เหลืออีกตั้งชั่วโมงกว่าจะได้เวลาอะซาน จากคุณ : YAMAMANG เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 23:43:04

ความคิดเห็นที่ 4 YAMAMANG    ดีจังมีญินมาช่วยปลุก ให้ทันละหมาดศุบฮ ด้วย  ไม่ต้องเปลืองซื้อนาฬิกาปลุก จากคุณ : abubilal เขียนเมื่อ : 12 พ.ค. 55 23:52:15

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าเคยฟังเดอะช๊อค มักจะได้ยินบ่อยว่า เอาหัวหมูไปถวายเจ้าที่ ตอนกลางคืนเจ้าที่มาเข้าฟันว่าเป็นอิสลาม อันนี้ฟังหูไว้หุนะครับ เพราะภ้ามุสลิมฟังอาจจะผิดหลักอิสลาม แต่ถ้าพุทธฟังมันก้เป็นไปได้ในหลักของพุทธ ป.ล. ตอนเด็กเพื่อนผมที่เป็นคริสต์บอกว่า แถวๆบ้านเค้ามีงานศพ เค้ากลัวมาก เลยคว้าไบเบิลมาอ่าน ตอนที่พระเยซูไล่ผีโสโครกใส่หมูแล้ววิ่งตกน้ำ เพื่อนผมด้วยความเป็นเด็กที่กลัวผีเลยอ่านแต่บทนั้น จนท่องได้เลย จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 00:34:16

ความคิดเห็นที่ 6 ตอนวัยประถม กำลังสวดมนต์อยู่.. เจอผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เดินผ่านห้องพระ ลักษณะคือ เหมือนคนปกติ แต่ว่าใส และเหมือนจะไม่เห็นเรา แต่เราเห็นเขา ทะลุกำแพงออกมา และทะลุประตูออกไป เหมือนเขาเดินผ่าน มารู้ทีหลังว่า เขาตายไปเป็นเดือนแล้ว คือ ข้างบ้านไฟไหม้ และเขาถูกไฟคอกตาย (ซึ่งในวันที่ไฟไหม้นั้น พ่อผมเจอเขาตัวเป็นๆและยังทักทายกันอยู่เลยว่าหนีไฟออกมาได้ แล้วมารู้ในวันรุ่งขึ้นว่าเขาถูกไฟคอกตาย ไม่ได้หนีออกมาได้) อีกครั้งก็ตอนรับพิธีล้างบาปเสร็จ กลับบ้านกับแม่ เจอสิ่งมีชีวิตที่คล้ายคน แต่สูงกว่าคนมาก แต่เค้ามีสภาพแบบมืดมนยังไงไม่รู้ ยืนนิ่งเฉยๆ เหมือนแค่ปรากฏให้เห็น ใจที่รู้สึกคือมันรู้สึกสงสารมากๆ แบบบอกไม่ถูก แต่ก็ผ่านเลยไป.. ตอนนั้นก็ตั้งใจนึกในใจแค่ว่า.. ไม่รู้ว่ากำลังเห็นอะไร แต่ก็ขอพระเจ้าเมตตาเขาด้วย และมันก็มีแบบนี้อีกหลายครั้งเลย ซึ่งทั้งหมดเห็นด้วยตาเปล่า แปลกมาก จริงไม่คิดจะเล่าเลยนะ มันประหลาดเกินไป - - จนไม่กี่ปีมานี้ ได้เจอพี่คนหนึ่ง เป็นพี่ที่เก่งกรรมฐานและเหมือนจะรู้เรื่องเราดี(คุยกันทางโทรศัพท์) เค้าก็ชี้ให้ดูสภาวะและฝึกของแปลกๆ รวมถึงการเจริญวิปัสสนาแท้ๆ อื่ม ทำให้เข้าใจอะไรขึ้นมากมายเลยทีเดียว จากคุณ : corelooy เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 01:22:37

ความคิดเห็นที่ 7 ตอนสมัยเรียนปอเนาะ เพื่อนๆ หลายคน ก็โดนคล้ายๆแบบ คุณ YAMAMANG ค่ะ โดนบ่อยด้วย เราก็เลยได้แต่นั่งฟังคนอื่นเค้าเล่ามาตลอด แต่ส่วนตัวยังไม่เคยโดนเลย ไม่ว่าจะมาในรูปแบบใหน http://up.liga.ir/images/6m7ux4qi4c6tyn7dvp1x.swf แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 07:12:20 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 06:57:12

ความคิดเห็นที่ 8 เอาฮาร์ดคอร์อีกเรือง นะ Yaoharee  เหอๆๆๆๆ  พี่จิมชอบแกล้งน้องๆๆ ยิ่งกลัวยิ่งแกล้งจะได้หายกลัว บรู้ววววววววววววววว ๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑ เรื่องนี้ เมื่อ 25 ปีก่อน บ้านเช่าซอยข้างมหาวิทยาลัยสยามท่าพระ น้าสาวผม เปิดบริษัทฯจัดหาคนงานส่งตะวันออกกลาง มีคนงานจากนครสวรรค์ และพิศณุโลกมากมายมานอนรอพัก กรุงเทพฯ เพื่อเตรียมตัวบิน  ที่บ้านหลังดั่งกล่าว ลักษณะบ้านเป็นบ้านเดี๋ยวหลังขนาด 6x9 เมตร จำนวนสองหลังแฝด ใต้ถุนสูง คืนแรกผ่านไปด้วยดี คนงานเฮฮาปาร์ตี้กัน คืนที่สองก็ผ่าน  มาถึงคืนที่ 3 ณ.คืนที่ 3 นี่แหละเกิดเหตุการณ์ขึ้น ตามคำบอกเล่าของคนงาน ประมาณตี 1 ได้ยินเสียง เคาะประตูบ้าน แบบระรัว ก้อกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แบบถี่ยิบ คนงานก็ลุกไปเปิดประตู ปรากฎว่า ไม่มีคน ไม่มีอะไรในกอไผ่ แต่เป็นสายลม วูบบบ ผ่านตัวไป คนงานปิดประตูตามเดิม ก้อกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก  ระรัว เลยละครับ   เปิดไปดูอีก ไม่มีอะไรอีกอาการเหมือนเดิมเลย  คนงานชักสงสัยและซุบซิบกันแล้ว แล้วเข้ามาข้างในบ้านปิดไฟนอน ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เสียงนาฬิากา ตุ้มที่ฝาผนัง ต้อก ๆต้อก เวลาผ่านไปครึ่ง ชม ทุกคนต้องตกใจตื่น ขึ้นมา บ้าน นั้นเขย่าทั้งหลังยิ่งกว่าแผ่นดินไหวเสียอีก จากนั้น ไฟนีออน ติดขึ้นมาเองโดยอัตโนมัติ ติด ดับ ติด ดับ อาการติดดับเป้นเรื่องธรรมชาติ แต่ที่ทุกคนกลัวมานั่งเบียดกันกลมดิก เพราะว่า สวิชไฟ ที่มีลักษณะเหมือนหลังเต่า สีขาว ตรงปุ่มเรืองแสง แปะไว้ข้างเสา เกิด ป้อก แป้ก เองได้ ตามจังหวะไฟที่ปิดดับ ลมกระโชกแรงมาก ทุกคนความกลัวมาเยือน มีบางคนทนไม่ไหวตระโกนออกมาว่าอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วก้พากันวิ่งพรวดออกมา วิ่งไปยังบ้านหลังติดกัน ซึ่งลักษณะบ้านเหมือนกัน คนงานบ้านหลังนั้นหลับ สบาย ไม่มีอะไร ไปกองกันที่บ้านหลังนั้นแหละ แต่เนื่องจากบ้านหลังไม่ใหญ่มากทุกคนมานั่งจับกลุ่มกันข้างล่างกันหมด ยันผมกับน้าสาว มาทำงานตอน 8 โมงเช้านั้นแหละ เห็นแต่ละคนตาโหลยกัน จึงถามไถ่ขึ้นมาว่าเกิด อะไรขึ้น ก็ได้รับฟังตามคำบอกเล่านั้นแหละ เรื่องไม่จบแต่เพียงเท่านั้น................ เมื่อผมได้ยิน ได้ฟังดังนั้น ผมเป็นคนไม่เชื่ออะไรง่ายๆ และถ้าเราเชื่ออะไรง่ายๆ ก็ทำให้คนงานขวัญเสีย เสียการปกครอง คืนนั้นไม่มีใครกล้าที่จะนอนบ้านหลังนั้น .......... ผมเองอาสานอนบ้านหลังนั้นเพียงคนเดียว มีคนงานอาสามานอนเป็นเพื่อน 1 คน ผมบอกว่าไม่ต้อง แล้วผมบอกคนงานว่า "ผีมันจะเก่งกว่าคนให้มันรู้ไป ผีมันหลอก ไม่ใช่ ผีจริง ไม่ต้องกลัว ชิวๆๆ" ตำแหน่งที่ผมนอน ผมไม่เลือกนอนในห้องนอนย่อย ในบ้านดังกล่าว แต่ผมเลือกนอน ตรงทางสามแพร่ง ภายในบ้าน คือ ตรงกลางบ้าน ขวางทาง ประตูบ้าน หน้าหลัง ทางขวาและ ตรงซ้ายมือ จะมีหน้าต่าง ผมเลือนอนตรงกลางนั้นแหละ เวลา 4 ทุ่ม ผ่านไป ไม่มีอะไร 5 ทุ่ม ผมเข้านอน ประมาณ ห้าทุ่มครึ่งผมก็หลับคร้อกๆ ผมมาสะดุ้ง ตื่น ก้ช่วง ตี 2 นั้นแหละครับ สะดุ้งตื่น เพราะบ้านนั้นเขย่าทั้งหลัง ไฟนีออน และสวิช ไฟพรึบๆ ติดดับ เสียงสวิท ป้อกแป้ก ป้อกแป้ก แถมด้วย เสียงเคาะประตุระรัว เลยละครับ อาการเดียวกับคนงาน แต่ของคนงานมาที่ละอย่าง ของ ผมมาพร้อมกันเลย ผมไม่ได้หวาดกลัวอะไร ไม่ได้หวั่นไหว อะไร นึกในใจ ว่า ผี่มันจะแน่กว่าคน ซึ่ง อัลเลาะห์ เป็นผู้ยกย่องมนุษย์นั้นประเสริฐกว่า มวลทั้งหลายในโลกนี้ เพราะผมถูกสอนสั่ง มาจากครูบาอาจารย์ว่า "ชีวิตนี้เราจะกลัวเกรงอะไรไม่ได้เลยนอก จากเอกองค์อัลเลาะห์เท่านั้น" ว่าแล้ว สูดลมหายใจลึกๆ  อ่าน อายะห์กรุซี กระโดดถีบประตุไม้เลยครับ แล้วบอกว่า "แน่จริงมาจริงๆอย่ามาหลอกกู ไม่กลัวเมิงหรอก" ปรากฎว่า ลมหยุดกรรโชก ไฟฟ้า ทุกอย่างติดไม่ป้อกแป้ก บ้านหยุดสั่นไหว ทุกอย่างกลับสู่ สภาวะปกติ ผมตะโกนบอกมันไปว่า "ไม่แน่จริงนี่หว่า" ตอนนี้คนงานที่ไปนอนรวมกันที่บ้านอีกหลัง เปิดไฟ ชะโงกหน้ามาถามว่า " ไหวไหม เฮีย " ผมบอกว่า ไม่ต้องเป็นห่วง กู ผีมันจะเก่งจะแน่กว่าคนได้เช่นไร ว่าแล้ว ผมก็กลับไปนอนต่อ ปิด ไฟ ปิดประตูบ้านเรียบร้อย ยังไม่จบ พี่น้อง...................... พอผมล้มตัวลงนอน ปิดเปลือกตาเท่านั้นแหละครับยังไม่ได้หลับ ผมลืมตาไม่ขึ้น แต่กลับเห็นภาพ สภาพเหมือนลิงตัวใหญ่ ขนยาว ดำมะเมี่ยงเลย ตาลุกแดงเป็นไฟ นั่งยองๆบน หน้าต่างที่เปิดเอาไว้ มันกระโจนขึ้นคร่อมตัวผมเลย ผมก็ดิ้นไป สู้ไปผลักมัน แต่น้ำหนักตัวมันมาก สุดท้าย ผมชูมือกำหมัดขึ้นมา อ่าน อายะห์กุรซียร์นั้นแหละ ใส่หมัดของผม ซัดไปเต็มเหนียว เท่านั้นแหละ หมัดเดียวแท้ๆ มันวูบหายไปเลย พร้อมกับผมสะดุ้งลุกขึ้นนั่งได้ หอบแฮกๆๆ เจ็บข้อมมือที่ซัดมันไป ผมลุกขึ้นไปอาบน่ำละหมาด ละหมาดสุนัต 2 รอกาอัต แล้วล้มตัวลงนอนต่อประมาณ ตี 3 นั้นแหละครับ  ตื่นแต่เช้า ประมาณ ตี 5 ครึ่งละหมาด ซุบฮิ์ ตอนเช้าแล้วนั่งรอคนงานตื่น คนงานตื่นกันตอน 6โมงเช้า มาถามไถ่กันผมก็เล่าไปทั้หงมดให้ฟัง พอช่วงสาย ผมก็ อ่านน้ำดุอาร์ ใส่ ใบพุทราลงไป แช่ในขัน โดยอ่านต้น3 กุ้ล อายะห์กรุซีร์ อาลัมตารอไก ก่อน อ่านทั้งสามต้น ละหมาดสุนัต ขออีเซน หรือขอพลานุภาพจากจากเอกองค์อัลเลาะห์ เสียก่อน จากนั้นก็อ่าน ไปบนผ้าปูละหมาดนั้นแหละ เอาปากเป่า ผ่านน้ำ ในขณะขอดุอาร์ ให้คนงานดื่มกิน เอาไปผสมน้ำอาบ เอาน้ำไปราดบนพื้นบ้านล้างบ้าน เสร็จพิธี ก็เดิน ไปหาข่าวกับคนแถวนั้น ได้ความว่า " บ้านหลังนี้เคยมีคนมาเช่า รวมกัน 5คน เป็นชายทั้งหมด" กลุ่มคนเหล่านี้ ค้าเฮโรอีนกัน แบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว ชักปืนดวลสนั่นกันบนบ้านนั้นแหละครับ ตายเรียบ ห้าศพ เรื่องของเรื่องก้เป็นดั่งนี้แล นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้น หลังจากคืนนั้น ผมก็นอนต่ออีกสองคืน ทุกอย่างเงียบสงบ คืนที่สามพาคนงานมานอนด้วย ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น คนงานมีขวัญมีสติกลับมาดั่งเดิม  แต่สิ่งที่คนงานขาดสติต่อไป คือคนงานร่ำลือว่า ผมเป็นหมอผี ไปแล้ว 5555555555555555   ข้อคิด คือ  "จงมีสติ  สติ เท่านั้นที่จะนำพาเราผ่านไปได้ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเลวร้ายปานใด" แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 08:03:11 แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 07:52:50 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 07:24:44

ความคิดเห็นที่ 9 ดูเหมือนห้องศาสนา อาจมีเรื่องร่วมกันอยู่อย่างหนึ่ง นั่นคือ... นั่นคือเรื่องผีๆครับ ... ^^^^ (๑) พระพุทธภาษิต ของ พระบรมศาสดา แห่ง พุทธศาสนา  ตรัส --- เรื่องผีๆ ไว้ว่า ? ... ครับ (๒) พระเยซู คริสต์ แห่งศาสนาคริสต์ ตรัส ----- เรื่องผีๆ ไว้ว่า ?  ...  ครับ (๓) พระโมหมัด แห่งศาสนาอิสลาม ตรัส ----- เรื่องผีๆ ไว้ว่า ?  ...  ครับ ********************************************************** หมายเหตุ ช่วย  อ้างอิง หลักฐาน ฯ เพื่อ กำหนด " เรื่อง ผีๆ" ด้วย จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 07:45:38

ความคิดเห็นที่ 10 ผมเห็นว่ามันเป็นความติดข้องในจิตในวิญญาณและสิ่งประกอบกับมัน ที่จริง เราทั้งหลายก็ล้วนติดข้องเหมือนๆกันอยู่ ณเวลานี้ แม้ยังไม่ได้ตายทางกายเนื้อหนังมังสา ก็ไม่ได้ต่างกับ ผีหรืออะไรที่เราบางคนไปพบไปเจอมา เราทั้งหลายก็เป็นผีอยู่จริงๆ หลอกทั้งตัวเองและผู้อื่น เพียงแต่เป็นผีที่ครองภพร่วมกันในโลกกลมๆ ใบนี้ ในศาสนาพุทธ ผีแท้ๆ คือจิตที่มีอวิชชา ซึ่งล้วนมีกันทั้งนั้น ไม่แปลก หากใครจะพบ เห็น สัมผัสได้ เพราะเราก็เป็นส่วนหนึ่งกับสิ่งที่เราเจอ ผี มี อยู่ไหม มีอยู๋ตามเหตุปัจจัย แต่ถามว่า เป็นอัตตาตัวตนหรือไม่ ก็ล้วนไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา ถูกผลักดันด้วยตัณหา รักสุข เกลียดทุกข์ ติดข้อง สภาวะอารมณ์ของคนอกหัก ก็เหมือนผีที่ติดข้องในภพ สำหรับคนที่ไม่ได้อกหัก คนเราทั้งหลายล้วนเป็นผีติดข้องอยู่ในอะไรสักอย่างหนึ่ง ที่ซึ่งทำให้ความสัมพัทธ์ของเวลาเกิดขึ้นระหว่างกันและกัน เราทุกคนคือผี จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 10:25:32

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนที่เจอก็เคยเจอ ชัดแจ๋วกับตามาบ้าง ที่ชัดที่สุด หน้าดำๆ ตัวดำๆ เหมือนศพมัมมี่ ผมหยิกๆ ไม่มีลูกกะตา คอยาวๆ ยึดมาที่หน้าผมประมาณคืบนึง บอกเพศไม่ได้ ส่ายหัวไปมาๆ ประมาณนาทีนึงก็ไป จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 10:31:27

ความคิดเห็นที่ 12 ท่านสายลม นั่นคือ ตัวตน ที่แท้จริงของ ไซตอน ครับ ไซตอน จะตัวดำ มีขนยาวรุงรัง ตาแดง เล็บยาว พวกนี้มีความสามารถพิเศษ ในการแปลงร่างได้ โดยการก้อปปี้ หน้าตาคนที่เรารัก คนที่เราคิดถึง ตั้งแต่มีชีวิตอยู่และล่วงลับไปแล้ว เพื่อเป็นช่องทางในการทำมาหากินของพวกมัน สิ่งมีชีวิตจำพวกนี้ กลัวคน ด้วยความที่มันกลัวคน มันเลยสร้างอิทธิฤทธ์ข่มขวัญคน เพื่อให้คนกลัวมัน สิ่งมีชีวิตเหล่านี้ก็ทำตัวเหมือนอันธพาลในคน เรานั้นแหละครับ กร่าง ระราน ชาวบ้าน กดขี่ข่มเหง ถ้าเรากลัวมันเราก็ยอมมัน เอาเครื่องเซ่นเครื่องไหว้มาให้ แต่ถ้าเราไม่กลัวมัน มันก็ทำอะไรไม่ได้ ดังนั้นเมื่อพบมันจงอย่ากลัว แล้วมันจะถอยไปเอง แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 55 11:02:28 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 11:01:21

ความคิดเห็นที่ 13 เคยเจอแต่ผีทะเล จากคุณ : TheMATABA เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 11:40:19

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงผมจะไม่กลัวผี  แต่ถ้าให้เจอแบบลุงจิม  ผมคงต้องวิ่งหนีก่อนเป็นอันดับแรก ไม่ต้องคิดให้ยากเลย ที่หนีก็คือหนีไปตั้งหลักก่อน  รอให้สติกลับมา  แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีว่าจะทำอะไรต่อ จากคุณ : mage_mann เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 13:15:16

ความคิดเห็นที่ 15 คนที่จะต่อกร กับพวกผีพวกญินได้  นอกจากจะเป็นคนไม่กลัวเรื่องผีๆแล้ว  ต้องเป็นคนไม่ขี้ตกใจง่าย อันก็นี้สำคัญ พวกผีพวกญินพวกนี้ พยายามทำให้เราตกใจเป็นอันดับแรก  เหมือนกับเราได้ยินเสียงระเบิด เสียงปืน  ประสาทเราจะกระตุก ขวัญหนีดีฝ่อ ถ้าเราไม่มีสติ อย่างที่พี่จิมว่า   ก็เข้าทางพวกมัน  ร้ายจริงๆ ไอ้พวกญินชั่วๆพวกนี้  ไม่ต่างจากอันธพาล นักเลงหัวไม้จริงๆเลย จากคุณ : abubilal เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 21:36:39

ความคิดเห็นที่ 16 ท่าน abubilal ผี หรือ ญิน กินพี่จิมยาก ประสาทแข้งโป้ก สมาธินิ่ง ไม่วอกแวก ผีหรือญิน  นอกเวบไม่กลัว เล่ห์เหลี่ยมไม่มี มากมายอะไร อ่านดุอาร์เป่า เผ่นแนบ ผี กระสือ  ผีอีแอบ ผี:-) ในเวบ น่ากลัวกว่า เยอะ อ่านอะไรมันหูหนวกบ้าใบ้ ต้องตืบ สถานเดวเท่านั้น จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 21:52:16

ความคิดเห็นที่ 17 [ทุกศาสนา]สิ่งเร้นลับ และ บทสวดจากพระคัมภีร์ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 13 พ.ค. 55 22:57:32

ความคิดเห็นที่ 18 ท่านพี่จิม หากว่า ไซตอนคือซาตาน หากซาตานคือลูซิเฟอร์ ตอนเรียนคริสตจริยะ อาจารย์บอกว่าซตานนั้นคือลูซิเฟอร์เป็นอดีตเทพบุตรบนสวรรค์ มีอำนาจรองจากพระเจ้าเลยทีเดียว จริงๆแล้วเหล่ามารก็คือเทพตกสวรรค์นั้นแหละ และไม่มีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวแต่อย่างใดเพราะก็คือเทพมาก่อน ซึ่งการที่เรามองว่ามารมีรูปร่างน่าเกลียดน่ากลัวเพราะ ให้มนุษย์เกียดกลัวมาร ไม่ให้ไปตามทางมาร แต่ความเป็นจริงมารเมื่อมาล่อลวงก็ไม่ได้มารุปแบบนั้นเสมอไป ซึ่งสรุปก็คือว่า สิ่งชั่วร้ายนั้นอาจจะมาในรูปแบบสิ่งที่ดี ที่สวยงาม ล่อลวงให้เราทำผิดพลาดไป เหมือนกังมารที่รูปงามราวกับเทพบุตร จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 02:45:32

ความคิดเห็นที่ 19 ท่านยอง ลูซิเฟอร์ ถ้าจะเปรียบก้น่า มาลาอีกะห์ แต่มาลาอีกะห์ไม่ได้ตกสวรรค์ ศรัทธาต่อพระองค์อัลเลาะห์อย่างเหนียวแน่น  ลูซิเฟอร์ที่ตกสวรรค์น่าจะเป็น ญิน นั้นแหละครับ แต่มาลาอีกะห์นั้น ต่ำศักดิ์ กว่า มนุษย์ องค์พระผู้อภิบาล สูงสุด รองลงมา คือ มนุษย์ ตามต่อมาด้วย มาลาอีกะห์ ตามต่อมา ญิน อิบลีส ไซตอน จากนั้นก็เป็นสัตว์ทั้งหลาย อิบลีส หัวหน้าใหญ่ ไซตอน  คือตัวที่ ล่อลวงพระนาง ซิตี ฮาวอ หรือ พระนาง ฮาวา โดยฝ่าฝืนคำสั่งของพระองค์อัลเลาะห์ ที่ให้ก้มกราบต่อมนุษย์ คือท่านบี อาดำ แล้วไซตอน ไม่ยอมกระทำ เพราะถือว่าตนเองนั้นเกิดจาก ไฟ  มนุษย์นั้นเกิดจากดิน ญิน กับไซตอน นั้นเป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีการดำเนินชีวิตแตกต่างกัน ญิน แตกต่างจากไซตอน คือ ญิน มีศาสนา ไซตอนนั้นไม่มีศาสนา ไซตอนนั้น รูปร่างตัวตนที่แท้จริงอย่างที่ผมบอก น่าเกลียดน่ากลัว ตัวละ สองบาท ส่วนมันจะจำแลงร่างกายเป้นเช่นใด ก็ได้ แล้วแต่ความประสงค์ของมัน ส่วน ญินนั้น มีรูปลักษณ์สวยงามเฉกเช่นมนุษย์ มีเพศชายและหญิง สมสู่ มีเพศสัมพันธ์กัน ออกลูกออกหลานได้ แต่มีความสามารถพิเศษ คือ จำแลงรูปร่างได้ ญินบางครั้ง หลุดมาในโลกมนุษย์ หรือมนุษย์หลุดไปในโลกญิน ก็ไปสมสู่กัน สิ่งที่กล่าวมาคือสิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากคนรุ่นก่อน ผมไม่แน่ใจว่ามีในอัลกรุอานหรือไม่ ต้องให้ผู้รู้ตามหลักการกรุอานมาบอกเล่า นะครับ แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 06:12:18 แก้ไขเมื่อ 14 พ.ค. 55 06:09:32 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 06:08:29

ความคิดเห็นที่ 20 เคยได้ยินเหมือนกันคร้บพี่จิม จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 18:04:51

ความคิดเห็นที่ 21 เรียนท่านพี่จิม นี่เป็นข้อสังเกตของผมเองนะครับ อาจจะผิดจากหลักอิสลามก็ขอโทษด้วย ผมเข้าใจว่าว่าเรื่อง ญิณน่าจะเป็นความเชื่อดั้งเดิมของอาหรับโบราณ เพราะว่ายิว และคริสเตียน ก็ไม่ได้กล่าวถึง เช่นกันหากตามคห.ของท่านพี่จิม คห.19 ผมอนุมารเอาว่าอิสลามไม่ได้กล่าวถึงสงครามบนสวรรค์อันมาจากการก่อกบฏนำโดยลูซิเฟอร์ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 14 พ.ค. 55 22:15:33

ความคิดเห็นที่ 22 ท่าน ยองเจียงใหม่ ครับ ถ้าคุณอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับ ญินและชัยตอนในอิสลาม รวมถึงเหตุการณ์ที่อิบลีส หัวหน้าของชัยตอน ถูกขับออกจากสวรรค์ เดี๋ยวผมจะเอามาลงให้อ่านนะครับ อินชาอัลลอฮฺ จากคุณ : YAMAMANG เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 15:16:05

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบคุณครับ ท่านYAMAMANG จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 15 พ.ค. 55 18:35:46