การทำสมาธิ ที่มีครบอีก 7 ข้อประกอบ ผลคือการบรรลุธรรม

มรรคมีองค์แปดประการ  เป็นทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา  คือ เป็นวิธีัการดับสิ้นความทุกข์ทั้งหมด  การที่จะดับทุกข์ได้ ไม่ใช่เพียงการเพ่งไปที่การทำสมาธิแล้วลืมทำอย่างอื่นที่ห้อมล้อมสมาธินั้นด้วย


ประเ้่ด็นสำคัญคือ การนั่งสมาธิไม่ใช่สิ่งที่ควรละเลยแต่สมาธิที่ไม่ประกอบด้วยองค์ประกอบเจ็ดข้อ ยังไม่เป็นสมาธิในองค์มรรคที่้สมบูรณ์ทำให้บรรลุโสดาบันเป้นต้นได้  เพราะการบรรลุถึงมรรคผล  ต้องเป็นสมาธิที่ห้อมล้อมด้วยมรรคประกอบอีก 7 ข้อ


องค์แห่งมรรค เปรียบเหมือนการผสมสารเคมี  ขาดข้อใดข้อหนึ่งก็จะไม่สำเร็จออกมาเป็นผล  หากทำบางข้อจะได้ผลเพียงเทวโลก พรหมโลกเท่านั้น  แต่สิ่งที่เป็นสาระที่ควรจะได้ที่นี่ ตอนนี้ เวลานี้  จะหลุดลอยไป  เพราะทำไม่ครบองค์ประกอบ

จิตที่เกิดในขณะบรรลุมรรคผลนั้น  จะเกิดชึ้นต่อเมื่อเราบ่ม ครบ องค์ของมรรคทั้งแปดข้อ  เมื่อไหร่ที่ทั้งแปดข้อนี้สมบูรณ์  มรรคจิตดวงแรกจะปรากฎออกมาให้บรรลุโสดาบัน  และจะปรากฎอีกสามครั้งเท่านั้นก่อนนิพพาน

โดยการบรรลุธรรมนอกจากเี่ราทำสัมมาสมาธิแล้ว ข้ออื่น ๆ ที่ขาดไม่ไ้ด้แม้แต่นิดหน่อย  มีทั้งข้อปรกติที่เข้าใจกันดีอยู่แ้ล้ว รวมถึงข้อที่อาจจะละเลย เมื่อถึงเวลานั้น...



1. สัมมาทิฏฐิ  คือ  เห็นความเป็นจริงหรือไม่  เช่น นั่งสมาธิ แต่ใจยังคิดว่า ขอให้เราสมหวังกับเค้า ขอให้บุญจากการทำสมาธิทำให้รูปร่างหน้าตาดี  ขอให้แผ่เมตตาแล้วคนรักใคร่  นี้เรียกว่าทำสมาธิแล้วแต่สัมมาทิฏฐิยังไม่นำ ยังไม่เห็นความเป็นอนัตตาและความไ่ม่จีรังของสังขารเป็นต้น  หากทำสมาธิแล้วยังมีจิตจดจ่อกับโลก  เรียกว่ายังไม่ครบองค์มรรค  ยังนำจิตไม่พ้นจากทุกข์ได้



2. สัมมาสังกัปปะ คือ ความคิดที่ถูกต้องสามข้อ คือ คิดออกจากกาม คิดออกจากโกรธ  คิดออกจากการคิดร้าย มีผู้ชายคนหนึ่ง ถามว่าผู้ปฏิบัติธรรมทำนองว่า  มีเซ็กส์หลังการทำสมาธิได้หรือเปล่าครับ ?  

องค์ประกอบของมรรคผล เปรียบได้กับส่วนผสมทางเคมี  ถ้าเราอยากให้เราสำเร็จผลอะไร ก็ต้องใส่สารในส่วนนั้นให้ตรง  หากนั่งสมาธิแล้วออกจากสมาธิมาทำกามกิจ  ก็เหมือนกับนกที่บินเร็วบนอากาศแต่ถูกหินจากปืนยางยิงตกจากอากาศลงมานอนตายที่พื้นดินเท่านั้นเอง การบินของนกนั้นไม่ถึงที่หมาย แต่ตกลงมาตายอย่างน่าสงสาร

นอกจากการเว้นกามกิจแล้ว เรื่องสัมผัสอื่น ๆ เช่นทางตาการเห็นเสื้อผ้า เครื่องประดับ ทางหูการฟังเพลง ทางจมูกชอบใช้น้ำหอม ทางลิ้นติดร้านหรือรสอาหาร ทางกายชอบนั่งที่นอนที่นั่งสบาย ชอบแอร์ เหล่านี้ก็จัดเป็นกามคุณทั้งห้าทั้งสิ้น ผู้ที่ติดอยู่ในกามคุณนี้เพียงอย่างเดียว  ไปนิพพานไม่ได้  เพราะกามคุณห้านำมาปฏิสนธิในกามโลก 7 ชั้น ไม่ใ่ช่พรหมโลกหรือนิพพาน

นอกจากนี้ ยังต้องข่มใจไม่ให้โกรธ และทำใจให้ดี ไม่คิดร้ายใครด้วย  หากทำได้อย่างนี้แล้ว  มรรคข้อที่สองสำเร็จ จะเหลืออีกห้าข้อเพื่อให้ครบและบรรลุธรรม


3. สัมมาวาจา การพูดที่ถูกธรรม  ส่วนใหญ่ผู้ที่ทำสมาธิแล้ว จะสมาทานศ๊ลห้า เลิกเด็ดขาดจากการพูดโกหก  แต่หากอีกสามข้อ คือ การนินทาคนอื่น , การพูดคำหยาบ และการพูดเพ้อเจ้อ ยังอยู่  ก็ยังไม่อาจบรรลุมรรคผลในลำดับสูง

ถามว่า แค่เพียงคำพูด  เกี่ยวอะไรกับการบรรลุธรรม ?

ตอบว่า คำพูดทุกคำ เกิดจากจิตสองประเภท คือ จิตที่ตรง และไม่ตรงต่อธรรม  ตัวอย่าง  จิตที่พูดล้อเล่น เป็นจิตที่สนุก มึีความสุข ร่าเริง แต่ไม่ตรงต่อธรรม  เพราะการเข้าถึงธรรมเป็นการเข้าถึงความสงบ  เป็นการเข้าถึงความหมาย  เ้ป็นการเห็น เป็นความไม่สั่นไหวไปตามอารมณ์ แต่จิตที่ล้อเล่นเป็นจิตที่หลงอารมณ์

อีกตัวอย่างหนึ่ง  พูดนินทา  จิตที่ตรงจะไม่นินทา  เพราะจิตที่นินทานั้นเกิดจากราคะบ้าง โทสะบ้าง  และเป็นราคะและโทสะอย่างหยาบทีเดียว  ถึงกับโผล่พ้นจิตออกมาทางมุขทวารคือปาก ทำให้ทำลายตัวเอง  จิตที่มีราคะก็พูดนินทาเพราะอยากให้ตัวเองเป็นที่ชอบของคนฟัง เลยนินทาคนนั้นให้เขาฟัง  ส่วนจิตที่มีโทสะ ก็นินทาคนคนนั้นให้เขาฟัง  เพราะตัวเองเกลียดคนคนนั้น  จิตทั้งสองอย่างนี้ ขวางมรรคขวางผล  หากยังมีเจตนาที่จะพูดคำเหล่านี้ออกมา  ก็แสดงว่า จิตยังไม่ไปในทางออกจากราคะ โืทสะ  

เมื่อราคะโทสะ ทำให้อยู่ในทุกข์  และคำพูดเหล่านี้ก็เป็นคำพูดของราคะโทสะแล้ว  

การหลุดพ้นจากทุกข์ ด้วยคำพูดเหล่านี้ แม้เพีัยงคำเดียว ย่อมเป็นไปไม่ได้เลย

ส่วนของการการพูดคำหยาบ  คำหยาบ ไม่ว่าจะเกิดจากความสนุก หรือความโกรธ ให้มองว่า คำหยาบ ๆ นั้น เกิดจากจิตที่ไม่ละมุนละไม  ไม่เคารพคนอื่นทั้งความต่ำทรามของจิตใจ  ต้องหันเจตนาของจิตกลับมาเป็นความประพฤติในธรรมสองข้อนี้คือ "การกล่าวว่าจาอ่อนหวาน และการต้อนรับ" (ขุททกนิกาย ทุกนิบาต) ทั้งสองข้อนี้ จะทำให้มานะและจิตที่หยาบคายต่อคนอื่น ทลายลงไ้ด้  และเราจะสบายใจ ที่่ไม่ได้ทำสิ่งที่ไม่ดีลงไป

การผลักจิตออกจากการพูดไม่ดี สิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราได้รับคำชื่นชมในปัจจุบัน เป็นที่รักใคร่  และจิตของเราเองจะสบาย  เราจะรู้สึกได้เองว่าไม่มีความเดือดร้อนใจตามหลัง  เราจะได้รับความสุข ที่ไม่มีโทษ(ทีฆนิกายสามัญญผลสูตร)เพราะว่าเรามาถูกทางที่จะทำให้เกิดมรรคผล

อนึ่ง ในเรื่องของคำพูดนี้  ตรัสว่า "เราจะไม่กล่าวมุสา แม้เพราะให้หัวเราะกันเล่น" และ อนนุสนฺธิกถา หมายถึง ถ้อยคำที่พูดขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล พูดลอย ๆ พูดพล่าม ไม่มีในศาสนานี้ เป็นถ้อยคำนอกศาสนา ถ้อยคำเหล่านั้นไม่ทำให้ปัญญาเจริญ ถ้อยคำไร้สาระทำให้ติดอยู่ในโลก.  


เราต้องหันทั้งกาย วาจา และใจ ใ้ห้ออกจากทุกข์ให้หมดทุกทาง


4. สัมมากัมมันตะ  กา่รกระทำที่ถูกต้อง  ในข้อนี้คือ การฆ่าสัตว์แม้แต่มดตัวเล็ก ๆ หากยังทำอยู่ ก็เรียกว่า จิตขาดความละเอียด  ซึ่งการเข้าถึงธรรมอันสงบนั้นเป็นของละเอียด  การฆ่าสัตว์เท่ากับได้ทำสิ่งที่หยาบ  ปรกติแล้ว ก้อนหินก้อนใหญ่ ๆ จะไม่ผ่านรูของตะแกรง  มีแต่ทราย หรือก้อนกรวดเล็ก ๆ เท่านั้น เช่นเดียวกัน  จิตที่หยาบ จะไม่ทำผู้นั้นให้เข้าสู่เทวโลกหรือนิพพานได้

การขโมยของ และการนอกใจหรือเป็นชู้ทางใจก็ทำให้จิตออกนอกทางของธรรม ในสองข้อนี้หากจะกล่าวก็เป็นเหมือนการบรรยายธรรม  แต่ต้องทำ  เพราะจิตที่ซื่อสัตย์เท่านั้นที่จะรักษาธรรมสองข้อนี้ได้

จากคุณ	: Serene_Angelic
เขียนเมื่อ	: 13 พ.ค. 55 04:35:20