คห 4 ตัวเหม็นครับ สมาธิจะไม่ค่อยดี เพราะมันขี้โมโห อิจฉา แล้วต้องส่อเสียดตลอดเวลา พอทำไปเรื่อย ปากจะะเหม็น ตัวก็เหม็นนะ (คนมีโทสะเยอะ มันร้อน เหงื่อออกง่าย ตัวเหม็น โรคก็เยอะ อันนี้การแพทย์ก็บอก) พูดแล้วเสียงจะติดๆ อยู๋ในลำคอ พูดอะไร แล้วเหม็น (เหม็นในที่นี้อาจไม่ใช่กลิ่น แต่เสียงไม่น่าฟังครับ) แค่อ้าปากพูด คน ก็ รังเกียจที่ฟัง อันนี้ ลองไปสังเกตคนประเภทนี้ดูครับ ทำบ่อยๆแล้ว กระแสจิต ข้างใน มันก็สัมผัสได้ครับ คนรอบข้าง แทบอยากจะออก
ส่วนอันนี้ อกุศลกรรมบท 10 ครับ มีในพระไตรปิฏก ค่อนข้างตรงกับชีวิตจริงครับ ถ้าทำบ่อยๆ จนเป็นอาจิณ ลักษณะพวกนี้เกิดแน่นอน ไม่ร่างกาย ก็รอบข้าง
ผลในปวัตติกาลของปาณาติบาต (ฆ่าสัตว์) มี ๙ ประการ คือ
๑. ทุพพลภาพ ๖. ฆ่าตนเอง หรือถูกฆ่า
๒. รูปไม่งาม ๗. โรคภัยเบียดเบียน
๓. กำลังกายอ่อนแอ ๘. ความพินาศของบริวาร
๔. กำลังกายเฉื่อยชา กำลังปัญญาไม่ว่องไว ๙. อายุสั้น
๕. เป็นคนขลาด
ผลในปวัตติกาลของ อทินนาทาน(ลักทรัพย์) มี ๖ ประการ คือ
๑. ด้อยทรัพย์ ๔. ไม่ได้สิ่งที่ตนปรารถนา
๒. ยากจน ๕. พินาศในการค้า
๓. อดอยาก ๖. ทรัพย์พินาศเพราะอัคคีภัย อุทกภัย ราชภัย โจรภัยเป็นต้น
ผลในปวัตติกาลของ กาเมสุมิจฉาจาร มี ๑๑ ประการ คือ
๑. มีผู้เกลียดชังมาก ๗. เป็นชายในตระกูลต่ำ
๒. มีผู้ปองร้ายมาก ๘. ได้รับความอับอายเป็นอาจิณ
๓. ขัดสนทรัพย์ ๙. ร่างกายไม่สมประกอบ
๔. ยากจนอดอยาก ๑๐. มากไปด้วยความวิตกห่วงใย
๕. เป็นหญิง ๑๑. พลัดพรากจากผู้ที่ตนรัก
๖. เป็นกระเทย
ผลในปวัตติกาลของ มุสาวาท มี ๘ ประการ คือ
๑. พูดไม่ชัด ๕. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ
๒. ฟันไม่เป็นระเบียบ ๖. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้น และปลายปาก
๓. ปากเหม็นมาก ๗. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย
๔. ไอตัวร้อนจัด ๘. จิตไม่เที่ยงคล้ายวิกลจริต
ผลในปวัตติกาลของปิสุณาวาท (การพูดยุยง นินทา ให้ผู้อื่นรังเกียจ แตกสามัคคีรักใคร่กัน) มี ๔ ประการ คือ
๑. ตำหนิตนเอง ๓. ถูกบัณฑิตตำหนิติเตียน
๒. มักจะถูกลือโดยไม่มีความจริง ๔. แตกมิตรสหาย
ผลในปวัตติกาลของ ผรุสวาท ( วาจาหยาบคาย คำหยาบ) มี ๔ ประการ คือ
๑. พินาศในทรัพย์ ๓. มีกายและวาจาหยาบ
๒. ได้ยินเสียง เกิดไม่พอใจ ๔. ตายด้วยอาการงงงวย
ผลในปวัตติกาลของ สัมผัปปลาป (พูดเพ้อเจ้อ ได้แก่ คำพูดที่ไม่มีสาระ ประโยชน์ มีแต่ทำลายประโยชน์และความสุขให้พินาศไป เช่น กล่าวถึงเรื่องที่ไม่อาจเป็นไปได้ แต่มาสร้างเรื่องขึ้น เพื่อให้ผู้ฟัง ผู้ดู ผู้อ่าน เพลิดเพลินไปตาม เช่น เรื่องสงคราม ภารตยุทธ์ คือ สงครามระหว่างพี่น้อง หรือเรื่องนางสีดา ถูกลักพาตัวไป เป็นต้น) มี ๔ ประการ คือ
๑. เป็นอธัมมวาทบุคคล ๓. ไม่มีอำนาจ
๒. ไม่มีผู้เลื่อมใสในคำพูดของตน ๔. จิตไม่เที่ยง คือ วิกลจริต
ผลในปวัตติกาลของอภิชฌา (ความเพ่งเล็ง ได้แก่ ความพอใจใน ทรัพย์สมบัติของผู้อื่น และอยากได้ทรัพย์สินนั้นมาเป็นของตน โดยไม่เป็นธรรม) มี ๔ ประการ คือ
๑. เสื่อมในทรัพย์และคุณงามความดี ๓. มักได้รับคำติเตียน
๒. ปฏิสนธิในตระกูลต่ำ ๔. ขัดสนในลาภสักการะ
ผลในปวัตติกาลของ พยาบาท มี ๔ ประการ คือ
๑. มีรูปทราม ๓. อายุสั้น
๒. มีโรคภัยเบียดเบียน ๔. ตายโดยถูกประทุษร้าย
ผลในปวัตติกาลของ มิจฉาทิฏฐิ มี ๔ ประการ คือ
๑. ห่างไกลรัศมีแห่งพระธรรม ๓. ปฏิสนธิในพวกคนป่าที่ไม่รู้อะไร
๒. มีปัญญาทราม ๔. เป็นผู้มีฐานะไม่เทียมคน
ผลในปวัตติกาลของการเสพ สุราเมรัย มี ๖ ประการ คือ
๑. ทรัพย์ถูกทำลาย ๔. เสื่อมเกียรติ
๒. เกิดวิวาทบาดหมาง ๕. หมดยางอาย
๓. เป็นบ่อเกิดของโรค ๖. ปัญญาเสื่อมถอย
จากคุณ |
:
ramai
|
เขียนเมื่อ |
:
13 พ.ค. 55 13:45:55
|
|
|
|