PANTIP.COM : Y12108778 ขอถาม พระจะเล่นเฟสบุคทำไม????? []

ความคิดเห็นที่ 14

ดร.อำนาจ บัวศิริ ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชาคมชาวเฟสบุค(Facebook)ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับ พระตุ๊ด เณรแต๋ว ใช้เฟซบุ๊คเป็นแหล่งสื่อสารข้อมูลไม่เหมาะสม รวมทั้งมีการนำข้อมูลแสดงความคิดเห็นตอบโต้กันว่าพระ เณร สามารถเล่นเฟซบุ๊คได้หรือไม่มาลงไว้ในเว็บไซต์แห่งหนึ่ง กรณีดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ตนเห็นว่า การที่พระสงฆ์ สามเณร จะใช้เฟซบุ๊ค เป็นช่องทางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องที่ทำได้และไม่ผิด แต่หากใช้คุยเรื่องส่วนตัวและมีการส่งรูปภาพหรือข้อความต่างๆที่ไม่เหมาะสม ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะเฟซบุ๊ค เป็นเว็บไซต์ที่มีฆราวาสหรือประชาชนใช้เป็นจำนวนมาก หากมีพระสงฆ์ สามเณร ทำสิ่งใดไม่เหมาะสมจะลดความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาได้

ดร.อำนาจ กล่าวต่อไปว่า ที่ผ่านมาพระธรรมวินัยหรือระเบียบมส.ไม่ได้มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการห้ามพระสงฆ์เล่นอินเทอร์เน็ต หรือการใช้ช่องทางสื่อสารดังกล่าว มีแต่คำสั่งมหาเถรสมาคมเรื่องการกวดขันพระสงฆ์ในการใช้อินเทอร์เน็ตเท่านั้น เนื่องจากเคยมีกรณีที่พระสงฆ์เล่นไฮไฟว์อย่างไม่เหมาะสม มส.จึงได้มีคำสั่งกวดขันให้เจ้าคณะผู้ปกครองดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของพระสงฆ์ให้เข้มงวดมากขึ้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดกรณีดังกล่าวขึ้นอีก พศ.ก็จะนำคำสั่งดังกล่าวแจ้งเจ้าคณะผู้ปกครองได้ช่วยกวดขันพระสงฆ์ และสามเณร ให้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างเหมาะสมกับสมณสารูปอีกครั้ง

“ผมยังทราบว่า จะมีการนำเรื่องนี้เสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งตนเห็นว่า เป็นสิ่งที่ดี ที่จะได้ช่วยกันหาทางออกและแนวทางแก้ไข”ผอ.สำนักเลขาธิการมส.กล่าว

ด้านพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ผอ.สถาบันวิมุตตยาลัย กล่าวว่า เทคโนโลยีมีทั้งคุณและโทษ หากเราใช้อย่างมีสติก็จะเกิดประโยชน์ แต่ถ้าใช้อย่างขาดสติก็จะเกิดโทษ ซึ่งการที่พระสงฆ์บางรูปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสมก็ไม่ควรไปโทษเฟสบุค ควรที่จะต้องให้คนใช้ไปหันพัฒนาตนเองในการใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพราะการใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้วยภูมิปัญญาชั้นต่ำนำมาซึ่งปัญหาแด่ตนเองและผู้อื่น ส่วนพระสงฆ์ที่ใช้เฟสบุคในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาจนได้รับการยกย่องจากเวทีโลกก็มีอยู่ 3 รูป ได้แก่ ท่านติชนัทฮันห์ องค์ดาไลลามะ และพระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ซึ่งเป็นตัวอย่างของการใช้เฟสบุคเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างมีสติจนเป็นที่ยอมรับในเวทีนานาชาติ

ที่มาคมชัดลึก

เรื่องนี้มีพระรูปหนึ่งท่านได้ให้ความเห็นไว้ว่า

มันก็เหมือนอ่านหนังสือพิมพ์อิเล็คทรอนิกส์ ที่ปรับเปลี่ยนเรื่องราวไปตามความสนใจของเรา กดไลค์ไปเรื่อย จะพบว่า มีเรื่องราวที่เราสนใจ ชอบใจ ถูกใจ หลั่งไหลเข้ามา เกือบเรียกได้ว่า "ทะลัก" นี่หรือเปล่า? ที่ทำให้บางคนเห็นว่า พระไม่ควรเล่นเฟสบุ๊ค เพราะสิ่งที่เขาสนใจอยู่ไม่เหมาะกับสมณะ

สิ่งไม่ควรแก่สมณะนั้นมีอยู่ในทุกสื่อ อยู่ที่ว่า เราเลือกเสพอะไรมากกว่า การใช้สื่อของพระภิกษุสามเณรจึงเป็นเรื่องของปัจเจกชน ไม่ควรตัดสินแบบเหมารวม

จริงอยู่ มีปัญหาเกิดขึ้นจริงกับพระภิกษุสามเณรที่ใช้เฟสบุ๊คไปในทางที่ผิด ไม่เปิดเผยสถานะแล้วใช้คุยกับสีกาบ้าง ใช้ดูรูปไม่เหมาะสมบ้าง แต่การพยายามปิดหูปิดตาไม่ให้นักบวชรับรู้ข่าวสารใด ๆ เลย นั่นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เหมือนการเซนเซอร์ชิซูกะอาบน้ำ

ต้นของปัญหา น่าจะอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่ของอุปัชฌาย์อาจารย์เจ้าอาวาส ควรคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาบวชอย่างดี อบรมให้ความรู้เรื่องศีลเบื้องต้น พร้อมทั้งโทษของการทุศีล จนสามารถดูแลตัวเองได้ แล้วจึงอนุญาตให้ใช้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว (คนเราอินทรีย์อ่อนแก่ไม่เท่ากัน ขึ้นกับวัยวุฒิ คุณวุฒิ บุญบารมีเดิม และอีกหลาย ๆ อย่าง การใช้มาตรฐานเดียวกับทุกคนจึงอาจทำให้เสียโอกาสที่ใหญ่หลวง)

จากคุณ : ราชมัล

เขียนเมื่อ : 18 พ.ค. 55 15:36:43