ความคิดเห็นที่ 1 พุทธชยันตี คำว่าพุทธชยันตี แปลว่า "การเฉลิมฉลองของชาวพุทธ ในชัยชนะของพระพุทธเจ้าที่มีเหนือกิเลสและมารทั้งปวงด้วยพระองค์เองจนบรรลุเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้รู้ ผู้ตื่น และ ผู้เบิกบานด้วยธรรม" โดยคำว่า "พุทธะ" แปลว่า การ "รู้ ตื่น และเบิกบาน" คำว่า "ชยันตี" แปลว่า "การเฉลิมฉลองชัยชนะ" ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต- สาธุ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 07:23:28 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 07:22:56

ความคิดเห็นที่ 2 การฉลองพุทธชยันตี เป็นเทศกาลสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่มีความเกี่ยวเนื่องกับวันวิสาขบูชา ใช้เรียกการจัดกิจกรรมในปีที่ครบรอบวาระสำคัญขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ขณะพระชนมายุ ๓๕ พรรษา ทำให้พระนามว่า "สัมมาสัมพุทธะ" ปรากฏขึ้นในโลก เป็นจุดเริ่มต้นแห่งคำสอนของพระพุทธศาสนา อันเกิดจากปัญญาตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ทำให้พุทธศาสนิกชน ได้มีพระธรรมเป็นหลักแห่งการดำเนินชีวิต พระพุทธองค์ทรงเมตตาสั่งสอนเผยแผ่จนเสด็จดับขันธปรินิพพานเมื่อมีพระชนมายุ ๘๐ พรรษาแล้วจึงเริ่มนับ พ.ศ. ๑ บัดนี้ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ บวก ๔๕ ปีที่ทรงสั่งสอนเผยแผ่พระพุทธศาสนาหลังตรัสรู้ จึงครบ ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ เกิดพระพุทธศาสนา มีพระรัตนตรัยครบองค์ทั้งพระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์แต่นั้นมาควรที่พุทธศาสนิกชนจะได้น้อมนำแบบอย่างแห่งการตรัสรู้ของพระองค์ มาปฏิบัติบูชาด้วยการเจริญใน ทาน ศีล สมาธิภาวนา และ ปัญญา ตามแบบอย่างและคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อการเอาชนะกิเลสและมารทั้งปวง ทั้งจากภายในตนเองและที่รบกวนจากภายนอกทั้งปวง เมื่อวาระสำคัญเวียนมาบรรจบอีกศตวรรษหนึ่ง ประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนา จึงจัดฉลองกันโดยทั่วไป เรียกว่าฉลอง "พุทธชยันตี" เช่น ที่เคยฉลองครบรอบ ๒๕ พุทธศตวรรษ หรือ พ.ศ. ๒๕๐๐ มาแล้ว ในครั้งนั้น กำหนดนับวันที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพาน หรือ พ.ศ. ๑ เป็นวันแห่งการฉลองพุทธชยันตี แต่ครั้งนี้ นับวันที่พระบรมศาสดาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เวียนมาบรรจบครับรอบ ๒๖ พุทธศตวรรษ ๒๖๐๐ ปี กำหนดให้เป็นวันฉลองพุทธชยันตี วันฉลองที่สำคัญนี้เรียกเป็นสากลว่า Sambuddha Jayanti ๒,๖๐๐ ตรงกับภาษาไทยว่า "สัมพุทธชยันตี ๒,๖๐๐ ปี" เฉพาะประเทศไทย มหาเถรสมาคม ได้มีมติให้ เรียกงานฉลองนี้ว่า "พุทธชยันตี" ๒๖๐๐ ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ที่มาของข้อมูล : www.buddhajayanti.net แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 07:24:25 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 07:24:05

ความคิดเห็นที่ 3 การฉลองพุทธชยันตี  ไม่ใช่ของลัทธิใด  เราชาวพุทธที่รักพระศาสนา คงต้องช่วยกันรู้เท่าทัน "วาทกรรม" ของลัทธิใหม่ๆ ฉลองพุทธชยันตี คือบูชาพระพุทธเช้า  ระลึกถึงความดีของพระองค์ ที่ได้เพียรสร้างเหตุ สะสมบารมีมาสี่อสงไขยกับแสนมหากัป เพื่อตรัสรู้ชนะพญามาร แทนชาวโลก ซึ่งทำให้เรามีพุทธศาสนา ได้มีแนวทางปฏิบัติเพื่อการพ้นทุกข์กิเลสเพลิงโดยสิ้นเชิงมาจนถึงวันนี้ ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนาในปัจจุบัน จากชมพูทวีป มาเจริญที่สุวรรณภูมิ เมื่อรับช่วงต่อกันมาแล้ว ก็ช่วยกันรักษาธำรงไว้ ให้นานเท่านาน เป็นมรดกของลูกหลานสืบไป จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 07:31:05

ความคิดเห็นที่ 4 ชาวพุทธทุกคนร่วมฉลองพุทธชยันตีได้ ที่วัดใกล้บ้าน หรือวัดที่มีการจัดงานยิ่งใหญ่ ซึ่งมีมากมาย จะร่วมกับส่วนกลางคือมหาเถระสมาคมก็ได้ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ ความจริงยิ่งใหญ่ สะเทือนโลก มาตั้ง 2600 ปีแล้ว นับเป็นความภูมิใจของชาวพุทธทุกคน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เมตตาให้เราได้มีโอกาสพบเจอ ท่านพูดตรงกันว่า "พระพุทธเจ้าฝากศาสนาไว้กับพุทธบริษัท 4"  ภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พระพุทธเจ้าได้ทรงละขันธ์ปรินิพานไปแล้ว แต่พระสัทธรรมยังคงทรงอยู่ พวกเราชาวพุทธที่เป็นปัญญาชน  ควรได้สนใจในพิธีทางศาสนา คือสนใจธำรงรักษาประเพณีทางศาสนาไว้บ้าง  เพราะว่าส่วนนี้จะเป็นเสมือนพาหนะ ที่จะขนถ่ายพระสัทธรรมให้เดินทางต่อไป สืบเนื่องจากรุ่นสู่รุ่นได้ครบ 5000 ปี พิธีกรรมทางศาสนา อย่ามองแค่ว่างมงาย  อย่ามองแค่ว่าทำเพื่อเจริญศรัทธาโดยขาดปัญญา อันที่จริงแล้ว คนโบราณได้ร้อยพุทธศาสนาไว้ในใจคนไทย ผ่านพิธีกรรมต่างๆ ตั้งแต่เกิดจนตาย เพื่อปลูกฝังพุทธศาสนาไว้ในวิถีชีวิตคนไทย อย่างน้อยถึงไม่เอาธรรม  เอาบุญก็ยังดี  เพราะบุญเป็นการเตรียมดินไว้ปลูกหน่อโพธิ อย่างน้อย ไม่ได้เอาตอนเป็น ก็ยังได้เข้าวัดตอนตาย ผู้ตายไม่ได้รับประโยชน์แล้ว แต่ลูกหลานก็ยังได้ทำบุญและฟังธรรม  ด้วยเหตุที่มีการตายเกิดขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีหากสามารถเจริญธรรมได้ตั้งแต่อายุยังน้อย และเจริญธรรมตามกาล ตามวิถีชีวิต ร่วมพุทธประเพณีในช่วงเทศกาลสำคัญ ก็น่าจะดีกว่า พิธีสำคัญทางศาสนา สามารถบรรจุองค์ประกอบสำคัญไว้ได้มากมาย ทั้งทาน ศีล ภาวนา รวมเบ็ดเสร็จได้ในพิธีเดียว หากผู้จัดพิธีมีความเห็นถูกเห็นตรง ไม่มุ่งเน้นแต่วัตถุทาน ถ้าผู้จัดพิธีมีความตั้งใจจริงที่จะจรรโลงพระสัทธรรม  จัดพิธีกรรมเพื่อเปิดโอกาสให้ผู้คนได้เจริญศีล เจริญธรรม  วัตถุทานเป็นเพียงส่วนประกอบเล็กๆ เท่านั้น ความสำคัญอยู่ที่การปลูกสร้าง "ปัญญา" คือมุ่งเผยแผ่พระสัทธรรม คำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และบ่มเพาะวิถีแห่งการ "ภาวนา" ไว้ในใจของพุทธศาสนิกชน   จึงถือเป็นพุทธประเพณีที่แท้จริง โปรดสังเกตสายตาของหลวงพ่อพระพุทธเมตตาค่ะ  ท่านเห็นเราทำความดีจริงๆ นะ.. แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 09:54:26 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 07:59:57

ความคิดเห็นที่ 5 สาธุ สาธู สาธุ จากคุณ : Cathode_tube เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:19:05

ความคิดเห็นที่ 6 เอาภาพบรรยากาศมาเชิญชวนเพื่อนไปร่วมกิจกรรม  เผื่อยังไม่มีที่ไป มาที่วัดตรีวิสุทธิธรรมก็ได้ค่ะ ที่วัดเน้นภาวนานะคะ แต่หลวงพ่อให้จัดพิธีกรรมตลอด แทบจะมีพิธีทุกเดือน หลวงพ่อท่านเมตตาให้ลูกทีม ทั้งสมณะชีพรามณ์ได้ฝึกงาน ฝึกสืบทอดพิธีทางศาสนาที่เน้น "การภาวนา"  ท่านจะถ่ายทอดการจัดพิธีแบบโบราณให้ลูกหลานได้สืบต่อ เท่าที่พอจะมีกำลังทำได้ เท่าที่พอจะมีผู้รับวิชชาไว้ได้ ในขั้นตอนของทุกพิธีไม่ว่าจะจัดออกมาอย่างไร หัวใจคือ "ปัญญา" คือการ "ภาวนา" อย่างการ "สวดภาณยักษ์" เคยเล่าแล้วว่าแท้จริงเป็นพิธีพุทธ คือนิมนต์พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์พระปริตร มี "อาฏานาติยะปริตร" เป็นสำคัญ   คนฟังสวดได้ฟังธรรมชุดใหญ่ ได้เจริญสมาธิขณะร่วมพิธี ได้รดน้ำมนต์ให้ใจมีปีติ คลายทุกข์ คลายกังวล  หัวใจพิธีมีเพียงเท่าน้ัน คนที่ยังจมอยู่ในความวิตกกังวล ความกลัว เผชิญทุกข์ในชีวิตประจำวันมีมาก คนที่ยังอ่อนแอ ปัญญาน้อย ยังถูกผู้มีมิจฉาทิษฐิครอบงำ ด้วยมนต์คาถาพิธีกรรมนอกรีต ก็มีมาก ที่เจ็บป่วยต้องการที่พึ่งทางใจก็มีมาก แม้เรื่องการกระทำคุณไสย์ก็ดี สำหรับผู้มีความรู้ มีปัญญามาก ไม่ตกเป็นเหยื่อ ไม่เชื่อไม่กังวล ก็ไม่เป็นทาสอุปปาทาน ไม่มีผู้ใดทำอันตรายได้   แต่ผู้ที่อ่อนแอกว่าจำนวนมาก ต้องจมอยู่กับความกลัว เมื่อกลัว กายใจก็เป็นทาสของอุปปาทาน ตกเป็นเหยื่อของผู้มีมิจฉาทิฐิที่มีจิตเข้มแข็งกว่า ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก คนที่เจอกับตัวเองก็ว่ามีจริง หลวงพ่อเมตตาคนเหล่านี้ โดยจัดพิธีที่ใช้สมมติว่า "สะเดาะห์เคราะห์ ต่อชะตา แก้กรรม" สุดแต่ว่าจะเรียกอย่างไร ให้ตรงกับความต้องการของคนเหล่านั้น อาศัยกำลังบุญบารมี กำลังจิตของครูอาจารย์ พระสงฆ์ที่สะอาดบริสุทธิ์ มีศีล สมาธิ ปัญญาถึงพร้อม มีตบะ พละ แก่กล้า มีเมตตาอัปปมัญญาเป็นที่ตั้ง  เป็นองค์ประธาน เป็นพาหนะส่งสารคือพระพุทธมนต์ คือพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า สื่อไปยังผู้คนที่ต้องการสิ่งยึดเหนี่ยว ก็ให้ยึดเหนี่ยวพระรัตนตรัยเป็นกำลังใจ เมื่อองค์ประกอบพร้อม ผู้รับธรรมมีความพร้อม เพราะมีพิธีกรรมช่วยให้กายสงบระงับ มีการสวดมนต์ให้ใจสงบระงับ ขณะนั้นใจเป็นกุศล มีสมาธิเกิดขึ้นได้ แม้เพียงชั่วขณะ แต่ก็ส่งผลดีต่อจิตใจ ทำให้เบิกบาน ขับไล่ความไม่รู้ ความกลัว ความวิตกกังวลใจ  จนจิตเกิดพลังความตั้งมั่นขึ้นมา เสร็จพิธีก็รู้สึกว่า สิ่งไม่ดีถูกชำระออกไปจากกายและใจ  เกิดความมั่นใจที่จะใช้ชีวิตประจำวันได้ต่อไป ไม่ตกเป็นทาสอุปปาทานเดิมๆ อีก สำหรับผู้มีปัญญา ผู้ปฏิบัติภาวนา  ถ้าจะไปร่วมพิธีภาณยักษ์ที่วัด ก็ต้องบอกตรงจุดเลยว่า เป็นโอกาสที่ดีที่สุดโอกาสหนึ่ง ที่จะได้เข้าถึงสภาวะฌาน สมาธิ ที่ปกติยากจะทำได้ ต้องไปลองดูว่าจริงหรือไม่ ? พลังจิตของครูอาจารย์ กำลังของสถานที่ สามารถทำให้เราทำสมาธิได้ง่ายขึ้นจริงๆ หรือ ? ต้องลองไปพิสูจน์ดูค่ะ ปล. พิธีภาณยักษ์ที่วัดไม่มีอะไรตื่นเต้น มีแต่สมาธิล้วนๆ ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:33:19

ความคิดเห็นที่ 7 จำได้ว่าตอนจัดพิธีครั้งแรก พอท่านบอกจะสวดภาณยักษ์ ศิษย์ทุกคนมองตากันปริบๆ เราก็ไม่กล้าถาม แต่ใจมันไม่เอา (แบบในใจคิดว่า จะดีเหรอหลวงพ่อ..?) ท่านก็เลยเล่าเรื่องสมัยพุทธกาลให้ฟัง เรื่องที่พระพุทธเจ้าให้พระอานนท์ไปทำพิธีที่เมืองเวสาลี ไปสวดรัตนปริตร แล้วก็เรื่องที่ว่าเทวดามาถวายอาฏานาติยะปริตรให้พระพุทธเจ้าสอนลูกศิษย์ แล้วท่านก็อธิบายว่าเป็นของพุทธ ไม่ใช่พราหมณ์นะ พุทธแท้ๆเลย คนไทยสวดกันมาแต่โบราณ แต่ว่าประเพณีโบราณ ก็ทำในราชสำนัก เลยมีพราหมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง ครั้งแรกพระที่วัดก็ทำพิธีไม่เป็นค่ะ  ก็ช่วยกันหาแนวทาง แล้วก็หัดสวด นิมนต์ครูอาจารย์ที่เคยทำมาช่วยสวด มีอุปกรณ์นิดหน่อยไม่ให้คนเข้าพิธีบ่น "ว่าไม่ขลัง ไม่เห็นมีอะไรเลย" แต่ตอนนี้พิธีที่วัดเราขลังใช้ได้เลยค่ะ พระหลวงพี่ของเราเข้ม เก่งแล้วค่ะ ส่วนหลวงพ่อไม่ต้องการอะไรเลย เอาคนมานั่งเก้าอี้ทำสมาธิไว้ จะกี่ร้อยคนก็ว่ากันไป.. ช่วยนั่งนิ่งๆ ทำใจให้สงบ  แล้วท่านก็แผ่เมตตา อธิษฐานจิต ส่งกำลังใจให้เต็มๆ ทุกคน เท่านั้นเอง  เพราะกำลังใจหลวงพ่อมีแจกมาก ท่านทำฌานตลอดวันตลอดคืนค่ะ ความขลังที่สุด ก็คือ "ขณะจิตที่เป็นสมาธิ"  แม้เพียงช้างกระดิกหูงูแล่บลิ้น ก็เป็นบุญใหญ่ยิ่งกว่าสร้างวัดทั้งวัดอีก  จบพิธีก็หน้าเด้งออกมาทุกคน   ขึ้นกราบท่าน ท่านก็ว่า "สะอาดแล้ว พวกเมิงอย่าไปหาเรื่องมาอีกนะ" แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 09:57:43 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:46:58

ความคิดเห็นที่ 8 บรรยากาศใส่บาตรพระ เตรียมมาได้ จะมีพระพุทธนำขบวนค่ะ  ของหลวงพ่อเป็นมาลัย หรือดอกไม้ (ท่านรับของหนักไม่ไหว) นอกนั้นเป็นอาหารแห้งได้ตามอัธยาศัย พระสงฆ์สามเณรประมาณ 20 รูป แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 08:55:50 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 08:53:51

ความคิดเห็นที่ 9 สวดมนต์ข้ามคืน ที่นี่เน้นบทสรรเสริญ พระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ คืออิติปิโส นั่นเอง คร้ังนี้จะสวดกันสามวันสามคืน ต่อเนื่องไม่หยุด ท่านบอกว่าสมัยพุทธกาล เขาสวดมนต์กันเจ็ดวันเจ็ดคืน พระสวดเป็นกะ กะละหกชั่วโมง แปดชั่วโมงสวดต่อเนื่องกัน หรือเทศน์ตลอดวันตลอดคืน สมัยหลังจากนั้นบางทีเขาสวดพระไตรปิฏกกัน สวดจนจบต่อเนื่องเลยค่ะ ครั้งนี้เป็นเรื่องท้าทายศิษย์วัดมาก ไม่รู้จะรอดกันหรือเปล่า ข้ามคืนเคยมาแล้ว เก่งแล้ว แต่ว่าสวดไม่หยุด 3 วันสามคืน (ห้ามหยุด) นี่จะผลัดเวรกันยังไง เราก็เลยต้องมาหาอาสาสมัครไปร่วมด้วยช่วยกันเปลี่ยนกะ หลวงพ่อท่านก็ไม่คาดหวังเพราะสมัยนี้มันระดมศรัทธายาก "พวกเราบอบบาง ความอดทนน้อย ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า..? "   ยังไงก็ได้แต่ว่า "ห้ามหยุด" เด็กวัดต้องไปใช้ปัญญาเอา ว่าจะทำยังไง ก็มีโปรโมชั่นเล็ก คือเริ่มสวดสะสมแต้มมาจากที่บ้านได้เลยค่ะ สวดทุกวันให้ได้ 2601 จบ หรือว่ามาร่วมสวดที่วัดตามกำลังของเรา คือภาพรวมก็ได้ 2601 จบ เช่นกัน จิ้มเครื่องคิดเลขกันมาแล้ว สามวันสามคืนค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:07:09

ความคิดเห็นที่ 10 คนเป็นพ่อแม่มาสวดมนต์ไม่ต้องห่วงครอบครัว เอาเด็กๆ มาวิ่งเล่นได้ค่ะ ที่วัดมีสนามเด็กเล่นให้เด็กๆ แล้วค่ะ  แต่ต้องหาเต้นท์มากางให้นอนค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:10:13

ความคิดเห็นที่ 11 อย่างที่บอก จะมาร่วมบางส่วน หรืออยากท้าทายตน สร้างขันติบารมี เนกขัมมะบารมี จะมาลุยเนสัชชิกกับเราก็ได้ค่ะ ในแต่ละวันจะมีงานพิธีหลากหลาย คือมีกิจกรรมทั้งทาน-ศีล-ภาวนา เผื่อสำหรับคนไปกลับ แวะมาได้แป๊บนึงต้องกลับก่อน หรือว่าจะมาบวชยาวๆ ภาวนาต่อเนื่องก็ได้ สำหรับคนที่มีเวลาน้อย แนะนำวันที่ 3 ถ้ามาตั้งแต่บ่ายๆ ร่วมสวดอิติปิโสแล้ว ตอนกลางคืน ร่วมพิธีภาณยักษ์ได้ แล้วเนสัชชิกต่อ พอเช้าขึ้นมาใส่บาตรหลวงพ่อ ต่อด้วยพิธีชักพระ หล่อพระอุปคุต เย็นๆ ค่อยกลับบ้าน การแต่งกาย สวมชุดขาว หรือชุดสุภาพก็ได้ ถ้าไม่ได้มาบวชก็แต่งชุดปกติได้ค่ะ แต่ว่ามีชุดขาวก็ดีค่ะ เรามีโรงทานอาหารสามมื้อในช่วงวันงานค่ะ ที่หลับที่นอนบอกไว้เลยจะไม่สะดวก ถ้ามาค้างคืน ควรมีเต้นท์มาด้วย ช่วงนี้อาจมีฝนบ้างเตรียมตัวช่วยเกี่ยวกับเรื่องฝนมาด้วยก็จะสะดวกขึ้นค่ะ มีที่ร่มให้กางเต้นท์แน่นอน แต่ว่าในบริเวณสวดมนต์นั้น เรามีศาลาธรรมแล้วค่ะ ไม่ต้องสวดกลางแจ้งแล้ว จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:17:23

ความคิดเห็นที่ 12 สาธุ สาธุ สาธุ  บุญใหญ่กำลังใจล้น : D จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:17:47

ความคิดเห็นที่ 13 คนที่อยากมากราบหลวงพ่อ แล้วแวะมาแจมอิติปิโส 2601 จบด้วย ก็สามารถทำได้ค่ะ ในวันงาน 1-3 หลวงพ่อรับแขกตามปกติค่ะ ใครอยากจะมากราบปรึกษาสภาวะ การภาวนา ถามปัญหาธรรม การปฏิบัติ  หรือจะมาขอพึ่งร่มโพธิ์ร่มไทร หมวดแก้ทุกข์ หมวด "อกหัก หลักลอย คอยงาน สังขารโทรม" ก็สามารถทำได้ตามปกติ วันละ 6 รอบ ศึกษาเวลาได้จากในเวบ www.visudhidham.com บอกไว้เลยในการแก้ไขปัญหาชีวิตและทรัพย์สิน หลวงพ่อเมตตาแนะนำให้ได้ เช่นเราตกงานจะได้งานไหม ป่วยไข้ทำยังไงไม่หาย ค้าขายไม่ดี มีกรรมหนักอะไรยังไง ท่านใจดีรับแก้ให้หมดล่ะ  แต่ว่าถ้าไม่มีเวลามาบวช จะเอาศักดิสิทธิ์แบบไม่ทำเอง ก็แก้ไม่หายหรอก จะแก้ได้ ต้องจับบวชสถานเดียว วิธีแก้ไขทุกอย่างในชีวิตแนวหลวงพ่อใหญ่ บวช 9 วันทุกรายค่ะ  "บวช 9 วัน รักษาทุกโรค.." ก็คือการปรับวิถีชีวิตใหม่ โดยใช้ธรรมโอสถ เพื่อแก้ไข บรรเทา "โรคอันเป็นเหตุของทุกข์ทั้งหลาย โรคอันเป็นเหตุของสภาวะไร้สุขภาวะ โรคอันเกิดจากผิดศีลผิดธรรม" โรคกาย โรคใจ โรคนิสัยไม่ดี โรคขี้เกียจ โรควิตกกังวล โรคหวาดระแวง โรคไม่มั่นใจตัวเอง โรคจากการใช้ชีวิตอย่างขาดสุขภาวะมานาน กินไม่เป็น นอนไม่เป็น อยู่ไม่เป็น ก็พฤติกรรมมันทำให้เกิดโรค ก็ต้องมาแก้ที่กรรมล่ะค่ะ   ในการบวชคือเข้าคอร์สภาวนา ทำความดีตั้งแต่เช้าจรดดึกทุกวัน ถือศีล 8 สวดมนต์วันละ 5 ชั่วโมง เช้าหนึ่งกลางคืน 4  กลางวันก็ทำสมาธิเดินจงกรม  ฟังเทศน์ ไม่มีการเรียกเงิน ไม่มีพิธีแก้กรรมอะไรทั้งนั้น พิธีแก้กรรมคือทำความดีทุกอย่างที่ทำได้ ทานศีลภาวนา หรือช่วยงานวัดประจำวัน ปัดกวาดเช็ดถู ซึ่งคนจำนวนมากเขามาแก้แล้ว แก้ได้จริงค่ะ  เห็นว่า เจอคอร์สทหารพรานเข้าไป 9 วันกลับบ้านแล้ว "กรรมดีขึ้นเป็นกอง" กรรมเกิดจากพฤติกรรมไม่เหมาะสม จะสร้างนิสัยบุญ ให้กรรมดีขึ้น ต้องใช้เวลา 9 วันค่ะ ใครที่ยากจน ไม่มีเงินรักษาโรคบ้าง คิดว่าตัวเองมีกรรมหนักไม่รู้จะหาใครช่วยแก้ เงินก็ไม่มีไปหาหมอดู อะไรทำนองนี้ ก็มาที่วัดนี่แหละ ไม่ต้องใช้เงินหรอก ดังนั้นในช่วงเทศกาลพุทธชยันตี อยากแก้กรรม ก็มาแก้กรรมได้ตามปกติ ท่านบอกว่า "ใครจะปลดทุกข์แก้กรรม ก็ทำไป ใครจะเอาบุญทำทาน ก็ไปทางนึง  ใครจะเอาปัญญา สมาธิ ภาวนา ก็มีที่ทางให้ มีอาจารย์สอน.. ขอให้พากันมาวัด" ค่ะ จริตทั้ง 6 อยู่ร่วมกันได้ค่ะ ศึกษาจากกันและกัน เห็นทุกข์เห็นธรรมเร็วดีค่ะ จบด้วยขบวนแห่ชักพระค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:42:41

ความคิดเห็นที่ 14 เด็กๆ มาร่วม ได้ดูพิธีสวยๆ เป็นบุญใจ น่าตื่นเต้น ไม่ต้องไปไกลมากค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:51:08

ความคิดเห็นที่ 15 บางทีก็ร้อนโพดๆ ช่างกล้องตาไว จับมาให้เป็นภาพแสดงธรรม จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 09:52:45

ความคิดเห็นที่ 16 "รักษ์โลก รักษาโลก ..พุทธชยันตี กูวิฤติโลก สืบชะตา รักษาโลก" พระครูพิทักษ์ศาสนวงศ์ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 10:20:52 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 10:20:18 แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 10:16:45 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 10:16:29

ความคิดเห็นที่ 17 เค้าไม่ได้งมงาย แต่เขาเชื่อว่าพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ช่วยลดวิกฤติโลกได้จริงๆ โลกกำลังป่วย ช่วยกันรักษา พวกเราร่วมแจมได้ค่ะ ทำให้กุศลกรรมเกิดมากๆ เพิ่มความสว่างให้โลกได้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 10:18:03 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 10:17:54

ความคิดเห็นที่ 18 แอร๊ยยยส์ อยากไป วันที่สองติดงานค่ะ ไม่รู้จะได้ไปไหม อนุโมทนาบุญกับผู้ที่ไปสวดมนต์ล่วงหน้าค่า บุญหนักนะครั้งนี้ อิอิ จากคุณ : แม่ผั่น (nopas) เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 11:14:15

ความคิดเห็นที่ 19 ไปแน่นอนจ้า สวดอิติปิโส 2601 จบ .. ชีวิตนึง คงมีได้ครั้งเดียวล่ะนะ 55+ จากคุณ : blessed เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 11:18:00

ความคิดเห็นที่ 20 ยังไงจะไปให้ได้ค่า แต่จะสวดสวด 2601 จบ ตั้งแต่วันนี้เลย สามอาทิตย์ คงพอทันอยู่หรอก จากคุณ : Tarocchi เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 11:36:06

ความคิดเห็นที่ 21 คิดว่าเพื่อนๆกับญาติๆจะไปเฉพาะวันที่ 4 หรือไปคืนวันที่ 3 ค่ะ เพราะวันที่ 4 นี่จะได้ตักบาตรกับหลวงพ่อ แต่ตัวเองกับครอบครัวจะไปตั้งแต่วันที่หนึ่งค่ะ ในชีวิตจะมีหนเดียวที่จะได้ร่วมพิธีแบบนี้ อิติปิโส 2600 จบ โอ้ แม่เจ้า เคยแต่ไปสวดมนต์ข้ามคืน ซึ่งทำสมาธิได้ดีมากๆ เข้าไปนั่งสวดเฉยๆก็เข้าสมาธิเลย แต่ว่าจะไม่ไปค้างในวัดค่ะ คาดว่าหลายคนคงจะไปค้างรีสอร์ตแถวๆดอนเจดีย์ค่ะ แล้วขับมาวัดก็แค่ไม่กี่นาทีเอง จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 11:38:23

ความคิดเห็นที่ 22 วันที่ ๔ ดิฉันกับพี่ๆ น้องๆ และครอบครัวได้จัดหาอาหารไปตั้งโรงทานที่วัดนะคะ อาหารเป็นข้าว, ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น และไอศกรีมอร่อยๆ ขอเรียนเชิญทุกท่านค่ะ จากคุณ : บุษยมาศ เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 11:57:02

ความคิดเห็นที่ 23 ได้ค่ะ คุณยุ้ย ค้างนอกวัดก็ได้ ก็สะดวกดี แต่ควรมาร่วมภาวนาในวัดนะคะ ชาวพันทิปที่รู้จักวัดแล้ว หรือเคยไปร่วมสวดมนต์แล้ว ก็ไว้เจอกันวันงานจ้า.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 12:00:09

ความคิดเห็นที่ 24 โมทนาสาธุกับคุณบุษยมาศและครอบครัวด้วยค่า ไม่เจอกันนานเลย โมทนาสาธุอย่างแรงเลยค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 12:01:18

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณจขกท.มากคะ ที่นำข่าวสารมาแจ้งให้ได้ทราบกัน จากคุณ : อาณาจักรสีเขียว เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 12:16:45

ความคิดเห็นที่ 26 กำลังลุ้นอยู่ว่าจะลางานได้กี่วันอ่ะนะ    ยังไงคงไปไม่เกินวันที่ 4  ละหว่า    แล้วเจอกันเน้อ  จากคุณ : ใจขึ้น เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 12:52:14

ความคิดเห็นที่ 27 อยากให้ไปลองเนสัชชิกกัน เพราะว่ามันเหมาะกับคนรุ่นใหม่อย่างเราอ่ะ.. ถึงใจพระเดชพระคุณดีจริงๆ มีคนนึงเขียนมาหลังไมค์ บอกอยากเห็นผีค่ะ  แกเห็นเราพูดถึงผีบ่อยๆ เลยบอกไปลองบวช 9 วันดู รับรองได้เห็นจนตาแฉะ.. 555 แล้วจะชินกับเรื่องผีๆ ไปเล้ยย....   เห็นหน้าตัวเองในกระจกก็.. อิผี...อิผี ตัวเราเองนี่มันผีชัดๆ ตาโหลเชียว..อดนอน..555   ล้อเล่นน่ะค่ะ ถ้าใครไปวัดเจอผีจริงๆ แนะนำให้ขอหวยซะเลย..  555 การเนสัชชิก หรือ เนสัชชิกังคะ เป็นหนึ่งในธุดงค์วัตร 13 คือการสมาทานถืออิริยาบถนั่ง-อิริยาบถยืน-อิริยาบถเดิน เพียง 3 อิริยาบถ ไม่อยู่ในอิริยาบถนอน โดยมากถือ " การนั่ง " เป็นวัตร  โดยให้สมาทานว่า " เสยยัง ปะฏิกขิปามิ เนสัชชิกังคัง สะมาธิยามิ " (ส่วนของสายวัดป่านั้นจะมีวิธีการเพิ่มออกนอกไปจากคัมภีร์อีก คือ ละเว้นการหลับด้วย ซึ่งก็ทำได้ไม่ผิด) "การถือ เนสัชชิก คือ ปฏิบัติในอิริยาบถนั่ง ยืน เดิน ไม่นอน หากง่วงนอน ก็จะไม่เอนกายลงนอนจะเพียงแต่พิ​งเสานั่งหลับเท่าที่จำเป็นแก่ร่​างกายเท่านั้น ในช่วงพรรษาก็พยายามตั้งใจถือเน​สัชชิกตลอดพรรษา ปรารภความเพียร ไม่เห็นแก่นอน เพื่อสร้างวิริยะ แต่ก็มักจะแพ้ ที่ทำได้ครบสมบูรณ์ตลอดพรรษาก็เ​ป็นพรรษาที่ 8 เมื่ออยู่ประเทศอินเดีย" จากหนังสือมีสุข ในหัวข้อ การปฏิบัติธรรม คือ ชีวิตที่เราวางแผนไว้แล้ว ของพระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 13:16:35

ความคิดเห็นที่ 28 ที่มาเชียร์วัดนี้ นอกจากเป็นวัดที่เราไปประจำ ก็เพราะมีจุดเด่นคือ เป็นวัดที่มาได้ทั้งครอบครัวค่ะ มีกิจกรรมที่หลากหลายให้คนทั้งบ้านได้มาอยู่วัดด้วยกันค่ะ คือคุณพ่อคุณแม่คุณตาคุณยาย เขามีกิจกรรมบำบัด นวดแผนไทย ฤาษีดัดตน คือเกี่ยวกับสุขภาพก็แยกไปมุมนึง  เด็กๆ ก็วิ่งเล่นไปมุมนึง ค่ำๆ มีการ์ตูนให้ดูด้วย หนุ่มๆ สาวๆ ก็มาหัดเนสัชชิกกันค่ะ มาเป็นกลุ่มสนุกดี เหมือนไปเข้าค่าย แบบเอามันส์ (ต้องใช้คำนี้ เวลามีงานวัดคนมาก ไม่เงียบสงบค่ะ แต่มันจะได้กำลัง คึกคึกคึก ฮึกเหิม ถ้าจะเอาสงบต้องเวลาไม่มีงานวัดค่ะ อันนั้นจะได้ความสงบ มีสวนป่า 5 ไร่ ให้นอนโคนไม้ได้ด้วย) การจัดกิจกรรมสวดมนต์เพื่อช่วยให้ผ่านง่ายๆ แบบจะได้มีกำลังใจ มือใหม่ก็ทำได้ค่ะ พอเราสวดมนต์ง่วง ก็ไปเดิน ไปยืน เดินแล้วก็มานั่งสมาธิ แล้วก็มาสวดมนต์ต่อ วนเวียนไปแบบนี้ทั้งคืน พอเช้าก็ ทำวัตรเช้า ใส่บาตรเลยค่ะ ใส่บาตรเสร็จทานอาหาร แล้วก็เพียรต่อ ให้ครบรอบ 18 ชั่วโมง 24 ชั่วโมง หรือ 36 ชั่วโมง ก็แล้วแต่กำลังกายกำลังใจของเรา หลวงพ่อใหญ่ชวนพวกเราถือเนสัชชิกบ่อยๆ เพราะหลวงพ่อท่านถือเนสัชชิกมาเป็นเวลานานหลายพรรษามาก  ท่านเป็น "ผู้มีราตรีเดียว"  จึงไม่เคยนอน.. ไม่เคยนอนมาเป็นสิบๆ พรรษา (จนจำไม่ได้)  ท่านจึงสอนเราด้วยถ้อยคำง่ายๆ ว่า "เดิน ยืน นั่ง..ไม่นอน ..เราได้ดีเพราะหัวเราไม่ติดหมอน.." พวกเราคงทำตามหลวงพ่อไม่ไหว อินทรีย์อ่อนปวกเปียก แต่ว่านานๆ ที มีเทศกาล ลองเนสัชชิกบ้าง สู้กับกายใจตัวเอง โต้รุ่งได้สักคืนสองคืน ทำได้หนนึง ต่อ 4 เดือน หรือบางคน ต่อปี หรือบางคน ต่อหลายๆ ปี  ทำให้ได้สักครั้งนึง ได้ลองสักคืนนึ่ง.. ก็โอเคนะคะ ถือซะว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือก ของคนรุ่นใหม่ก็แล้วกันค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 13:31:02

ความคิดเห็นที่ 29 ทีแรกเห็นคำว่า พุทธชยันตี ก็แทบไม่อยากกดเข้ามาดูแล้วครับ แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ อย่าปิดหู ปิดตา เข้ามาดูซักหน่อย โอ้ว ว แม่เจ้า คุณพี่ chaosy ก็เป็นไปกับเค้าเหรอนี่ แต่สุดท้ายพออ่านถึง คห 3 ถึงได้เข้าใจเกี่ยวกับการจัดงานนี้ อนุโมทนา สาธุ ครับ จากคุณ : บ่าวบ้านบาก เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 15:15:16

ความคิดเห็นที่ 30 นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ วันทามิ พุทธัง, สัพพัง เม โทสัง, ขะมะถะ เม ภันเต วันทามิ ธัมมัง, สัพพัง เม โทสัง, ขะมะถะ เม ภันเต วันทามิ สังฆัง, สัพพัง เม โทสัง, ขะมะถะ เม ภันเต ----------------------------------------------------- ด้วยกายก็ดี  ด้วยวาจาก็ดี ด้วยใจก็ดี กรรมอันน่าติเตียนอันใด ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ต่อพระอาจารย์ใหญ่ก็ดี  ต่อคุณ chaosy ก็ดี ต่อคุณ tarocchi และคุณแม่ก็ดี รวมถึงสมาชิกท่านอื่นๆ ในกลุ่ม facebook ก็ดี   ขอโปรดงดซึ่งโทษล่วงเกินอันนั้น  เพื่อการสำรวมระวังในกาลต่อไป จากคุณ : ทางปลอดภัยจากความตาย เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 15:32:45

ความคิดเห็นที่ 31 สาธุ เข้ามาอโหสิกรรม แบบงงๆ ค่ะ  ไม่เป็นไรค่ะ อโหสิกรรมทุกอย่างทุกประการเลยค่ะ คุณ ทางปลอดภัยจากความตาย ปล่อยวางด้วยนะคะ อะไรก็ตามมันก็ไม่ใช่เราหรอก แม้ความคิดก็ไม่ใช่เรานะ เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป เพราะความไม่รู้แหละ ไม่เป็นไรไม่เป็นไรนะ..  ผ่านไปแล้วแล้วไปจ้า --------------------------- คุณบ่าวบ้านบากคะ  เขาเอาเรื่องสำคัญๆ ของชาวพุทธไปใช้เป็นเครื่องหมายการค้าหมดแว้ว.. ช่างน่ากลุ้มจริงๆ   ที่วัดยังโดนข่าวลือเลยว่าเป็นสาขาของสำนักนั้น เหอๆ เคยบ่นว่าจะหาทางแก้ข่าวยังไง  หลวงพ่อบอกช่างเหอะ ทองแท้ไม่แพ้ไฟ ท่านทนต่อการพิสูจน์ค่ะ  ใครเข้าใจผิดก็เปิดเว็บ ขอขมาท่านหน้าเว็บก็ได้ค่ะ ใครถามเราก็บอกว่า ที่วัดเป็น "ธรรมยุติ" นะคะ สายธรรมยุติกนิกาย วัดที่สามของสุพรรณบุรี พุทธชยันตีเขาฉลองกันทั่วในหมู่ชาวพุทธค่ะ เราจินตนาการได้เลยว่าถ้าเกิดสมัยโบราณ มีหวังฉลองกันทั้งแผ่นดิน   นึกถึงครั้งที่พระอุปคุตถูกเรียกขึ้นมาให้ทำงานใหญ่อ่ะค่ะ ตามตำนานน่ะ เขาฉลองกันเป็นปีเลยค่ะ ปัจจุบันนี้ หลวงพ่อบอก "ก็ได้แค่นี้แหละ ทำเท่าที่ทำได้" แหม..จะสวดบูชาคุณพระรัตนตรัยสักสามวันสามคืน ยังไม่รู้จะไหวรึป่าวเลยนี่คะ.. สืบทอดพระศาสนามันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย นึกถึงพระพุทธเจ้าแล้วยิ่งควรจะบูชา ท่านทรงตรัสรู้ กว่าจะสำเร็จ ตั้งศาสนา กว่าจะสำเร็จ.. สู้กับลัทธิต่างๆ มา เรียกว่าพลิกฟ้า พลิกดิน ไม่ทราบท่านทำได้อย่างไร สุดยอดจริงๆ แค่สู้กับพรามหณ์ก็สุดยอดแล้ว เหลือตกมาถึงเราได้ จนเรามีพระไตรปิฏกให้ศึกษามีครูอาจารย์สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น มันไม่ใช่เรื่องง่ายจริงๆ.. ศาสนาพุทธ คงไม่ใช่แค่พูดถึงแล้วจะตั้งอยู่ได้ จริงไหมคะ.. แก้ไขเมื่อ 19 พ.ค. 55 16:51:19 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 16:51:02

ความคิดเห็นที่ 32 เข้ามาอโหสิกรรมให้คุณ ทางปลอดภัยจากความตาย ค่ะ เราเองต่างก็เดินมุ่งหน้าขึ้นเขาลูกเดียวกัน มันเดินขึ้นได้หลายทาง ตราบใดที่เราเพียรเดิน ไม่หยุด ไม่ท้อ สักพักหนึ่งก็จะแจ้งว่า มันไม่จำเป็นต้องเดินทางเดียวกัน เพราะฉะนั้นมันไม่จำเป็นต้องเดินเหยียบกันหรอก เดินคนละสายก็มีสิทธิ์ถึงยอดเหมือนๆกัน เราเองก็เป็นผู้ปฏิบัติเหมือนๆกัน พอได้มาเจอครูบาอาจารย์ที่ปฏิบัติชอบ "ตั้งตรงที่ธรรม ทำเพื่อธรรม อย่างแท้จริง" ก็เลยอยากสนับสนุนให้คนอื่นได้รับโอกาสนี้เช่นเดียวกัน ชีวิตนี้ สั้นนัก อย่าปล่อยเวลา อย่าเสียเวลาจับผิดคนอื่นเลย อย่าปล่อยตัว ปล่อยใจ ให้ผีแทรกบ้าง มารแทรกบ้าง เลิก ละ วาง  ทิฐิมานะ ที่สั่งสมมาทั้งชีวิตเถิด เพราะมันช่วยอะไรเราตอนใกล้ตายไม่ได้เลย มาเร่งปฏิบัติกันเถิด โอกาสดีขนาดนี้แล้ว จะได้ไม้เสียใจตอนใกล้ตายว่าโมแต่ทำอะไรอยู่ ขอให้คุณเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ จากคุณ : Tarocchi (Tarocchi) เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 18:27:33

ความคิดเห็นที่ 33 อนุโมทนาบุญครับสาธุคุณ chaosyคุณ บุษยมาศและทุกท่านที่ร่วมบุญนี้ครับ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 20:21:14

ความคิดเห็นที่ 34 อนุโมทนาบุญนะค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 19 พ.ค. 55 23:35:09

ความคิดเห็นที่ 35 อนุโมทนาบุญด้วยครับ ขอให้ได้บุญเยอะๆทุกคนเลยครับ จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 02:11:46

ความคิดเห็นที่ 36 มาเล่าเรื่องประเพณีชักพระต่อค่ะ (ไม่ขึ้นกระทู้ใหม่นะคะ ขอใช้พื้นที่เดิมให้คุ้มแล้วกัน) ว่าด้วยเรื่องชักพระ เวลามีคนมาถวายพระพุทธรูป.. หลวงพ่อท่านจะให้มีพิธีชักพระ-ยกพระ ทุกๆ วันสำคัญทางศาสนาหรืองานบุญประเพณีต่างๆ  คือวัดมีงานเมื่อใดก็ต้องมีการชักพระยกพระกันเมื่อนั้นค่ะ   หลวงพ่อบอกคนเขาชอบถวายพระพุทธรูปกัน ท่านก็เมตตารับ (แม้บางทีจะมีเยอะแล้ว) แต่ท่านบอกว่าจริตเขาชอบถวายพระ ต้องให้เขาถวาย เพราะอย่างไรก็ดี พระพุทธรูปจะอยู่เป็นมรดกของลูกหลานต่อไปอีกนานค่ะ พอหลวงพ่อให้จัดพิธีชักพระ บางคนก็จะอุบอิบ (งานปกติของวัดก็เยอะแล้ว) ตามประสาคนปัญญาอุบอิบ บางทีพระใหญ่มาก จะแห่ยังไง จะยกยังไง ลูกศิษย์ก็อุบอิบค่ะ บ่นกันอุบอิบ แบบให้เขาถวายตั้งเลยไม่ได้เหรอ ไหนๆ เขาขนมาแล้ว.. อะไรทำนองนี้.. แต่ว่าเราบ่นอุบอิบ แต่เวลาท่านบอกให้ทำก็ทำกันค่ะ เพราะแน่ใจว่าหลวงพ่อต้องมีเหตุผลอะไรซักอย่างที่เราไม่ทราบ แต่พอทำไปแล้ว งานมันสอนค่ะ ว่าชักพระได้อะไร (นอกจากได้ฝึกทำงาน) ทำไมต้องแห่พระ ชักพระ ยกพระ..  ทำไมต้องประกอบทำให้เป็นพิธีกรรมขึ้นมา ลองให้ดูภาพกันนะคะ   ฟ้องด้วยภาพค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:51:08

ความคิดเห็นที่ 37 อ่านแล้ว อยากจะมาร่วมชักพระ งานนี้ก็มีนะ ใครจะมาก็มา เขาชักพระ และก็หล่อพระอุปคุตด้วยค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 11:13:04 แก้ไขเมื่อ 20 พ.ค. 55 09:54:53 จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:53:02

ความคิดเห็นที่ 38 เวลาชักพระ เขาต้องตั้งขบวนแห่พระก่อนค่ะ เกณฑ์พ่อขาวแม่ขาวที่มาบวช (ที่ว่าแก้กรรมบ้าง ฝึกภาวนาบ้าง รักษาโรคบ้างนั่นแหละ มีเท่าไหร่ ต้องมาช่วยกันเดินขบวนค่ะ) ตอนตั้งขบวนร้อนมาก ต้องอดทน แต่ถ่ายรูปออกมา ดูฮึกเหิมมั่กๆ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:55:30

ความคิดเห็นที่ 39 ลูกเด็กเล็กแดงได้มีส่วนร่วม กับกิจกรรมทางศาสนา ใครชอบจับลูกแต่งตัว ก็จัดไป ทำให้มีสีสันดีเหมือนกัน จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:57:38

ความคิดเห็นที่ 40 ยิ้มสาวรุ่นค่ะ  ไม่บอกก็รู้ว่าคนสุพรรณฯ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 09:59:54

ความคิดเห็นที่ 41 ระหว่างรอฤกษ์เคลื่อนขบวน  ก็ต้องมีปาฏิหาริย์ซะหน่อย.. ไม่งั้นไปสมเป็นวัดตรีวิสุทธิธรรม ต้องมีตื่นเต้นบ้างค่ะ ทันใดนั้น ลมก็พัดมาจากไหนไม่ทราบ วูบใหญ่ๆ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:02:28

ความคิดเห็นที่ 42 อนุโมทนาสาธุครับ สวด 2601 จบ นี่จะใช้เวลากี่วันกี่คืนครับนี่ หลายปีก่อนโน้นเคยไปที่เกาะมหามงคลกาญจนบุรี เขาสวดกันทุกปี แต่จำไม่ค่อยได้ว่าเขากันสวด 1 พันจบหรือ 2 พันจบนี่แหละ สวดต่อเนื่องไม่หยุดทั้งวันทั้งคืนก็ใช้เวลาราว ๆ 2-3  วันแล้วอะ จากคุณ : time wait for no one เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:02:36

ความคิดเห็นที่ 43 ไม่ใช่ลมธรรมดา เพราะตามธรรมดา เมื่อกี้แดดร้อนเป็นปกติ อันนี้เป็นลมหมุนลูกเล็กๆ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:03:36

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ time wait for no one คะ คำนวณไว้ว่า สามวันสามคืนค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:04:22

ความคิดเห็นที่ 45 ประมาณว่า พายุเข้า ทุกคนเลิ่กลั่ก.. เกิดอะไรขึ้น มีคนฉลาดตะโกนว่า สงสัยเทวดามาอนุโมทนากัน มีเสียงสาธุ ตามมา.. คิดให้มันบวกไว้ก่อนซี... จริงป่ะ ? ก็ดูลมกันไปค่ะ ธาตุลมแสดงให้ดู จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:07:05

ความคิดเห็นที่ 46 จากนั้นก็ดับบ...ปายยยยยย เฉยๆ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:07:52

ความคิดเห็นที่ 47 เราก็เคลื่อนขบวนกันค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:08:50

ความคิดเห็นที่ 48 พระพุทธศาสนาจะเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ก็ต้องอาศัยอุบาสกอุบาสิกานิ.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:10:20

ความคิดเห็นที่ 49 ช่วงแรกๆ เคลื่อนสบายๆ สมาธิตั้งมั่นมาก.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:11:52

ความคิดเห็นที่ 50 หลวงพ่อบอก "มือขาว มือดำ มือใหญ่ มือเล็ก มือชาย มือหญิง ท่านไม่สน เกิดเป็นคนไทย มาเจออาตมา.. อาตมาจับบวชหมด" บวชแล้ว ก็มาช่วยกัน "ชักพระ" จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:19:30

ความคิดเห็นที่ 51 การชักพระ ให้ถึงศาลาใหญ่ ประดิษฐานไว้  ต้องใช้หลายมือมากจริงๆ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:21:53

ความคิดเห็นที่ 52 หลวงพ่อพุทธโสธร ท่านศักดิ์สิทธิ์และใจดีมาก ท่านให้พรเก่ง แต่ทานเดินเองไม่ได้ค่ะ  พวกเราต้องพาท่านเดินต่อไปค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:24:47

ความคิดเห็นที่ 53 แต่อย่าพากันลากอย่างเดียว ช่วยเหลียวมองดูท่านด้วยนะ ยังปกติสมบูรณ์ดีหรือเปล่า? จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:27:27

ความคิดเห็นที่ 54 เห็นแบบนี้แล้วชื่นใจ ไม่ต้องถึงล้านก็ได้ ขอให้ "ชาติไทย" กับ "ศาสนาพุทธ" อยู่เคียงคู่กัน เป็นธงยอดเสานะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:32:33

ความคิดเห็นที่ 55 ในที่สุดก็มาถึงศาลา จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:43:46

ความคิดเห็นที่ 56 แล้วก็ยกท่านขึ้นแท่นบูชา จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:45:20

ความคิดเห็นที่ 57 กว่าจะมีหลวงพ่อโสธร ประดิษฐานให้เราพร้อมบูชา มันไม่ง่ายเลย.. พระพุทธรูปจึงไม่ใช่แค่ตัวแทนของพระพุทธเจ้า แต่ได้รวมเอาแรงกายแรงใจของพุทธบริษัทช่วยกัน ชัก ลาก ดัน และยก.. ผ่านโค้งอันตรายมาได้หลายโค้ง  กว่าจะตั้งได้ บูชาได้.. ไม่ใช่ง่ายเลย.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:54:28

ความคิดเห็นที่ 58 เมื่อเห็นค่า.. ก็รัก.. และช่วยกันรักษา.. กราบไหว้บูชาด้วยใจศรัทธา ไม่หวั่นไหว.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 10:56:37

ความคิดเห็นที่ 59 สร้างพระ หล่อพระ ชักพระ ยกพระ... ของง่ายๆ แค่นี้ ยังไม่ใช่เรื่องง่าย.. องค์พระศาสดาของพวกเรา ทรงสร้างศาสนา ก่อตั้งศาสนา ทรงตรากตรำสั่งสอน โปรดสัตว์โลก ปราบมิจฉาทิษฐิ ลัทธิต่างๆ กว่าจะประดิษฐานพระพุทธศาสนาไว้ในโลกได้เป็นผลสำเร็จ สืบทอดเป็นมรดกต่อมา จากชมพูทวีป สู่ดินแดนสุวรรณภูมิ ตราบจนทุกวันนี้ 2600 ปี... พุทธชยันตี..   จึงเป็นเรื่องที่สมควรฉลอง..   ฉลองด้วยใจของเรา กายวาจาใจ สุดแต่อัธยาศัยของพวกเรานะ นะโมตัสสะ ภะคะวะโต. อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. นะโมตัสสะ ภะคะวะโต. อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. นะโมตัสสะ ภะคะวะโต. อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ. ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่. พระผู้มีพระภาคเจ้า อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น ด้วยเศียรเกล้า จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 11:11:13

ความคิดเห็นที่ 60 อนุโมทนา สาธุค่ะ เพิ่งทราบว่า เปลี่ยนชื่อจากวัดไตรรงค์ฯแล้ว เห็นภาพงานแล้ว รู้สึกถึงความยิ่งใหญ่ของศรัทธาชาวพุทธมากค่ะ จากคุณ : มด2002 เขียนเมื่อ : 20 พ.ค. 55 19:38:29

ความคิดเห็นที่ 61 ทางวัดได้รับการตั้งเป็นวัดแล้วค่ะ มหาเถระสมาคมให้เปลี่ยนชื่อจากสำนักสงฆ์ไตรรงค์วิสุทธิธรรม เป็นวัดตรีวิสุทธิธรรมค่ะ ท่านปรับชื่อให้ใหม่ เรียกง่ายขึ้นค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 05:14:32

ความคิดเห็นที่ 62 vote ครับ สาธุ จากคุณ : โชติช่วงชัชวาล เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 13:08:42

ความคิดเห็นที่ 63 ใีครไปงานนี้ ไม่มีที่พัก  ยินดีให้พักบ้านเราได้นะคะ ไม่ไกลจากวัดเท่าไรค่ะ ประมาณ 40 กว่าโล รับเฉพาะ ญ นะคะ จากคุณ : หน่วยย่อย889 เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 15:23:06

ความคิดเห็นที่ 64 โห สาธุเลย ค่ะ เขียนดีมากเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกฮึกเหิม อยากไปเลยค่ะ รู้สึกถึงความสำคัญของประเพณีโบราณต่างๆ ที่เกี่ยวพันต่อศาสนาค่ะ คิดว่าปีนี้คงไม่พลาดค่ะ จากคุณ : Kokara เขียนเมื่อ : 21 พ.ค. 55 16:19:21

ความคิดเห็นที่ 65 ถ้าจะไปร่วมต้องติดต่อที่วัดอย่างไรคะ จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 09:46:13

ความคิดเห็นที่ 66 ไม่ต้องติดต่อเลยค่ะ ถ้าไปร่วมก็ไปเลย ตามกำหนดการ จะไปวันไหนเวลาใดก็ได้ค่ะ คือเวลาไปวัดนี่ ไม่ต้องบอกใครเลย เอาตัวพาใจไปด้วยได้เลยค่ะ เมื่อไปแล้ว ก็เลือกเข้าร่วมกิจกรรม เขาก็ประกาศกันหน้างาน เราก็ไปลุยเลย เขาเปิดรับสำหรับคนทั่วไปอยู่แล้วค่า เช่น จะร่วมสวดภาณยักษ์ ถึงเวลา ก็ไปต่อแถวเข้าพิธี หรือจะร่วมสวดมนต์ก็ไปที่จุดทำพิธี ถ้าจะไปค้างก็เตรียมเต้นท์ไปด้วย เพราะว่าที่พักที่วัดไม่สะดวกสบายค่ะ เพื่อนเราส่วนใหญ่นอนงีบในรถค่ะ ห้องน้ำมีพอค่ะ แต่ที่นอนไม่พอค่ะ สำหรับคนจะไปบวชแบบเป็นทางการ จะไปเข้าคอร์สบวชมหากุศล ก็ต้องไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าจะขอบวชต้องทำอย่างไร (ปกติบวช 12.00 น.) ค่ะ คือที่วัด ไม่มีระบบติดต่อล่วงหน้า คือรับหมดค่ะ บวชกันทุกวัน สึกทุกวัน ไปลุยเอาที่วัดเลยค่ะ ---ใครไม่บวช จะพาลูกไปเที่ยวอย่างเดียว ไหว้พระทำบุญ ก็ไปเลยค่ะ ตามเวลาที่แจ้งไว้ ไปตอนไหน กลับตอนไหนก็ได้ค่า---- จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:34:21

ความคิดเห็นที่ 67 แม้แต่การเข้าขบวนแห่พระชักพระ ถ้าเราอยากแจม เราก็ไปก่อนเวลาสัก 2 ชั่วโมง เขาเริ่มต่อคิวตั้งขบวนกัน เราก็ไปต่อท้ายได้เลย แบบเขาไม่มีการบังคับค่ะ แต่เราต้องไปอยู่หลังพวกที่เขามาบวชกันก่อนแล้วค่ะ ถ้าชุดสี ก็แถวหลังสุดค่ะ เขาจะให้ศีลแปดอยู่หน้า ในงานจะมีพิธีหล่อพระอุปคุตด้วยค่ะ สรุปว่าถ้าจะเลือกไปวันเดียว แนะนำวันที่ 4  มิ.ย. ครบทุกอย่าง ถ้าไปเช้า 6 โมง ได้ร่วมใส่บาตรหลวงพ่อใหญ่ ต่อด้วยกิจกรรมต่างๆ ตลอดวันเลยค่ะ แต่ถ้าอยากลองภาณยักษ์แบบกำลังฌาน ต้องไปคืน 3 มิ.ย. โดยไปสัก 1 ทุ่มค่ะ แล้วอยู่ต่อจนเช้าวันที่ 4 เลยค่ะ ส่วนวันที่ 1-2 ก็เน้นชีพรามหณ์ที่วัด ต้องเข้ากะลุยกันเอง แต่ใครจะแวะไปแจมตามเวลาก็ได้อีก  ถ้ามาวันที่ 1-3 ก็ได้เข้ากราบหลวงพ่อด้วย จะแวะมาเที่ยว แล้วไปต่อวัดอื่น หรือไปวัดอื่นก่อนก็ได้ ที่สุพรรณฯทีที่เที่ยวเยอะ แต่ให้มาก่อนกำหนดเวลาที่แจ้งไว้สักชั่วโมงสองชั่วโมง (เพราะมักจะมีปรับนิดๆ เสมอค่ะ) ส่วนวันที่ 4 น่าจะไม่ได้เปิดให้กราบค่ะ ---------------- เวลาวัดมีงาน ที่พักจะประมาณนี้ค่ะ   ทำใจเลยว่า คนเยอะและไม่สะดวกสบาย แต่ไม่ถึงระดับวัดใหญ่ๆ เวลามีงานค่ะ ของเราประมาณ 1000 คนอย่างมากค่ะ ที่เจ็ดสิบกว่าไร่ มีมุมสงบวิเวกได้ค่ะ ห้องน้ำปกติ มีพอรองรับ อาหารพร้อม   --------------------- เราไม่มีมหรสพอะไรทั้งสิ้น  มีแต่กิจกรรมตามประเพณีค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:47:22

ความคิดเห็นที่ 68 อ้อ..ลืมไป มีมหรสพนิดหน่อย  คือการ์ตูนประวัติพระพุทธเจ้าค่ะ วันที่ 1 พิธีเปิดการสวดมนต์ อาจจะมีเด็กๆ จากโรงเรียนมาร่วมแจมค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 11:48:27

ความคิดเห็นที่ 69 : ) ถ้าผมมีวาสนาพอคงจะได้ไปกราบหลวงพ่อ จากคุณ : Mahasati Neo เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 17:38:00

ความคิดเห็นที่ 70 การไปวัด.. สามารถไปด้วยรถส่วนตัว หรือรถตู้ก็ได้ค่ะ ดูที่ในเว็บได้ค่ะวิธีไปวัด ไม่ต้องใช้วาสนาไรมากค่ะ  อิอิ.. ถ้าไม่มีวาสนารีบไปกราบท่านเลยค่ะ หลวงพ่อมีวาสนาแจกค่า..   วาสนาที่หลวงพ่อชอบแจกคือ "ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา" แฮ่.. จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 19:50:11

ความคิดเห็นที่ 71 กราบพระอาจารย์ใหญ่ด้วยเศียรเกล้า... กลับบ้านคราวนี้ .... เตรียมไปทำบุญ คุณแม่่ครบรอบ 70 ปี.... ตรงงานบุญใหญ่พอดี.... บุญของผม จริง ๆ ..... สาธุครับ.... _/\_ จากคุณ : ซำเหมาพเนจร เขียนเมื่อ : 22 พ.ค. 55 20:39:40

ความคิดเห็นที่ 72 สาธุครับคุณ chaosy ผมตั้งใจว่าจะไปให้ได้ครับ จากคุณ : chetchenko เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 17:17:35

ความคิดเห็นที่ 73 อยากไปอะคะไม่ทราบว่านั่งรถทัวร์ไปได้ไหมคะ T-T ไปไม่ถูกจริงๆ อยากไปมากๆๆ จากคุณ : ZUCKERFREI เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 19:37:33

ความคิดเห็นที่ 74 คุณ ZUCKERFREI ลองเช็คเวปไซต์ของวัดนะคะ ก็อปรายละเอียดมาแปะให้ค่ะ http://www.visudhidham.com/joomla/en/maps-transportation.html การเดินทางมาวัดโดยรถประจำทางจากกรุงเทพ ให้โดยสารโดยรถตู้ 1. สายสุพรรณ-ด่านช้าง ให้ขึ้นสาย 69 ขึ้นจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ใต้ทางด่วน) 2.รถตู้สุพรรณ-ด่านช้าง ขึ้นที่กองสลาก ไปเส้นทางเดียวกัน.. บอกพี่คนขับว่าลงทะเลบก ถ้าเดินไปวัดประมาณ 2 กิโล (แม้ว) เมื่อมาถึงแยกทะเลบก ตรงนั้นจะมีปั้มหลอด มีคุณลุงอยู่  บอกคุณลุงว่าจะว่ารถมาวัดไตรรงค์   วิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม)  40 บาทครับ.. (ขากลับขอเบอร์เขาไว้ให้ไปรับ..) อีกวิธีที่จะเข้ามาที่วัดคือเมื่อนั่งรถตู้สาย 69 มาถึงดอนเจดีย์ ให้โทรหาคุณหนา เบอร์ 0822902788 และบอกว่าจะมาที่วัดไตรรงค์วิสุทธิธรรม เพื่อจะนัดให้คุณหนาขับรถออกไปรับที่แยกทะเลบก (ค่ารถประมาณ 40 บาทเช่นกัน) ขากลับให้รอรถตรงทะเลบกจะมีรถตู้เข้ากรุงเทพจะมีป้ายบอกว่าสุดสายกองสลากหรืออนุสาวรีย์ชัยสลับกันมา.. จากคุณ : Tarocchi เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:34:45

ความคิดเห็นที่ 75 เพิมเติม   คุณ ZUCKERFREI    ค่ะ เวลามีงานคนเยาะค่ะ  ที่พักทางวัดอาจจะไม่พอเพียง มีเต็นกองกลางยืมไปใช้ได้ค่ะ   เราไปฝากไว้   แต่งวดนี้ไปคนเดียว  เลยจะนอนที่เรือนนอนแทนค่ะ ออ   คุณหนากับคุณอ้วน   คือคนคนเดียวกันค่ะ  เวลาโทรไปจะได้ไม่งง         แก้ไขเมื่อ 23 พ.ค. 55 20:55:47 จากคุณ : ใจขึ้น เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 20:38:51

ความคิดเห็นที่ 76 ฟันธง รถตู้สาย 69 แจ่มสุด  มาทะเลบกเลย ใกล้ 3 กิโลเท่าน้ัน มากันเถอะ ว่างก็มา มาวันเดียวหรือหลายวันก็มา "มาทำความดีที่สระกระโจม" ค่ะ ใครมาไม่ได้อยากร่วมสวดมนต์ฉลองพุทธชยันตีที่บ้าน หรือที่วัดใกล้บ้านก็โมทนาสาธุเลยค่ะ เรามีเป้า 2601 จบค่ะ ตอนนี้ชวนกันสวดกว่า 60 คนแล้วค่ะ ร่วมสนุกจากทางบ้าน ไปดูรายละเอียดในเว็บวัดก็ได้ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 23 พ.ค. 55 21:01:16

ความคิดเห็นที่ 77 สนใจมากๆๆๆ ค่ะ ไม่ได้ไปซักที   ยังไม่รู้จะยังไงดีเรื่องที่พัก แต่ไงจะพยามไปให้ได้เลยค่ะ จากคุณ : Aloof เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 16:08:25

ความคิดเห็นที่ 78 ดีจ้า  chaosy  ผมไปวัดแล้วอยู่ครบ9วันเลยนะ ทั้งหลวงพี่แม่ชีโรงครัวเขาไม่ยอมให้กลับด้วยเลย วิสาขานี้จะเข้าวัดเตรียมขานนาคแล้วนะจะส่งรูปบวชให้ดูนะ กะจะอยู่ต่อแต่น้องหน้าขาวเขาไม่ยอมเขาว่างจะพาไปวัดวันที่3 และอีก7วันก็จะบวชแล้วนะ จะเอาใจช่วบสวดด้วยนะ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 11:19:39 จากคุณ : chick_alive เขียนเมื่อ : 24 พ.ค. 55 16:10:51

ความคิดเห็นที่ 79 #78 สาธุ จากคุณ : Mahasati Neo เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 01:24:06

ความคิดเห็นที่ 80 สาธุจ้าคุณ chick_alive  ไว้เจอกันที่วัด วันที่ 3 นะ โมทนาด้วยที่บวชศีลแปดได้รอบนึงแล้ว 9 วัน สาธุ สาธุ สาธุ คุณ Aloof มาเหอะ ไม่ยากหรอกที่พักน่ะ  78 เขายังไปแต่ตัว บวชได้เลย แผล่บเดียว เดินปร๋อออกมาแล้วค่ะ ไปตามหาพวกเรา ได้ที่งานเลย พิธีกรก็กลุ่มพวกเราค่ะ ถามหาเขาก็ได้ ถามหากลุ่ม "รสธรรม" ค่ะ  หาคนถ่ายวีดีโอก็ได้ค่ะ  จะได้ดูแลให้ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:59:07

ความคิดเห็นที่ 81 ดีจ้า  chaosy   ตอนนี้ได้กี่คนแล้วอยากไปจังเลยแต่ทุนไม่มีแล้ว  ต้องไปนอนวัดแล้วเมื่อคืนโทรหาแม่ร้องไห้เลย  ไม่ได้คุยกับแม่มา23ปีแล้ว  ว่าจะถามนะว่าเวลาผมบวชแล้วจะส่งบุญแบบเจาะจงตัวคนหรือล้างคำสาบแช่งสาบานต่างๆได้ไหม แบบว่าผมทำไว้เยอะครับ  วันที่ 3ไม่ได้ไปนะครับผมต้องไปอยู่วัดป่าสันติกาวาส เตรียมตัวบวชแล้วครับ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 14:04:02 จากคุณ : chick_alive เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 13:58:53

ความคิดเห็นที่ 82 อยากไปค่ะ คิดว่าจะไปวันที่ 3 แล้วต่อวันที่ 4 ด้วยเลย ไม่ทราบว่าใกล้ๆวัดมี โรงแรม หรือรีสอร์ทบ้างมั้ยค่ะ   เพราะ แม่ อายุมากแล้ว ไม่สะดวกนอนเต้นท์ ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ แก้ไขเมื่อ 29 พ.ค. 55 21:36:02 จากคุณ : momtuk เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 21:32:39

ความคิดเห็นที่ 83 มี รีสอร์ท แถวดอนเจดีย์ค่ะ ห่างวัด 8 ก.ม. น่าจะไหว http://www.thecountryresort.com/ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 08:04:29

ความคิดเห็นที่ 84 สวดอิติปิโสกันตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมงอะครับ วันละกี่จบครับ จากคุณ : เม็ดมะม่วงหิมพานต์ เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 21:10:44

ความคิดเห็นที่ 85 ตอบ คุณเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สวดต่อเนื่อง 2601 จบค่ะ เริ่มจากวัดที่ 1 มิ.ย. ถึง วันที่ 3 มิ.ย. ค่ะ ดูรายละเอียดเพื่มเติมได้จากเวปค่ะ http://www.visudhidham.com/joomla/index.php จากคุณ : Tarocchi เขียนเมื่อ : 31 พ.ค. 55 22:11:49

ความคิดเห็นที่ 86 คือสวดทั้งวันทั้งคืนเลยค่ะ จะมาตอนไหนก็แจมได้หมด ค่ะตลอด วันที่ 1-3 ในวันที่สามนั้นต่อด้วย "พาหุง" จนสว่าง (อาจจะ 108 จบ) วันที่สี่ มี ธรรมจักกัปวัตนสูตร 9 จบค่ะ   อยากแจม มาได้เลย หรือจะร่วมแจมจากทางบ้านหรือวัดใกล้บ้านก็ได้ค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 1 มิ.ย. 55 03:11:22

ความคิดเห็นที่ 87 เราเริ่มสวดกันประมาณบ่ายโมงของวันที 1 ค่ะ พิธีเปิดอย่างง่ายๆ มีเด็กๆ มาร่วมสวดมนต์ด้วย เจี้ยวจ๊าวสนุกมาก จนถึงบัดนี้ ก็ประมาณ 2400 จบแล้วค่ะ คืนนี้เราจะสวดมนต์ข้ามพุทธศตวรรษด้วยกันนะคะ   ก็เอาบุญมาฝากทุกท่านค่ะ ใครทีอยากมาแจม พรุ่งนี้ยังมีพิธีสำคัญ คือใส่บาตรหลวงพ่อใหญ่  ชักพระ ยกพระ และหล่อพระอุปคุตอีกนะคะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 19:55:09

ความคิดเห็นที่ 89 รูปหาย จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:00:27

ความคิดเห็นที่ 90 ผิดรูปอีก ข้างบนเป็นภาณยักษ์ ขอรูปเด็กน้อยอีกที จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:08:52

ความคิดเห็นที่ 91 อนุโมทนาบุญค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 03:03:29