 |
พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์
543 อนาคตของคนจิตเศร้าหมองและผ่องใส http://84000.org/true/543.html
---------------------------------------------------------------- 021 มนุษย์ไปเกิดเป็นสัตว์ได้ http://www.84000.org/true/021.html ------------------------------------------------------- 073 คนเกิดเป็นสัตว์ได้ http://www.84000.org/true/073.html ------------------------------------------------------ 074 คนพาลเกิดเป็นมนุษย์ได้ยาก http://www.84000.org/true/074.html ------------------------------------------------------ 072 นรกมีจริงหรือ http://84000.org/true/072.html --------------------------------------------------- 495 ตรัสว่าคนตายแล้วเกิดจริง http://www.84000.org/true/495.html ---------------------------------------------------- 526 พระพุทธองค์ทรงรับรองการตายแล้วเกิด http://www.84000.org/true/526.html ----------------------------------------------------- 061 เหตุให้เชื่อชาติหน้า http://www.84000.org/true/061.html -------------------------------------------------------- 037 โลกหน้ามีจริงหรือไม่ http://www.84000.org/true/037.html ----------------------------------------------------------- 166 เหตุให้เกิดในภพ http://www.84000.org/true/166.html ------------------------------------------------------------ 046 พุทธทำนาย http://www.84000.org/true/046.html -------------------------------------------------------------
พระอภิธัมมัตถสังคหะ
อารมณ์ของสัตว์ที่มรณะ http://abhidhamonline.org/aphi/p5/083.htm -------------------------------------------------- กรรมอารมณ์ http://abhidhamonline.org/aphi/p5/084.htm ------------------------------------------------------- กรรมนิมิตอารมณ์ http://abhidhamonline.org/aphi/p5/085.htm
----------------------------------------------------------- คตินิมิตอารมณ์ http://abhidhamonline.org/aphi/p5/086.htm
-----------------------------------------------------------
จากการบรรยายของท่านอาจารย์บุญมี เมธางกูร
http://www.dharma-gateway.com/ubasok/ubasok-preach-boonmee-index.htm
คนตายแล้วไปเกิดได้อย่างไร ? http://www.dharma-gateway.com/ubasok/boonmee/boonmee-02-01.htm
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/book.htm
----------------------------------------------------------
สมองไม่ใช่จิต http://larndham.org/index.php?/topic/26139-%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%aa%e0%b8%a1%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%84%e0%b8%b7%e0%b8%ad%e0%b8%ad%e0%b8%b0%e0%b9%84%e0%b8%a3%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%99%e0%b9%88/page__view__findpost__p__365437
แนวคิดเรื่องจิตในพระอภิธรรม http://www.abhidhamonline.org/thesis/thesis2.files/thesis2.htm
จิตเป็นปรมัตถธรรมประเภทหนึ่ง มีสามัญลักษณะของการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นสภาวะรู้อารมณ์อย่างเดียว เช่น การนึกคิดถึงบ้านเรือน ต้นไม้ ก็รู้เฉพาะบ้านเรือนอย่างเดียวแล้วดับไป จึงมารู้ต้นไม้ใหม่ เป็นต้น จิตนี้แม้จะเป็นนามธรรม ไม่มีรูปร่างตัวตน เพียงแต่แสดงความรู้สึกอยู่ภายในเท่านั้นก็จริง แต่มีอำนาจพิเศษ หรือเรียกว่า ความวิจิตร ซึ่งทำให้เกิดความเป็นไป 6 อย่าง (พระครูสังวรสมาธิวัตร 2521 : 12-15) คือ
1. วิจิตรด้วยการกระทำ หมายความว่า วัตถุต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ประดิษฐ์กรรมอันวิจิตรตระการตามีภาพลวดลายต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องยนต์กลไกทั้งหลาย ล้วนแต่เป็นศิลปวิทยาที่เกิดขึ้นด้วยจิตของนายช่างทั้งสิ้น
2. วิจิตรด้วยตนเอง หมายถึง จิตทำจิตเอง ให้เป็นกุศลบ้าง เพราะปราศจากโลภ โกรธ หลง เป็นบาปอกุศลบ้าง เพราะประกอบด้วย โลภ โกรธ หลง หรือเป็นผลของบุญผลของบาป ที่เรียกว่า วิบากบ้าง หรือเป็นจิตของพระอรหันต์ที่เรียกว่ากิริยาจิตบ้าง ยิ่งกว่านั้นยังแบ่งบุคคลให้ต่างด้วยเพศ ต่างด้วยสัญญา และต่างด้วยคติอีกด้วย
3. สั่งสมกรรมและกิเลส หมายความว่า กรรมหรือการกระทำอันเกิดขึ้นด้วยเจตนาและกิเลสเครื่องเศร้าหมอง เมื่อทำแล้วสั่งสมไว้ที่จิตนี้เองหาได้สั่งสมไว้ที่อื่นไม่เรียกว่า ขันธสันดาน
4. รักษาไว้ซึ่งวิบากที่กรรมและกิเลสสั่งสมไว้ หมายความว่า จิตนี้ย่อมรักษาผลของการกระทำและผลของกิเลส ซึ่งได้สั่งสมอำนาจไว้มิได้สูญหายไปไหน เกิดขึ้นกับจิตที่เป็นวิบาก เพื่อรับผลของกรรมนั้น ๆ เมื่อมีโอกาส
5. สั่งสมสันดานของตนเอง หมายความว่า จิตดวงหนึ่งเกิดขึ้นแล้วดับลง เป็นปัจจัยให้จิตอีกดวงหนึ่งเกิดขึ้นติดต่อกันไม่ขาดสาย เป็นสันตติสืบเนื่องกันไป ลงสู่ภวังค์แล้วเกิดขึ้นใหม่อีก
6. มีการวิจิตรด้วยอารมณ์ต่าง ๆ หมายความว่า จิตนี้ย่อมรู้อารมณ์ต่าง ๆ จิตขณะที่รู้อารมณ์นี้ จะเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วิญญาณ เช่น จิตทางตารู้รูปารมณ์ (เห็นสี) ก็จะเรียกว่า จักขุวิญญาณ หรือจิตทางหู รู้สัททารมณ์ (ได้ยินเสียง) จิตทางจมูก รู้คันธารมณ์ 12 (รู้กลิ่น) จิตทางลิ้น รู้รสารมณ์ (รู้รส) จิตทางกาย รู้โผฏฐัพพารมณ์ (เครื่องกระทบ เย็น, ร้อน, อ่อน, แข็ง) จิตทางมโนรู้ธรรมารมณ์ (รู้เรื่องราวต่าง ๆ มีปสาทรูป 5 สุขุมรูป 16 จิต เจตสิก นิพพาน บัญญัติ)
------------------------------------------ ในพุทธศาสนา เมื่อตายไปแล้วจะเกิดใหม่ทันที เมื่อเกิดใหม่ย่อมจำชาติเดิมของตนไม่ได้ เพระรูปคือสมองและความจำถูกทำลายไปหมดแล้ว ----------------------------------------
เมื่อจุติจิต (ดับ) ปฏิสนธิจิตย่อมเกิดในภพต่าง ๆ ทันที พร้อมด้วยรูป
อนึ่ง รูป ในที่นี้หมายถึงรูปที่ หยาบ และ ละเอียด เช่น รูปกายของโอปปาติกะ ที่เป็น ผีสาง เทวดา เป็นต้น
ส่วนความทรงจำต่าง ๆ นั้น อยู่ที่จิต ครับ ไม่ใช่ที่ สมอง
จากคุณ |
:
เฉลิมศักดิ์1
|
เขียนเมื่อ |
:
20 พ.ค. 55 10:12:26
|
|
|
|
 |