พระไตรปิฎกบาลีไทย เล่มที่ ๒
วินย. มหาวิภงฺโค (๒) ข้อ ๔๑๐
[๔๑๐] เตน สมฺมเตน ภิกฺขุนา ปริเวณ สมฺมชฺชิตฺวา ปานีย
ปริโภชนีย อุปฏฺาเปตฺวา อาสน ปฺาเปตฺวา ทุติย คเหตฺวา
นิสีทิตพฺพ ฯ ภิกฺขุนีหิ ตตฺถ คนฺตฺวา ต ภิกฺขุ อภิวาเทตฺวา
เอกมนฺต นิสีทิตพฺพ ฯ เตน สมฺมเตน ๑- ภิกฺขุนา ปุจฺฉิตพฺพา
สมคฺคตฺถ ภคินิโยติ ฯ สเจ สมคฺคมฺหายฺยาติ ภณนฺติ วตฺตนฺติ
ภคินิโย อฏฺ ครุธมฺมาติ ฯ สเจ วตฺตนฺติ อยฺยาติ ๒- ภณนฺติ
เอโส ภคินิโย โอวาโทติ นิยฺยาเทตพฺโพ ฯ สเจ น วตฺตนฺติ
อยฺยาติ ภณนฺติ โอสาเรตพฺพา วสฺสสตูปสมฺปนฺนาย ภิกฺขุนิยา
ตทหุปสมฺปนฺนสฺส ภิกฺขุโน อภิวาทน ปจฺจุฏฺาน อฺชลิกมฺม
สามีจิกมฺม กาตพฺพ อย ๓- ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา
ปูเชตฺวา ยาวชีว อนติกฺกมนีโย ฯ น ภิกฺขุนิยา อภิกฺขุเก อาวาเส
วสฺส วสิตพฺพ อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา
ยาวชีว อนติกฺกมนีโย อนฺวฑฺฒมาส ภิกฺขุนิยา ภิกฺขุสงฺฆโต
เทฺว ธมฺมา ปจฺจาสึสิตพฺพา ๔- อุโปสถปุจฺฉกฺจ โอวาทุปสงฺกมนฺจ
อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีว
อนติกฺกมนีโย ฯ วสฺส วุตฺถาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ตีหิ าเนหิ
ปวาเรตพฺพ ทิฏฺเน วา สุเตน วา ปริสงฺกาย วา อยมฺปิ ธมฺโม
สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีว อนติกฺกมนีโย ฯ
ครุธมฺม อชฺฌาปนฺนาย ภิกฺขุนิยา อุภโตสงฺเฆ ปกฺขมานตฺต จริตพฺพ
เชิงอรรถ ๑ ม. ยุ. อย ปาโ น โหติ ฯ ๒ ม. วตฺตนฺตายฺยาติ ฯ เอวมุปริปิ ฯ ๓ ม.
อยมฺปิ ฯ ๔ ม. ปจฺจาสีสิตพฺพา ฯ
อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีว
อนติกฺกมนีโย ฯ เทฺว วสฺสานิ ฉสุ ธมฺเมสุ สิกฺขิตสิกฺขาย สิกฺขมานาย
อุภโตสงฺเฆ อุปสมฺปทา ปริเยสิตพฺพา อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา
มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีว อนติกฺกมนีโย น ภิกฺขุนิยา เกนจิ
ปริยาเยน ภิกฺขุ อกฺโกสิตพฺโพ ปริภาสิตพฺโพ อยมฺปิ ธมฺโม
สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา ยาวชีว อนติกฺกมนีโย อชฺชตคฺเค
โอวโฏ ภิกฺขุนีน ภิกฺขูสุ วจนปโถ อโนวโฏ ภิกฺขูน ภิกฺขุนีสุ
วจนปโถ อยมฺปิ ธมฺโม สกฺกตฺวา ครุกตฺวา มาเนตฺวา ปูเชตฺวา
ยาวชีว อนติกฺกมนีโยติ ฯ สเจ สมคฺคมฺหายฺยาติ ภณนฺติ อฺ
ธมฺม ภณติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส ฯ สเจ วคฺคมฺหายฺยาติ ภณนฺติ
อฏฺ ครุธมฺเม ภณติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส ฯ โอวาท อนิยฺยาเทตฺวา
อฺ ธมฺม ภณติ อาปตฺติ ทุกฺกฏสฺส ฯ
[๔๑๐] ภิกษุผู้ได้สมมติแล้วนั้น พึงกวาดบริเวณ ตั้งน้ำฉัน น้ำใช้ ปูอาสนะไว้ แล้วชวนเพื่อนภิกษุไปนั่งอยู่ด้วย.
ภิกษุณีทั้งหลายพึงไป ณ ที่นั้น อภิวาทภิกษุนั้นแล้ว นั่ง ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง.
ภิกษุผู้ได้รับสมมติแล้วนั้นพึงถามว่า พวกเธอพร้อมเพรียงกันแล้วหรือ น้องหญิงทั้งหลาย
ถ้าพวกนางตอบว่า พวกดิฉันพร้อมเพรียงกันแล้ว เจ้าข้า.
พึงถามว่า ครุธรรม ๘ ประการ ยังประพฤติกันอยู่หรือ น้องหญิงทั้งหลาย?
ถ้าพวกนางตอบว่า ยังประพฤติกันอยู่ เจ้าข้า.
พึงสั่งว่า นี่เป็นโอวาท น้องหญิงทั้งหลาย.
ถ้าพวกนางตอบว่า ไม่ได้ประพฤติกัน เจ้าข้า.
พึงตักเตือนว่าดังนี้:-
ครุธรรม ๘ ประการ
๑. ภิกษุณีอุปสมบทแล้วได้ ๑๐๐ พรรษา ต้องทำการกราบไหว้ การต้อนรับ อัญชลีกรรม สามีจิกรรม แก่ภิกษุผู้อุปสมบทแล้วในวันนั้น ธรรมนี้อันภิกษุณีต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๒. ภิกษุณีไม่พึงอยู่จำพรรษาในอาวาสที่ไม่มีภิกษุ ธรรมแม้นี้อันภิกษุณีต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๓. ภิกษุณีต้องหวังธรรม ๒ ประการ คือ ถามอุโบสถ ๑ ไปรับโอวาท ๑ จากภิกษุสงฆ์ ทุกกึ่งเดือน ธรรมแม้นี้อันภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๔. ภิกษุณีผู้จำพรรษาแล้ว ต้องปวารณาในสงฆ์ ๒ ฝ่ายโดยสถานทั้ง ๓ คือ ด้วยได้ เห็น ๑ ด้วยได้ฟัง ๑ ด้วยรังเกียจ ๑ ธรรมแม้นี้อันภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๕. ภิกษุณีล่วงละเมิดครุธรรมแล้ว ต้องประพฤติปักขมานัตในสงฆ์ ๒ ฝ่าย ธรรมแม้นี้ อันภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๖. ภิกษุณีต้องแสวงหาอุปสัมปทาในสงฆ์ ๒ ฝ่าย เพื่อสิกขมานาผู้ศึกษาสิกขาในธรรม๖ ประการครบ ๒ ปีแล้ว ธรรมแม้นี้อันภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๗. ภิกษุณีไม่พึงด่า ไม่พึงบริภาษภิกษุ โดยปริยายอย่างใดอย่างหนึ่ง ธรรมแม้นี้อัน ภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิดตลอดชีวิต.
๘. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ปิดทางไม่ให้ภิกษุณีทั้งหลายสอนภิกษุ เปิดทางให้ภิกษุ ทั้งหลายสอนภิกษุณีได้ ธรรมแม้นี้อันภิกษุณีก็ต้องสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ไม่ล่วงละเมิด ตลอดชีวิต.
ถ้าพวกนางตอบว่า พวกดิฉันพร้อมเพรียงกันแล้ว เจ้าข้า.
ภิกษุผู้ได้รับสมมติแล้วนั้น สั่งสอนธรรมอย่างอื่น ต้องอาบัติทุกกฏ.
ถ้าพวกนางตอบว่า ยังเป็นพรรคอยู่ เจ้าข้า.
ภิกษุผู้ได้รับสมมติแล้วนั้น กล่าวสอนครุธรรม ๘ ต้องอาบัติทุกกฏ.
ไม่ให้โอวาท สั่งสอนธรรมอย่างอื่น ต้องอาบัติทุกกฏ.