ความคิดเห็นที่ 1 " นโยบายการปกครองที่เอารัดเอาเปรียบคนต่างศาสนา บีบบังคับให้เข้าอิสลาม คนที่ไม่ใช่อิสลามก็อยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะต้องทำตามกฏหมาย เสียภาษีที่มากกว่า แต่ไม่ได้รับสิทธิใด ๆ จากภาครัฐ " บลาๆๆๆ +++++ อ้างอิงด้วยสิครับ พูดลอยๆอีกแล้ว อย่าอคติจนลืมหลักการนำเสนอตามวิถีของ "ปัญญาชน" จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:10:45

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านกระทู้คำเตือนนี้ดีกว่าครับ ว่าโดนเต็มๆหรือไม่ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12142707/Y12142707.html เพราะเป็นข้อมูลที่มีความโง่ และ ความโกรธเป็นสารตั้งต้น ไร้ข้อมูล และ หลักฐานอ้างอิงใดๆ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:20:07

ความคิดเห็นที่ 3 นี่คือสาเหตุหนึ่งที่เริ่มมี คนรู้ทันและเตรียมหามาตรการป้องกัน ทั้งในยุโรป อเมริกา แต่ในเอเซีย ยังไม่ทราบ มาตรการหนึ่ง ที่ควรนำมาใช้คือถ้ามีการกีดกันต่างศาสนา ที่เขากำหนดใน ประเทศอิสลาม ทุกประเทศควรนำเอามาตรการนั้นมาใช้กับ อิสลามในประเทศของตนด้วย เช่นกัน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกัน อีกอันตรายหนึ่งที่อิสลามประกาศไปทั่วโลกก็คือเขาพยายาม จะทำให้ทั้งโลกนี้เป็นอิสลามให้หมด ถ้าท่านไม่ทราบไปหาในยูทูปก็จะพบจะเห็น อย่าลืมว่าพวกเขามีกำลังคน กำลังเงินมากมายมหาศาลเพียงใด ศาสนาที่รักสงบอย่าได้คิดว่าอนาคตจะมีที่สงบให้ท่านได้ บำเพ็ญธรรมตามที่ท่านปรารถนา ถ้าไม่ศึกษาเรียนรู้ถึงภัย ที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา และหาทางตัดไฟแต่ต้นลมเสียก่อน เมื่อถึงเวลานั้นมาถึงท่านคงทำอะไรไม่ได้แล้ว จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:28:18

ความคิดเห็นที่ 4 มาเลเซีย ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม 55% นับถือศาสนาพุทธ 25% นับถือศาสนาคริสต์ 13% นับถือศาสนาฮินดู 7% และลัทธิศาสนาพื้นเมือง 4% Lina Joy อายุ 43 ปี เดิมถือกำเนิดเป็นมุสลิม มีชื่อเดิมว่า Azlina Jailani ร้องขอต่อศาลมาเลเซียที่จะเปลี่ยนคำในบัตรประชาชนจากการนับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาคริสต์ เธอได้ร้องต่อศาลว่า เธอไม่ได้เป็นอิสลามแล้ว เธอเป็นคริสต์และต้องการเปลี่ยนหลักฐานในบัตรเท่านั้น เธอเปลี่ยนศาสนาเมื่อปี 1998 6 ปีต่อมาศาลมาเลเซียตัดสินไม่ให้เธอเปลี่ยนข้อมูลในเอกสารทางราชการ รัฐบาลอิสลามอันเปี่ยมไปด้วยสันติและความใจกว้างตามแบบของอิสลามที่ถูกต้องยังได้กดดันเธอ ทำให้เธอแต่งงานไม่ได้ มีลูกไม่ได้ อยู่อย่างซ่อนเร้นและหวาดผวา เธอจึงร้องต่อศาลสูงสุด และได้มีคำตัดสินออกมาเมื่อ 30 พ.ค.2550 นี้เอง ซึ่งมีการพิจารณามานานถึง 10 เดือนและตัดสินว่าเธอไม่สามารถเปลี่ยนศาสนาได้ เพราะจะทำให้ชาวมาเลเซียที่ปัจจุบันระบุข้อมูลว่านับถืออิสลามเพื่อที่จะได้รับสวัสดิการ การรับราชการเลื่อนขั้นตำแหน่งและไม่ถูกรัฐบาลกลั่นแกล้ง ลุกฮือขึ้นมาเอาอย่าง ทำให้ขั้วอำนาจทางการเมืองเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มพรรคชาวพุทธ คริสต์ และฮินดู ที่พยายามสามัคคีกันเพื่อต่อสู้กับการกดขี่ของศาสนาแห่งสันติภาพ ศาลปฏิเสธคำร้องของเธอ และแนะนำบอกให้เธอไปร้องต่อศาลศาสนาอิสลาม (Sharia court) ซึ่งใช้คำสอนตามคัมภีร์อัลกุรอ่านในการตัดสินคดีความ และมีอิหม่ามที่รู้ศาสนาดีที่สุดในประเทศเป็นผู้พิพากษาเพื่อไม่ให้หลักการของอิสลามถูกบิดเบือน เป็นที่รู้กันดีว่าหากเธอไปร้องต่อศาลศาสนาอิสลามเพื่อเปลี่ยนศาสนา เธอจะได้รับโทษประหารตามหลักศาสนาอิสลามที่มีระบุใว้ในคัมภีร์อัลกุรอ่าน และถูกใช้บังคับในประเทศที่มีผู้นับถือศาสนาอิสลามเป็นส่วนใหญ่ มาเลเซียระบุให้ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ (แต่เดิมมีอิสลาม 45% แต่ผลจากการบังคับ จ้างให้มานับถืออิสลามด้วยนโยบายภูมิบุตร ปัจจุบันมี 60%) นี่ขนาดมาเลเซยืมีแขกแค่ 55% ยังทำได้ขนาดนี้ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:30:50

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาอ่านและรับฟังนะครับ ส่วนความเห็นต่อกระทู้ ผมอยากให้ จขกท ตรวจสอบเรื่องข้อมูลก่อนสรุปโดยอคติ เพราะมักจะทำให้ผิดพลาด  การตั้งข้อสังเกตุตั้งได้แต่ต้องตั้งพื้น อันประกอบด้วย ฐานเป้นเหตุด้วย    เมื่อครู่ผมพึ่งแจงเรื่องงบในงานด้านจริยธรรมของประเทศไป ซึ่งดุเหมือนคุณ  Mopeena จะเข้าใจผิดอยู่ ถ้ามีเวลาลองเข้าไปแลกเปลี่ยนกันในกระทู้นะครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:36:25

ความคิดเห็นที่ 6 อิหร่าน (เปอร์เซีย: ایران) หรื่อชื่อทางการว่า สาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน มีผู้นับถืออิสลาม 95% เอเอฟพี - สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติประณามรัฐบาลอิหร่านที่สั่งประหารชีวิตศาสนาจารย์ชาวคริสต์รายหนึ่ง ซึ่งถือเป็นการละเมิด “สิทธิมนุษยชนด้านการนับถือศาสนา” วานนี้ (1)             ด้วยคะแนนโหวตอย่างเป็นเอกฉันท์ 418-0 เสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศมติเชิงสัญลักษณ์ให้อิหร่านปล่อยตัว ยูเซฟ นาดาร์คอนี ในทันที พร้อมประณามรัฐบาลเตหะรานที่สนับสนุนการข่มเหงรังแกชนกลุ่มน้อย             นาดาร์คอนี วัย 34 ปี เปลี่ยนจากศาสนาอิสลามมานับถือคริสต์ตั้งแต่อายุ 19 ปี และกลายเป็นศาสนาจารย์ประจำชุมชนชาวคริสต์กลุ่มเล็กๆ ซึ่งใช้ชื่อว่า “ศาสนจักรแห่งอิหร่าน” (Church of Iran)             ศาสนาจารย์ผู้นี้ถูกจับเมื่อเดือนตุลาคม ปี 2009 และต้องโทษประหารชีวิตฐานละทิ้งศาสนาอิสลาม             ตามกฎหมายชารีอะห์ บทลงโทษดังกล่าวจะถูกยกเลิกหากผู้กระทำผิด “สำนึกตัว” และยกเลิกการเปลี่ยนศาสนา ซึ่ง นาดาร์คอนี ปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น             ประเทศตะวันตก ซึ่งรวมถึงสหรัฐฯ, อังกฤษ, เยอรมนี, ฝรั่งเศส และโปแลนด์ ต่างออกแถลงการณ์ประณามอิหร่าน และเรียกร้องให้มีการปล่อยตัวศาสนาจารย์รายนี้             เมื่อเดือนกันยายน ปี 2010 ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ลงโทษประหารนาดาร์คอนี แต่คำตัดสินดังกล่าวถูกยกเลิกโดยศาลสูงในกรุงเตหะราน ทำให้คดีถูกส่งกลับไปยังศาลชั้นต้นที่เมืองราชต์ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา             รองผู้ว่าฯ เมืองราชต์ ซึ่งรับผิดชอบงานด้านความมั่นคงและการเมืองของจังหวัด ระบุว่า ความเชื่อถือศรัทธาของนาดาร์คอนี ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป และจะเอาผิดเขาในข้อหา “เป็นไซออนิสต์ เป็นคนทรยศ และกระทำอาชญากรรมด้านความมั่นคง” แทน             นักสิทธิมนุษยชนเกรงว่า ศาสนาจารย์ผู้นี้อาจถูกลงโทษประหารได้ทุกเวลา             “ทางการอิหร่านจู่โจมศาสนสถาน, กักขังผู้ศรัทธาและผู้นำศาสนา รวมถึงข่มขู่ชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอื่นๆ บ่อยครั้งขึ้นทุกที” สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แถลงในมติประณาม พร้อมชี้ว่า “รัฐบาลทุกประเทศมีหน้าที่ต้องปกป้องสิทธิขั้นพื้นฐานของพลเมือง และให้ความยุติธรรมกับทุกฝ่าย”             ผู้รายงานพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติเผยว่า อิหร่านลักลอบประหารชีวิตนักโทษถึง 146 รายในปีที่แล้ว และเมื่อปี 2010 ก็มีผู้ถูกประหารไปมากกว่า 300 คน อิหร่าน มีผู้นับถืออิสลาม เป้นส่วนใหญ่95% และมีกฏหมายตามหลักศาสนาที่คนทั้งประเทศอิหร่านยอมรับคือในออกนอกรีต คือตายสถานเดียว แต่แขกในไทยทำเป็นน่อมแนมรับไม่ได้กับพฤติกรรมพวกเดียวกัน ในรูปคือศาสนาจารย์ ยูเซฟ นาดาร์คอนี   แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 10:44:26 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:41:48

ความคิดเห็นที่ 7 คห. 4 "...ใช้กฏหมายอิสลามปกครองประเทศ... " แล้วมาเลเซีย ใช้กฏหมายอิสลามปกครองประเทศ  หรือ "ภูมิบุตรา" ครับ ที่ยกมาคุณรู้ความแตกต่างรึปล่าว mce ???? "...ประเทศที่เป็นมุสลิมทำไมถึงแทบไม่มีศาสนาอื่นอยู่เลย แม้จะมี ก็มีน้อยมาก ..." มาเลเซีย ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม 55% นับถือศาสนาพุทธ 25% นับถือศาสนาคริสต์ 13% นับถือศาสนาฮินดู 7% และลัทธิศาสนาพื้นเมือง 4% มากกว่าเมืองไทยหลายเท่านะครับ ข้อมูลพวกคุณก็คงพอหักล้างกันเองได้นะครับ อย่าลืมอ่านลิ้งค์ คห.2 เพื่อเตือนสติ... จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:46:27

ความคิดเห็นที่ 8 MCE เอาอีกแล้วว่าอย่าโพสแบบนี้ ว่าเขากีดกันการนับถือศาสนา ดั่งข้อความของ MCE เองเช่น "มาเลเซีย ประชากรนับถือศาสนาอิสลาม 55% นับถือศาสนาพุทธ 25% นับถือศาสนาคริสต์ 13% นับถือศาสนาฮินดู 7% และลัทธิศาสนาพื้นเมือง 4%" ประเทศไทยของเราประกาศเสรีภาพทางศาสนา (ถูกต้องไหมครับ?) มาดูตัวเลขกัน จากสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. 2543 โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ ประชากรในประเทศไทยนับถือศาสนา 99.37% โดยแบ่งออกเป็นศาสนาพุทธ 93.83% ศาสนาอิสลาม 4.56% ศาสนาคริสต์ 0.80% ศาสนาฮินดู 0.086% ลัทธิขงจื๊อ 0.011% และอื่นๆ 0.079% และมีประชากรที่ไม่นับถือศาสนาและไม่ทราบศาสนา 0.27% และ 0.36% ตามลำดับ http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A8%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2 แล้วอย่างนี้หมายความว่าอะไร พี่จิม งองู 2 ตัวเลย ทำไมตัวเลขการนับถือศาสนาอื่นๆน้อยจังละ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 10:53:05 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:52:09

ความคิดเห็นที่ 9 คุณ  Faraday เรื่องของคุณดูน่าสนใจ ขอหลักฐาน เรื่องแผนครองโลกได้ไหม? จะได้หาทางช่วยกันแก้ปัญหา แต่ถ้าเป็นเจากเว็บพระไทย ผมขอผ่านนะครับ เพราะโดนแฉแล้วว่าเป็นเรื่องเท็จ ขอบคุณสำหรับข้อมูลอื่นๆ ผมรอฟังครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:59:05

ความคิดเห็นที่ 10 คห.6 อิหร่านเป็นลัทธิชีอะฮ์ครับ ซึ่งตามหลักการอิสลามที่ผมยึดถือ ไม่ถือว่าเป็นศาสนาอิสลามครับ  คงต้องอธิบายยาว หากสนใจเรื่องนี้ก็ควรเริ่มศึกษาเพิ่มความรู้ตนเองก่อนตามคลิปนะครับ แต่หากมองแบบผิวๆ เกรียนๆ ตามประสาคนนอกศาสนาที่ไม่ได้มีความรู้ลึกซึ้งอะไร  ก็คงแยกประเภทว่าเป็นนิกายหนึ่งของอิสลาม เท่านั้นเอง จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:59:16

ความคิดเห็นที่ 11 ขอชัดๆกันไปเลย แม้พุทธจะมีตั้ง 25% ในเมืองแขกมาเล แต่ผมคิดว่าลองไปถามดูว่าเค้าคิดว่ามีเสรีภาพหรือไม่โดนกรีดกันหรือไม่ ถามพวกฮินดูด้วยว่ารัฐบาลแขกมาเลให้ความเป็นธรรมเเค่ไหน การรับราชการเป็นอย่างไร แต่กลับกัน ขนาดในไทยมีอิสลามแค่ 5 % คนไทยซึ่งมีคนพุทธมากถึง 95% ลองถามคนอิสามที่อยู่ในไทยว่าโดนกรีดกัน หรือไม่ ใครจะเปลื่ยนศาสนา ใครจะออก ใครจะเข้า การทำงาน การรับราชาร มีผลหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 11:05:21 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:01:30

ความคิดเห็นที่ 12 MCE และก็คำสัมภาษณ์คนเปลี่ยนศาสนาเนี่ย มีกันทุกศาสนาแหละ ถ้าเอามาลงเกทับกันลง สามปีก็ลงไม่หมด ถูกต้องไหมครับ? และที่สำคัญคลิปนี้ข่าวนี้ ด้วยข้อความนี้ของ MCE ที่ตัดแปะมาลง "นาดาร์คอนี วัย 34 ปี เปลี่ยนจากศาสนาอิสลามมานับถือคริสต์ตั้งแต่อายุ 19 ปี และกลายเป็นศาสนาจารย์ประจำชุมชนชาวคริสต์กลุ่มเล็กๆ ซึ่งใช้ชื่อว่า “ศาสนจักรแห่งอิหร่าน” (Church of Iran) " พี่จิม...มีข้อสังเกตุว่า  ทำไมเค้าไม่เปลี่ยน ไปรับนัถือศาสนาพุทธ ละ ? กาลกลับกัน เปลี่ยนไปนับถือศาสนาที่นับถือพระเจ้าเสียด้วย พี่จิม มาทัก ก็เพราะเห้นว่าเป็นเยาวชน ทีแรงในเรื่องศาสนา แรงในเรื่องศาสนานะดี  ผมสนับสนุน แต่ต้องแรงอย่างมีคุณธรรมถูกต้องตามหลักการใน ปรัชญา คำสอนในศาสนาของตนเองด้วย มุสลิม คือคนที่นับถือศาสนาอิสลาม ถ้าแรงแหกคอก ผมก็ไม่เล่นด้วย เช่นไล่ฆ่าคน ทำร้ายคนปะฉะดะ ผมก้ไม่เอาด้วยเช่นเดียวกัน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:03:25

ความคิดเห็นที่ 13 อิสลามเข้าได้ และก็ออกได้อย่างเสรี แต่ออกสภาพไหนไม่รู้นะ เรื่องนี้เกิดขึ้นที่Mosul, Iraqกลุ่มคนกว่า1000คน จากชุมชน Yezidi Kurdish รุมกันฆ่าหญิงวัยรุ่นคนเดียวเดียว เพียงเพราะว่าศาสนาต่างกัน ผมไมมีข้อมูลครับว่าผู้หญิงคนนี้เป็นชาวอะไร เธอได้แต่งงานกับชายชาวอิรัก แต่เธอไม่นับถือศาสนามุสลิม กลุ่มคนในหมู่บ้าน Yezidi Kurdish ให้เวลาเธอสี่เดือนในการปรับตัวให้ยอมรับกับศาสนามุสลิม แต่เธอทำไม่ได้เพราะว่าครอบครัวของเธอก็ไม่ได้นับถือศาสนามุสลิม เธอจึงหนีออกมาหลบอยู่กับบ้านของผู้นำศาสนาคนนึง แต่แล้วก็โดนตามตัวจนเจอ เธอถูกลากตัวออกมาจากบ้านของผู้นำศาสนาที่เธอมาหลบอยู่ แล้วถูกรุมกระทืบ ในขณะที่เธอล้มนั้น ใครไม่รู้ได้ปาก้อนหินก้อนใหญ่พอๆกับหัวคนใส่ใบหน้าเธอ จนเลือดทะลัก แต่เธอยังไม่ตาย นอนจมกองเลือดด้วยความเจ็บปวด แต่คนพวกนี้ยังไม่หยุดการกระทำอันป่าเถื่อนครับ ยังมีก้อนหินก้อนที่สอง สาม ตามมา จนเธอแน่นิ่งไปความป่าเถื่อนยังไม่หมดแค่นี้ครับ มีคนนึงเอาก้อนหินก้อนใหญ่มาก ประมาณ1ฟุตครึ่งทุ่มใส่หัวเธอ เลือดออกมาจากหัวเธอเยอะมาก เธอคงกระโหลกศรีษะแตก เธอนอนนิ่ง เธอตายแล้วครับพวกเถื่อนๆดีใจกันยกใหญ่ ต่างโห่ร้องด้วยความยินดี ผมตัดวีดีโอตอนที่เธอโดนก้อนหิบทุ่มใส่หัวออกครับ เพราะมันโหดร้ายเกินไป ผมเองดูวีดีโอโหดๆมาเยอะแล้ว ผมยังแทบจะร้องไห้ แค้นคนพวกนี้มาก ทำไมไม่มีใครช่วยเลย จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:03:48

ความคิดเห็นที่ 14 MCE ถ้าใช้ทฤษฎีให้ไปถามคนมาเลย์ มุสลิม ในนี้ ก็คงต้องใช้หลักการเดียวกัน คือ ให้ MCE ไปถามพี่น้องมุสลิมภาคใต้ดู และถามพี่จิม ซึ่งเป้นมุสลิม ในประเทศไทย ว่าเป็นเช่นไร คนเราต้องยืนบนมาตรฐานเดียวกัน ถ้าสองมาตรฐาน ก็เหมือนที่พวกเราด่าพวกนั้นแหละครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:07:23

ความคิดเห็นที่ 15 ต้องลองไปถามศาสนาจารย์ ยูเซฟ นาดาร์คอนี  ว่าทำไมไม่เปลื่ยนเข้าพุทธ มาถามผมๆก็ตอบไม่ได้หรอก ถ้าอยากรู้มากสงสัยต้องตามไปถามศาสนาจารย์ ยูเซฟ นาดาร์คอนี  เองเเล้วมั่ง ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นหรือตาย จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:08:51

ความคิดเห็นที่ 16 http://www.kaochristian.com/2012/02/6208/ ฝากลิ้งค์ด้านบนนี้ครับ . . . ส่วนการข่มเหงคริสตชนที่เป็นเหตุผลทางศาสนาเป็นหลักในปัจจุบัน คือ การข่มเหงคริสตชนในประเทศมุสลิมที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม  หรือแม้แต่ที่มีศาสนาฮินดูเป็นศาสนาหลัก เช่นอินเดีย ปากีสถาน    โดยศาสนาอิสลามถือว่าคริสตศาสนาคือคำสอนเท็จสำหรับเขา   อย่างไรก็ตาม ในประเทศเหล่านั้นก็พบว่าศาสนาอื่นก็ถูกข่มเหงด้วย  เช่น  ศาสนวัตถุของพุทธศาสนาในประเทศอัฟกานิสถานก็ถูกทำลาย  เป็นต้น แน่นอนว่า  แต่ละประเทศก็ยังแตกต่างกันไป  ระดับความรุนแรงก็ไม่เท่ากัน แตกต่างกันไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การข่มเหงของคนในประเทศมุสลิมหรือศาสนาอื่นต่อคริสตชนในปัจจุบันที่แม้ว่าจะบอกมีเหตุผลทางศาสนา แต่กระนั้นก็ยังมีเหตุผลทางการเมืองแฝงอยู่ด้วย เช่น  การที่มักมีทัศนคติว่า คริสตชนคือผู้นับถือศาสนาของพวกชาติตะวันตก  และพวกชาติตะวันตกเป็นศัตรูกับประเทศนั้น  อาจจะด้วยเหตุผลของการต่อสู้กันในยุคโบราณ (สมัยสงครามครูเสด) หรือจะด้วยการต่อสู้ในยุคสมัยใหม่ (สมัยสงครามยุคใหม่ต่่างๆ)  ฉะนั้นสุดท้ายก็มักจะมีเหตุผลทางการเมืองแฝงอยู่ด้วยอีกเช่นกัน . . . ------ สาเหตุที่ยกมา ก็เพราะมีคำพยานของพี่น้องชาวคริสต์ในประเทศที่นับถือมุสลิมเป็นใหญ่นั้นถูกใช้ความรุนแรงอย่างมาก ทั้งทำร้ายร่างกาย ฆ่าเอาชีวิต ทำลายสถานที่ บอกตามตรงสงสารชาวคริสต์ในประเทศเหล่านั้นครับ และเข้าใจดีว่ามุสลิมแท้ๆ คงจะไม่เลวทรามเช่นที่ชาวคริสต์เหล่านั้นได้ประสบมา จากคุณ : corelooy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:10:04

ความคิดเห็นที่ 17 พี่จิม เอากันชัดๆตรงไหนตรงมา พี่จิมบ้านอยู่ในสังคมพุทธ เเล้วเป็นอย่างไรมั่งในการดำเนินชีวิต มีการกรีดกันหรือไม่? จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:10:27

ความคิดเห็นที่ 18 MCE พี่จิมจะบอกในฐานะที่เป้นน้องว่า คำว่า ศรัทธา รัก ความเชื่อห้ามกันได้ไหม จับไปต้มกิน ขังคุก ฆ่าให้ตายได้ไหม ถูกต้องไหมครับ หัวใจเราไม่รับสะอย่าง ใครมาห้ามได้ ใครมารู้ในหัวใจเราคืออะไร คนที่บอกว่าเป้นมุสลิม ด้วยปาก หัวใจอาจไม่ได้เป็นก้ได้ คนที่บอกว่าเป้นพุทธ หัวใจ อาจเป้นอย่างอื่นก็ไม่แปลกใช่ไหม คนที่ไม่รัก บังคับให้แต่งงานก้ได้แต่ตัวเอาไป หัวใจนั้นได้ไปหรือไม่ พี่จิม ว่าเราอยู่ในห้องศาสนา เราควรคิดถึงแก่นของมันไม่ใช่กระพี้ของมัน ถ้าคิดถึงกระพี้ เราก้ต้องไปอยู่ในห้องทางโลก แล้วละครับ ทฤษฎีบทนี้ พี่จิม พุดผิดหรือเปล่า? จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:11:35

ความคิดเห็นที่ 19 ตามหะดิษ (วจนะท่านศาสดา) ที่ถูกระบุไว้นั้น  มีอยู่ 2 กรณี คือ 1."ไม่อนุญาตให้หลั่งเลือดมุสลิมนอกจากหนึ่งในสามสาเหตุเท่านั้น นั่นคือ การปฏิเสธศรัทธาหลังจากที่เข้ารับอิสลามแล้ว หรือการผิดประเวณีหลังจากที่ได้แต่งงานแล้ว หรือสังหารผู้อื่นที่ต้องห้าม" (บันทึก อันนะสาอีย์) 2. "ผู้ใดเปลี่ยนศาสนาของเขา (มุรตัด) พวกเจ้าก็จงสังหารเขาเสีย" (บันทึก อัลบุคอรีย์) จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:14:17

ความคิดเห็นที่ 20 MCE แสดงว่าไม่เคยอ่านงานเขียนพี่แบบละเอียดเลยใช่ไหมครับ เพลงที่พี่จิมบอกคือ "แขกมาลายู กินหมูไม่เป้น กินหมาต้มเค็ม" โยนหมูใส่กระป๋องข้าว ใส่โสร่งเดินถนนตัวประหลาด จนผมนุ่งโสร่งไม่เป้น ที่บ้านพี่จิม ไม่คลุมฮิญาบ ในสมัยก่อน เพราะคลุมแล้วถุกตำรวจจับ คลุมแล้วเป้นตัวประหลาด อย่าเอาสิ่งที่เราเคยเห้นมาพิพากษาในสิ่งที่เราไม่เคยเห้น สิ แล้วเวลา ผุ้ใหญ่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก พุดนะ ฟังบ้าง เอามาคิดบ้างว่าเป้นไปได้ไหม จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:15:29

ความคิดเห็นที่ 21 ก็ไม่รู้ว่าจะไปมองอะไรได้ลึกซึ้งไปมากกว่านี้ ว่าพวกชีอะ ไม่ใช่อิสลาม ในเมื่อคนทั้งโลก หรือแม้แต่ พวกชีอะห์เองก็ประกาศตัวว่าเป็นอิสลาม และเวลานับประชากรมุสลิมโลกมันก็รวมพวกชีอะห์นั้นเข้าไปด้วย แปลกจริงเลยพวกนี้ และพวกที่เอาประชากรพุทธในประเทศไทยมาเทียบ กับหัวข้อกระทู้นั้น คงไม่เหมือนกันนัก เพราะที่นี่ชาวพุทธ ไม่ว่าจะที่ไหน ไม่เคยใช้นโยบายใด ๆ บังคับใครให้นับถือศาสนาพุทธ และไม่เคยไปทำลายศาสนาใคร ไม่เคยไปบังคับ ไม่ให้คนพุทธออกจากศาสนา ทุกอย่างล้วนเกิดจากการสมัครใจและความศรัทธา ที่มีต่อศาสนาพุทธของประชนชนคนไทย เพราะพระพุทธศาสนา ได้มาประดิษฐานอยู่ดินแดนสุวรรณภูมิแห่งนี้ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 234 แล้ว ก่อนที่อิสลามจะเกิดเป็นพันปีด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกนักหากจะมีคนนับถือพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมากอยู่ มันต่างกันโดยสิ้นเชิงกับพวกตะวันออกกลาง และมาเลเซียก็ำกำลังดำเนินรอยตามอยู่ ที่ยังเห็นเปอร์เซ็นศาสนาือื่นอยู่นั้นก็เพราะเป็นชนพื้นเมืองเดิมอยู่แล้ว แต่ก็กำลังจะลดลงไปเรื่อย ๆ ด้วยนโยบายที่เอารัดเอาเปรียบและบีบบังคับ คนศาสนาอื่นให้เข้าอิสลาม ก็เห็นเป็นประจักรแก่สายตากันอยู่แล้ว ไม่อย่างนั้นสิงคโปร์เขาคงไม่แยกประเทศออกไปหรอก หากว่า มุสลิมมาเลเซีย เสมอภาค อย่างที่ปากพยายามโฆษณาชวนเชื่อแก่ชาวโลกอยู่ จากคุณ : Mopeena เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:18:10

ความคิดเห็นที่ 22 พี่จิม ตอบให้ตรงประเด็นสิครับ เอาตั้งเเต่ขับรถออกจากบ้านเลย มีตำรวจจับในข้อหาเป็นอิสลามหรือป่าว ไปกินข้าวมี ร้านไหนไม่ขายข้าวให้อิสลามหรือไม่ ไปโรงพยาบาลมีหมอที่ไม่รักษาอิสลามหรือไม่ หรือประมาณว่ารักษาคนพุทธให้หมดก่อนค่อยรักษาอิสลาม ผมก็ยังไม่เคยเห็น ไปทำงานมีงานไหนไม่รับคนเพียงเพราะเป็นอิสลามหรือไม่ ค้าขายมีหรือไม่ที่มีคนไม่ค้าขายกับอิสลาม ผมก็ยังไม่เคยเห็น ประมาณว่าถ้าอิสลามเปิดร้านขายของข้างๆร้านคนพุทธ จะมีผลทำให้ขายของไม่ได้ ไม่เคยทีให้เห็น หรือคนซื้อของก็ไม่ถามอยู่เเล้วว่าคนขายเป็นแขกหรือป่าวถ้าแขกไม่ซื้อ  ที่นี่เป็นเทศไทยนะครับ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:28:12

ความคิดเห็นที่ 23 คท 19  เท่าที่เคยเรียนมาไม่ใช่แค่นั้นนะ มันมีฮาดีษอื่นอีกนะที่เขาใช้ปฏิบัติในกรณีดังกล่าว พอๆกับเรื่องที่ว่า อิสลามกินหมูได้นะแหละ (ตามเงือนไขของมัน) คท. 22 ปัจจุบันมีประเทศไหนหรอที่เลือกปฎิบัติ อย่างที่ท่านว่ามานั้น ...         แถวบ้านก็ยอมรับว่าไม่มีนะ แต่ถ้าแบบไม่ค่อยเต็มใจจะบริการนั้นมีให้เห็นจนถึงทุกวันนี้นะ นอกจากเวลาเขาขอบัตรประชาชน แล้วเรายื่นบัตรข้าราชการ เขาจะปฎิบัติตัวกัเราอย่างดีเวอร์ ก็เท่านั้น แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 11:38:09 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 11:36:44 จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:30:51

ความคิดเห็นที่ 24 MCE พี่จิม ว่า น่าจะพูดกันง่าย ขึ้นนะ MCE ลงไปใต้มะ ลองขับรถดู ว่าจะถามซอกแซกไหม ถ้าเป็นพุทธศาสนิกชน ออกด่านไปมาเลย์ถามซอกแซกไหม จะเปรียบเทียบต้องเปรียบเทียบบนพื้นฐานข้อมูลเดียวกัน ทุกอย่างต้องกลับ ค่า ไปที่ 0 แล้วไล่นับขึ้นมา คนที่ถูกถามซอกแซก นะไม่ใช่พุทธ แต่เป้นมุสลิม แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 11:38:14 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:37:35

ความคิดเห็นที่ 25 ตามมานี่เลย จากคุณ : Jimbovy เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:42:28

ความคิดเห็นที่ 26 คงจะไม่ค่อยดีเพราะเพื่อนผมเป็นคนพุทธ ที่ 3จังหวัด มันบอกว่า ไม่ค่อยได้ออกไปต่างอำเภอ เราก็ถามว่าทำไม มันบอก พวกแขกที่อยู่ตามต่างอำเภอ มองมันแปลก เเล้วมันยังเล่าว่าเคยไปหาเพื่อนต่างอำเภอซึ่งเป็นแขก ตอนขับไปเข้าหมู่บ้านมันเจอวัยรุ่น ยืนขวาง วัยรุ่นพวกนั้นเป็นแขกในหมู่บ้าน มันเห็นพระที่เพื่อนผมใส่มันบอก ให้เอาพระออก แต่อีกคนรู้จักกันทาง fb เป็นคนจีนอยู่มาเลผมถามว่าอยู่มาเล เป็นไงเรื่องศาสนา คำตอบที่ได้คือ .... ไม่บอกก็รู้อย่างที่เห็นๆ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:44:40

ความคิดเห็นที่ 27 ง่ายๆครับ ชาวพุทธที่กำลังหัวรุนแรง ฟาดงวงฟาดงา สาดเสียเทเสียอยู่ในขณะนี้ ถ้าไม่อยากตกเป็นเครื่องมือใคร หรือ ไม่อยากสับสนกับข้อมูล ก็พยายามเลือกแหล่งข้อมูลในการเสพเพื่อเป็นความรู้ หรือใช้อ้างอิงสิครับ ใช้หลักกาลามสูตร ในศาสนาตนเองก็ได้ (ยกเว้นข้อ 7.) จะได้ไม่เลือกหยิบยก เหมารวม หรือแม้แต่อ้างอิงส่วนใหญ่ก็ตามของคนหรือ กลุ่มคน เป็นเรื่องศาสนา ฟังเขาเล่าว่านี่ก็หลงทางมาเยอะแล้ว หัดตรวจสอบข้อมูลให้ลึกกว่าเดิม แล้วจะฉลาดขึ้นนะครับ " มีสติ " เถอะครับ อย่าให้อยู่แต่เพียงตำรา หรือ ลมปากเลย จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:55:07

ความคิดเห็นที่ 28 http://topicstock.pantip.com/wahkor/topicstock/2009/01/X7448084/X7448084.html ให้อ่านกันดูจะได้เห็นถึงความแตกต่าง จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 11:59:05

ความคิดเห็นที่ 29 เรื่องศาสนาที่มาเลย์ไม่ได้กีดกันนะ ... แต่ถ้าเป็นเรื่องการซื่อขายอสังหาริมทรัพย์นั้นใช่ เขาสงวนให้ ภูมิตรา ของพวกเขา เขาจะมี ID card สองสีนะ มีสีนึงจำไม่ได้ อยู่เมืองเขานั้นโดนจำกัดเหมือนกัน ถึงแม้จะเป็นอิสลามก็ตาม  (เป็นเรื่องทางการเมือง) ที่รัฐกลันตันวัดก็มีให้เห็นเยอะเลย มีพระพุทธรูปที่ใหญ่พอๆ กับ ที่นราด้วย http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=link-conner55&month=06-08-2009&group=123&gblog=23 จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:01:35

ความคิดเห็นที่ 30 http://topicstock.pantip.com/rajdumnern/topicstock/P3143923/P3143923.html อีกอัน จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:04:20

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยในกรณีมาเลเซีย ที่หลังจากได้รับเอกราชจากอังกฤษแล้ว อำนาจการปกครองได้ตกอยู่กับชาวมาเลย์เชื้อสายมาเลย์ที่นับถือศาสนาอิสลาม ได้ปกครองแบบแบ่งแยก สนับสนุนคนเชื้อสายมาเลย์ที่นับถืออิสลาม กดคนเชื้อสายจีน , อินเดีย ทั้งในด้านการเมือง การรับราชการ ธุรกิจ การศึกษา เสรีภาพ ซึ่งก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สิงคโปร์แยกตัวออกไป ทำให้คนมาเลย์ต่างเชื้อสาย ต่างคนต่างอยู่(ในสังคมเดียวกัน)ไม่ค่อยมีการแต่งงานข้ามกลุ่ม และคนเชื้อสายต่างๆก็ยังพูดภาษาเดิมของตัวเองได้ดี ไม่ถูกกลืนไปเป็นคนมาเลย์ท้องถิ่น ไม่เหมือนกับเมืองไทยที่ทุกคนถูกหลอมรวมให้เป็นไทยเหมือนกันหมด แต่กรณีนี้จะไปโทษ 100% ว่าเป็นความผิดของศาสนาอิสลามเลยก็ไม่ได้ แค่มีแนวโน้มสูงเท่านั้น เพราะมีอีกหลายประเทศที่ใช้นโยบายแบบนี้และไม่ได้เป็นอิสลาม เช่น คนผิวขาวนับถือคริสต์ในแอฟริกาใต้ คนผิวขาวนับถือคริสต์ในอเมริกา(ในสมัยก่อน, ปัจจุบันดีขึ้นมากแล้ว) แต่ยอมรับว่าการนับถือศาสนาอื่นในประเทศอิสลามน่ากลัวจริงๆ โดยเฉพาะการเปลี่ยนจากอิสลามไปนับถือศาสนาอื่น จากคุณ : Persimon เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:08:35

ความคิดเห็นที่ 32 ทั้งหลายทั้งปวงที่่่ท่านว่ามามันไม่เกี่ยวกับศาสนาหรอกครับ มันคือการเมืองล้วนๆ เขารักษาสิทธิให้พวก ภูมิบุตร ถ้าไม่เกี่ยวกับการเมือง งั้นผมไปมาเลย์คงได้สิทธิซินะ เพราะผมเป็นอิสลาม ว่าไหม ..... ที่นี่ประเทศไทย และเราก็สมควร ที่เราจะได้รับสิทธิ เพราะเราเป็นคนไทยแท้ 100% เพียงแต่เรานับถือศาสนาอิสลาม  โอไหมครับ ... ถ้าไม่โอก็ยื่นเรื่อง เข้า ครม.เลย ...................... แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 12:15:10 จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:11:18

ความคิดเห็นที่ 33 มาเลย์ไม่ได้ใช้ศาสนาอิสลามปกครองประเทศงัยครับ ง่ายนิดเดียว แล้วเขาก็ไม่ได้กีดกันทางความเชื่อ หรือการปฏิบัติศาสนกิจ ไม่ต้องไปดูบ้านเพื่อนก็ได้ครับ กลับมาดูบ้านเราที่อ้างว่า เปิดกว้างมากมาย  ก่อนดีกว่า นอกเหนือจากประเด็นต่อต้านการสร้างมัสยิดนี้ มีการปิดกั้นทางศาสนาอย่างไรบ้างในประเทศเรา ลืมกันรึยัง? http://topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/03/Y10311330/Y10311330.html http://www.bungarayanews.org/news/view_news.php?id=62 http://tvthainetwork.com/2010/board/index.php?topic=2077.0 http://www.thaimuslim.com/overview.php?c=1&id=1616 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:27:05

ความคิดเห็นที่ 34 " ในปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 3,600,000,000 บาท (119,600,000 เหรียญสหรัฐ) แก่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระของรัฐ สำนักงานนี้มีหน้าที่กำกับดูแลคณะสงฆ์และอนุมัติหลักสูตรการเรียนการสอนพุทธศาสนศึกษาของวัดพุทธและสถาบันการศึกษาศาสนาพุทธทุกแห่ง นอกจากนี้ สำนักงานฯ ยังให้การสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์การศึกษาและการประชาสัมพันธ์พุทธศาสนาที่เกี่ยวกับการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวัน สำหรับปีงบประมาณ 2553 รัฐบาลจัดสรรงบประมาณโดยผ่านกรมศาสนา 125 ล้านบาท (4,150,000 เหรียญสหรัฐ) แก่องค์กรของศาสนาพุทธ 35.6 ล้านบาท (1.2 ล้านเหรียญสหรัฐ) แก่องค์กรของศาสนาอิสลาม และ 3 ล้านบาท(99,667 เหรียญสหรัฐ) แก่องค์กรของศาสนาคริสต์ พราหมณ์-ฮินดูและซิกข์ นอกจากนี้ กรมศาสนายังจัดสรรงบประมาณปี 2553 จำนวน 38 ล้านบาท (1,260,000 เหรียญสหรัฐ) เป็นเงินทุนให้แก่งานวิจัยทางศาสนา กิจกรรมของเยาวชนและค่ายธรรมะฤดูร้อน ตลอดจนเงินทุนอีก 10,600,000 ล้านบาท (352,159 เหรียญสหรัฐ) สำหรับโครงการส่งเสริมศาสนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้" http://thai.bangkok.usembassy.gov/services/docs/reports/religious_jul_dec10-t.html ++++++++++++ รู้สึกว่างบประมาณจะไม่ได้จัดสรรตามสัดส่วนการนับถือศาสนาของประชากรนะครับ? ไหนล่ะครับผู้เรียกร้องความยุติธรรมที่ออกมาปลุกระดมทั้งหลาย ?? จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:39:19

ความคิดเห็นที่ 35 ขอถามคุณ ยูซูฟ ใช่คุณหรือเปล่า ถ้าใช่ก็ปลอดภัยแล้วที่หลบมาอยู่เมืองไทยได้ ในรูปคือศาสนาจารย์ ยูเซฟ นาดาร์คอนี จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 12:58:20

ความคิดเห็นที่ 36 สรุปละกัน .... กรุณาแยกด้วยว่า มันเรืองการเมือง หรือ ศาสนา ___________________________\\\\\\\\\\\\\\\\\\\__________________ ปล... ถ้าคิดว่าสิ้งที่กำลังทำอยู่มันช่วยให้คนในชาติปรองดองกันมากขื้นละก็ ขอสนับสนุนให้ทำต่อไป ... เพื่อในหลวงของพวกเรา จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:08:15

ความคิดเห็นที่ 37 ก็ต้องดูกันว่าคุยกันด้วยหลักการหรือ หลักฐานได้หรือเปล่า ผมเองมองว่า กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งอยุ่บนหลักฐานหรือหลักการแต่แรก แค่กระทู้ระบาย หลังจากนี้   ไปมั่วข้อมูลเรื่อง งบประมาณ ระหว่างพุทธ อิสลามเท่านั้น #21 น่าจะเป็นตัวอย่างที่ชัด ของการระบายอารมณ์โดยไม่ต้องอาศัย หลักฐานอ้างอิง ในการกล่าวร้ายอะไรสักอย่าง มันทำกันง่าย ทำกันจนเป็นธรรมเนียมไปซะแล้ว ถึงตอนนี้ ต่อให้ยกหลักฐาน หรือ หลักการ หรือไปเสาะหามาให้ จขกท ก็คงเงียบแล้วไปเปิดกระทู้ใหม่ เหมือนกับ เรื่องงบประมาณอยู่ดี ต่อให้พบว่า กฏหมายโลกอิสลามมีหลายพื้นที่เื้อื้อระหว่างศาสนา หรือแม้แต่ คำสอนหลักในอัลกุรอานเองก็ตาม แต่สุดท้ายก็จบเหมือนเดิม เหมือนเรื่องงบประมาณ ความจริงไม่สำคัญเท่าความอยากจะตะโกนด่าใครสักคน ผมแนะนำว่าอย่าทะเลาะกันเลยครับ แยกย้ายดีกว่า แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 14:34:25 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:33:11

ความคิดเห็นที่ 38 ผมคิดว่า มุสลิมแยกไม่ออกแน่ครับว่าการเมืองหรือศาสนา เพราะในศาสนาอิสลามได้รวมการเมืองไว้ในการศาสนาด้วย ไม่เหมือนของชาวพุทธ ที่เห็นได้ชัดเจนว่าอะไรคือการเมืองอะไรคือการศาสนา และ มุสลิม ก็เล่นการเมืองเพื่อการศาสนา ที่ยกกระทู้มานี้ก็ไม่ได้เพื่อต้องการ รุกรานใคร แต่เป็นเพียงเพื่อให้ชาวพุทธตระหนักรู้ และตื่นตัว อย่าประมาท กับสิ่งที่อยู่รอบตัว อย่าไว้ใจทางอย่าวางใจคน อย่าเชื่อคำคน ที่ทำให้เรื่องผิดเป็นถูก และคอยกลืนกิน  พอเห็นชัดเจนว่ามันผิดไม่ถูกต้อง ก็อ้างการเมืองบ้างอะไรบ้าง ทั้ง ๆ ที่ผลที่จะได้ตามมาก็คือศาสนาอย่างเห็นไ้ด้ชัด 1000% ก็คือการบีบบังคับศาสนาอื่น เพิ่มจำนวนมุสลิม นั่นเอง  และอีกอย่างก็อยากให้ชาวมุสลิมเองตระหนักรู้พฤติกรรมของตัวเองเสียบ้างว่าทำอะไรเลวร้ายกับคนอื่นไว้แค่ไหน  แต่ไม่เคยยอมรับ โยนทิ้งหนีออกพ้นตัวไปเสียหมด อย่างประเด็นนี้ ก็เห็นชัดเจนว่า  หากประเทศไหนที่มีมุสลิมปกครองประเทศอยู่นั้น ได้กระทำการอย่างไรบ้าง ให้เอามาเทียบกับประเทศไทยที่ชาวพุทธปกครองอยู่ ว่ามันแตกต่างกันคนละขั้ว  ดีอยู่แล้วหากว่ามุสลิมอยากจะอยู่ร่วมอย่าางสงบ กับชาวพุทธจริง ๆ แต่เท่าที่เห็นที่ผ่านมามักจะไม่ใ่ช่เท่าไหร่  ไม่เชื่อก็คอยดูสิ ถ้า ประชาธิปปัตย์ที่มี สส.มุสลิมจำนวนมาก ได้มาเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ เชื่อเหลือเกินว่า จะเห็นท่าทีของชาวมุสลิม ออกมาในเรื่องต่าง ๆ ทันที   ไม่เชื่อก็รอดูต่อไป แค่สมัยที่แล้วก็มีเรื่อง โรงเรียนวัด ไ่ม่ว่ามีพิธีกรรมอะไร ก็มีแต่พิธีของอิสลามเสียส่วนมาก แม้แต่หัวเสาธงชาติ ยังดูเปลี่ยนไป เขาเรียกว่า กลืนในเชิงสัญลักษณ์ จากคุณ : Mopeena เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:35:25

ความคิดเห็นที่ 39 #38 ผมเห็นด้วยที่พุทธแยกการเมืองออกจากศาสนา ถึงแม้จะมีหลักคำสอนถึง การวางตัวของกษัตริย์อย่างเป็นธรรม หรือ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของทางสันติอโศกก็ตาม (ผมได้มีโอกาสเข้าไปสัมผัส และ ชื่มชมระบบของพ่อท่านในหลายประเด็น) แต่ดูเหมือน จขกท จะแยกไม่ออกระหว่างการเมืองกับศาสนานะครับ เพราะถ้าพูดถึงศาสนา ย่อมต้องพูดถึงคำสอน ไม่ใช่ประเทศหรือคน อัลกุรอานบอกว่า ไม่มีการบังคับศาสนา... คุณเชื่อไม่ .... ไม่เชื่อ เพราะคุณเอาเรื่องของคนมาแทนคำสอน ดังนั้น จขกท ต้องแยกให้ออกก่อนว่าอะไรเป็นเรื่องการเมือง หรืออะไรเป็นเรื่อง ศาสนา คำสอนหรือ คน หรือประเทศ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 14:43:16 จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:38:37

ความคิดเห็นที่ 40 คุณเข้าใจผิดเรื่องงบประมาณมาเรื่องหนึ่งแล้ว ไม่ลองทบทวนสิ่งที่ตัวเข้าใจก่อนหรือครับว่าจริงๆแล้ว เข้าใจถูกหรือ คิดเอาเอง เหมือนเรื่องงบประมาณอีก ? จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:40:34

ความคิดเห็นที่ 41 เสริมเรื่องอิหร่าน แม้การเปลี่ยนศาสนาจากอิสลามเป็นศาสนาอื่นจะมีโทษร้ายแรงถึงประหาร ซึ่งประเด็นนี้ผมไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว แต่มันเป็นเรื่องของเขาช่วยไม่ได้ แต่ในอิหร่านคนที่นับถือศาสนาอื่นมาแต่เดิมแล้วไม่โดนกฏหมายข้อนี้ครับ เช่นคนที่นับถือศาสนาโซโรอัสเตอร์ก็นับถือได้ตามปกติแค่ถูกจำกัดสิทธิทางการเมืองบางอย่างเท่านั้น หรือแม้แต่คริสเตียน หากมีคริสเตียนดั้งเดิมในอิหร่านก็ไม่ผิดเช่นกัน จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 14:47:41

ความคิดเห็นที่ 42 ท่าน Mopeena ถ้าท่านได้ข้อมูล ที่ผิดๆ ถูกๆ เรื่องศาสนาอิสลาม มาจากแหล่งข้อมูลนี้ผมมีอะไรมาให้ท่านดูเรื่อง การเมืองกับศาสนา ว่าสวนทางกันหรือไม่ รบกวนอ่าน พารากราฟสุดท้าย ประโยคท่อนสุดท้าย แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 15:20:38 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 15:19:56

ความคิดเห็นที่ 43 พอแขกจนมุมก็แถไปเรื่อย จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 17:39:56

ความคิดเห็นที่ 44 เขาเรียกว่าโรคกลัวอิสลามขึ้นสมอง ฮ่าๆๆๆๆๆๆ แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 19:26:50 แก้ไขเมื่อ 25 พ.ค. 55 19:25:03 จากคุณ : Lawsgod เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 19:23:48

ความคิดเห็นที่ 45 MCE พี่จิมถามหน่อยว่า การแต่งกายด้านซ้ายมือเค้าเรียกว่าชุดอะไร ใชในยุคสมัยไหน และเป็นการแต่งกายประจำภาคใด  มีวิวัฒนาการของเครื่องทรงจากที่ใด จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 20:38:09

ความคิดเห็นที่ 46 ซ้ายมือแต่งกายตามอุดมคติแบบคนไทย ครับ ขวามือเป็นการแต่งกายตามหลักศาสนา  พี่จิมชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ และอันไหนดูมีราศี มีความสง่างามมากกว่ากันครับ จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 21:06:59

ความคิดเห็นที่ 47 มาแระหรา ท่าน สทร จิมโง่งี่ ฮ่าๆๆ จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 21:07:10

ความคิดเห็นที่ 48 เคยสังเกตุบ้างหรือไม่ว่าทำไมตะวันออกกลางเกือบทุกประเทศมีประชากรที่ไม่ใช่มุสลิมน้อยมากๆๆๆๆ เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์   มีน้อยแหละดีแล้ว ไม่มีเลยยิ่งดี  เพราะพวกนี้มันฆ่ากันเองทุกวัน วันละหลายร้อยศพแย่งกันตายไปเฝ้าพระเจ้าผีกัน จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 22:23:16

ความคิดเห็นที่ 49 ิอิสลาม กฏเหล็กเยอะ จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 23:09:47

ความคิดเห็นที่ 50 ตื่นจากชุดคนไทยตามอุดมคติ มาสู่ชุดไทยตามความเป็นจริงในอดีตดีกว่า ถามว่า มีสง่าราศีไหมก็อย่างที่เห็นครับ ไม่ต่างจากชุดไทยในปัจจุบันมากนัก จุดร่วมคือโชว์เนินอก โชว์สะดือ รัดรูป สวย สง่าไหม? ก็ขึ้นอยู่กับไม้แขวนครับ ถามผู้ชายว่าชอบแบบไหน?ผู้ชายไทยคงชอบแบบโป๊เปลือยมากกว่า โดยเฉพาะพวกพื้นฐานหื่น แต่ถ้าถามว่าอย่างไหนปลอดภัย แะปกป้องเกียรติยศเธอได้มากกว่ากัน? ก็ต้องชุดที่ปกปิดเรือนร่างได้มิดชิดกว่าครับ คือต้องเข้าใจว่าหลักคิดต่างกัน สตรีมุสลิมไม่แต่งกายเพื่อยั่วยวน หรือ กระตุ้นความพึงพอใจของเพศชายนอกบ้านเป็นหลักครับ พวกเธอแต่งเพื่อความพึงพอใจของผู้สร้างเธอต่างหาก มีเกียรติยศศักดิ์ศรีมากกว่ากันเยอะ จะหนีไปโจมตีประเด็นไหนต่อครับ? บรรดาคนไข้ทั้งหลาย? แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 01:08:10 แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 00:04:15 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 00:00:47

ความคิดเห็นที่ 51 ชุดไทยของชาวบ้านธรรมดาๆ จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 00:02:12

ความคิดเห็นที่ 52 เจอชุดนี้พร้อมอาวุธครบมือ  ชุดไทยๆชิดซ้ายเลย จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 01:35:12

ความคิดเห็นที่ 53 ชุดนี้ก็เหมาะกับแก๊งปลาไหลนะ ปลาไหลแต่งตัวเป็นพนักงานแมคโดนัลด์ ด้วยยยย จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 08:26:53

ความคิดเห็นที่ 54 MCE ตอบไม่ตรงคำถาม  คำถามง่าย ว่าเค้าเรียกชุดอะไร เป็นชุดในยุคไหน อยู่ในภาคอะไร มีวิวัฒนาการเครื่องทรงจากอะไร คำถามง่าย ๆตอบให้ตรงๆ แล้ว ชุดไทยในอุดมคติ มีรูปแบบใด การดีไซน์แบบไหน ถามเรื่องนี้ ไปตอบเรื่องใหม่ เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์เลย คำถามใหม่มาแระ ตอบหน่อยครับให้สมกับเป็นนักตรรก และนักวิทยาศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์ ตั้งข้อสังเกตุและข้อสันนิษฐาน บนพื้นฐานหลัก 5 W 1H อย่าลืม เสียหน้า ลูกองค์พระวิศนุกรรมป่าวๆ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 10:37:33 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:34:39

ความคิดเห็นที่ 55 ยูซุฟ แกงค์ปลาไหล หน้าตา เป็นอย่างไร มีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมมันถึงกลับชาติมาเกิดเป้นปลาไหลได้ ตอบด่วน ตรง คำถาม ถ้าตอบไม่ได้ไม่ตรงคำถามกลับไปเกิดใหม่ ชิ้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:36:20

ความคิดเห็นที่ 56 คุยกับพวกแขกที่อ้างตัวว่าเป็นคนไทยเเล้วเหมือนไม่ได้คุยกับคนไทยเลย ขนาดโพสรูปชุดไทยในอุดิคติสวยๆดูสง่าแขกพวกนี้ ยังพูดไปในทางให้ดู "สวย สง่าไหม? ก็ขึ้นอยู่กับไม้แขวนครับ ถามผู้ชายว่าชอบแบบไหน?ผู้ชายไทยคงชอบแบบโป๊เปลือยมากกว่า โดยเฉพาะพวกพื้นฐานหื่น แต่ถ้าถามว่าอย่างไหนปลอดภัย แะปกป้องเกียรติยศเธอได้มากกว่ากัน? ก็ต้องชุดที่ปกปิดเรือนร่างได้มิดชิดกว่าครับ" นี่หรือคนไทย?ยกย่องวัฒนธรรมเมืองแขก ต่อต้านวัฒนธรรมไทยๆ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 12:22:03 จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 11:45:43

ความคิดเห็นที่ 57 ไม่รู้ mce จะมีความรู้บ้างหรือไม่ว่า วัฒนธรรมที่ตนเองภาคภูมิใจนักหนา เพิ่งลืมตาดูโลกมาเมื่อไม่นานมานี้เอง ที่สำคัญก็แอบหยิบวัฒนธรรม แขก ที่ตนเองดูแคลนมาไม่น้อย ( ลืมกระทั่งศาสนาตนเองก็มาจาก "แขก" ) นำมาผสมลาว ผมจีน ผสม เขมร  ลืมไปว่าวัฒนธรรมการแต่งกายตนเองพ่ายแพ้แก่วัฒนธรรมสมัยใหม่ตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วครับ พึงสังวรณ์ไว้ จะได้ลดอาการโอหัง บังอาจขุดคุ้ยมาเหยียบย่ำวัฒนธรรมอื่น หรือ ศาสนาอื่น ที่มีคนสืบสานมาได้ครบถ้วนสมบูรณ์ จวบจนยุคสมัยปัจจุบัน หาก mce ยังคงภาคภูมิใจในสไตล์เหล่านี้นักก็อย่าลืมบอกคนในบ้านให้ตัดเอามาใส่ในโลกแห่งความจริงบ้างนะครับ แบบไพร่ แบบนางรำ หรือ แบบขุนนางก็ได้ ไม่ใช่แอบเก็บไว้ฝันในอุดมคติ แล้วตื่นขึ้นมา ใส่สายเดี่ยวเกาะอกออก "หากิน" ^^ แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 16:32:35 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 16:28:59

ความคิดเห็นที่ 58 ที่นี่เมืองไทยไม่ใช่เมืองแขก พึงสังวรณ์ไว้บ้าง จากคุณ : mce เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 17:08:08

ความคิดเห็นที่ 59 แผ่นเสียงตกร่องเหรอ? จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 17:14:01

ความคิดเห็นที่ 60 บุญของประเทศไทยแล้วครับที่มีพระพุทธศาสนาเป็นสรณะของประชากรส่วนใหญ่ ตั้งใจรักษาไว้ให้ดีด้วยความ "ไม่ประมาท" นะครับ หมั่นให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เพื่อรักษาแก่นธรรมกันครับ สาธุ จากคุณ : สติ เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 19:43:10

ความคิดเห็นที่ 61 ^ ^ หลังอ่านกระทู้นี่ คงต้องบอกว่าดีแล้วที่ผมเกิดเมืองไทย - -" จากคุณ : Ken Akamatsu เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 20:16:11

ความคิดเห็นที่ 62 ประสาทมากเลย เออ ไม่มีศาสนาไหนในโลกที่มันดีเท่าพุทธแล้ว ประเสริฐสุด ดีที่สุด ใครไม่สนใจ ไม่นับถือ เปลี่ยนไปนับถืออย่างอื่น คือพลาดแล้วละ เหมือนลิงได้แก้ว มีของดีอยู่แล้วไม่รู้ค่า บลาๆๆๆๆ พวกประสาท เราไม่มีศาสนาหรอกนะ แต่เห็นอิสลามโดนพวกพุทธประสาทๆโจมตีมานานแล้ว เหลืออดเหลือทน รำคาญชะมัด เหมือนพวกจิตไม่ปกติ เวลาใครมาบอกว่าธรรมกายทำนั่นทำนี่ ทีงี้ละบอกว่าธรรมกายไม่ใช่พุทธแท้ ของศาสนาอื่นเขาก็มีเหลือบศาสนาเหมือนกัน ไม่เห็นแปลก นี่ก็ลากเอาพวกคนไม่ดีในศาสนาเขามาเป็นประเด็นอยู่ได้ ทั้งๆที่พุทธเองพวกแย่ๆก็เยอะ ทั้งธรรมกาย ทั้งเณรไร้ราว (ดูคลิปในยูทิวป์เอาละกันว่าคืออะไร) ทั้งพระแย่ๆอีกเยอะ ไม่เห็นเจียมตัว ทุกคนต่างก็แสวงหาความจริงในรูปแบบที่ซัพพอร์ทความเชื่อพื้นฐานของตัวเองทั้งนั้นแหละนะ ใครคิดว่าต้องมีคนสร้างนั่นโน่นนี่ ก็เชื่อพระเจ้าไป ใครที่อยากหลุดพ้น ก็เป็นพุทธไป แต่พวกทุเรศนี่คือพวกที่เอาแต่ด่าศาสนาอื่นแบบลามปาม แล้วก็ยกหางศาสนาตัวเองว่ากุดีงั้นดีงี้ ใครไม่ทำตามเท่ากับเมิงพลาดแระ แบบนี้ใช้ไม่ได้ จากคุณ : เทเลทับขี้ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 03:57:08

ความคิดเห็นที่ 63 ศาสนาไหนที่สอนให้คนพลีชีพฆ่าคนอื่น ได้ไปสวรรค์ไปนั่งเลียเท้าพระเจ้ามีหม้อ 72ใบเป็นของกำนัลไว้คลายกำหนัดหน้ามืดบนสวรรค์ แค่หลักคิดก้ทุเรสแล้วไม่ต้องรอชาติหน้าชาตไหนเลยเพื่อไปพิสูจน์ ต่างคนต่างอ้างพระเจ้าแล้วก็ฆ่ากันเองเพื่อจะได้รีบไปพบหม้อวิเศษ 72ใบพาไปสวรรค์ ตั้งแต่อดีตนานโพ้นตายไปแล้วกี่ร้อยล้านศพ พระเจ้าต้องวิ่งหาหม้อวิเศษมาให้พวกนี้เท่าไร ไม่รู้พอสักที จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 05:01:20

ความคิดเห็นที่ 64 ยูซุฟ แล้วมันหนักบาล ของยูซุฟหรอ ให้คู่ รักเทศ สะหน่อยดีมะ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 08:43:17

ความคิดเห็นที่ 65 เอาเวลาไปดูแลรักษาความสะอาดร่างกายตัวเองดีกว่าไหม ยูซุฟ ถอนขนรักแร้ โกนขนที่ลับ สกปรกทั้งกายทั้งใจเลยน่ะ Sponge . จากคุณ : SalaDin (A.TheRipper94) เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 01:26:28

ความคิดเห็นที่ 66 ความคิดเห็นที่ 9 คุณ  Faraday เรื่องของคุณดูน่าสนใจ ขอหลักฐาน เรื่องแผนครองโลกได้ไหม? จะได้หาทางช่วยกันแก้ปัญหา แต่ถ้าเป็นเจากเว็บพระไทย ผมขอผ่านนะครับ เพราะโดนแฉแล้วว่าเป็นเรื่องเท็จ ขอบคุณสำหรับข้อมูลอื่นๆ ผมรอฟังครับ จากคุณ : Yaoharee [Bloggang] เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 10:59:05 [แก้ไข] ถูกใจ : laliklalee, Daffie, A.TheRipper94 ------------------------------------------------------------------- คุณ : Yaoharee : laliklalee, Daffie, A.TheRipper94 ผมเอามาให้ดูเป็นตัวอย่าง บอกให้ไปหาดูเองก็ไม่ทำ เมื่อเห็นเวลาเหมาะสมสำหรับผม ก็เอามาให้ดูตัวอย่างซะหน่อย มีอีกเยอะ ผมพอใจเมื่อไรจะเอามาให้ดูอีก เรื่องเวบพระไทยถ้าไม่มีสำนึกบุญคุณที่ผมทำให้อิสลามมีช่องระบายก็ตามใจไม่ว่ากัน จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 07:48:32

ความคิดเห็นที่ 67 และนี่คือจำนวนมุสลิมที่มีอยู่ทั่วโลกในปีปัจจุบัน ที่เขาเอามาอวดอย่างภาคถูมิใจ และทำให้เกิดกองทุนที่มีขนาดใหญ่โตมโหฬาร เอาไปใช้ทำอะไร มุสลิมไทยใครรู้บ้าง ? จากคุณ : Faraday เขียนเมื่อ : 28 พ.ค. 55 08:05:09

ความคิดเห็นที่ 68 64 65 รู้หราว่าคือสาดสะหนาไหน ที่มีหลักคิดแบบนี้ 63 ถ้ารู้ก็เฉลยมาหน่อยเส่ะ จากคุณ : ยูซุฟ เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 55 21:14:29