ความคิดเห็นที่ 1 555555  แปลแบบคนปัญญาอ่อน เลยนะครับ ถ้าแบบนี้ผม ก็แปลได้ว่า  พระพุทธเจ้าเป็นเกย์ สิ เพราะ พระองค์ ห้ามผู้หญิงบวช  จนพระอานนท์ ต้องทูลขอ ถ้าแปลแบบของคุณแปล ผมก็ต้องแปลว่า เพราะพระพุทธเจ้า อยากอยู่กับชายหนุ่มๆสิ  ผมว่าชาวพุทธก็ต้องว่าผมแปลมั่วๆเหมือนกันละ จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 25 พ.ค. 55 23:56:42

ความคิดเห็นที่ 2 เอาอะไรกับคนๆนี้ จากคุณ : Ch_Chang เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 02:13:31

ความคิดเห็นที่ 3 จะเอาไรมากกับพวก นับถือวิทยาศาสตร์ เป็นศาสนา พวกไร้ศาสนาก็อย่างนี้แหละครับ ... ระรานทุกศาสนาถ้ามีโอกาส จากคุณ : Daffie เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 07:18:36

ความคิดเห็นที่ 4 แล้วคนดูแลกระดานสนทนาก็ปล่อยมันแบบนี้ เดี๋ยวมันก็กลายเป็น ที่ที่พวกเกรียนมาระบายอารมณ์กัน จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 10:38:04

ความคิดเห็นที่ 5 เจริญพวงแคร่ะ จากคุณ : มหาบุรุษแห่งกรุงสยาม เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 11:26:53

ความคิดเห็นที่ 6 เสื่อมจริงๆเลยคนนี้ (จขกท) จากคุณ : sailsky เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 13:33:37

ความคิดเห็นที่ 7 อ่านไบเบิลใหม่ครับ ชายเล่นลูกสวาท ชายรักชาย มีระบุไว้ ในไบเบิล ฉบับ TBS การดูหมิ่นศาสนาอื่น เป็นเรื่องที่ไม่ดีเลยนะครับ จากคุณ : corelooy เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 14:57:14

ความคิดเห็นที่ 8 กลับมาแล้วเหรอครับ ยินดีด้วยครับที่ยังอยู่ พระเจ้าห้ามหรือไม่ห้าม จะเขียนไว้หรือไม่เขียนไว้ ก็ตาม คนที่เชื่อ กับคนที่ไม่เชื่อ ยังไงก็เห็นต่าง เอาว่า ไว้ว่ากันในวันสุดท้ายครับ ถึงตอนนั้นเราจะรู้กันหมดเลย พระเจ้ามี หรือ ไม่มี อะไรบาป หรือไม่บาป พระเยซู เป้นพระเจ้า หรือไม่เป็น นรกมีจริง หรือไม่มีจริง การเวียนวายมี หรือไม่มี รอพิสูจน์กันตอนนั้นครับ จากคุณ : หนุ่มชาวบ้าน เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 15:09:41

ความคิดเห็นที่ 9 หามาแย้งสิครับสาวกผีทั้งหลาย พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 20:16:33

ความคิดเห็นที่ 10 ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ >>>แล้วที่คุณยกมาคืออะไรเหรอครับ 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) >>>จะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์...<<<< มันไม่ใช่ห้ามเหรอครับ ?? จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 20:32:29

ความคิดเห็นที่ 11 มันเพี้ยนครับ มันเอามาลง มันอ่านป่าวไม่รู้ จากคุณ : Carroth เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 21:16:11

ความคิดเห็นที่ 12 คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 22:04:11

ความคิดเห็นที่ 13 55555555 คุณ  men of the day 55555555  ไอ้:-)  เอ๋ย โรงเรียนไหนสอนท่านมากรุณาไปเผาทิ้งสะ เพราะ สอนนักเรียนได้โง่งม เป็ฯที่อับอายแก่ ครูบาอาจารย์นัก แต่ก็ขออธิบาย เผื่อเพื่อนๆ ท่านอื่นที่มาอ่านได้เข้าใจว่า  คำว่า ตาย ในความหมายของพระคัมภีร์ในบริบท นี้  หมายถึงการตายฝ่ายวิญญาณ เรื่องความตายฝ่ายวิญญาณนั้นได้บันทึกไว้ใน ปฐก.2: 12,17 "พระเจ้าทรงตรัสแก่มนุษย์ว่า บรรดาผลไม้ทุกอย่างในสวนนี้เจ้ากินได้ทั้งหมด เว้นแต่ต้นไม้แห่งความสำนึกในความดี ละความชั่ว ผลของต้นไม้นั้นอย่ากินเพราะวันใดที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่ และ"พระเจ้ามิใช่มนุษย์จึงมิได้มุสาและไม่ได้เป็นบุตรมนุษย์จึงไม่ต้องกลับใจ ที่พระองค์ตรัสไปแล้ว พระองค์จะมิได้ทรงกระทำตามที่พระองค์ทรงลั่นวาจาแล้ว จะไม่ทรงกระทำให้สำเร็จหรือ กดว. 23 :19 ดังนั้นพระองค์ทรงตรัสว่า " ในวันที่เจ้าขืนกิน เจ้าจะต้องตายแน่" และมนุษย์สองคนแรกได้ขืนกิน เขาจึงต้องตายแน่ แต่ในสายตาของมนุษย์เขาหาได้ตายในวันนั้นไม่ แต่ถึงกระนั้นในสายพระเนตรพระเจ้าเขาตายเสียแล้ว ความตายนี้แหละที่พระคัมภีร์เรียกว่า " การตายฝ่ายวิญญาณ " เพราะทันทีที่เขาทั้งสองกินผลไม้นั้นเข้าไป สัมภาพอันสนิทสนมระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ก็ได้ขาดสะบั้นลงทันที การตายฝ่ายวิญญาณ ก็คือ การที่วิญญาณได้ถูกแยกออกจากพระเจ้าผู้เป็นแหล่งชีวิต ยน. 1:4 ใน ปฐก. 3 : 8 เวลาเย็นวันนั้น เขาทั้งสองได้ยินเสียงของพระเจ้าเสด็จดำเนินอยู่ในสวน ชายนันกับภรรยาก็หลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่ต้นไม้ ให้พ้นจากพระพักตร์พระเจ้าสามยสัมพันธ์ที่ขาดลงนั่นแหละ ทางด้านศาสตร์เราเรียกว่า "ตายฝ่ายวิญญาณ" คือ วิญญารหมดความสัมพันธ์กับพระเจ้า ความตายชนิดนี้บันทึกไว้ใน อฟ.2: 1,2 ว่า พระองค์ทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ แม้ว่าท่านตายแล้วด้วยการละเมิด และการบาป " ดู ,อฟ. 4 :18 ได้เรียกความตายว่า "เขาอยู่ห่างจากชีวิตที่มาจากพระเจ้า" ตาม อฟ. 4:17- 19 ได้ชี้ให้เราเห็นว่า รอบ ๆตัวเรานั้นประกอบด้วยคนที่ตายแล้วฝ่ายวิญญาณทั้งสิ้น จึงเป็นภาพที่น่าสมเพชยิ่ง และการที่จะพ้นจากฐานะของคนที่ตายแล้วฝ่ายวิญญาณมีอยู่ทางเดียว คือ เราต้องเชื่อข่าวประเสริฐของพระเยซูคริสต์ พระองค์ตรัสว่า " เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ถ้าผู้ใดฟังคำของเรา และวางใจในพระองค์ผู้ทรงใช้เรามา ผู้นั้นจะมีชีวิตนิรันดร์ และไม่ถูกพิพากษา แต่ได้ผ่านพ้นความตายไปสู่ชีวิตแล้ว ยน. 5: 24 " พระองค์ทรงกระทำให้ท่านทั้งหลายมีชีวิตอยู่ แม้ว่าท่านตายแล้วด้วยการล่วงละเมิด และการบาป " อฟ.2: 1 ดังนั้น กรุณาไปศึกษา พระคัมภีร์ ให้ดีๆก่อนนะรับ  อย่าตีความเหมือนเด็กปัญญาอ่อนสิครับ จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:01:37

ความคิดเห็นที่ 14 คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:24:30

ความคิดเห็นที่ 15 ^ คุณ men of the day ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. >>>>http://en.wikipedia.org/wiki/Sodomy ความจริงมันมีมาก่อนอีกนะครับ เรื่องเมือง Sodom ทำเป็นลืม แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 23:30:11 จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:28:51

ความคิดเห็นที่ 16 คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา สิ่งที่คุณยกมา มันเป็นพฤติกรรมหลังสมัยโมเสส Sodomy law as The Middle Assyrian Law Codes (1075 BC) คุณ Zadkiel ยังด้อยการศึกษา คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:38:07

ความคิดเห็นที่ 17 โลทกับโมเสสใครเกิดก่อนครับ อับราฮัมกับโมเสสใครเกิดก่อนเหรอครับ จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:42:02

ความคิดเห็นที่ 18 แล้วเรื่องในสมัยอับราฮัม กับเรื่องในสมัยโมเสส ใครมาก่อนครับ จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:42:42

ความคิดเห็นที่ 19 โอ้  คุณ men of the day ผมนึกว่าคุณแกล้งโง่ เสียอีก เอาเข้าจริงๆ นี่ เข้าขั้น สมองหม..ปัญญาควา..  เลยนะเนี่ย โง่ขนาดนี้ คุณไปไถนาเถอะ  อย่ามาโชว์โง่ให้อับอายแก่ บุพการี และอาจารย์ที่ได้สั่งสอนมาเลย ผมก็บอกไปแล้ว ว่า ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ นี่คุณยกมาเอง ซึ่งก็เป็นการ ชัดเจนว่า พระเจ้าได้กำหนดโทษเขาไว้แล้ว ว่า ให้ตกนรก ไม่สามารถไปสวรรค์ได้ นั่นคือโทษ  คือ เมื่อไหร่ที่เขา สิ้นชีวิตจากโลกนี้ไป  วิญญาณเขาจะไปคอยการพิพากษา และเมื่อการพิพากษามาถึง เขาก็จะได้รับโทษนั้น  อย่างนี้ไม่มีกำหนดหรือ   คนอะไร โง่ได้ดักดาน จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:43:35

ความคิดเห็นที่ 20 ผมไม่ได้พูดเรื่องกฎหมาย Sodomy law ครับ แต่ผมพูดเรื่องการสังวาสทวารหนักมีมานานแล้ว จับประเด็นหน่อยครับ จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:44:28

ความคิดเห็นที่ 21 คุณ men of the day บอกว่า เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. แต่ Sodomy มีมาตั้งแต่สมัยอับราฮัม?? จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:46:26

ความคิดเห็นที่ 22 5555 ไปละ ไม่อยาก บอกอะไรอีก เพราะ โง่ดักดาน ขนาดนี้  บอกไปก็เหมือน บอกก้อนหิน ตอไม้  เสียเวลา จากคุณ : orapronobis เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:47:49

ความคิดเห็นที่ 23 แค่จะบอกว่า การสังวาสทางทวารหนักมีมาตั้งแต่สมัยอับราฮัมแล้วครับ จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:48:34

ความคิดเห็นที่ 24 คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา คุณคิดไปเอง เพราะหลักฐานที่คุณยกมา มันเป็นสมัยอัสซีเรียน กรุณาหาหลักฐานที่สอดคล้องกับคำอ้างของคุณด้วย คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณตอบลาอีกแล้ว คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา สิ่งที่คุณยกมา มันเป็นพฤติกรรมหลังสมัยโมเสส Sodomy law as The Middle Assyrian Law Codes (1075 BC) คุณ Zadkiel ยังด้อยการศึกษา คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:50:32

ความคิดเห็นที่ 25 อัสซีเรียน เออ......คุณไปอ่านลิงค์ไหนมาครับ? http://en.wikipedia.org/wiki/Sodomy ในลิงค์ก็มีให้อ่านครับ เลื่อนมาอีกหน่อยไม่เจอเหรอครับ เรื่องของของเมืองโซดอมในสมัยอับราฮัม http://en.wikipedia.org/wiki/Sodomy#Hebrew_Bible แก้ไขเมื่อ 26 พ.ค. 55 23:54:46 จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 26 พ.ค. 55 23:53:46

ความคิดเห็นที่ 26 คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา โลทและอับราฮัม อยู่ในยุคเดียวกัน เวลานั้นเมืองโสโดม ยังไม่ได้ถูกทำลาย นั้นหมายความว่าคุณคิดไปเอง หลักฐานดังนี้ 12 Abram dwelled in the land of Canaan, and Lot dwelled in the cities of the plain, and pitched his tent toward Sodom. (Genesis 13:12) 12 อับราม​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​คา​นา​อัน ส่วน​โลท​อาศัย​อยู่​ท่าม​กลาง​เมืองต่างๆ ใน​ที่​ราบ และ​ย้าย​เต็นท์​ไป​ตั้ง​ถึง​เมือง​โสโดม (เจเนซิส 13:12) คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา คุณคิดไปเอง เพราะหลักฐานที่คุณยกมา มันเป็นสมัยอัสซีเรียน กรุณาหาหลักฐานที่สอดคล้องกับคำอ้างของคุณด้วย คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณตอบลาอีกแล้ว คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา สิ่งที่คุณยกมา มันเป็นพฤติกรรมหลังสมัยโมเสส Sodomy law as The Middle Assyrian Law Codes (1075 BC) คุณ Zadkiel ยังด้อยการศึกษา คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 00:08:59

ความคิดเห็นที่ 27 ท่าทางจะจับประเด็นไม่ได้ ผมแค่จะบอกว่า Sodomy มีมาตั้งแต่สมัยอับราฮัมแล้ว ซึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่า การมีอะไรกันทางทวารหนักนั้นน่ะมีมาก่อนสมัยโมเสสเสียอีกครับ สรุปให้แบบนี้พอจับประเด็นได้ไหมครับ จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 00:14:52

ความคิดเห็นที่ 28 คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ผมสรุปให้แบบนี้พอจับประเด็นได้ไหมครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา โลทและอับราฮัม อยู่ในยุคเดียวกัน เวลานั้นเมืองโสโดม ยังไม่ได้ถูกทำลาย นั้นหมายความว่าคุณคิดไปเอง หลักฐานดังนี้ 12 Abram dwelled in the land of Canaan, and Lot dwelled in the cities of the plain, and pitched his tent toward Sodom. (Genesis 13:12) 12 อับราม​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​คา​นา​อัน ส่วน​โลท​อาศัย​อยู่​ท่าม​กลาง​เมืองต่างๆ ใน​ที่​ราบ และ​ย้าย​เต็นท์​ไป​ตั้ง​ถึง​เมือง​โสโดม (เจเนซิส 13:12) คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา คุณคิดไปเอง เพราะหลักฐานที่คุณยกมา มันเป็นสมัยอัสซีเรียน กรุณาหาหลักฐานที่สอดคล้องกับคำอ้างของคุณด้วย คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณตอบลาอีกแล้ว คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา สิ่งที่คุณยกมา มันเป็นพฤติกรรมหลังสมัยโมเสส Sodomy law as The Middle Assyrian Law Codes (1075 BC) คุณ Zadkiel ยังด้อยการศึกษา คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 00:23:40

ความคิดเห็นที่ 29 ตามสบายครับ คุณ men of the day จากคุณ : Zadkiel เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 00:29:15

ความคิดเห็นที่ 30 เล่นกับ  men of the day   men of the day ก็เลียปาก เป็นธรรมดาของสันดานเดรฉานอะครับทุกท่าน จากคุณ : ศรัทธาพลัง เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 14:32:18

ความคิดเห็นที่ 31 คุณ ศรัทธาพลัง สมองน้อยด้อยการศึกษา พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าชายสมสู่กับชายทางทวารหนัก เพราะไม่ได้สมสู่แบบหญิงทางช่องคลอด หาหลักฐานมาแย้งผมสิ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ผมสรุปให้แบบนี้พอจับประเด็นได้ไหมครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา โลทและอับราฮัม อยู่ในยุคเดียวกัน เวลานั้นเมืองโสโดม ยังไม่ได้ถูกทำลาย นั้นหมายความว่าคุณคิดไปเอง หลักฐานดังนี้ 12 Abram dwelled in the land of Canaan, and Lot dwelled in the cities of the plain, and pitched his tent toward Sodom. (Genesis 13:12) 12 อับราม​อาศัย​อยู่​ใน​แผ่น​ดิน​คา​นา​อัน ส่วน​โลท​อาศัย​อยู่​ท่าม​กลาง​เมืองต่างๆ ใน​ที่​ราบ และ​ย้าย​เต็นท์​ไป​ตั้ง​ถึง​เมือง​โสโดม (เจเนซิส 13:12) คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา คุณคิดไปเอง เพราะหลักฐานที่คุณยกมา มันเป็นสมัยอัสซีเรียน กรุณาหาหลักฐานที่สอดคล้องกับคำอ้างของคุณด้วย คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณตอบลาอีกแล้ว คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา สิ่งที่คุณยกมา มันเป็นพฤติกรรมหลังสมัยโมเสส Sodomy law as The Middle Assyrian Law Codes (1075 BC) คุณ Zadkiel ยังด้อยการศึกษา คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis คุณ ลูซิเฟอร์orapronobis เฉไฉ ผมถามอูฐ คุณมาตอบลาได้อย่างไร ครับ คุณ Zadkiel ด้อยการศึกษา กรุณาอ่านต่อด้วย "อย่างท่านทำกับผู้หญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่าัรังเกียจ" และผู้ชายไม่มีช่องคลอดเหมือนผู้หญิง เพราะฉะนั้นไม่มีโองการไหนห้ามผู้ชายกับผู้ชาย เพราะสมัยโมเสสไม่มีชายคนไหนสมสู่กับหญิงทางทวารหนัก. คุณ carroth มุสลิมด้อยการศึกษา โง่กว่ามูฮัมมัดที่อ่านหนังสือไม่ออก กรุณาทำความเข้าใจ ไบเบี้ยด้วยครับ บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน หลักฐานชัด ผมขอเสนอทฤษฎี”พระยาห์เวห์ไม่ห้ามการสมสู่เพศเดียวกัน” ด้วยไม่มีโองการใดห้ามไว้ ในไบเบี้ย นอกจากเป็นที่น่ารังเกียจและให้ทั้งคู่อยู่ด้วยกันจนตายเท่านั้น หลักฐานดังนี้ บางส่วนในไบเบี้ย 22 Thou shalt not lie with mankind, as with womankind: it is abomination. (Leviticus 18:22) 22“ท่านจะต้องไม่มีเพศสัมพันธ์กับชายด้วยกันอย่างที่ท่านทำกับหญิง เพราะเป็นการกระทำที่น่ารังเกียจ” (เลวีนิติ 18:22) 13 If a man also lie with mankind, as he lieth with a woman, both of them have committed an abomination: they shall surely be put to death; their blood shall be upon them. (Leviticus 20:13) 13 ชายใดนอนกับผู้ชายเหมือนอย่างกับผู้หญิง ทั้งสองคนทำผิดในสิ่งอันพึงรังเกียจ ทั้งสองคนนั้นจะต้องถูกลงโทษถึงตายแน่ๆ ที่พวกเขาต้องตายนั้นพวกเขาเองเป็นผู้รับผิดชอบ (เลวีนิติ 20:13) บทลงโทษไม่ได้กำหนดเวลาที่แน่นอนว่าจะลงโทษเมื่อไหร่ อย่างไร นั้นหมายความว่า ถ้าทั้งคู่แก่ตายก็หมายความว่าเขาทั้งคู่ได้รับผิดชอบในสิ่งที่ทำร่วมกันแล้ว คำถามคือ 1.รักร่วมเพศสามารถทำได้ พระยาเวห์พระเจ้าผีไม่ห้าม ถ้าทั้งคู่แก่ตาย ใช่หรือไม่ จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 27 พ.ค. 55 19:11:55

ความคิดเห็นที่ 32 555555 ขำเหลือเกินที่แม่ชี ฝรั่งชน เบียร์กัน สงสัยคงกดดัน อยู่แต่ในโบส ออกมา ข้างนอกเลย แอบซุบซิบๆ กันว่า มาๆๆๆ มาเมากันสักหน่อยดีกว่า ครึ้ม อกครึ้มใจดี อยู่แต่ในโบส ก้ายบ่าเฮ้ย ตลกดีไม่รู้ไปเอารูปไหนมาคะ จากคุณ : bossy_girl เขียนเมื่อ : 29 พ.ค. 55 18:11:47