ความคิดเห็นที่ 1 1. คู่ธาตุไฟ   เหตุ......ที่เอาธาตุไฟเป็นธาตุแรก เพราะโลกเรานั้นกำหนิดจกลูกไฟ ที่หลุดแตกกระจาย มาจากดวงอาทิตย์  ไฟจึงเสมือนเป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นหลังงานในการ สร้างสรรค์ชีวิต ไฟจึงเป็นต้นเหตุก่อนอื่นใดทั้งหมด ถ้าไม่มีไฟจากดวงอาทิตย์ โลกก็ไร้ผู้คน ไม่มีสิ่งมีชีวิต...                         คู่ธาตุไฟคือ ดวงอาทิตย์(1) และ ดาวเสาร์(7) จะสังเกตุว่ามื่อใดที่ดวงอาทิตย์โคจรมาเข้าระยะดึงดูดของดาวเสาร์ อาดาศมักจะร้อนอบอ้าว ยิ่งถ้าเจอในราศรีธาตุไฟเอง ได้แก่ ราศรีเมษ, สิงห์ และธนู อากาศยิ่งร้อนครับ แต่....แม้จะเป็นธาตุไฟเหมือนกัน แต่ให้ความหมมายแตกต่างกัน - ไฟดวงอาทิตย์ เป็นไฟชี้นำ ไฟสว่าง ไฟความร้อน ที่ลุกเป็นเปลวไฟจริงๆ เป็นบ่อเกิดแห่งพลังต่างๆ - ไฟดาวเสาร เป็นไฟสุมทรวง ให้ความร้อนรน ร้อนใจ  รุ่มร้อนในอก กลัดกลุ้ม ถือเป้นแค่ไฟที่ยังไม่ลุก เป็นแค่ไฟสุม ไฟคุครับ จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 08:57:32

ความคิดเห็นที่ 2 2. คู่ธาตุดิน    เมื่อ...เย็นลง ก็จะเป็นดินกลายเป็นโลก ธาตุดินได้แก่ราศรีพฤษก, กันย์ และมังกร ให้ความหนักแน่น มั่นคง มีสเถียรภาพ ถ้าเป็นนิสัยก็ไปในทางอดทน บึกบึน ยึดมั่นถือมั่น มีคุณภาพในการสะสาม รวบรวม สังเกตุ เลือกเฟ้น เป็นราศรีของการปฏิบัติ ธาตุดินต่างจากธาตุไฟ ถือว่ตรงข้ามกันเลย เพราะธาตุดินไม่ชอบของใหม่ ไม่ชอบริเริ่ม                         คู่ธาตุดิน คือดวงจันทร์(2ป และดาวพฤหัสบดี(5) แต่เปนดินคนละแบบกันนะครับ - ดินของจันทร์ เป็นดิมชุ่ม ดินเพาะปลูกต้นไม้ต้นพืชต่างๆ เป้นความหมาย ของการเลี้ยงดุ ดูแล ความเมตตา - ดินของดาวพฤหัสบดี ้ป่นดินแห้ง เอามาใช้ปั้นหม้อปั้นไห เป็นดินที่ใช่ทำ ถ้วยชาม อันหมายถึงความหมายของการฝึกฝน ฝึกทักษะต่างๆ ปั้นดินให้เป็นดาว ดินพฤหัสบดีจึงเป็นแบบส่งเสริมคุณค่า เสมือนครูผู้สอนสั่งอบรมนั่นเอง จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:04:26

ความคิดเห็นที่ 3 3. คู่ธาตุลม    เมื่อ...โลกเย็นลง มีดินแล้ว ก็เกิดแก๊สต่างๆ ระเหยขึ้นหลายเป็นลม อันได้แก่ราศรี มิถุน, ตุลย์ และกุมภ์ ลมนั้นเข้าใจกันว่าเป็นสิ่งที่เคลื่อนไหวพัดไปมาได้ ดังนั้นธาตุลม จึงอุปมาเป็นเสมือน "ความคิด" ในที่นี้จึงหมายถึงสติปัญญา การติดต่อต่างๆ การปรับปรุง ตนเองเข้ากับสิ่งเวดล้อม เปลี่ยนแปลงไป ชีวิตธาตุลมมักเกี่ยวแก่ญาติพี่น้อง การเดินทาง(ราศรีมิถุน) คบหาสมาคม(ราศรีตุลย์) เพื่อน พรรคพวก และความมุ่งหวัง (ราศรีกุมภ์)                         คู่ธาตุลม คือดาวอังคาร(3) และราหู(8) - ลมอังคาร เป็นลมพายุ ลมแรงๆ พักบ้านช่องพังพินาศ เลยหมายถึงการทำลาย อารมณ์โกรธ(โทสะ) การพังพินาศต่างๆ - ลมราหู เป็นลมพัดหวน เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางทีหอบฝุ่นผงมาเต็มไปหมด ทำให้ระคายเคืองดวงตาและจมูก ดังนั้นราหูจึงหมายถึง "อารมณ์" เสียส่วนมาก เช่น คลุมเครือ ผันผวน เจ้าอารมณ์ แบนึกจะพัดไปทางไหนก็พัดไปไม่มีความแน่นอน จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:12:25

ความคิดเห็นที่ 4 4. คู่ธาตุน้ำ    สิ่งมีชีวิตเริ่มเกิดขึ้นเมื่อโลกเย็นลง มีดิน มีลม แล้วก้ต้องมีน้ำ ชีวิตเกิดขึ้นจากทะเล น้ำจุดเป็นธาตุที่ 4 ซึ่งเป็นธาตุสุดท้ายก่อนสิ้นชีวิต น้ำก่อให้เิดความงอกงาม ความเจริญ ธาตุนำในวิชาโหราศาสสตร์จะเป็นเรื่องของ "อาร์มณ์+จิตใจ+จิตที่ลึึกล้ำ(สัมผัสที่ 6)" หมายถึงอะไรที่มากระทบอารมณ์ จึงทำให้เกิดการกระทำไปต่างๆนาๆ ได้แก่ราศรีกรกฏ, พิจิก และมีน เป็นราศรีที่มีสัญชาตญานในการหวงแหน ปกปักรักษา ดูแล - ราศรีกรกฏ = บ้าน, ครอบครัว - ราศรีพจิก = การสืบพันธุ์ การรัดษาพยาบาล การเกิด การตาย - ราศรีมีน = การรับผลชของชีวิตต่างๆ เช่นเจ้บป่วย เข้าร.พ. ทำความผิดติดคุก ผิิดหวังเสร้าโศกเสียใจ                       คู่ธาตุน้ำ คือดาวพุธ(4) และดาวศุกร์(6) แต่เป็นน้ำคนละแบบกันนะครับ - น้ำของพุธ เป็นนำแบบน้ำทะเล ใช้ดื่มกินไม่ได้ แต่ใช้ทางคมนาคมสื่อสาร อันว่าทะเลนั้นมีแต่ความไม่แน่นอนบางเวลาก็สงบ บางเวลาก็บ้าคลั่ง พุะจึงหมายถึงการลังเลใจ แต่ทะเลนั้นกว้างใหญ่ จึงทำให้พุธเป็นหมือนไหวพริบปัญญา รู้จักปรับตัวเอาตัวรอดได้ไม่มีที่สิ้นสุด - น้ำของดาวศุกร์ ้เป็นน้ำนิ่งๆ น้ำในบ่อ น้ำสะแาด น้ำจืด ดื่มกินได้ ดื่มน้ำก็ชื่นใจ ใช้รดน้ำต้นไม่ได้ ดาวศุกร์จึงหมายถึงราคะ ความอยาก ความสุขสำราญ หรือสิ่งที่เฝ้าถวิลโหยหา จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:24:51

ความคิดเห็นที่ 5 ส่วนอากาศธาตุใช้ดามฤตยู(0) ไปก่อน แทนความว่างเปล่า เวิ้งว้าง ถมไม่เต็ม แทนความ อยากรู้อยากเห็น ค้นคว้า ประดิษฐ์ วิจัย เพราะความอยากรู้ของมนุษย์นั้นไม่มีที่สิ้นสุด ส่วนวิญญานธาตุนั้นใช้เกตุ(9) ไปก่อน แปลว่า"ธาตุรู้" หมายถึงการมีสติสัมปชัญญะ เป็นธาตุแห่งชีวิต ชีวิตชั้นสูง มีสติสัมปชัญญะ รู้ตัวเองตลอด เป็นต้น จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:29:57

ความคิดเห็นที่ 6 ลองดูสักตัวอย่าง 26 ธ.ค. 2547 วันที่มนุษย์ทุกคนไม่อยากให้เกิด นั่นคือเกิดสึนามิคร่าชีวิตคนที่รักไปมากมาย วันนั้นดาวอังคาร(ลมพายุ) เป็นเกษตรในราศรีพิจิก(ธาตุน้ำ) มีดาวพุธ+ดาวศุกร์ซึ่งเป็นคู่ธาตุน้ำไปอยู่ร่วม เลยถูกลมแรงๆ พัดน้ำจำนวนมากมา ฯลฯ จริงๆวิเคราะห์อีกเยอะครับ เพราะใช่ว่าเพียเท่านี้จะเกิดสึนามิได้ แต่ขอขั้นต้นไว้เท่านี้เพื่อ ให้เข้าใจถึงคู่ธาตุนะครับ จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:42:11

ความคิดเห็นที่ 7 ทั้งนี้ เราจะมองเป็นเพียงสิ่งเล็กๆน้อยๆก็ได้ครับ สมมติว่าวันนี้ตรวจดวงตัวเองแล้วว่าจะมีอุบัติเหตุ เราใช้คู่ธษตุดหล่านี้แปลความหมายว่า จะโดนอะไรก็พอได้ครับ เช่น ดวงอาทิตย์ = หลอดไฟ เช่นหลอดไฟขาด หรือเทียนไขคือถูกเทียนลน เป็นต้น ดวงจันทร์ = ของชิ้นเล็กๆ เช่นเศษกระจก,เศากระดาษบาด มือเป้นต้น ดาวอังคาร = ของมีคมต่างๆ (คล้ายๆกับ คะไมทะจิ ภูติลมของญี่ปุ่นอ่ะครับ) ดาวพุธ = ลื่นหกล้มจากพื้นเปียกพื้นน้ำเล็กๆ ดาวพฤหัสบดี = ต้นไม้ ของปั้นต่างๆ ฯลฯ เป็นต้นครับ จากคุณ : มิ้มเฒ่า (ภะวันตุเม) เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 09:46:30

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณมากครับ  เลยเริ่มเข้าใกล้ จักรวาลเข้าไปอีกขั้น โอออ ยูนิเวิส ขอเรื่องมุมได้ไหมครับ  ตรีโกณ  เล็ง โยค เบียน ทำนองนี้อยากเก็ทกว่านี้ ไม่ค่อยเก็ทเลย จากคุณ : shethe1 เขียนเมื่อ : 30 พ.ค. 55 17:11:28