ความคิดเห็นที่ 1 ไม่มีครับ....ปฎิบัติ..มรรค ๘ หรือ ศีล...สมาธิ..ปัญญา..ได้เลยครับ จากคุณ : โกวิทย์ (โกวิทย์) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:15:23

ความคิดเห็นที่ 2 มีครับ 1. ค่อยๆ อ่านคัมภีร์ ลองปฏิบัติตาม มีอารมณ์ขัน กินอิ่มนอนให้เต็มตื่น ออกกำลังกายมากๆ 2. พุทธใช้คำว่า "เคร่ง" แบบคนรุ่นใหม่คือ "เต็มที่กับมัน" แต่อย่าหักโหม(สุดโต่งทางขวา) และ อย่าเหลวไหล(สุดโต่งทางซ้าย) 3. ถ้าชอบพิธีรีตอง รอผู้รู้ด้านพิธีรีตองครับ จากคุณ : Zim-MorLuth- เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:15:30

ความคิดเห็นที่ 3 ควรรับไตรสรณคมน์ ถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอย่างเดียวครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 20:20:56 จากคุณ : Klaibann เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:19:35

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้าต้องการพิธ๊ก็ได้ หาวัดเหมาะๆ หาพระที่น่าศรัทธา แล้วบอกให้ท่านทำพิธีให้ แต่ถ้าจะให้เข้าถึงใจ จริงๆก็ต้องศึกษาศีล ธรรม แล้วนำไปปฏิบัติ ให้เกิดผล ถ้าแค่รับ ไตรสรณคมน์ และศีล ๕ แล้วไม่นำไปปฏิบัติ ก็ได้แค่ชื่อ เปล่า ๆ จากคุณ : P2wichai เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:23:22

ความคิดเห็นที่ 5 เขาเรียกว่าพิธี พุทธมามกะ แต่ก็ไม่ได้ยากย็นอะไร    เช่น เข้าไปหาพระเตรียมดอกไม้ ธูปเทียน ไปขอศีลจากท่าน ท่าก็จะให้ไตรสรณคมน์ หมายถึง มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งและก็ให้ศีล 5   เราก็แค่อาราธนาตามท่าน..แค่นั้นเอง.  ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่การปฏิบัติตัวของคุณเอง  ทีนี้แหละก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของคุณ ทำดีก็ได้ดีไป  ทำชั่วก็ได้ชั่วไป..หว่านพืชเช่นไร ก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:31:07

ความคิดเห็นที่ 6 เท่าที่เคยแนะนำมาก็ให้เริ่มต้นด้วยการไปทำบุญสังฆทานที่วัด (ถวายอะไรก็ได้ที่เป็นของจำเป็นต้องใช้แด่พระสงฆ์) พระท่านก็จะให้ศีลให้พร แล้วก็เริ่มศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของศาสนาพุทธในทันที เริ่มต้นด้วยการรักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ก่อนเลย ขออนุโมทนาครับ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:39:39

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าชอบพิธีการ ก็มี"พิธีแสดงตนเป็นพุทธมามกะ" http://goo.gl/pVoO1 จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:47:39

ความคิดเห็นที่ 8 พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธรรมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ระลึกถึงพระพุทธ  พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งตลอดชีวิต เพียงเท่านี้ครับ ท่านก็ได้ชื่อว่าเป็นชาวพุทธแล้ว ละครับ ขอให้เจริญในธรรมนะครับ ตั้งมั่นในความดี ศึกษาพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า และน้อมนำมาปฏิบัติ ตามกำลังสติปัญญา ของท่านเถิด ขออนุโมทนา ^_^ จากคุณ : Mopeena เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:56:40

ความคิดเห็นที่ 9 ที่จริงความเป็นพุทธ อยู่ที่ใจ เมื่อนับถือที่ใจและนำหลักธรรมไปปฏิบัติก็นับว่าเป็นชาวพุทธได้แล้ว ส่วนรื่องพิธีกรรม เพื่อน้อมนำจิตใจ แสดงตนอย่างชัดเจนก็มีอยู่ (ทำก็ได้ไม่ทำก็ได้) วิธีการก็ตาม ความคิดเห็นที่ 5 ซึ่งความหมายของมันก็คือ 1.ขอนับถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ที่ละลึก พร้อมเปล่งวาจา 3ครั้ง 2.ขอนับถือพระธรรมที่พรุพุทธเจ้าท่านทรงตัสสั่งสอนไว้ดีแล้วเป็นที่พึ่ง ที่ละลึก พร้อมเปล่งวาจา 3ครั้ง 3.ขอนับถือพระสงฆ์"ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัตชอบ"เป็นที่พึ่ง ที่ละลึก พร้อมเปล่งวาจา 3ครั้ง และตามมาด้วยการขอรักษาศีล 5 ข้อ 1.ไม่ฆ่าสัตว์ รวมถึงไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงด้วย 2.ไม่ลักโขมย ไม่เอาของที่เจ้าของเขาไม่ได้ให้ 3.ไม่ประพฤติผิดในกาม ไม่ประพฤติผิดต่องลูกเมียเขา 4.ไม่โกหก ไม่ประพฤติผิดทางวาจา 5.ไม่ดื่มสุราของมึนเมา ไม่เสพยาเสพติดใดๆ โดยพื้นฐานก็เพียงเท่านี้ครับ จากคุณ : เมฆน้อยคอยดาว เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 12:56:46

ความคิดเห็นที่ 10 ศาสานาพุทธไม่มีพิธีกรรมใด ๆ เลย....หากคนผู้ใดอยากมามานับถือศาสนาพุทธ ก็เป็นดังที่หลาย ๆท่านข้างบน   แนะนำด้วยความเอื้อเฟื้อยิ่งมา..... 1. เข้าไปในโบสถ์พุทธ  วัดไหนๆ  ก็ได้  กราบไหว้องค์พระประธาน  แล้วตั้งใจอธิษฐานข้า ฯ  จะนับถือเอาพระพุทธ  พระธรรม และพระสงฆ์  เป็นที่พึ่ง  อย่างเดียวในชีวิต 2. ต่อจากนั้น  ให้ศึกษาพระพุทธศาสนาให้ดี...และปฎิบัติให้ดี  เช่น  ต้องมีมรรค  8 ในชีวิต  เป็นสาระสำคัญ 3. ที่สำคัญเหนืออื่นใด ...... หากประสงค์จะเป็นคนพุทธจริง ๆ.......ต้องไม่หลงไปกราบไหว้  หรือบูชา  หรือเข้าพิธีกรรมอื่นๆ  ที่นอกศาสนาพุทธ...เช่น บูชาพญานาค บูชาพระราหู เซ่นไหว้พระพรหม หลงเชื่อใน   " ปีชง " เชื่อเรื่องดวงชะตา  มากกว่าเชื่อในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ ..........ฯลฯ....... จึงขอแนะนำมา  สำหรับคนที่เคยนับถือศาสนาอื่นๆ  แล้วต้องเปลี่ยนมานับถือพุทธ.......ไม่ยาก  ...อย่างที่บอก ที่สำคัญ........ต้องศึกษาศาสนาพุทธให้ดีๆ   หัวใจของพระพุทธศาสนา  สั้นๆ  คือ "  ทำความดี  ละเว้นความชั่ว  ทำจิตใจให้ผ่องใส " และ  ปฎิบัติตามพระธรรามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ให้ดีๆ  ......อย่าประพฤติตนนอกรีต  นอกรอยคนพุทธ....ตัวอย่าง  ไม่ไปหลง  ไม่เหลวไหลไปบูชาพระราหูด้วยของดำ ๆ  7   อย่าง.....เป็นต้น ยกเว้นคนพุทธบางประเภทที่บังเอิญเกืชิดมาในครอบครัวว่าเป็นพุทธ  บอกว่า...ใครจะนับถือ  จะเชื่อถืออะไร  ก็เรื่องของเขา.......................กล่าวคือ  ยังหลงทางไม่เข้าถึงพระพุทธศาสนา....พยายามหาทุกอย่างเป็นที่พึ่ง  ยกเว้น พระรัตนไตร  คือ พระพุทธ  พระธรรม  พระสงฆ์ ก็ไม่ว่ากันนะ  ท่าน จากคุณ : Detente เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:00:38

ความคิดเห็นที่ 11 ส่วนการศึกษาเพื่อให้เกิดปัญญา มี3อย่าง 3เรื่อง เรียกรวมๆว่า สิกขา3 คือสิ่งที่ควรศึกษาเรียนรู้ 3อย่าง ได้แก่ 1.ศีลสิกขา ศึกษาเรื่องศีลธรรม ว่าอะไรดี อะไรไม่ดี อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ  อย่างไหนควรทำให้เจริญขึ้น อย่างไหนไม่ควรทำ ควรละเว้น 2.จิตสิกขา เรียนรู้เรื่องจิตใจ ว่าจิตใจเช่นไร แบบไหน เรียกว่า เป็นกุศล อย่างไรเ้ป็นอกุศล  จิตแบบไหนเรียกว่ามี ราคะ โทสะ โมหะ จิตอย่างไหนรียกว่าตึงไป อย่างไหนเรียกว่าหย่อนไป 3.ปัญญาสิกขา ให้มีศีลเป็นเบี้องต้นให้จิตใจดีงาม หมั่นเจริญสมาธิอยู่บ่อยๆ เนื่องๆ   แล้วศึกษาเรื่องปัญญา ที่เรียกว่าไตรลักษณ์ มี3อย่าง 3.1สิ่งใดๆทั้งหลายทั้งปวง ล้วนเกิดมาแล้วดับไป ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น 3.2 ทุกๆอย่างไม่เที่ยงแท้แน่นอน ไม่จีรังยังยืน ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น 3.3 ทุกๆอย่างมีอยู่แต่ไม่ใช่ของเราจริง แม้ร่างกายเราก็เช่นกัน ถึงวันหนึ่งต้องคืนให้โลก ไม่ควรยึดมั่นถือมั่น โดยรวมๆก็มีสิ่งเหล่านี้ ที่ควรศึกษา ขออนุโมทนาและขอให้ท่านเจ้าของกระทู้เจริญในธรรมนะครับ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 13:06:36 จากคุณ : เมฆน้อยคอยดาว เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:05:27

ความคิดเห็นที่ 13 อันดับแรกต้องรู้จัก  "พระพุทธเจ้า" จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 13:52:26

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้ามีเหตุผลให้ต้องเปลี่ยน  แต่จะเปลี่ยนทำไม ผมเด็กๆผมไม่รู้ว่าผมนับถือศาสนาอะไรด้วยซ้ำไป ใกล้ๆบ้านผมมีทุกศาสนาผมวิ่งเล่นไปได้ทุกย่าน คนที่อยู่แถวนั้นคิดว่าผมศาสนาเดียวกับเขา เรียนศาสนาทางจดหมายผมก็เรียนกินข้าวบ้านเพื่อนก็กิน บางครั้งผู้ใหญ่ที่ต่างศาสนาพยายามจะพูดในเรื่องนี้หลายครั้งแต่ก็ไม่พูด เพื่อนสาวต่างศาสนาถามผมเรื่องเกี่ยวกับศาสนาเขาผมก็บอกว่าผมเรียนรู้ไปบ้างแล้ว ผมจึงมีความคิดว่าถ้าเป็นผมๆจะเปลี่ยนศาสนาทำไมในเมื่อคนรอบข้างผมที่ต่างศาสนาไม่ได้มีปัญหากับผมหรือสร้างปัญหาให้ผมแต่ถ้าทำผมก็ไม่คบด้วย มีแต่บางคนมาอ้างคำสอนที่เกี่ยวกับศาสนาผมอ้างมานานมากจนผมชินไปแล้ว เป็นความเชื่อของเขา คนเรามีความรู้ที่ผิดบ้างถูกบ้างเรื่องปกติ ผมก็ว่าเป็นเรื่องของเขาจะคบกันหรือไมผมไม่สนใจไม่คิดจะเปลี่ยนใครให้เหมือนผมและไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองให้เหมือนใคร แต่ที่รู้คือเหดียวนี้คนที่เรียกตัวเองว่าไม่มีศาสนามีมากในหลายประเทศ และหลายๆคนก็พยายามจะพาคนเหล่านี้ไปเกี่ยวกับศาสนาเขา ส่วนตัวแล้วผมมองไมเห็นว่าการเปลี่ยนศาสนามีประโยชน์อะไร นอกจากจะให้สังคมที่เราจะไปอยู่อยู่ยอมรับหรือคนที่เราจะอยู่ด้วยยอมรับ แต่นั่นคือเราจะยอมรับความเป็นตัวตนของเราเองหรือไม่ แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 16:00:12 จากคุณ : ซุนจื๊อ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 15:54:34

ความคิดเห็นที่ 15 ท่าน Detente ขอทักนิดนึงที่ว่า หัวใจของพระพุทธศาสนา  สั้นๆ  คือ "  ทำความดี  ละเว้นความชั่ว  ทำจิตใจให้ผ่องใส " ถ้ากำหนดโดยเนื้อหาใจความแล้ว ถูกต้อง แต่ถ้ากำหนดโดยลำดับแล้ว ลำดับที่ถูกคือ "  ละเว้นความชั่ว  ทำความดี  ทำจิตใจให้ผ่องใส " จากคุณ : banchap เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 16:47:53

ความคิดเห็นที่ 16 Welcome der ka. จากคุณ : bossy_girl เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 18:49:19

ความคิดเห็นที่ 17 ไม่มีครับ อยากจะทราบเหมือนกัน พวกที่ตอบว่า มี เอามาจากไหน จากคุณ : promp888 เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 19:10:29

ความคิดเห็นที่ 18 ขอขยายหัวข้อจากคุณ : banchap ครับ *ถ้าการดำเนินชีวิตในส่วนใดยังมีข้อแย้งกับมรรค 8 ก็ค่อยๆพิจารณาปรับปรุงไปเรื่อยๆครับ 1. ละเว้นความชั่ว = รักษา ศีล 5 ด้วยกาย วาจา ใจ *เอาแค่กายกับวาจาไปก่อน ถ้าฝึกเจริญสติ (ข้อ 3) ได้ดี การรักษาใจจะตามมาได้เอง ถ้าไม่ทำข้อสาม การรักษาศีลด้วยใจจะทำยากมากๆ 2. ทำความดี = เจริญ ธรรม 5 *ทำแค่พอเหมาะสมตามกำลัง การทำบุญ ทำให้บ่อยๆ จะดีกว่าทุ่มหนักๆแต่นานๆครั้ง 3.ทำจิตใจให้ผ่องใส = ฝึกเจริญสติในชีวิตประจำวัน 3.1 ฝึกรู้สึกตัวในทุกการเคลื่อนไหว ทุกเวลา *บางท่านอาจมีวาสนาฝึกสมาธิด้วย แต่บางท่านถนัดเพียงฝึกสติ บางท่านแค่ สามเดือนก็ได้ผล บางท่านอาจจะสองสามปี 3.2 ถ้าทำ 3.1 ได้ผล *ฝึกดูให้เห็นความคิด ที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป เป็นลำดับต่อไป *หรือเริ่มฝึกนั่งสมาธิ ถ้านิสัยเอื้ออำนวยจะเห็นผลเร็วครับ ถ้าไม่ได้ผลก็ฝึกสติต่อไป ทั้งนี้ ข้อ 3. จะได้ผลต้องได้ข้อ 1. เป็นพื้นฐาน ข้อ 3.2 จะได้ผล ต้องได้ข้อ 3.1 เป็นฐาน * ถ้าไม่ได้ทำข้อ 3. ก็พลาดโอกาสที่อาจจะได้เป็นพุทธแบบแท้จริง ข้อ 3. คือหน้าที่ที่ชาวพุทธควรต้องทำให้มาก แต่ส่วนใหญ่กลับไม่รู้และไม่เข้าใจ ไปยึดเอา ข้อ 1,2 เป็นหลัก (ดูเป็นรูปธรรมกว่า) บางคนอาจคิดว่าเป็นการฝึกสำหรับพระเท่านั้น แต่ที่จริงไม่ใช่หรอกครับ เพียงแต่การเป็นพระจะมีโอกาสฝึกได้สะดวกกว่า เพราะไม่ค่อยมีกังวลครับ จากคุณ : BlueDelphi เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 19:18:12

ความคิดเห็นที่ 19 พุทธเป็นเรื่องของสัจธรรม (ความเข้าใจในโลก หรือในธรรมชาติ) การเดินเข้าสู่สัจธรรม อาจมีได้หลายทาง และพุทธเป็นหนึ่งในทางนั้น ดังนั้นหากเข้าใจสัจธรรมของโลกได้ ก็ย่อมรู้เนื้อหาคลอบคลุมหัวใจของพุทธทั้งหมด ทุกศาสนา จึงสามารถศึกษาสัจธรรมของโลกได้ โดยไม่ต้องมาสนใจว่า นี่คือพุทธหรือไม่ สำหรับพุทธ ในส่วนของศาสนานั้น ก็เป็นแค่ส่วนที่ห่อหุ้มองค์ความรู้ของพุทธศาสนาเอาไว้ ไม่ให้มันบูดเน่า หรือเปลี่ยนแปลงจากที่พระพุทธเจ้าสอนไปมากนัก และส่งต่อมาตามยุคสมัยมาได้ เพียงเท่านั้นเอง ซึ่งถ้าเปรียบแบบให้เห็นภาพแล้ว พุทธศาสนา ก็คือเด็กส่งของ และพุทธศาสตร์ ก็คือพัสดุ นั่นเอง อยากศึกษาพุทธ จะศึกษาเด็กส่งของ หรือพัสดุก็ดี ไม่จำเป็นต้องซีเรียสเลยครับ ได้ทุกท่า noพิธี noรีตอง รีบจัดไปอย่าช้า เดี๋ยวจะแก่ตายกันไปซะก่อน จากคุณ : ใบไม้กำนั้น เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 13:36:11

ความคิดเห็นที่ 20 ถ้าเปลี่ยนภายนอก ก็มีพิธีบ้างตามสมมติของโลก เพื่อให้สังคมรับรู้ แต่ถ้าเปลี่ยนภายใน ไม่ต้อง เพราะเป็นการเปลี่ยนการปฏิบัติของจิต โดยภายนอกจะนับถือศาสนาอะไรก็ได้ หรือ ไม่มีศาสนาก็ได้ แต่ภายในจะมีปัญญารอบรู้ชีวิต, ไม่ทำชั่ว, ทำแต่ความดี, และพยายามทำจิตให้บริสุทธิ์จากอำนาจของกิเลสอยู่เสมอ จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 20:52:14

ความคิดเห็นที่ 21 มีและไม่จำเป็นครับ ... จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 04:36:04

ความคิดเห็นที่ 22 น้า ซุนจื๊อ แกไอเดียดีง่ะ แกจัดอยู่ในพวก นับถือทุกศาสนา หรือ พวก ไม่นับถือทุกศาสนา จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 22:07:13

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่มีค่ะ ศึกษาและทดลองปฏิบัติได้เลยค่ะ เริ่มจากเรื่องที่คุณสนใจเลยค่ะ จากคุณ : Lamiette เขียนเมื่อ : 6 มิ.ย. 55 13:59:43