ความคิดเห็นที่ 1 ผมมองว่าไม่ได้อยู่นะครับ เพราะเหตุและผลมันไม่มีอยู่จริง ต้องเข้าใจก่อนว่า คำว่าเหตุและผล จริงๆ แล้ว เป็นสิ่งที่มนุษย์ สร้างขึ้น เพื่อใช้อธิบายอะไรต่างๆรอบตัว   ขนาดประสิทธิภาพของมันก็คงขึ้นอยู่กับองค์ความรุ้ปัจจุบัน หลายสิ่งหลายอย่างที่ปัจจุบันค้นพบ และมนุษย์ยังไม่เข้าใจมีอยู่มาก สิ่งเหล่านี้ไม่เป็นเหตุ และผล และ ฉีกกฏตรรกศาสตร์ หลายๆเรื่อง เช่นอะไรสักอย่างที่ไอนสไตน์ค้นพบ ... มีนักวิทญืเคยพูดไว้ ไม่แน่ใจว่าควอนตัมหรือเปล่า ตรงนี้ถ้าไม่ใช่ก็ฝากแก้้ไขด้วย แต่ที่แน่นอนคือ มีอะไรหลายอย่างที่ มนุษย์ค้นพบว่า เกิดขึ้นโดยไม่มีเหตุและผล อาศัยองค์ความรุ้ของมนุษยืหาความสอดคล้องไม่ได้ ซึ่งตรงนี้ มักจะใช้คำว่า ความบังเอิญ แทน ช่องว่าง สำหรับผู้มีศรัทธาในพระเจ้า น้นย่อมทราบดีกว่า พระเจ้าย่อมอยู่เหนือ หลักการและตรรกศาสตร์ ที่มนุษย์ คิดค้นขึ้น เพราะแม้แต่ความรุ้นั้น ก็เป็นสิทธิของผู้สร้างเช่นกัน เป็นมุมมองของผู้ศรัทธาในผู้สร้างนะครับ จากคุณ : Yaoharee เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 20:48:49

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าท่าน vrod มีเจตนาที่จะ discuss โดยมองในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน แบบนี้ ผมรับครับ จะมองพระเจ้าเป็น ปากกา หรือ ดินสอ ก็ได้ ถ้าเป็นการ discuss ด้วยความบริสุทธิ์ใจเป็นที่ตั้ง ผมเอง สมัยเรียนวิชาปรัชญา ผมก็ตั้งสมมติฐานว่า พระเจ้าคือพลังงานรูปหนึ่ง เดี๋ยวผมจะย้อนกลับมาอ่าน รอให้เพื่อนๆสมาชิกท่านอื่นๆได้ออกความเห็นก่อน หวังว่าจะเป็นกระทู้ที่แลกเปลี่ยนความเห็นที่ดีต่อกันและกัน จากคุณ : เกลือจืด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 20:59:25

ความคิดเห็นที่ 3 สาวกพระเจ้าผี มักจะให้เหตุผลตามรูป WTF คือ ว๊อท เธอะ ฟักกิ้ง แก้ไขเมื่อ 02 มิ.ย. 55 21:17:20 จากคุณ : men of the day เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:15:59

ความคิดเห็นที่ 4 พระเจ้าอยู่ภายใต้หลักของเหตุผลใช่หรือไม่ ********************************************************** กำหนด "ความหมายของคำ" เพื่อ มี สัญญา (perception) ในสิ่งนั้น ให้ตรงกัน คือ แรกก้าวของก้าวแรก  ของ การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น โดยให้เกียรติซึ่งกันและกัน  แบบ วิญญูชน ปัญญาชน ฯ กำหนด คำว่า (๑) พระเจ้า  --- ตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด คือ ? (๒) เหตุผล ---- ตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด คือ ? (๓) หลักการ --- ตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด คือ ? จากนั้น  ค่อยมาถึง --- เรื่องพิสูจน์ว่าพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า--- ซึ่งการพิสูจน์  ในกรณีนี้  ก็ ต้อง เป็นไปตาม ๑ ๒ และ ๓  (ไม่ใช่ คิด เกินไปจาก ๑ ๒ ๓) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:16:59

ความคิดเห็นที่ 5 ต่อ ยกตัวอย่าง คคห 2 เสนอว่า พระเจ้าคือพลังงานรูปหนึ่ง ---- ตรงกับ (๑) พระเจ้า  --- ตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด ไหม ? (๒) เหตุผล (ที่คุณเกลือจืด เสนอ) คือ ? --- เหตุผลนั้น ตรงตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด ไหม ? (๓) หลักการ (ที่คุณเกลือจืด เสนอ) คือ ? ---หลักการนั้น ตรงตามที่ท่าน จขกท กำหนดไหม? ******************************************************** หมายเหตุ ภาพต่อไปนี้   พระเจ้า คือพลังงานรูปหนึ่ง  (ผู้) สร้าง ปรากฎการณ๋นี้ (ตามทฤษฏี big bang ที่ น่าจะคือ(๓) หลัการ + (๒) เหตุ -ผล) -- ใช่หรือไม่? (ไม่ใช่คำถามนะครับคุณเกลือจืด) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:22:30

ความคิดเห็นที่ 6 ชี้แจงคุณเซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม 1. พระเจ้าตามแบบที่ท่านนิยามเลย ผมไม่กำหนดว่าเป็นของคริส,อิสลาม,พราหม ฯลฯ 2. เหตุผลที่ใช้ในวิทยาศาสตน์และคณิตศาสตน์ครับ 3. หลักการนิยามจากท่านได้เลยเหมือนข้อ 1 จากคุณ : vrod เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 21:46:35

ความคิดเห็นที่ 7 คคห 6 1. พระเจ้าตามแบบที่ท่านนิยามเลย ผมไม่กำหนดว่าเป็นของคริส,อิสลาม,พราหม ฯลฯ ^^^^ แล้ว "แบบไหนครับ" ---- (แล้ว แบบไหนนั้น  คือพระเจ้า จริงจริง เพราะ เป็นพระเจ้าเสียเอง ใช่ไหม --คงไม่ใช่ ใช่ไหมครับ)                   ************************************ (๒) เหตุผล ---- ตาม ที่ ท่าน จขกท กำหนด "พระเจ้า" คือ ? ^^^^ --- ตอบว่า  2. เหตุผลที่ใช้ในวิทยาศาสตน์และคณิตศาสตน์ครับ แล้ว ---- "เหตุผลที่ใช้ในวิทยาศาสตน์และคณิตศาสตน์ครับ" "นั้น" ----        นำไปสู่ "พระเจ้าตามแบบที่ท่าน (คือผม) นิยามเลย"  คือ " พลังงานรูปหนึ่ง "                                         ใช่ไหมครับ                   ************************************ (๓) หลักการ (ที่คุณvrod เสนอ) คือ ? --- (หลักการ นั้น) คือ เหตุผลที่ใช้ในวิทยาศาสตน์และคณิตศาสตน์ครับ" --------- ใช่ไหมครับ                   ************************************ ถ้า ข้างบน  ใช่ คือ เรามี สัญญา (หมายรู้ได้พร้อมในเรื่องนั้นๆ) ตรงกัน ไม่เกี่ยวกับ เห้นตรงกัน หรือ ไม่ ฯ                                               ภาพข้างบน                                           เมื่อ กำหนด ตาม สมการคณิตศาตร์ (จะยาวเป็นหางว่าว ฯ ยกไว้) สมาการ = เครื่องมือ  อธิบายปรากฎการณ์ =  (๓) หลักการ ---- ที่ มีเหตุผล ตาม ทฤษฎี  (ไม่ใช่ สัจจะ ) = (๒) เหตุผล                       2 บรรทัดบน = (๑) พระเจ้า   หรือครับ?              ถ้า ตอบว่า ---- ใช่  ----เพราะ ---- พระเจ้าคือ พลังงาน   นักวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์  (วิทยาศาสตร์สมัยใหม่) ผู้ เนื่องกับ "สมการคณิตศาตร์"                     เขา สรุป ไหมครับ ว่า  พระเจ้า คือ พลังงาน ???? แต่คุณvrod ผู้ที่ ไม่ได้ หรือไม่ใช่ นักวิทยาศาสตร์สาขาฟิสิกส์  (วิทยาศาสตร์สมัยใหม่) ผู้ เนื่องกับ "สมการคณิตศาตร์"   กลับ  เสนอว่า --พระเจ้าคือ พลังงาน 2 บรรทัดบน  ผม เสนอ ไม่มีหลักการ  ไม่มีเหตุผล  โดยไม่ต้อง อาศัย "สมการคณิตศาตร์"  ใดๆ --หรือไม่ครับ                  **************************************                                                       สรุป    ถ้าคุณvrod เสนอว่า (๑) "พระเจ้าคือพลังงาน" + (๒) เหตุผล + (๓) หลักการ พระเจ้าแบบของ คุณvrod  ก็เป็นพระเจ้า จริงแท้ ตามแบบที่คุณvrod เสนอ  เท่านั้น --- ใช่หรือไม่ แล้ว ถ้าคุณvrod ประกาศเผยแพร่ฯลฯ  จนมีผู้เห็นด้วยกับที่คุณvrod เสนอฯ ก็จะเกิด พระเจ้า ตามลัทธิหรือวาทะ ตามที่คุณvrod เสนอฯ   ไม่ว่าจะ ตั้งชื่อเรียกว่า อะไร --- ใช่หรือไม่                                  ถ้าใช่  (สมมุติว่าใช่) พระเจ้า ของคุณvrod  คือ พลังงาน  (ที่ มีเหตุมีปัจจัย ให้ เกิดเป็นพลังงาน) ใช่ พระเจ้า ที่แท้จริง  ที่ไม่เนื่องกับ สมการคณิตศาสร์  หรือ ?????             *******************************************                                             หมายเหตุ พระเจ้าคือ พลังงาน (ตามลัทธิคุณvrod) ได้ สร้าง --- อภิมหาช่องว่าง (space) -- (ที่คือ สีดำ ที่อยู่ในรูป กรอบ 4 เหลี่ยม  ซึ่งความจริง หาใช่ 4 เหลี่ยมได้ไม่ฯ) ????? อย่างไร? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:19:49

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับท่านเซนฯ อยากขอให้ท่านช่วยชี้แนะ ความคิดเห็นของผมด้วยครับ โดยหลักคณิตศาสตร์ ซึ่งผมเชื่อเป็นวิทยาศาสตร์เบื้องต้น และเชื่อถือได้ ในระบบคณิตศาสตร์ เราแบ่งระบบตัวเลขเป้นสองระบบคือ จำนวนจริงกับเลขจินตภาพ ดังที่ผมเคยอธิบายเรื่องของค่า i ซึ่งในทางคณิตศาสต์ ให้ i เท่ากับ รากที่สองของ -1 ดังนั้น i ยกกำลังสองจึงเป็น -1 ซึ่งเรื่องของค่า i จึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับระบบเลขจำนวนจริงที่ว่า เลขใดๆยกกำลังสอง ต้องได้ค่าบวกเสมอ (ยกเว้น 0) ในโลกคณิตศาสตร์ เราจึงมีสองเรื่อง คือจำนวนจริงที่อธิบายได้โดยวิทยาศาสตร์ และเรื่องของเลข i ที่เราเรียกว่า เลขจินตภาพ ในมุมมองของทางศาสนาเช่นกัน ผมเชื่อมีบางส่วนทีวิทยาศาสตร์อธิบายได้ แต่การมีอีกโลก หรือที่เราเรียกว่าโลกจิตวิญญาณ ซึ่งในโลกนั้น เราจะไ่ม่สามารถใช้วิทยาศาสตร์อธิบายได้ ดังนั้นในมุมมองของผม ตามที่ จขกท. ตั้ง ผมคิดว่า วิทยาศาสตร์อธิบายได้เฉพาะบางเรื่อง แต่เรื่องของจิตวิญญาณ คงไม่สามารถอฺธิบายได้ เช่นกัน เราไม่สามารถใช้เหตุและผล ไปวัดว่า มีพระเจ้าหรือไม่ได้ หลายๆครั้งท่านเซนฯ จะใช้คำชวนคิดคือให้กล่าวถึงนิยามก่อน เรื่องของพระเจ้าเช่นกัน เราอาจจะนิยาม สิ่งนั้น สิ่งนี้ได้ ตามใจเรา แต่เราก็ต้องดูด้วย ว่า พระเจ้าทรงนิยามพระองค์เองอย่างไร วิธีการของพระองค์คืออะไร ซึ่ง คต. เรื่องเชื่อว่า สิ่งพระคัมภีร์บันทึกคือ สิ่งทีพระเจ้าพยายามบอกเราว่า พระองค์เป็นใคร เช่น พระเจ้าบอกว่าทรงฤทธาไม่จำกัด แปลว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่ สามารถกระทำทุกสิ่งได้ (เจตนาของการสื่อสาร) พระเจ้าบอกมนุษย์จะรู้จักพระองค์ได้ทางความเชื่อ (แปลว่า เราจับพระเจ้ามาทดลองไม่ได้) อะไรทำนองนี้ครับ จากคุณ : เกลือจืด เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:20:10

ความคิดเห็นที่ 9 อยู่ครับ เพียงแต่ว่าเราเอาองค์ความรู้อะไรไปจับ จากคุณ : ยองเจียงใหม่ เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:27:57

ความคิดเห็นที่ 10 คคห  8 (2 มิ.ย. 55 22:20:10 ) ปรากฎทีหลัง คคห 7 (2 มิ.ย. 55 22:19:49) ไม่กี่ วินาที คคห 7  --- กำหนดที่ สมการคณิตศาสตร์  ฯ เป็น แรกก้าวของการ กำหนด พระเจ้า คือ ? เพื่อ "สัญญาตรงกัน" ********************************************************** คคห 8 ประเด็น --- เรื่องของพระเจ้าเช่นกัน เราอาจจะนิยาม สิ่งนั้น สิ่งนี้ได้ ตามใจเรา ก็ถ้า ใจ ของแต่ละบุคคล ที่มีคุณภาพ ต่างกัน แล้ว "นิยาม" กำหนด สิ่งเดียวกัน คือเหตุ                     ผล ที่เกิดจากเหตุที่ต่างกัน  ก็ต่างกัน                 นั่นคือ -- คนละเรื่องเดียวกัน = พระเจ้าตามใจของเรา แล้ว จะ สนทนา  ไปเพื่ออะไร กันแน่ครับ (เมื่อ แต่ละฝ่าย "ตามใจตนเอง"  ด้วย เหตุผล (๒) หลักการ (๓)  ที่ น่าจะแตกต่างกันด้วย ถ้า การ สนทนาเรื่องใดนั้น สนทนากัน ตามแบบที่ วิญญูชนปัญญาชนแบบที่ นานาอารยประเทศ กำหนดพ้องกันว่า ถูกต้อง ดีงาม เป็นไปเพื่อ สันติภาพแห่งความรู้นั้น ทั้งส่วนตนและผู้อื่น  ในเรื่องนั้นๆ คือ ไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ ฯ                                              3 บรรทัดบน                                น่าจะ ต้อง เป็นบาทฐาน ขั้นพื้นฐาน ของเรื่องนั้น                     ในกระทู้นี้ คือ (๑) พระเจ้า (๒) เหตุผล (๓) หลักการ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:31:17

ความคิดเห็นที่ 11 เรียนคุณเซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยมเนื่องจากผมไม่ได้มีความรู้ในเรื่องพระเจ้า มากนัก อาศัยแค่อ่านในพันทิพดังนั้นในเรื่องหลักการอะไรผมไม่ทราบจริงๆ ว่ามัน มีอะไรบ้าง ผมจึงไม่สามารถบอกหลักการกับท่านได้ สำหรับผมแต่ละท่านจะอธิบายยังไงจะนิยามอย่างไรผมก็ว่าอย่างนั้นไม่ได้มีประเด็น สงสัยอะไรแค่ต้องการทราบความเห็นของแต่ละท่านเท่านั้น และผมก็เคารพความเห็นของ แต่ละท่าน สำหรับท่านที่แสดงความเห็นแล้วขัดแย้งกับท่านอื่นๆ ผมก็ขอร้องให้ใช้หลักเคารพ ความเห็นเหมือนกับผม  เพราะในกระทู้นี้ไม่ต้องการให้มีคำว่าแพ้หรือชนะครับ จากคุณ : vrod เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:40:56

ความคิดเห็นที่ 12 โดยหลักคณิตศาสตร์ ซึ่งผมเชื่อเป็นวิทยาศาสตร์เบื้องต้น และเชื่อถือได้ ในระบบคณิตศาสตร์ เราแบ่งระบบตัวเลขเป้นสองระบบคือ จำนวนจริงกับเลขจินตภาพ ดังที่ผมเคยอธิบายเรื่องของค่า i ซึ่งในทางคณิตศาสต์ ให้ i เท่ากับ รากที่สองของ -1 ดังนั้น i ยกกำลังสองจึงเป็น -1 ซึ่งเรื่องของค่า i จึงเป็นเรื่องที่ขัดแย้งกับระบบเลขจำนวนจริงที่ว่า เลขใดๆยกกำลังสอง ต้องได้ค่าบวกเสมอ (ยกเว้น 0) ********************************************************** ผมเคยสนทนากับ สหายธรรม อาจารย์มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นอาจารย์สอนฟิสิกส์ (ที่สนใจมาฟังสิ่งที่ผมพูด ฯ) ซึ่งสนใจพุทธศาสนาใน แนวราบด้วย ในแนวดิ่งด้วย ฯ ผมไม่รู้อะไรมาก ฯ (แล้วขี้เกียจจำ แบบ อมแล้วบ้วน) เกี่ยวกับ ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์ สมการคณิตศาสตร์ชั้นสูง ฯ อ่านที่คุณเกลือจืด เสนอ เกี่ยวกับ คณิตศาสตร์ -- น่าจะ เป็น องค์ความรู้ (แบบฝรั่งๆ) ระดับหนึ่ง ที่ เนื่องกับ ---- ในโลกคณิตศาสตร์ เราจึงมีสองเรื่อง คือจำนวนจริงที่อธิบายได้โดยวิทยาศาสตร์และเรื่องของเลข i ที่เราเรียกว่า เลขจินตภาพ --- ซึ่ง ไม่ ใช่ บาทฐานของการ สรุปว่า พระเจ้าคือ ? = พระเจ้ามีจริงๆ นะ แล้ว สมการคณิตศาสตร์ขั้นสูงงงงงง (ศาสตราจารย์ชาวอินเดียคนหนึ่งแก่งมากๆ หาภาพ ข้อมูลไม่เจอแล้ว) ที่เนื่องกับ E = mc square 2  ฯลฯ ผมก็ ยังจะเสนอว่า ไม่ ใช่ บาทฐานของการ สรุปว่า พระเจ้าคือ ? = พระเจ้ามีจริงๆ นะ                             ด้วย เหตุผล + ตรรก ง่ายๆ E = mc square 2  ทำให้เกิด อภิมหาช่องว่าง (space) หรือ อากาศธาตุ ในพุทธศาสนาได้ อย่างไร? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:41:37

ความคิดเห็นที่ 13 คคห 11 รับทราบครับ แล้ว ทุกๆ คคห  ที่ผมเสนอ --- ยังไม่เลย กรอบ ของคำว่า ---ให้ใช้หลักเคารพ ความเห็นเหมือนกับผม (ท่าน จขกท)   เพราะในกระทู้นี้ไม่ต้องการให้มีคำว่าแพ้หรือชนะครับ ใช่ไหมครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:43:44

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมุมมองของผม                                   ไม่เนื่องด้วย วิชาฝ่ายฝาหรั่ง ฯ           แต่เนื่องกับ "ฝ่ายพุทธศาสนา" (แบบที่ผมพอมีประสบการณ์ ตามสมควรฯ                                        มี มุมมองเสนอว่า                                    --- พระเจ้า  มีจริง --- แต่ ผู้ (ธรรมชาติใดนั้น) ที่ยังมี "ความสกปรก" ของ  "สิ่งที่จะทำหน้าที่ ติดต่อกับ พระเจ้าที่มีจริง" นั้น --- ต่างหาก  คือเหตุ --- ทำให้  เกิด "สัญญาวิปลาส" ว่า  พระเจ้า มีไม่จริง            ******************************************                   ถ้า ท่านใด ถามว่า "มีจริง"  ด้วย เหตุผล หลักการ อะไร? "หลักการ" ---- ทำอย่างไรให้ "สิ่งที่จะทำหน้าที่ ติดต่อกับ พระเจ้าที่มีจริง" นั้น  สะอาด ไม่วิปลาส "เหตุผล" ----- เมื่อ "สิ่งที่จะทำหน้าที่ ติดต่อกับ พระเจ้าที่มีจริง" นั้น  สะอาด ไม่วิปลาส (คือ เหตุ -- ผล ที่ตามมาคือ)  --"สิ่งที่จะทำหน้าที่ ติดต่อกับ พระเจ้าที่มีจริง"   เมื่อ ทำหน้าที่ ถึง คือ รู้สึกได้ ก็ จะ ไม่ สัญญาไม่วิปลาสใน สิ่งที่ถูกรู้สึกได้นั้น                 5 บรรทัดบน  --จะเกิดเป็นปรากฎการณืที่ กายนี้ ที่ยังไม่ตายได้อย่างไร? (๑) แรกสุดๆ  ทิ้งให้หมด ใน สิ่งที่ ท่าน รู้ เข้าใจ คิด ชอบถาม ถาม ฯลฯ (๒) เมื่อ ว่างจริงๆ แล้ว จากสิ่งที่ ท่าน รู้ เข้าใจ คิด ชอบถาม ถาม ฯลฯ  -- ค่อย ว่ากันอีกที (จะได้ไม่เข้าข่าย  เก็งความจริง (อยู่เรื่อยๆ)                                            3 บรรทัดบน              อยู่ในรูป เป็น วิทยาศาสตร์ คือ ระบบ (ศาสจตร์)แห่งความรู้(วิทยา)           คือ ทดลองทำ ทำ ทำ สอบทานผลที่ทำ "ตาม อิทธิบาท ๔" ฯลฯ                                            ใช่หรือไม่? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 2 มิ.ย. 55 22:55:31

ความคิดเห็นที่ 15 ท่านเซนฯ ชอบด้วยเหตุผลแล้ว คือ การมีเลขจินตภาพ ไม่ได้หมายความว่า นั่นมีพระเจ้า แต่สำหรับ การมีเลขจินตภาพ ทำให้ผมเริ่มแสวงหาว่า โลกจินตภาพคืออะไร และโลกจินตภาพนี้ ผมเชื่อว่า เราจะไม่สามารถใช้หลักวิทยาศาสตร์อธิบายได้ เป็นไปได้ไหมที่ว่า โลกแห่งจินตภาพ ก็คือ โลกแห่งจิตวิญญาณ ของทุกๆศาสนา แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 04:22:39 จากคุณ : เกลือจืด เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 04:20:09

ความคิดเห็นที่ 16 ชี้แจงนิดนึงครับในกระทู้นี้ผมถือว่าพระเจ้ามีจริงแล้ว ดังนั้นประเด็นเรื่องพระเจ้ามีหรือไม่ก็อาจจะไม่ จำเป็นต้องชี้แจงก็ได้ เพื่อลดประเด็นขัดแย้งในเรื่องนี้ครับ จากคุณ : vrod เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 07:23:13

ความคิดเห็นที่ 17 มีท่านเซน ช่วยสอบทานให้ น่ะดีแล้ว ท่าน virod ถ้านิยามจำกัดความหมาย     พระเจ้า                  ไม่ตรงกัน จะคุย พระเจ้าอยู่ภายใต้หลักของเหตุผลใช่หรือไม่        ต่อ               ได้อย่างไร มันไปต่อยากส์ คุณ   ยังไม่เจอคน  เจ้าเหตุผล มากๆๆ   คุณเลยคิดว่า เค้ามา   ป่วน คุณ จากคุณ : supersub เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 09:52:12

ความคิดเห็นที่ 18 อ๋อผมไม่ได้คิดว่าจะมาป่วนหรอกครับ เพียงแต่กังวลในเรื่องความขัดแย้งเท่านั้น ถ้าท่านเซนฯจะช่วย นิยามความหมายของพระเจ้าให้ตรงกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการตอบกระทู้ให้ง่ายขึ้นผมก็เห็นด้วยครับ สำหรับตัวผมเองไม่อยากจะ bias ให้คนอื่นก็เพื่ออยากได้ความเห็นที่เป็นของเค้าเองให้มากที่สุดก็เท่า นั้น เหมือนกับให้แต่ละท่านมองช้างอะ คือผมไม่กำหนดว่าต้องมองช้างจากมุมนี้ ระยะห่างเท่านี้ เวลา นี้เท่านั้น อยากได้หลายๆมุมมองและย้ำอีกทีว่าขอให้เคารพความเห็นของแต่ละคนมันไม่มีผิดไม่มีถูก ไม่มีแพ้ไม่มีชนะครับ แก้ไขเมื่อ 03 มิ.ย. 55 11:07:23 จากคุณ : vrod เขียนเมื่อ : 3 มิ.ย. 55 10:56:23

ความคิดเห็นที่ 19 คคห 15 (๑) การมีเลขจินตภาพ ไม่ได้หมายความว่า นั่นมีพระเจ้า ข้างบน ก็ มิใช่ "ตรงกันข้าม" ว่า --- ไม่มีเลขจินตภาพ หมายความว่า พระเจ้า (ตามที่บุคคลนั้น กำหนดหมาย ด้วย  อะไรนั้น)  มีจริง                                                  รวมทั้ง ไม่ว่าจะมีหรือไม่มี เลขจินตภาพ   การมีอยู่ของพระเจ้า ---"ย่อม ขึ้นกับ "เหตุ ปัจจัย" คือ " ผู้สังเกตุการณ์นั้น ที่มีศักยภาพมีคุณภาพมีเครื่องมือใดนั้น ในสมัยนั้นฯ  -- ใช้ ติดต่อ เพื่อ รู้สึก รู้หมาย" ---พระเจ้า"  แล้ว  --ไม่วิปลาส  ผิดเพี้ยน ฯ -- ใช่หรือไม่? การมี หรือ ไม่มี หรือ ยังไม่แน่ใจว่า มี -ไม่มี อยู่ แห่งพระเจ้า  ล้วน มีฐานที่ 3 บรรทัดบน เสมอ ในบรรดาดครื่องมือทั้งหลาย "ความคิด"  เป็นเครื่องมือ ที่ "ห่วยแตก" ตามมุมมองของ ผม                                              ตัวอย่าง วาทะ--- เพราะฉันคิดไ้่ด้ ฉันจึงมีตัวฉัน (เพราะคิดได้ ไม่ว่าแบบไหน) -- "ตัวฉันแบบข้างบนนี้" ก็ เป็น โลกแบบหนึ่ง  (โลกแห่งความคิด)  ใน บรรดา โลก ทั้งปวง  ตาม ที่ผมพอมีความรู้ เท่าที่ศึกษา เพ่งมองมา ฯ                             **************************** (๒) แต่สำหรับ การมีเลขจินตภาพ ทำให้ผมเริ่มแสวงหาว่า โลกจินตภาพคืออะไร โลก ตาม ที่คุณเกลือจืด  หมายถึง โลก  ? บ้างละครับ --โลกฝ่าย วิทยาศาสตร์สสารวัตถุ ที่มีฐานรากดั้งดิมมาจากอารธรรมกรีกโรมัน  - วาติกัน - จนถึง ท่านิวตัน ไอสไตน์ นิวบอร์ห ฯลฯ -- โลกฝ่าย "ศาสนจักร์"  เป็นต้นว่า สมัยอียิปต์  ก็ มีโลกหลังความตาย ฯ  จึงมี มัมมี เฉพาะ ฟาโรห์ ฯ (เริ่มมี ลัทธิวรรณะฯ) สมัยเมื่อ 2600 ปีมาแล้ว ก็ มี โลกของศาสนาพราหณ์ มีพระพหรม ที่ต่อมา เสื่อม เกิดมี พระอินทร์ (ท้าวสักกะ) แล้ว เสื่อม เกิดมี พระอิศวร พระนารายณ์ ฯ (รวมทั้งศาสนาพราหมณ์  ที่ไม่นับถือ เทวะ ฯลฯ) ครั้นพระบรมศาสดา ตรัสรู้ปฏิจจสมุปบาท  หรืออริยสัจสี่ ทรง เป็น ผู้รู้จักโลก "โลกวิทู"  แบบ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า โลกที่พระพุทธเจ้าทรง ตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ใครค้าน ติ ติง ไม่ได้  คือ ความจริงอันประเสริฐ ข้อที่ ๑  --- โลก คือ นี้ - ทุกข์ (ว่าโดยย่ออุปาทานว่าตัวกูของกู ที่กายนี้ คือทุกข์อริยสัจ -- สรุปแบบผม นะครับ) ความจริงอันประเสริฐ ข้อที่ ๒  --- เหตุให้เกิด โลก คือ ตัณหา (เพราะ มีเวทนา แล้ว ยังมีอวิชชา จึง ทำให้เกิด ตัวกูของกู ที่กายนี้ คือทุกข์อริยสัจ) ---- ข้อที่ ๑ ๒  คือ ปฏิจจสมุปบาย สายเกิด ว่าโดยย่ออุปาทานว่าตัวกูของกู ที่กายนี้ ความจริงอันประเสริฐ ข้อที่ ๓  --- ความดับสนิทแห่งโลก คือ ตัณหานิโรธ (เพราะอวิชชานิโรธ  เพราะมี ธรรมเป้นที่ดับ  แล้วประกาศธรรม ต่อมา 45 ปี) ความจริงอันประเสริฐ ข้อที่ ๔  --- ทางสายกลาง เพื่อ บรรลุ "โลก นิโรธ"  คือ อริยมรรคมีองค์ ๘ สรุป โลก แบบพุทธปัญญา  จึงไม่เนื่องกับ จะมีพระเจ้า หรือไม่มี ครับ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 18:55:52

ความคิดเห็นที่ 20 พระเจ้า (ตามที่ผู้สังเกตุการณ์ สามารถสังเกตุการณ์ได้) อยู่ภายใต้หลักของเหตุผลใช่หรือไม่                                อยู่ภายใต้หลักของเหตุผล  "แน่นอน" แต่ พระเจ้า แบบ "อยู่ภายใต้หลักของเหตุผล" (ตามที่ผู้สังเกตุการณ์ สามารถสังเกตุการณ์ได้) ใช่ พระเจ้าที่แท้จริง หรือ? (ไม่ขึ้นอยู่กับ ผู้สังเกตุการณ์ และ เครื่องไม้เครื่องมือที่ใช้สังเกตุการณ์ฯ) จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 20:52:46

ความคิดเห็นที่ 21 ความคิดเห็นที่ 16 ชี้แจงนิดนึงครับในกระทู้นี้ผมถือว่าพระเจ้ามีจริงแล้ว ดังนั้นประเด็นเรื่องพระเจ้ามีหรือไม่ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องชี้แจงก็ได้ เพื่อลดประเด็นขัดแย้งในเรื่องนี้ครับ ********************************************************* ผู้รู้แห่งศาสนาพราหมณ์  --ย่อม สรุปว่า "พระเจ้า (บรมอัตตา) มีจริง มีหน้าที่ ฯ ผู้รู้แห่งศาสนาคริสต์ --ย่อม สรุปว่า "พระเจ้า (จะคือ ?) มีจริง มีหน้าที่ ฯ ผู้รู้แห่งศาสนาอิสลาม --ย่อม สรุปว่า "พระเจ้า (จะคือ ?) มีจริง มีหน้าที่ ฯ ผู้รู้แห่งพุทธศาสนา "พระพุทธเจ้า"  "ตามที่พระเถระครั้งปบมสังคายนารักษา พระพุทะภาษิตมา" -- ไม่ เกี่ยวข้องกับ มีพระเจ้า ไม่มีพระเจ้า ไม่ว่า แบบไหน?  "นะครับ"               เพราะ ความมี ไม่มี อยู่แห่ง พระเจ้า ไม่ว่าพระเจ้าจะคืออะไร (ซึ่งพระเจ้าเป็นสิ่งสูงสุดๆๆ "ตามมติ วาทะ ลัทธิ" ใดๆ นั้น "นั่นเป็น อภิปรัชญา")                                                    นั้น                         ไม่ใช่ "อริยสัจสี่" (หรือปฏิจจสมุปบาทสายเกิด ดับ) ที่คือ ความจริงอันประเสริฐ ไกลจากปัญหานานา (ฝ่าย spiritual) คือ นี้ทุกข์ เหตุให้เกิด ความดับสนิท ทางดำเนินให้ถึงความดับสนิท ซึ่ง บุคคลใดๆ ย่อม สามารถ สังเกตุการณ์ได้ด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา  ที่บุคคลนั้น ภาวนาให้มีขึ้นด้วย กำลังของความมีใจสูงได้ (ใจสูงเป็นต้นทุนเดิมๆ)---- อริยสัจ จึง อยู่ในรูปเป็น วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ ในรูป อภิปรัชญา หรือ เป็นไสยศาสตร์ หรือ เก็งความจริง หรือ ฯ (ดู กาลามสูตรประกอบ)                      ************************************ ส่วนที่ผมเสนอว่า  พระเจ้ามีแน่ๆ  คคห 14 --- ก็ ไม่ขัดกับ อริยสัจสี่ฯ เพราะเมื่อ เป็นนักวิทยาศาสตร์ฝ่าย  spiritual  เกิด wisdom หรือ intuitive wisdom หรือ enlightenment ก็จะ = Holy See แบบ --- ที่ไม่เนื่องกับ เทววิทยา ตามวิถีทางแบบ อารยธรรมกรีก โรมัน ฯ 3 บรรทัดบน เสนอให้คุณvrod  perception (มีสัญญา) ตรงกันใน คำว่า พระเจ้ามีแน่ ว่า ผม กำหนดอย่างไร? จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 23:44:56

ความคิดเห็นที่ 22 คคห 17 ถ้านิยามจำกัดความหมาย     พระเจ้า                  ไม่ตรงกัน จะคุย คุยเพื่อ ? (๑) เพื่อแสดง  มุมมอง วิสัยทัสน์ ในเรื่องนั้นๆ หรือ (๒) คุยเพื่อข่มอีกฝ่าย ด้วย เหตุ ผล หลักการ ตรรก ฯ ว่า ของท่านสู้ของฉันไม่ได้ หรือ (๓) เพื่อ ตามพิพักษ์ สิ่งนั้นๆ ฯ (๔) เพื่อ ฯ ผมเสนอว่า คุยกัน ให้พอดีๆ  กับคำว่า --ต่างเป็นเพื่อนเกิดแก่ เจ็บตายเหมือนๆ กัน  เพราะเกิดเป็นมนุษย์ผู้มีใจสูง แล้ว ฯ                         *************************** พระเจ้าอยู่ภายใต้หลักของเหตุผลใช่หรือไม่                                                เหตุผล นั้น                   ตั้งอยู่ระหว่าง สิ่งนั้น  กับ ความจริงของสิ่งนั้น  เสมอ            ดังนั้น เหตุผล จึงไม่อาจ นำไปสู่ สิ่งนั้น  และ ความจริงของสิ่งนั้น                                    เมื่อสิ่งนั้น "ไม่ใช่ อริยสัจ"                          *************************** พระเจ้า ไม่ว่า จะได้แก่ ? คือ ?  ---พระเจ้า  เป็น อริยสัจ ของ บุคคลใดนั้น หรือ เมื่อ เทียบกับ  อริยสัจ ๔  ของบุคคลนั้น ตามที่ พระพุทธเจ้า ตรัสชี้ไว้                         *****************************                                   2 บรรทัดบน                   ผมเสนอมี หลักการ  มี เหตุผล บ้างไหม? (ไม่ใช่คำถาม)           เหตุผล ที่ผมเสนอ --- เมื่อเนื่องกับ อริยสัจสี้ --เป็นองค์รวม ---คุณsupersub เห็นว่า = เหตุผล (เช่นที่ผมเสนอ) นั้นตั้งอยู่ระหว่าง สิ่งนั้น  กับ ความจริงของสิ่งนั้น  หรือไม่? --- ครับ                   ***************************************** คคห 18 ผม สื่อสารถึงคุณsupersub ด้วย + สื่อสารถึงคุณvrod ด้วย  ตามข้อความ ถ้าท่านเซนฯจะช่วย นิยามความหมายของพระเจ้าให้ตรงกัน เพื่อเป็นประโยชน์ในการตอบกระทู้ให้ง่ายขึ้นผมก็เห็นด้วยครับ หมายเหตุ ผม เสนอไม่เรียงลำดับ ไม่เป็นระบบ ฯ หวังว่า ท่าน จะต่อ จิ๊กซอร์ได้เอง จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : วันวิสาขบูชา 55 23:59:14