 |
If you miss me ,I must see you in my dream ด้วยประโยคภาษาอังกฤษ ประโยคนี้จึงเป็นที่มาของเหตุการณ์ที่ 2
เรื่องมีอยู่ว่า ผมทำธุรกิจนำเข้าปลาทูแช่แข็ง จากรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ปี นั้นฝนตกมากถนน ที่บางสะพานนั้นขาด รถผมพร้อมรถห้องเย็น ต้องไปติดแหงกที่นั่น 2 วันการสื่อสารทั้งหลายใช้งานไม่ได้ ใจผมห่วงกิจการทางบ้านและห่วงคนที่บ้านเป็นอย่างมาก
เมื่อผมกลับมาทุกคนร้องไห้กันกระจองอแง เพราะแม่ ผม ภรรยา ผม ฝันถึงผม ทั้งที่อยู่กันคนละบ้าน และเห็นผม มาเดินป้วนเปี้ยนในบ้านทั้งที่ทุกคนไม่ได้หลับ เห้นในสภาพตื่นๆที่แหละ ทุกคนสันนิษบานว่าผมตายไปแล้ว เลยร้องไห้กัน
ที่ผมนำเสนอมาตรงนี้ ผมกำลังสื่อถึงว่า พลังงานของจิตคนนั้นเปรียบเสมือนพลังงานแม่เหล้กไฟฟ้า หรือ เป้นคลื่นวิทยุพลังที่สูงมาก ถ้าเรามีจิตที่เป้น 1 ได้ เราสามารถส่งพลังจิตและกระแสจิตนั้นไปยังจุดหมายปลายทางได้
ด้วยหลักการที่ผมเล่ามาทั้งสองอย่างผมไม่อยากให้มองว่าเป็นสิ่งวิเศษ มหัศจรรย์แต่อย่างใด แต่ให้มองถึงแง่วิทยาศาสตร์ ว่าจิตและพลังงานในตัวของเรา ถ้ารู้จักฝึกให้ถุกทางนั้นสามารถเปล่งพลังงานออกมาได้เป็นรูปธรรม
ดังนั้นการฝึกสมาธิก็ดี ฝึก วิปัสสานา ก้ดี นั้นเป้นการสร้างพลังจิต และเป้นกวาดหาคลื่นพลังงานในสมองของเรา ให้ไหลไปในทิศทางที่เราต้องการ
การติดคุกนั้น ขังเราได้แต่ร่างกาย ขังจิตใจและพลังงานของเราไม่ได้ การมีสตินั้น จะทำให้เราเรียงกระบวนการคิดใหม่ เพื่อค้นหาความสุขบนสัจธรรมให้ได้
คนอยู่บนโลกนี้ถูกจำกัดอิสรภาพด้วยคุกทุกคน ไม่ว่าจะเป้นดินแดนของโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นดินแดน ระหว่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นดินแดนสนธยา ที่ห้อมล้อมไปด้วยป่าเขา แม้นกระทั่งการจำกัดสิทธในครัวเรื่อน จนถึงคุกจริงๆ หรือห้องขัง นั่นคือสิางสมมุติที่มนุษย์เราสร้างขึ้นมา การเรียนรู้และการทำใจให้ยอมรับ กับเงื่อนใข และความเป้นจริงนั้นคือสิ่งสำคัญได้ คุกที่ใหญ่ที่สุดคือคุกของจิตใจมนุษย์ ถ้ายังติดในวังวน ของความอยากได้อยากมี นั้นคือคุก ดีๆนั้นเองครับ
จากคุณ |
:
พี่จิม (Jimbovy)
|
เขียนเมื่อ |
:
5 มิ.ย. 55 09:05:53
|
|
|
|
 |