อันนี้ ไม่ต้องอะไรมาก เพราะจงใจมั่วเต็มๆ อยู่แล้วครับ
อย่างแรกที่เห็นเลยก็คือ
โองการนี้กล่าวถึงการแต่งงานไม่ใช่โสเภณี
24Also (forbidden are) women already married, except those (slaves) whom your right hands possess. Thus has Allah ordained for you. All others are lawful, provided you seek (them in marriage) with Mahr (bridal money given by the husband to his wife at the time of marriage) from your property, desiring chastity, not committing illegal sexual intercourse, so with those of whom you have enjoyed sexual relations, give them their Mahr as prescribed; but if after a Mahr is prescribed, you agree mutually (to give more), there is no sin on you. Surely, Allah is Ever All-Knowing, All-Wise. (Surah4. An-Nisa Part5)
24และบรรดาหญิงที่อยู่ในปกครองของสามี(หญิงที่ถูกห้ามมิให้แต่งงานด้วยเช่นย่ายายแม่ป้าน้าเป็นต้น) นอกจากที่มือขวาของพวกเจ้าครอบครอง(หญิงทีมีสามีแต่ตกเป็นเชลยศึกในฐานะทาสสมสู่ได้) เป็นบัญญัติของอัลลอฮฺที่มีแก่พวกเจ้า และได้ถูกอนุมัติให้แก่พวกเจ้าที่นอกเหนือจากนั้น(นอกเหนือจากที่ห้าม) ในการที่พวกเจ้าจะแสวงหามาด้วยทรัพย์ของพวกเจ้า (ด้วยการจ่ายสินตอบแทน(มะฮัรฺ)ให้แก่นาง) ในฐานะเป็นผู้แต่งงาน (โดยเจตนาครอบครองนาง) มิใช่ในฐานะผู้ล่วงประเวณี ดังนั้นหญิงใดที่พวกเจ้าเสพสุขด้วยนางจากบรรดาหญิงเหล่านั้น (หญิงที่อนุมัติให้แต่งงานกับนางได้) ก็จงให้แก่พวกนาง ซึ่งสินตอบแทนแก่พวกนาง (มะฮัรฺแก่พวกนาง) ตามที่มีกำหนดไว้ และไม่เป็นบาปใดๆ แก่พวกเจ้าในสิ่งที่พวกเจ้าต่างยินยอมกันในสิ่งนั้น (ยินยอมที่จะลดหรือเพิ่มมะฮัรฺ) หลังจากที่มีกำหนดนั้นขึ้น แท้จริงอัลลอฮฺเป็นผู้ทรงรอบรู้ผู้ทรงปรีชาญาณ.
ครับ ทรัพย์สินที่ให้นั้นคือ สินสอดนั่นเอง และการให้สินสอดก็คือการแต่งงาน โองการก็บอกชัดๆ อยู่แล้วนะครับ
เพราะฉะนั้นศาสนาเดียวที่ผมเห็นว่าสามารถสมสู่กับโสเภณีได้ไม่ผิดศีล นั่นคือศาสนาพุทธนะครับเท่าที่ทราบ
http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=21157
และก็รู้สึกจะมีศาสนาเดียวอีกนั่นแหละครับ ที่หนีตามผู้ชานแล้วไม่ผิดศีลนั่นก็คือศาสนาพุทธเช่นกันครับ