ความคิดเห็นที่ 1 น่าจะใช้ มะพูด  หรือ ขนุน บางพันธุ์ ในการย้อมสีธรรมชาติให้สีเหลืองมาใช้กับปัจจัยเครื่องนุ่งห่มตามภูมิปัญญาดั้งเดิม  รอท่านที่มีความรู้เรื่องสีจีวรพระ สีจีวรที่ต้องห้าม คือ 1.สีเขียวคราม สีเหมือนดอกผักตบชวา 2.สีเหลือง สีเหมือนดอกกรรณิการ์ 3.สีแดง สีเหมือนชบา 4.สีหงสบาท สีแดงกับเหลืองปนกัน 5.สีดำ สีเหมือนลูกประคำดีควาย 6.สีแดงเข้ม สีเหมือนหลังตะขาบ 7.สีแดงกลาย แดงผสมคล้ายใบไม้แก่ใกล้ร่วง เหมือนสีดอกบัว บางแห่งระบุว่าสีต้องห้าม คือ สีดำ สีคราม  สีแดง สีบานเย็น สีแสด และสีชมพู ถ้าจีวรมีสีตรงตามนี้ให้ภิกษุย้อมใหม่ ถ้าทำลายสีเดิมไม่ออกให้นำไปใช้เป็นผ้าปูลาดสำหรับรองนั่ง หรือใช้งานอื่นก็ได้ ในสมัยพุทธกาล พระภิกษุสงฆ์จะย้อมจีวรด้วยสีธรรมชาติแท้ สีจะไม่ออกมาเป็นมาตรฐานเดียวกัน มีผิดเพี้ยนแตกต่างกันไปบ้าง ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 01:58:15 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 01:54:36

ความคิดเห็นที่ 2 ลืมรูป พอดีเคยเห็น  หลวงปู่ จามท่านก็ใช้สีคล้ายกัน  นะคะ  คงถูกต้องตามพระวินัย จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 02:09:26

ความคิดเห็นที่ 3 ๓. อย่าติดที่เปลือกไม้ หรือ สีจีวรเลย  เพราะ ทั้งหลวงปู่จาม  และ หลวงพ่อไก่ พระอาจารย์ใหญ่แห่งวัดตรีวิสุทธิธรรม   เป็นพระสุปฏิปันโน ที่สามารถกราบลงแทบเท้าได้ กราบแทบเท้า หลวงปู่จาม  มหาปุญโญ ด้วยเศียรเกล้า กราบแทบเท้า หลวงพ่อใหญ่ พระพิทักษ์ศาสนวงศ์  ด้วยเศรียรเกล้า เขียนบน มือถือทำให้พิมพ์วัดผิด แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 09:42:35 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 02:29:07 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 02:11:38

ความคิดเห็นที่ 4 ....สีเหลืองอ๋อยแบบนั้น  ตามหลักไม่ถูกพระวินัย  ที่มีข้อบัญญัติห้ามไว้แล้ว   ..ควรต้องย้อมให้หม่นหมองลงกว่านั้นก่อน  จึงค่อยใช้  ...แต่ในระดับพระผู้ใหญ่ หรือมีชื่อเสียงในยุคนี้  ทำอะไร  เหล่าบรรดาลูกศิษย์ก็ถือว่าถูกหมด นั่นแหละ ... พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างไร นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ... ในยุคนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจคำสอนของพระบรมศาสดามากไปกว่าคำสอนของ อาจารย์ของตน  ใกล้จะเป็นมหายานเข้าไปเรื่อยๆๆ   ดูพวกสำนักหัวนมจานบินเป็นตัวอย่าง   พวกนี้ไม่สนใจคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าเลย  และมีคนเชื่อตามมากมาย  ...แล้วยังจะหวังให้ศาสนาพุทธมีอายุเกิน ห้าพันปี กระนั้นหรือ ? ยากมากๆ  ขอให้ถึง สี่พันปีก็ดูท่าจะยากแล้ว จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 02:44:16

ความคิดเห็นที่ 5 จีวรสีเหลืองในปัจจุบันนี้ ความจริงเป็นสีทองครับ (หรือเหลืองทอง) ไม่ใช่เหลืองแบบดอกกรรณิการ์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ในพระวินัย ความจริงเรื่องสีจีวรพระในประเทศไทยนี่ มีปัญหาอยู่มากเหมือนกัน บางครูบาอาจารย์ท่านก็ถือว่าใส่แบบสีนั้น ๆ แล้วถูกต้อง  บางท่านก็ถือว่าจีวรเหลืองแบบพระมหานิกายนุ่งห่ม ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ก็เลยมีลักษณะสีแบบพิเศษขึ้นมาอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า "สีราชนิยม"  พระสงฆ์ที่เข้าไปรับพระราชทานฉัน หรือรับพระราชทานในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล หรือพิธีหลวง  จะต้องห่มสีนี้ และเมื่อทรงประเคนผ้าไตร  ก็มักจะเป็นไตรสีราชนิยม ครูบาอาจารย์ผมเล่าว่า คล้ายกับว่าทางฝ่ายหลวงเอง ท่านก็คงอยากให้พระสงฆ์ใช้จีวรสีเดียวกัน  และสีราชนิยมดังกล่าวนี้ เป็นลักษณะสีที่ไม่อยู่ในข่ายของสีที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม อย่างไรก็ตาม พึงทราบว่าจีวรสีเหลืองแบบที่พระมหานิกายใช้ทั่วไป  กับจีวรเหลืองแบบธรรมกายนั้น ต่างกันมากนะครับ เพราะจีวรเหลืองของธรรมกาย (ตัด เย็บ ย้อมเอง มีโรงงานทำเองโดยเฉพาะ)  ตรงกับสีเหลืองแบบที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ซึ่งผิดพระธรรมวินัยแท้ ๆ เลยทีเดียว แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 02:59:59 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 02:59:20 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 02:52:12

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่าภาพที่นำมาลงมีความเพี้ยนของสีทำให้สีเหลืองเกินจริงด้วยครับ ตามภาษาของคนเล่นกล้อง digital เรียกว่า white balance ผิด เกิดจากการตั้งค่าของกล้องไม่เหมาะกับ(อุณหภูมิของ)แสง ถ้ามีเวลาจะลองนำภาพไปปรับสีแล้วลงให้พิจารณากันอีกครั้งครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 03:12:06

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าเหลืองอ๋อย แดงแป๊ด  ดำ น้ำตาล สีแบบแม่สี น่าจะผิดนะ เพราะมันไม่เหมือนย้อมจากธรรมชาติ เดี๋ยวนี้ย้อมแบบธรรมชาติมันไม่มีให้แล้ว แต่เอาแบบที่ ใกล้เคียงธรรมชาติ ก็ต้องดูหม่น ๆ หน่อย เหมือน คห.1 สีให้ใกล้เคียงวัศดุธรรมชาติหน่อย จากคุณ : KOB ON KALA เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 05:17:36

ความคิดเห็นที่ 8 chohokun กรุณาให้ความรู้หน่อยครับ สีจีวรต่างกันยังไง แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 05:59:54 จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 05:59:31

ความคิดเห็นที่ 9 แหม่ภาพไม่ติด จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 06:00:35

ความคิดเห็นที่ 10 อีกภาพ จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 06:03:34

ความคิดเห็นที่ 11 และนี่ภาพสุดท้าย จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 06:04:28

ความคิดเห็นที่ 12 3ภาพที่ผมนำมาให้ชม ไม่ต้องให้บอกนะครับพระแต่ละรูปท่านชื่ออะไร ไหนบอกหน่อย สีเหลืองแบบที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ซึ่งผิดพระธรรมวินัยแท้ ๆ เลยทีเดียว ที่คุณchohokun อ้างมา ต่างยังขอรับกระผมผู้น้อยใครขอความรู้หน่อยครับ จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 06:07:29

ความคิดเห็นที่ 13 ขออีกภาพก็ได้จะหาว่าน้อยไป จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 06:25:47

ความคิดเห็นที่ 14 ดูไม่ออกว่าต่างคะ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 07:23:18

ความคิดเห็นที่ 15 เรียกว่าสีเหลืองทองถูกแล้วค่ะ ดูที่ศีลและวัตรของท่านด้วยนะคะ อย่าดูแต่สีจีวร ที่วัดมีจีวรหลายสี เพราะครูอาจารย์ท่านไม่แบ่งแยก ศิษย์พระป่า ศิษย์พระบ้าน ธรรมยุติ มหานิกาย หรือพระจีน พระพม่า ศรีลังกาก็มี ศิษย์ของศิษย์ก็มี ถึงเวลามีงานสำคัญท่านก็มาช่วยครูอาจารย์ทำงาน เวลาเดินแถวรับบิณฑบาตจึงมีหลากสี สีเหมือนกันหมดก็เป็นระเบียบดี สีต่างกันก็แสดงความหลากหลาย ที่มีหน้าที่เช่นเดียวกันคือสืบทอดพระธรรมของพระพุทธองค์ สั่งสอนญาติโยมให้เป็นคนดี มีศีลมีธรรม ในกระทู้ที่จขกท.นำภาพมานั้น แสดงเรื่องราวว่า ครูอาจารย์ท่านพาศานุศิษย์ทำอะไรบ้างในวันพระใหญ่สำคัญของโลก นอกเหนือจากใส่บาตรทำบุญซึ่งมีเป็นปกติ ยังมีสิ่งที่ทำได้ยาก เช่น สวดมนต์ติดต่อกันสามวันสามคืน ไม่หยุดเลย เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา มีการจัดพิธีแห่พระชักพระยกพระให้ลูกหลานได้รู้จักประเพณีโบราณของไทยที่นับวันจะเลือนหาย มีการแสดงธรรมเทศนา ปฏิบัติบูชา เพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบ 5000 ปี   สิ่งที่ทำล้วนต้องอาศัยแรงกาย แรงใจ แรงปัญญา แรงศรัทธา ใช้บารมี 10 ทัศ มิใช่ใช้สีจีวร จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 07:59:39

ความคิดเห็นที่ 16 คุณพัดลมเย็นก็เอาภาพของพระวัดธรรมกายมาลงด้วยสิครับ เอาภาพธัมมชโยมาลงก็ได้ ผมจะให้ดูความแตกต่าง จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:33:37

ความคิดเห็นที่ 17 ^ ^อนุโมทนาค่ะ  ชัดเจนกระจ่างใจ ปล.เข้ามาบอกว่า อนุโมทนา#15  ของ คุณ อจ.เคออสซี แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 09:39:26 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 09:37:42

ความคิดเห็นที่ 18 ธรรมะ ครูอาจารย์ก็ดูค่ะ แต่ข้อวัตรก็ต้องดูเหมือนกัน ทุกนิกายตอนนี้ต่างก็อ้างว่าให้ดูสิ่งที่ท่านนำพากระทำ อ้างว่าให้ดูการกระทำ อย่างอื่นเป็นแค่เปลือก ก็เห็นทุกสำนักอ้างกันแบบนี้น่ะ แต่พระพุทธเจ้าก็สอนให้ใช้ปัญญา ในป่าเขา หรือสมัยพุทธกาล ไม่มีสีให้เลือก ผิดเพี้ยนไปก็ไม่ว่ากันน่ะค่ะ ถ้ามีอายุยืนยาว 100ปี สงสัยจะเห็นสีจีวร แปลกออกไปเรื่อยๆ ตัวเองก็ได้แต่สงสัยว่าทำไม ต้องแตกต่างเด่นชัดเพียงองค์เดียว จากคุณ : ศศพินธุ์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:20:42

ความคิดเห็นที่ 19 สีของจีวร มีเพื่อไม่แบ่งชนชั้นวรรณะ ถ้ามีคติว่า สีนั้น เป็นสีประจำของวรรณะ หรือมีความหมายอื่นใดในสังคมนั้นๆ สีของจีวรนั้น จึงไม่สมควรครับ จากคุณ : klatee (klateekla) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:29:56

ความคิดเห็นที่ 20 ...ประเด็นเรื่องพระวินัยบัญญัติไว้ ในเรื่องใดๆ ก็แล้วแต่  เมื่อยกมา มักจะมีผู้นำข้อปฏิบัติของพระสาวกที่ผู้คนนับถือมาแย้ง มาอนุโลมผ่อนปรนกับคำของพระศาสดา ...ในพระไตรปิฏกก็มีเรื่องเล่าอยู่บ่อยๆ ว่า ถึงแม้เป็นพระอรหันต์ พระพุทธเจ้ายังเรียกมาดุ มาเตือนก็มี หลายคนกลัวว่าเป็นการไปตำหนิครูบาอาจารย์ แต่จริงๆ ไม่ใช่  แต่เนื่องด้วยเพราะพระพุทธเจ้ายังเคารพพระธรรมวินัย เอาธรรมเป็นใหญ่  เราไม่ได้พูดถึงตัวบุคคล ... จากคุณ : Olive2004 เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 10:48:35

ความคิดเห็นที่ 21 พอดีได้มีโอกาสเห็นผ้าจีวร สบง นี้ขณะเปียกกะตาตัวเองครับ ยืนยันได้ว่า ผ้านี้ย้อมด้วยวัสดุธรรมชาติแน่ ๆ มิใช่สีเคมี การกินสีของผ้าก้อไม่เสมอ ตลอดผืน และสีที่เห็นนั้นเป็นเหลืองอ่อน ซึ่งคาดเดาจากที่เคยไปย้อมผ้ากฐินว่าเป็น สีของแก่นขนุนครับ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 55 09:27:29 จากคุณ : นายจองชัย เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:21:12

ความคิดเห็นที่ 22 ภาพจากกล้องถึงจะไม่ผ่านโฟโต้ชอป แต่ก็มีวิธีจัดแสง ตั้งกล้อง ฯลฯที่ทำให้ภาพที่ถ่ายไม่เหมือนที่ตาเห็น ง่ายๆ ไม่นานมานี้ ไปงานแต่ง เพื่อนที่ถ่ายรูป ถ่ายซะหน้าทุกคนเนียนไปหมด ทั้งๆที่บางคนไม่ได้แต่งหน้า อย่างภาพของจขกท. จะเห็นว่าทั้งผิวหนัง ทั้งจีวรของพระทุกรูป สว่างเนียน(เกินจริง)ไปหมด ก็คงใช้เทคนิคการถ่ายแบบเดียวกับเพื่อนผม+มีแสงแดดสาดเข้ามาช่วยพอดี จากคุณ : omeg เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 11:46:59

ความคิดเห็นที่ 23 ไม่น่าเป็นที่จัดแสงนะค๊ะ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12198280/Y12198280.html  ตามแต่ศรัทธาค่ะ   ขอจบข้อสงสัยเพียงเท่านี้ ความคิดเห็นที่ 4 [ถูกใจ] [แจ้งลบ] ติดต่อทีมงาน ....สีเหลืองอ๋อยแบบนั้น  ตามหลักไม่ถูกพระวินัย  ที่มีข้อบัญญัติห้ามไว้แล้ว   ..ควรต้องย้อมให้หม่นหมองลงกว่านั้นก่อน  จึงค่อยใช้  ...แต่ในระดับพระผู้ใหญ่ หรือมีชื่อเสียงในยุคนี้  ทำอะไร  เหล่าบรรดาลูกศิษย์ก็ถือว่าถูกหมด นั่นแหละ ... พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างไร นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ... ในยุคนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจคำสอนของพระบรมศาสดามากไปกว่าคำสอนของ อาจารย์ของตน  ใกล้จะเป็นมหายานเข้าไปเรื่อยๆๆ   ดูพวกสำนักหัวนมจานบินเป็นตัวอย่าง   พวกนี้ไม่สนใจคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าเลย  และมีคนเชื่อตามมากมาย  ...แล้วยังจะหวังให้ศาสนาพุทธมีอายุเกิน ห้าพันปี กระนั้นหรือ ? ยากมากๆ  ขอให้ถึง สี่พันปีก็ดูท่าจะยากแล้ว จากคุณ : โขตาน แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 12:58:15 จากคุณ : ศศพินธุ์ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 12:55:16

ความคิดเห็นที่ 24 โชคดีที่ตัวเองได้อ่านได้ฟังคำสอนท่านในเว็บก่อนที่จะเจอคำวิพากษ์วิจารณ์ท่าน ยิ่งเมื่อได้กราบท่านแล้วได้ลองปฏิบัติแล้ว ก็ยิ่งไม่ติดข้อสงสัยใดๆในตัวท่านเลย โดยส่วนตัวสมัยก่อน เวลาอ่านเจอคำวิพาษ์วิจารณ์ครูบาอาจารย์หลายองค์ ก็เคยมีแว่บคิดไปเห็นด้วยไปคิดตามเค้าบ้าง เพราะด้วยปัญญาน้อย ไม่เข้าใจในธรรมที่เกินกว่าสภาวะเราจะเข้าใจได้ ก็เลยพลาดไปร่วมอกุศลกรรมกับเค้าไปด้วย กว่าจะตาสว่างก็เมื่อหลังจากที่ได้ไปเจอครูบาอาจารย์ท่านนั้นท่านนี้จริงๆหลายองค์ เกือบจะตกนรกเสียแล้ว ขอขมาครูบาอาจารย์องค์นั้นๆองค์นี้ไปหลายรอบ แทบไม่ทัน ในฐานะที่ได้เจอครูบาอาจารย์จากทีนี้ จึงขอแสดงความห่วงใยต่อผู้ที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ว่า หากท่านยังสงสัยแนะนำว่าลองไปกราบถามหลวงพ่อเลยจะดีกว่า การตัดสินความโดยที่เรายังไม่ได้ไปสัมผัสกับครูบาอาจารย์องค์นั้นๆเอง มันเสี่ยงมากๆเลย เสียดายความโชคดีของท่านที่ได้เกิดมาในพระพุทธศาสนาแล้ว หากแม้ว่าทำให้ผู้ใดขุ่นเคืองใจ ข้าพเจ้าก็ขอขมาและขออโหสิกรรมมา ณ ทีนี้ ข้าพเจ้าไม่มีเจตนาใดนอกจากปราถนาดีต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน จากคุณ : ยุ้ยหัดเขียน เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 13:52:51

ความคิดเห็นที่ 25 คุณchohokunในนั้นมีรูปพระของวัดพระธรรมกายอยู่ด้วยนะครับ แสดงว่าสีจีวรไม่ได้แตกต่างอะไรจากพระวัดอื่นๆ คุณถึงดูไม่ออกเลยไงคครับ อยากจะให้ความรู้ผู้อื่นแต่แฝงมาด้วยอัคติเป็นสิ่งที่ไม่ควรเลย จะว่าผมเอารูปมาลงเพื่อลองภูมิ ก็ไม่ใช่แต่ผมก็แค่สงสัย ว่าสีจีวรวัดพระธรรมกายต่างจากสีพระวัดอื่นอย่างไร 1.พระรูปแรกสมเด็จเกี่ยว(รักษาการณ์พระสังฆราช วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) 2.พระอาจารย์ ว วชิระเมที (วัดเบญจมบพิตรฯ) 3 พระอาจารย์ สมชาย ฐานาวุฒโฒ (ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย) 4.พระอาจารย์ ป ประปยุตโต  (วัดญาณเวศกวัน)   ที่ตอนแรกไม่ลงชื่อ ก็นึกเห็นเป็นแฟนพันธ์แท้วัดพระธรรมกาย นึกว่าจะทราบว่าองค์ไหน จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 15:20:15

ความคิดเห็นที่ 26 ผมเห็นภาพแล้วกลับปิตินะ   ไม่ได้สงสัยอะไรเรื่องสีจีวร อาจด้วยไม่มีความรู้ว่า สีเหลืองแบบใด ถึงจะเป็นสีที่พระพุทธองค์ทรงห้ามครับ     :D จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 15:27:55

ความคิดเห็นที่ 27  ความคิดเห็นที่ 25    คุณchohokunในนั้นมีรูปพระของวัดพระธรรมกายอยู่ด้วยนะครับ แสดงว่าสีจีวรไม่ได้แตกต่างอะไรจากพระวัดอื่นๆ คุณถึงดูไม่ออกเลยไงคครับ อยากจะให้ความรู้ผู้อื่นแต่แฝงมาด้วยอัคติเป็นสิ่งที่ไม่ควรเลย จะว่าผมเอารูปมาลงเพื่อลองภูมิ ก็ไม่ใช่แต่ผมก็แค่สงสัย ว่าสีจีวรวัดพระธรรมกายต่างจากสีพระวัดอื่นอย่างไร  1.พระรูปแรกสมเด็จเกี่ยว(รักษาการณ์พระสังฆราช วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร) 2.พระอาจารย์ ว วชิระเมที (วัดเบญจมบพิตรฯ) 3 พระอาจารย์ สมชาย ฐานาวุฒโฒ (ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย) 4.พระอาจารย์ ป ประปยุตโต  (วัดญาณเวศกวัน)   ที่ตอนแรกไม่ลงชื่อ ก็นึกเห็นเป็นแฟนพันธ์แท้วัดพระธรรมกาย นึกว่าจะทราบว่าองค์ไหน จากคุณ : พัดลมเย็นๆ  เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 15:20:15 เขียนให้ถูกหน่อยคุณ เป็นถึงคนในวัดในวา เขียนแบบเด็กอนุบาลไปได้ คนอื่นจะเข้าใจว่ามีความรู้ไม่สมประกอบเอาได้ ผมขออนุญาตแก้ให้ถูกดังนี้  1.สมเด็จพระพุฒาจารย์ ( เกี่ยว อุปเสโณ ) เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม,เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก,ประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช 2.พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ( ว วชิรเมธี ) วัดศรีศักดาราม จ.เชียงราย 3.พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ รองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย 4.พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) วัดญาณเวศกวัน จ.นครปฐม ปล.สิ่งที่ควรรู้ก่อนจะพิมพ์ลงไปควรตรวจความสมบูรณ์ของข้อมูล ขอให้จำไว้นะครับว่า  - ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ท่านไม่ได้ดำรงตำแหน่งรักษาการณ์สมเด็จพระสังฆราชนะครับ ท่านดำรงตำแหน่งประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช - พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ( ฉายาท่านเขียนให้ถูกหน่อยครับคนในวัด ) ท่านย้ายจากวัดเบญจมบพิตร ไปอยู่วัดศรีศักดาราม จ.เชียงราย นานแล้ว อัพข้อมูลหน่อยนะครับ - พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑฺโฒ ( ฉายาท่านเขียนแบบนี้ นี่ขนาดคนในวัดตัวเองแท้ๆ ) แถมซ้ำยังไปมั่วว่าท่านเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสอีก ทั้งๆที่ท่านดำรงตำแหน่งรองเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายแล้ว - พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ฉายาที่ถูกต้องเขียนอย่างนี้นะครับพ่อคนวัด " ปยุตฺโต " จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 15:40:54

ความคิดเห็นที่ 28 สำหรับในกระทู้ขออนุญาตนำข้อมูลที่เกี่ยวข้องมาแชร์ดังนี้ครับ  เรื่องสีของจีวร หลักฐานที่เก่าแก่ที่สุด ที่แสดงให้เห็นถึงสีของจีวรของนักบวชนั้น มีบัญญัติในคัมภีร์พระธรรมศาสตร์ ซึ่งกล่าวถึงจีวรของนักบวชที่เรียกว่า สันยาสิน ซึ่งสวมใส่จีวรสี “เปลวเพลิง” มีอาศรมอยู่บริเวณชายป่า หรือการห่มผ้าสีเหลืองส้มของพระทางสายลังกาวงศ์ ซึ่งในปัจจุบันนิยมเรียกกันในเมืองไทยว่า “พระมหานิกาย” นั้นก็สามารถเทียบเคียงได้กับที่บรรยายในคัมภีร์พระธรรมศาสตร์นี้ แม้ในปัจจุบันนักบวชหรือนักพรตฮินดูนิกายต่าง ๆ ก็ยังนิยมนุ่งห่มจีวรสีเดียวกันนี้อยู่   การที่สีจีวรของนักบวช สมณะ และสันยาสิน ดั้งเดิมน่าจะเป็นสีเปลวเพลิง น่าจะมีเหตุผลมาจากเป็นสีที่เห็นได้ถนัดชัดเจน โดยเฉพาะในป่า เพราะเป็น “สีแห่งความปลอดภัย” เนื่องจากสัตว์ทั้งหลายที่เห็นแต่ไกล นึกว่าเป็นกองไฟกำลังลุกไหม้อยู่ จึงหลีกเลี่ยงไม่เข้ามาใกล้ แม้นายพรานที่กำลังล่าสัตว์อยู่ก็สังเกตเห็นได้ง่าย เนื่องจากโดดเด่นกว่าสีอื่น ๆ หลักฐานสนับสนุนสำคัญประการหนึ่ง คือ กฎหมายในต่างประเทศเช่น ประเทศสหรัฐฯ กำหนดให้ผู้ที่จะเดินทางเข้าไปในป่านั้น ต้องสวมเสื้อผ้าสีแสดหรือออกส้มเช่นเดียวกัน เพื่อความปลอดภัยจากการถูกนายพรานที่กำลังล่าสัตว์ในป่ายิงเข้าโดยไม่ตั้งใจ พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตสีที่ใช้ย้อมจีวรผ้ากาสายะ หรือผ้าย้อมฝาดได้หลายสี เช่น จากดินสีอรุณ (ดินสีแดง) หรือแก่นขนุน และสีใกล้เคียงอีกหลายชนิด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าพระพุทธศาสนานั้น ได้เผยแพร่ไปได้รวดเร็วในยุคแรก ความจำเป็นของการหาวัสดุมาย้อมสีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หรืออาจมองได้อีกประการหนึ่งว่า ทรงมีพุทธวินิจฉัยว่า เป็นเรื่องที่สามารถยืดหยุ่นได้เนื่องจาก ไม่ใช่แก่นของพระพุทธศาสนา ซึ่งมุ่งกำจัดความทุกข์ทางใจ http://www.wbs.mbu.ac.th/th/index.php?option=com_content&task=view&id=42&Itemid=39 จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 16:11:53

ความคิดเห็นที่ 29 เมื่อก่อนผมก็สงสัยนะ สงสัยว่าหลวงไก่ท่านเป็นพระพ่อนิกายไหนกันแน่ธรรมยุติหรือมหานิกาย บางคนบอกว่าท่านเป็นพระธรรมยุติ ผมก็ยังไม่แน่ใจไม่หายสงสัย เพราะเท่าที่เห็นภาพตามเน็ตดูท่านครองจีวรแปลก ๆ บางครั้งก็สีเหลืองอ๋อยเลย ซึ่งไม่เคยเห็นในสายประป่า แต่บางครั้งท่านก็ครองสีเข้มเหมือนพระป่าธรรมยุติสายหลวงปู่มั่น ก็คิดว่าท่านคงเป็นพระมหานิกายนั่นแหละ เพิ่งจะมารู้ตอนหลังว่าท่านเป็นพระธรรมยุติ จากภาพในความเห็น 21 ของนายจองชัย ถ้าผมจำไม่ผิด รูปที่ปรากฏอยู่ในภาพที่เห็นเพียงครึ่งหนึ่งที่อยู่เหนือพัดลมนั้น น่าจะเป็นภาพที่ท่านฟ้าหญิงจุฬาภรณ์ ท่านกำลังทรงถวายจตุปัจจัยไทยธรรมแก่หลวงพ่ออยู่นะ และบรรดาพระที่นั่งเรียงลำดับอยู่ด้วยกับหลวงพ่อในภาพนั้นแต่ละรูปก็ล้วนเป็นพระป่าหลวงปู่หลวงพ่อองค์เด่นๆ ในสายหลวงปู่มั่นยุคนี้ทั้งนั้นเลย  ก็เลยหมดสงสัย จากคุณ : time wait for no one เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 16:15:27

ความคิดเห็นที่ 30 ถ้าท่านจับผิด หรือท่านจับถูกท่านจะไม่เห็นอะไรนอกจากความผิดความถูก ที่ท่านปรุงแต่งมันขึ้นมา ที่ท่านพิพากษาเอง และข้อสงสัยต่างๆ ที่จะทำให้ท่านเสียเวลามานั้งขบคิด     แต่หากท่านมองที่คำสั่งสอน มองที่ความเมตตา มองว่าพระอาจารย์ท่านไหน สามารถสั่งสอนได้ถูกจริตของท่าน แล้วท่านนำมาประพฤติปฎิบัติ นำพาท่านไปสู่มรรคผล     โดยส่วนตัวแล้วสงสัยแต่ไม่อยากจะรู้ เพราะรู้ไปก็ไม่สามารถช่วยอะไรเราได้ เรามาพิจารณาที่คำสอนของท่าน ความทุ่มเทของท่าน ความเมตตาของท่าน หาประมาณมิได้ จึงเลิกที่จะลังเลสงสัย  และน้อมนำคำท่านมาปฎิบัติอยู่ทุกวันคะ จากคุณ : angelnajung เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 17:06:28

ความคิดเห็นที่ 31 เห็นด้วยกับความเห็น 28 เคยได้ยินมาอย่างนั้นเหมือนกัน แต่นานมาแล้ว จากคุณ : Pride & Prejudice เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 17:24:24

ความคิดเห็นที่ 32 ขออนุญาตตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับสีจีวร ของพระมหานิกายระดัุบ celeb ในภาพทั้ง 4 ท่าน จีวรที่ celeb#1 กับ celeb#4 ห่มอยู่นั้น ก็เป็นสีเหลืองทอง แบบที่พบได้ืทั่วไปตามวัดมหานิกายทั่วประเทศ จะเป็นสีออกแนวเข้ม ๆ ไปทางสีแดง ส่วนจีวรที่ celeb#2 ห่มอยู่นั้น ก็โทนเดียวกัันกับของ celeb#1 แต่ความเข้มทางสีแดงจะน้อยกว่า แต่ก็มีบางภาพที่ celeb#2 ห่มจีวรสีเดียวกัน กับที่ celeb#1 และ celeb#4 ห่มอยู่เหมือนกัน ส่วนของ celeb#3 นั้น ก็ยังโทนเดียวกันอยู่ แต่สีมันสว่างกว่า สีมันใกล้เหลืองมากกว่าใครเพื่อน แต่ถามว่าผิดหรือเปล่า ต้องดูก่อนว่าเหลืองดอกกรรณิการ์ มันเหลืองประมาณไหน คงไม่ใช่กรรณิการ์ไทย เพราะมันเป็นสีขาว ก็ไปดูกรรณิการ์อินเดีย จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Flora_of_the_Indian_epic_period ไปดูที่ชื่อ karnikara (กรรณิการ์) ปรากฎว่า จริง ๆ มันคือต้นราชพฤกษ์บ้านเรานี่เอง (ฮา) แต่จีวรของ celeb ทั้ง 4 ท่าน ไม่มีของใครเหลืองขนาดนั้น สรุปในข้อนี้ คือคงไม่มีใครผิดหรอกครับ แถมอีกสักเล็กน้อย จากวัดปากน้ำ งานทำบุญครบรอบวันมรณภาพหลวงพ่อสด เมื่อต้นปีที่ผ่านมา หลากสีจังเลยนะครับ จากคุณ : ABP@BDZ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 17:27:30

ความคิดเห็นที่ 33 ภาพนี้ถ่ายมาจากหนังสือที่ระลึกขององค์หลวงตามหาบัวค่ะ โดยส่วนตัวสมัยก่อนก็มักตินู่นตินี่หรือสงสัยนู่นสงสัยนี่ของพระเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมถึงปฏิบัติอย่งานู้นอย่างนี้ ทำไมทำข้อวินัยผิด ทำไมกินกาแฟ จนเมื่อได้พบพระสุปฏิปัณโณและปฏิบัติลึกซึ้งเข้า  จึงเริ่มเข้าใจธรรมที่แท้จริงว่า พระพุทธองค์ท่านไม่ได้ให้เราไปดูที่ไหน เกินกายและใจของเราเลยและทุกอย่างล้วนเป็นสมมติทั้งนั้น...จะไปยึดไปจับอะไรก็คงไม่ได้ เพราะมันไม่ใช่ตัวใช่ตน ไม่ใช่ของเราทั้งหมดทั้งสิ้น แม้แต่กฏบัญญัติเองก็ล้วนสมมติขึ้นมาเพื่อให้อยู่ในโลกให้ได้เท่านั้น ในอีกสิบปี ยี่สิบปี กฏเหล่านี้ก็อาจเปลี่ยนแปลงไปตามกฏของไตรลักษณ์ทั้งหมด ยึดไป คิดไป ทุกข์เปล่าๆ... แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 17:47:23 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 17:40:52 จากคุณ : nopas (nopas) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 17:39:54

ความคิดเห็นที่ 34 ภาพ จากคุณ : nopas (nopas) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 18:00:30

ความคิดเห็นที่ 35 ปรับภาพไม่เป็น ดันเล็กไปอีก555+ จากคุณ : nopas (nopas) เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 18:04:46

ความคิดเห็นที่ 36 ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายแก่พุทธศาสนานี่ครับคุณราชมัลจะอัพเดทหรือไม่อัพเดทข้องมูล จะพิมพ์ผิดหรือถูกก็เจตนาของผมก็ดี จะผิดหรือจะถูกก็ดีกว่าคนบางคนบางพวกไปเที่ยวปรับอาบัติพระมากกว่าพระท่านอยู่ดีๆชอบไปยุ่งกับท่านซะจริงๆ จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 18:34:07

ความคิดเห็นที่ 37  ความคิดเห็นที่ 36    ผมก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายแก่พุทธศาสนานี่ครับคุณราชมัลจะอัพเดทหรือไม่อัพเดทข้องมูล จะพิมพ์ผิดหรือถูกก็เจตนาของผมก็ดี  จะผิดหรือจะถูกก็ดีกว่าคนบางคนบางพวกไปเที่ยวปรับอาบัติพระมากกว่าพระท่านอยู่ดีๆชอบไปยุ่งกับท่านซะจริงๆ จากคุณ : พัดลมเย็นๆ  เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 18:34:07 ไงครับคุณพัดลมร้อนๆ ผมไปบอกตั้งแต่เมื่อไหร่ว่าคุณไปทำให้เกิดความเสียหายกับพระพุทธศาสนา ร้อนตัวไปนะครับ ผมเพียงบอกให้คุณตรวจทานข้อมูลก่อนที่จะโพสต์ลงไป เพื่อจะได้เกิดความถูกต้องสมบูรณ์ ก็เพียงเท่านั้น คุณจินตนาการไกลนะครับ และเรื่องอัพเดทข้อมูล คุณเองก็มักจะบอกเพื่อนสมาชิกอยู่เสมอๆ ในกรณีที่ใครเอาเรื่องราวเก่าๆของวัดพระธรรมกายมาพูดมาคุย แต่พอผมเอาเรื่องข้อมูลอัพเดทภายในวัดเกี่ยวกับการปกครองวัดของพระสังฆาธิการในวัด คุณกลับปัดเรื่องเจตนาอีกซะงั้น หลายเรื่องแล้วนะครับคุณนะ ลองนับดูซิ เอาเถอะ จะเจตนาอะไรมันก็เรื่องของคุณ ผมเพียงแค่อยากให้มีการตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องก่อนจะพิมพ์เอาเท่านั้นละ อย่าง ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศที่คุณเที่ยวไปทึกทักแต่งตั้งท่านเป็นผู้รักษาการณ์พระสังฆราชนั้น หาควรไม่ คนอื่นที่ไม่รู้ไม่ทราบ จะเข้าใจผิด ไปกันใหญ่ รอบหน้าตรวจทานดีๆหน่อยละ พ่อคนในวัด จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 19:30:39

ความคิดเห็นที่ 38 ก็ดีกว่าทำให้คนเข้าใจผิดว่าจีวรที่พระท่านห่มผิดอาบัติมากกว่า จริงไหมราชมัล จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 20:43:21

ความคิดเห็นที่ 39  ความคิดเห็นที่ 38    ก็ดีกว่าทำให้คนเข้าใจผิดว่าจีวรที่พระท่านห่มผิดอาบัติมากกว่า จริงไหมราชมัล จากคุณ : พัดลมเย็นๆ  เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 20:43:21 คุณพัดลมร้อนๆ  เรื่องจีวรเขามีอรรถาธิบายให้เข้าใจความกันเรียบร้อยแล้วครับ ไม่ต้องลากไปให้คนอื่นดอก เขามีที่มาที่ไปครับ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 20:55:14

ความคิดเห็นที่ 40 ลากไปให้ใครครับไม่ได้อ่านตั้งแต่ต้นกระทู้เหรอไง   ถูกแล้วไงที่มาที่ไป ที่มาก็มีอยู่ว่า "สีเหลืองอ๋อยแบบนั้น  ตามหลักไม่ถูกพระวินัย  ที่มีข้อบัญญัติห้ามไว้แล้ว   ..ควรต้องย้อมให้หม่นหมองลงกว่านั้นก่อน  จึงค่อยใช้  ...แต่ในระดับพระผู้ใหญ่ หรือมีชื่อเสียงในยุคนี้  ทำอะไร  เหล่าบรรดาลูกศิษย์ก็ถือว่าถูกหมด นั่นแหละ ... พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างไร นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ... ในยุคนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจคำสอนของพระบรมศาสดามากไปกว่าคำสอนของ อาจารย์ของตน  ใกล้จะเป็นมหายานเข้าไปเรื่อยๆๆ   ดูพวกสำนักหัวนมจานบินเป็นตัวอย่าง   พวกนี้ไม่สนใจคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าเลย  และมีคนเชื่อตามมากมาย  ...แล้วยังจะหวังให้ศาสนาพุทธมีอายุเกิน ห้าพันปี กระนั้นหรือ ? ยากมากๆ  ขอให้ถึง สี่พันปีก็ดูท่าจะยากแล้ว" กับ "รสีเหลืองในปัจจุบันนี้ ความจริงเป็นสีทองครับ (หรือเหลืองทอง) ไม่ใช่เหลืองแบบดอกกรรณิการ์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ในพระวินัย ความจริงเรื่องสีจีวรพระในประเทศไทยนี่ มีปัญหาอยู่มากเหมือนกัน บางครูบาอาจารย์ท่านก็ถือว่าใส่แบบสีนั้น ๆ แล้วถูกต้อง  บางท่านก็ถือว่าจีวรเหลืองแบบพระมหานิกายนุ่งห่ม ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ก็เลยมีลักษณะสีแบบพิเศษขึ้นมาอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า "สีราชนิยม"  พระสงฆ์ที่เข้าไปรับพระราชทานฉัน หรือรับพระราชทานในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล หรือพิธีหลวง  จะต้องห่มสีนี้ และเมื่อทรงประเคนผ้าไตร  ก็มักจะเป็นไตรสีราชนิยม ครูบาอาจารย์ผมเล่าว่า คล้ายกับว่าทางฝ่ายหลวงเอง ท่านก็คงอยากให้พระสงฆ์ใช้จีวรสีเดียวกัน  และสีราชนิยมดังกล่าวนี้ เป็นลักษณะสีที่ไม่อยู่ในข่ายของสีที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม อย่างไรก็ตาม พึงทราบว่าจีวรสีเหลืองแบบที่พระมหานิกายใช้ทั่วไป  กับจีวรเหลืองแบบธรรมกายนั้น ต่างกันมากนะครับ เพราะจีวรเหลืองของธรรมกาย (ตัด เย็บ ย้อมเอง มีโรงงานทำเองโดยเฉพาะ)  ตรงกับสีเหลืองแบบที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ซึ่งผิดพระธรรมวินัยแท้ ๆ เลยทีเดียว" นี่หละคือที่มา แล้วตรงไหนครับว่าเป็นที่เข้าใจของเจ้าของสองประโยคประโยคนี้มิทราบ คุณราชมึน แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 21:04:21 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 21:03:53 จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:02:50

ความคิดเห็นที่ 41 ขอบคุณคุณราชมัลมากค่ะ เดิมเข้าใจว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ดำรงตำแหน่งรักษาการณ์สมเด็จพระสังฆราชจริงๆค่ะ สอบถามเพิ่มเติม พอดีมีข้อสงสัยอยู่ค่ะว่า ผ้าสิงคิวรรณ ที่พระพุทธองค์ทรงนุ่งก่อนปรินิพพาน ทำมาจากอะไร ปัจจุบันยังมีหรือเปล่าคะ จากคุณ : ขนมทองหยด เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:40:02

ความคิดเห็นที่ 42  ความคิดเห็นที่ 40    ลากไปให้ใครครับไม่ได้อ่านตั้งแต่ต้นกระทู้เหรอไง   ถูกแล้วไงที่มาที่ไป ที่มาก็มีอยู่ว่า "สีเหลืองอ๋อยแบบนั้น  ตามหลักไม่ถูกพระวินัย  ที่มีข้อบัญญัติห้ามไว้แล้ว   ..ควรต้องย้อมให้หม่นหมองลงกว่านั้นก่อน  จึงค่อยใช้  ...แต่ในระดับพระผู้ใหญ่ หรือมีชื่อเสียงในยุคนี้  ทำอะไร  เหล่าบรรดาลูกศิษย์ก็ถือว่าถูกหมด นั่นแหละ ... พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้อย่างไร นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง   ... ในยุคนี้ ไม่ค่อยมีคนสนใจคำสอนของพระบรมศาสดามากไปกว่าคำสอนของ อาจารย์ของตน  ใกล้จะเป็นมหายานเข้าไปเรื่อยๆๆ   ดูพวกสำนักหัวนมจานบินเป็นตัวอย่าง   พวกนี้ไม่สนใจคำสอนดั้งเดิมของพระพุทธเจ้าเลย  และมีคนเชื่อตามมากมาย  ...แล้วยังจะหวังให้ศาสนาพุทธมีอายุเกิน ห้าพันปี กระนั้นหรือ ? ยากมากๆ  ขอให้ถึง สี่พันปีก็ดูท่าจะยากแล้ว" กับ "รสีเหลืองในปัจจุบันนี้ ความจริงเป็นสีทองครับ (หรือเหลืองทอง) ไม่ใช่เหลืองแบบดอกกรรณิการ์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงห้ามไว้ในพระวินัย ความจริงเรื่องสีจีวรพระในประเทศไทยนี่ มีปัญหาอยู่มากเหมือนกัน บางครูบาอาจารย์ท่านก็ถือว่าใส่แบบสีนั้น ๆ แล้วถูกต้อง  บางท่านก็ถือว่าจีวรเหลืองแบบพระมหานิกายนุ่งห่ม ไม่ถูกต้อง ตอนนี้ก็เลยมีลักษณะสีแบบพิเศษขึ้นมาอีกแบบหนึ่ง เรียกว่า "สีราชนิยม"  พระสงฆ์ที่เข้าไปรับพระราชทานฉัน หรือรับพระราชทานในพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล หรือพิธีหลวง  จะต้องห่มสีนี้ และเมื่อทรงประเคนผ้าไตร  ก็มักจะเป็นไตรสีราชนิยม ครูบาอาจารย์ผมเล่าว่า คล้ายกับว่าทางฝ่ายหลวงเอง ท่านก็คงอยากให้พระสงฆ์ใช้จีวรสีเดียวกัน  และสีราชนิยมดังกล่าวนี้ เป็นลักษณะสีที่ไม่อยู่ในข่ายของสีที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม อย่างไรก็ตาม พึงทราบว่าจีวรสีเหลืองแบบที่พระมหานิกายใช้ทั่วไป  กับจีวรเหลืองแบบธรรมกายนั้น ต่างกันมากนะครับ เพราะจีวรเหลืองของธรรมกาย (ตัด เย็บ ย้อมเอง มีโรงงานทำเองโดยเฉพาะ)  ตรงกับสีเหลืองแบบที่พระพุทธเจ้าทรงห้าม ซึ่งผิดพระธรรมวินัยแท้ ๆ เลยทีเดียว" นี่หละคือที่มา  แล้วตรงไหนครับว่าเป็นที่เข้าใจของเจ้าของสองประโยคประโยคนี้มิทราบ คุณราชมึน แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 21:04:21 แก้ไขเมื่อ 07 มิ.ย. 55 21:03:53 จากคุณ : พัดลมเย็นๆ  เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:02:50 นี่ไงครับคุณพัดลมร้อนๆ ท่านเจ้าของกระทู้ท่านได้ตั้งกระทู้ถามมา เพื่อนสมาชิกหลายๆท่านได้กรุณาตอบและอรรถาธิบายไปตั้งเยอะแล้ว ทีนี้คุณเห็นท่านเจ้าของกระทู้ออกมาโวยวาย ประกาศว่าไม่เข้าใจไหมครับ ตั้งสติดีๆ อย่าพลุ่งพล่าน ท่านเจ้าของกระทู้มิได้เข้าใจยากเหมือนคุณดอก อย่าไปทำให้เขาเหมือนคุณเลย   ความคิดเห็นที่ 41    ขอบคุณคุณราชมัลมากค่ะ  เดิมเข้าใจว่าท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ดำรงตำแหน่งรักษาการณ์สมเด็จพระสังฆราชจริงๆค่ะ สอบถามเพิ่มเติม พอดีมีข้อสงสัยอยู่ค่ะว่า ผ้าสิงคิวรรณ ที่พระพุทธองค์ทรงนุ่งก่อนปรินิพพาน ทำมาจากอะไร ปัจจุบันยังมีหรือเปล่าคะ จากคุณ : ขนมทองหยด  เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:40:02 เรียน คุณขนมทองหยด มิได้ครับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ ท่านมิได้ดำรงตำแหน่งดังที่คุณพัดลมเย็นๆเดาส่งเดชหรอกครับ  ส่วนเรื่องผ้าสิงคิวรรณ ผมไม่ทราบจริงๆว่าปัจจุบันยังมีอยู่หรือไม่ แต่จะรับไปหาข้อมูลมาให้นะครับ  จากคุณ : ราชมัล เขียนเมื่อ : 7 มิ.ย. 55 21:57:25

ความคิดเห็นที่ 43 ผ้าสิงคิวรรณ  บอกได้ยากว่ามีลักษณะสีอย่างไร  ในพจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์  มีอธิบายว่า เป็นผ้าที่มีสี "ดังทองสิงคี" ส่วนคำว่า "สิงคี" นั้น ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตย์ฯ อธิบายว่า หมายถึงทองคำ ดังนั้น คำว่า ผ้าสิงคิวรรณ น่าจะหมายถึง "ผ้ามีสีดังสีทองคำ" นั่นแหละครับ ส่วนกรณีผ้าจีวรสีเหลือง ที่ผมพูดไว้ในเบื้องต้นนั้น ดูเหมือนจะเป็นเพราะความเลินเล่อของผมเอง ที่พลาดไปบอกว่าสีจีวรของวัดพระธรรมกายนั้นผิดพระธรรมวินัย  เพราะปกติจะเห็นผ้าจีวรสีเหลืองทองแบบไม่สดมาก  พอเห็นของวัดพระธรรมกายที่ปกติมีสีสดมากกว่าทั่วไป (แถมสีเดียวกันทั้งวัด) ก็เลยมองพลาดไป ขออภัยในข้อผิดพลาดดังกล่าว (คงไม่จำเป็นต้องแก้ข้อความเดิม) อนึ่ง ขอขอบคุณ คุณ ABP@BDZ  ที่แจ้งเรื่องข้อมูลของดอกกรรณิการ์อินเดียให้ได้ทราบเพิ่มเติม จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 00:02:26

ความคิดเห็นที่ 44 ราชมึน คุยคนละเรื่ิองเลย ตอบไม่ตรงก็ไม่ต้องตอบครับ ตั้งสติดีๆก่อนตอบตัวเองอ่านรึป่าว   ขอขอบคุณครับchohokun (ต้องตอบแบบนี้) อนุโมทนาด้วยครับ คำตอบของที่มา ของการนำภาพพระคุณจ้าทั้ง4รูปมาไว้ในกระทู้นี้ แก้ไขเมื่อ 08 มิ.ย. 55 00:41:28 จากคุณ : พัดลมเย็นๆ เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 00:18:57

ความคิดเห็นที่ 45 ขอบคุณราชมัลกับchohokun มากค่ะสำหรับข้อมูล จากคุณ : ขนมทองหยด เขียนเมื่อ : 8 มิ.ย. 55 20:32:53

ความคิดเห็นที่ 46 ดีครับ  คนในกระทู้นี้เยี่ยมเลย ผิืดพลาดไปก็มีการออกมาขอโทษ  ผมซึ้งใจและดีใจกับทุกท่านด้วย นี่แหละผู้ปฏิบัติธรรมที่แท้จริง  ไม่มีใครไม่เคยทำผิดพลาดครับ สาธุ จากคุณ : issarasena เขียนเมื่อ : 9 มิ.ย. 55 15:50:38