Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
จิตใจตกต่ำมากค่ะ ขอความเมตตาดึงขึ้นมาหน่อยค่ะ ติดต่อทีมงาน

เรื่องมันยาวมากกกกค่ะ  จะมีคนอ่านไหม
เรื่องมีอยู่ว่า
เรามีเพื่อนสนิทให้ชื่อว่า จอยค่ะ  เข้ารับราชการพร้อมกัน คนละห้องทำงาน สนิทกัน  เล่นกัน  กินข้าวกัน  ขำกัน
วันนึง  เรามีแฟน  ทุกอย่างก็ปกติ
วันนึง  เราสอบไปเรียนต่อในวิชาชีพของเราได้
แต่เพื่อนไม่ติดในวิชาชีพของเขา  เขาเลยไปเรียนสาขาอื่น
วันนึงเราได้รู้จักกับเพื่อนแฟนที่เป็นผู้ชาย  ด้วยอารมณ์ขำๆ เราก็เลติดต่อให้เพื่อนเรา  จนในที่สุดเขาก็คบกัน  เหตุการณ์ปกติ  ให้ชื่อว่าพี่บิ๊กค่ะ
วันนึงเราถามพี่บิ๊กว่า  ทำไมไม่พาเพื่อนเราไปเปิดตัวบ้าง  พี่เขาตอบว่าประมาณว่า  ของดีเขาต้องเก็บไว้ไม่เอามาอวดคนอื่นหรอก
เราก็เลยว่า  อ้องั้นเราคงไม่ใช่ของดี  แฟนถึงพาเปิดตัว  เรารู้ว่าพี่เขาพูดเล่น แต่เราก็โกรธ  ความจริงความรู้สึกของเราก็หาเรื่องไม่ชอบพี่บิ๊กด้วยมั้งคะ  เพราะเรารู้สึกว่าเราโดนแย่งเพื่อนไปแล้ว  ทั้งๆที่ก็ตัวกูเองนี่แหละที่ติดต่อให้เขาได้รู้จักกัน  อารมณ์ประมาณว่าจีบเพื่อนเราติดแล้วเลยลืมสัญญาว่าจะพาไปเลี้ยงอะไรประมาณนั้น  มันเป็นเรื่องไร้สาระสิ้นดี


จนเราเรียนจบกลับมาทำงาน  เพื่อนก็จบมาตามหลัง
ตอนแรกที่กลับมาทำงานเราทั้งสองปรับตำแหน่งไม่ได้ค่ะ  แต่ท้ายที่สุดเพื่อนก็สามารถปรับตำแหน่งได้  เรารู้สึกเคว้งค่ะ  คนที่เคยมีความรู้ึกเดียวกัน  เขาก็คงไม่มารู้สึกอย่างที่เคยแล้ว  เขาลอยลำไปแล้ว  เราซิที่ต้องนอนก่ายหน้าผากเรื่องงานไปคนเดียว

เราไม่เข้าใจตัวเองค่ะ  ความรูสึกอิจฉาเพื่อนมันเกิดขึ้นมาแล้ว  เราเริ่มห่างเหินกับเพื่อน  ไมาอยากเห็นหน้าเพื่อน  ทำไมอย่างนั้นอย่างนี้
เราได้รับรางวัลบุคลากรดีเด่นสำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย  เดินสวนกับเพื่อน  เพื่อนขำๆแล้วถามว่าเป็นไง (ตำแหน่งรางวัล)  เรานอยทันทีค่ะ  เราคิดแง่ลบตลอดเวลาเลยว่า คนอื่นเขาคงคิดว่าเราได้รางวัลเพราะเราเป็นข้าราชการชั้นผู้น้อย  ตัวเลือกมันน้อย  ไม่รู้เหมือนกันว่าความคิดเพื่อนคิดยังไง  

เรารู้อยู่ตลอดเวลาค่ะ  ว่าจอยเป็นคนดี  เป้นเพื่อนที่ดี  เขารับรู้ว่าเราเปลี่ยนไป  แต่เราไม่สามารถห้ามความคิดอิจฉาเพื่อนได้จริงๆ

เวลาผ่านไปเราก้ห่างกันเรื่อยๆค่ะ

จนหลังจากที่เรากลับมาทำงานห้าปี  เราก็ตกลงแต่งงานกับแฟนค่ะ

แต่

ในวันที่จะถึงวันงานแต่งงาน
 
ก่อนวันแต่งงาน 2 วัน เราถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน  แฟนตอบว่าไปกรุงเทพ  เราก็งงว่าไปกรุงเทพทำไม เขาบอกว่าต้องมาถอนเงิน เราก็เข้าใจว่าถอนเงิจำนวนมากต่างสาขาไม่ได้ ก้เข้าใจตามนั้นค่ะ จนก่อนแต่งงาน 1 วัน เราต้องมาแต่งหน้าและรับเพื่อนที่มาจากขอนแก่น ก็รอแฟนเพื่อที่จะไปซื้อทองกัน จนเราแต่งหน้าเสร็จ เขาก็บอกว่าให้ไปเจอกันที่ร้านทองเลย จนเราไปรอที่ร้านทอง ก็ไม่เจอ ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน เขาจึงสารภาพออกมาว่า เขาโดนเพื่อนโกงเงินไปประมาณสามแสนบาท ตอนนี้กำลังวิ่งหาเงินสำหรับวันพรุ่งนี้อยู่ ให้เรากลับไปที่บ้านเลย  

เราอึ้งมากค่ะ  ทำไมหละ  มันมีอะไรที่สำคัญมากไปกว่าครอบครัวของเราที่กำลังจะสร้างอีกหรือ ทำไมให้เงินคนอื่นเขาไป เงินที่หามาไว้เพื่อที่จะสู่ขอผู้หญิงคนนึงมาเป็นภรรยา ให้เขาไปได้ยังไง  เพื่อนๆลองนึกถึงผู้หญิงที่แต่งหน้าสำหรับงานเลี้ยงเย็นคนนึง  ใส่ชุดผ้าถุง เสื้อลูกไม้ มายืนรอแฟนซื้อทอง ในห้างสรรพสินค้า แล้วต้องเดินกลับไปพร้อมกับประคองไม่ให้น้ำตาไหล  แล้ววันพรุ่งนี้มันก็จะแต่งงานอยู่แล้ว  ทุกคนรอเห็นเจ้าบ่าวแต่แฟนเรากำลังวิ่งไปหาเงินอยู่  ดีที่มีเพื่อนนั่งรถอยู่ด้วย  ถ้ามีเราคนเดียวใจนึงอยากจะขับรถชนต้นไม้ตายไปซะ

คือ........ แฟนเราเป็นคนดีมากค่ะ  น่ารักและมีน้ำใจกับทุกคนรอบข้างเรามากเลย ไม่เจ้าชู้  การงานดี  และเราก็รักกันมาก เราว่าเราโชคดีมากเลยที่ได้รักกับผู้ชายคนนี้ แต่การที่แฟนเราต้องกู้เงินมาแต่งงานเราจากเหตุการณ์นั้น มันทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตคู่เราต้องเริ่มด้วยการเป็นหนี้แล้ว  เมื่อไหร่เราจะลืมตาอ้าปากได้หละ

ถ้าไม่มีเรื่องนี้มันจะทำให่เรามีความสุขมากเลยค่ะ  เพราะเรารักกันและเขาก็เป็นคนดี  เขาบอกว่าทำไงได้หละ  เขาโง่เอง โลภอยยากได้ดอกเบี้ยเอง ไม่รอบคอบเอง  เขาขอร้องไม่ให้เราเราร้องไห้  อย่าเครียด เพราะเขาร้องไห้และเครียดมามากแล้ว  ไม่อยากให้เมียต้องมาเครียดด้วย บอกให้รับรู้ไม่ใช่ให้มาใช้หนี้ร่วม  ขอเวลาซักนิด แล้วถึงจะได้เก็บเงินจริงจัง  ตอนนี้ก็จะให้เงินภรรยาด้วย แต่ก็อาจจะเก็บเงินได้ช้า ส่วนเก็บก็เก็บส่วนใช้หนี้ก็ต้องจ่ายไป เขาเป็นหนี้แต่เขาก็ได้เมียมาคนนึง
พี่ที่สนิทกันเขาบอกว่า
1. เราไม่รู้หรอกนะว่าตอนนั้นเขาคุยอะไรกัน  แฟนเราถึงให้เงินเพื่อนไป  เขาอาจจะอยากได้ทองเพิ่มขึ้นอีกบาทก็ได้
2. มันเป็นสิ่งที่ผ่านไปแล้ว เครียดไปก็ไม่ได้เงินมา  เรายังเครียดขนาดนี้แล้วพี่เขาเป็นคนหา เขาเสียใจกว่าเราร้อยเท่าพันเท่า
3. ดีแล้วที่เขาบอก  อย่าไปซ้ำเติมเขา  อย่าทำให้เขาไม่อยากบอกความจริงเราอีกต่อไป
4. ดีขนาดไหนแล้วที่เขายังอุตส่าห์หาเงินมาจนได้  เขาไม่ไปซื้อทองปลอมเส้นละ 99 บาทมาก็ดีขนาดไหนแล้ว
5. ให้นั่งเขียนความดีของเขา เทียบกับหนี้ 420000 ที่เขาหามา
6. เงินแค่นี้เล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับปัญหาครอบครัวหยุมหยิมที่เราจะต้องเจอกันภายหน้า
7. ถ้าเรายืนยันว่าเขาดีจริง  ปัญหาแค่นี้ให้ปล่อยวาง ถ้าทำให้เขาเบื่อรับรองได้เลยว่า มีคนมาขอสัมปทานแฟนแน่นอน


หลังแต่งงานมาเราร้องไห้ตลอด  คร่ำครวญเรื่องนี้ตลอดเวลา  แต่บางครั้งก็ทำใจได้ลืมๆมันไปบ้าง
เราเครียดค่ะ  ความสุขที่เคยวาดไว้มันหายไป เราเคยนับเวลาถอยหลังอีก 2 ปี เราจะหมดหนี้รถ 2 คัน แล้วเราก็จะโปะห้องพักที่แฟนซื้อไว้ที่กรุงเทพ  ส่วนหนี้ที่เราซื้อที่ดินก็ไว้อย่างนั้นไม่ซีเรียส ขายเมื่อไหร่ก็ได้ราคาอยู่แล้วหรือจะไว้ทำหอพักในอนาคต  แต่ตอนนี้ไม่ว่าหนี้ก้อนไหนเราก็ซีเรียสไปหมดเลยค่ะ คือเรากับแฟนก้ไม่ได้อาชีพใหญ่โตอะไร แต่ก็ไม่กิ๊กกีอก ดังนั้นมันก็เลยพอดีพอดีหนะค่ะ อดนิดหน่อยก็จะมีเงินเก็บพอสมควร

เหตุการณืนี้มันทำให้เรานึกย้อนหลังกลับไปค่ะ  เมื่อก่อนเราขอดูสมุดบัญชีเขาก็บอกว่ามีเท่าไหร่ก็เท่านั้นแหละ  แม่จะเรียกสินสอดทองหมั้นเท่าไหร่ ก็จะหาให้  ด้วยความที่เราไม่ได้อยู่กินได้เสียกันก่อนแต่งงาน  บางเรื่องเขาว่าไงเราก็ต้องหยุดแค่นั้นหนะค่ะ เลยเสียใจที่เราไม่ได้เขี้ยวลากดินกับเขาตอนที่คบกัน อะไรมันจะได้อยู่ในสายตาเราบ้าง

เพิ่งแต่งงานแต่หน้าตาเราไม่มีความสุขเลยค่ะ สงสารตัวเอง ภาพคุณนายที่เคยวาดไว้หายไป ไม่ใช่เว่าเราจะเป็นคุณนายเอาเปรียบสามีนะคะ  คือเราเป็นคนใช้เงินเป็น เก็บเงินวางแผนได้ดี  เราเชื่อมั่นว่าเราจะทำหน้าที่ดูแลเงินในครอบครัวได้ดี  แต่ตอนนี้ เครียดค่ะ ไม่ได้ช้อปปิ้ง มานานแล้ว  กระดิกตัวทำอะไรมันก็เครียด ทั้งๆที่แฟนก็ไม่ให้เครียด  เคยหวังว่าจะเก้นเงินเดือนละหลักหมื่น  แต่ตอนนี้กลับมีแต่ต้องมาคิดว่า  เป็นต้นเท่าไหร่  ดอกเท่าไหร่

แต่เหตุที่ทำให้เราจิตใจตกต่ำอีกครั้งคือ

เพื่อนเรากับพี่บิ๊กจะแต่งงานกัน

จิตใจด้านมืดมันครองงำหมด  เราไม่รู้สึกกระดี้กระด้าเลย

แล้ว  เรายังมารู้อีกว่า  สินสอดทองหมั้นของเพื่อน  เป็นสองเท่าของเรารวมๆร่วมล้าน

เราคิดทันทีค่ะ

คำถามเกิดขึ้นมากมาย

"ทำไมเรื่องโดนโกงเงินไปมันต้องมาเกิดขึ้นกับเรา
"เราไม่มีเงินเก็บเลยเพราะเอาเงินช่วยงานที่เหลือไปใช้หนี้  ตอนแรกก้เก็บไว้เพราะแฟนจะรับผิดชอบเอง  แต่เราเสียดายดอกเบี้ยเลยให้เขาไป ถือว่าเขาก็ทำเพื่อเรา  มัวแต่กอดเงิน  แต่สามีเลือดตาแทบกระเด็น
"เราเอาหัวสมองไปไว้ที่ไหน  ทำไมเราไม่ช่วยแฟนวางแผนเรื่องเก็บเงิน  เรามัวแต่ทำอะไรอยู่
"เราเสียใจเราพยายามพ้ฒนาคุณภาพชีวิต  ไปเรียนต่อ รอความรักสุกงอม ไม่ชิงสุกก่อนห่าม  อยากให้มีครอบครัวที่ดี  แต่กลายเป็นหน้ามือหลังมือ  ต้องมานั่งใช้หนี้
"ถ้ามันจะเป็นอย่างนี้เราได้เสียเป็นเมียผัวกันแต่แรกไปเลยดีกว่าไหม จะได้แต่งงานกันเร็วขึ้น  สามารถหยิบเงินในกระเป๋าได้อย่างสบาย  ควบคุมได้ทุอย่าง
"เราซื้อรถทำไม  ทำไมเราไม่ซื้อมือสองเหมือนเขาเราจะได้ไม่เป็นหนี้
"ทำไมเพื่อนกับแฟนถึงมีเงินซื้อที่กันโดยไม่ต้องกู้เลย  แต่เราต้องกู้มา  คือที่คิดเนี้ย เรากับเพื่อนเงินเดือนไม่ต่างกัน  แฟนเรากับแฟนเพื่อนก็คงเงินเดือนต่างกันไม่มาก  

คือ

เรารู้สึกว่าเราทำอะไรอยู่หนะค่ะ  ทำไมเราคิดช้า  ทำไมเราไม่บริหารแต่แรก  ทำไมเราโง่

นึกเปรียบเทียบไม่ได้

เขานอนกอดเงินล้านแต่เราต้องมาใช้หนี้  ทั้งๆที่สินสอดต่างกันครึ่งต่อครึ่ง

บางคนอาจคิดว่าอะไรของมันวะ

แต่สำหรับเรื่องงานเราจะบอกว่า  เราเครียดมากก็เพราะเพื่อนที่บรรจุพร้อมกันในรุ่นนั้น  เขาได้ก้าวหน้ากันหมดแล้วค่ะ  เหลือเราคนเดียว เพราะระบบทางราชการ  แต่คนอื่นๆเขาได้โดยอัตโนมัติอยู้แล้วหนะค่ะ  แต่เรากับจอยเหมือนเป็นสายงานปิดที่มันไปได้ยาก  แต่จอยได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่  แต่เราไม่ได้รับ เราเลยรู้สึกกับจอยมาก เพื่อนที่สนิทกันอีคนไม่ใช่จอยบอกว่าเหมือนเรากำลังเล่นกีฬา extream  ค่ะเพราะมันเครียดมากคนอื่นในองค์กรไปกันหมดเหลือแต่เรา  ถ้าเราผ่านมันไปได้เราจะแกร่งมาก  

กลับไปเรื่องจอย

เราไม่อยากไปงานแต่งงานเขาเลยค่ะ
เราอิจฉาเพื่อน
เราเคยถามสามีว่าเรื่องเงินใครรู้บ้าง  เขาก็บอกว่าพี่บิ๊กก็รู้  เราเลยหวาดระแวงไปเลย  กลัวโดยเยาะเย้ย  
คือการแต่งงานแล้วมานั่งใช้หนี้มันไม่ใช่สิ่งที่เราคิดว่ามันจะเกิดเลยไงคะ

เรารังเกียจตัวเองที่อิจฉาเพื่อน
เราทำให้เราเสียเพื่อนที่ดีไปคนนึง
เราสามารถหาเรื่องมาบั่นทอนตัวเองได้เสมอ  ทำไมเขาได้ห้องครอบครัวแล้วตูไม่ได้  ทำไมเขาทำงานสบายจัง  ในขณะที่เราต้องทำงานเต็มเวลา  
เราสงสารสามีที่เขาทนฟังเราพร่ำเพ้อแต่เรื่องเดิมๆ
เราไม่เคยให้กำลังใจสามีเลย
ก่อนหน้านี้อยากท้องมาก  ตอนนี้ไม่อยากท้องกลัวจะเกลียดลูกเพราะพ่อมันก่อเรื่องไว้  กลัวลูกในท้องเครียด  เพราะแม่เครียด  กลัวว่าเขาจะจิตใจไม่ดีเหมือนเรา

สามีเรากับพี่บิ๊กก็เป็นเพื่อนรักกันมาก  แต่เราซิทำให้บรรยากาศมันไม่ดี  ถ้าเราก้าวหน้าหรือทำใจได้เรื่องงาน  และไม่มีปัญหาเรื่องเงินที่เราเอามาเปรียบเทียบ  สองครอบครัวนี้คงสนิทกันมากค่ะ

ยาวมาก  ขอที่พึ่ง  ขอกำลังใจหน่อยค่ะ
อย่าด่าแรงนะคะ  รู้ค่ะว่าเลวมากพอแล้ว  ขอบคุณค่ะ

จากคุณ : นางฟ้าหน้าดำ
เขียนเมื่อ : 10 มิ.ย. 55 10:16:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com