อุปธิ - อุปาทาน ? เหมือน ต่าง อย่างไร?
|
 |
(๑) ตามที่ตรัสแก่ภิกษุทั้งหลาย ที่กัมมาสทัมมนิคม แคว้นกุรุ (นิทาน. สํ. ๑๖/๑๓๐/๒๕๔-๒๖๒)…. …
ฯลฯ เพราะอะไรมี ชรามรณะจึงมี (เพราะอะไรไม่มี ชรามรณะจึงไม่มี)" ดังนี้.
ภิกษุนั้น พิจารณาอยู่ ย่อมรู้อย่างนี้ว่า "ทุกข์มีอย่างมิใช่น้อย นานาประการ ย่อมเกิดขึ้นในโลก กล่าวคือ ชรามรณะ ใดแล;
ทุกข์นี้มีอุปธิเป็นเหตุให้เกิด มีอุปธิเป็นเครื่องก่อให้เกิด มีอุปธิเป็นเครื่องกำเนิด มีอุปธิเป็นแดนเกิด เพราะอุปธิมี ชรามรณะจึงมี ****************** (๒) "อุปธิมีตัณหาเป็นเหตุให้เกิด, มีตัณหาเป็นเครื่องก่อให้เกิด, มีตัณหาเป็นเครื่องกำเนิด, และมีตัณหาเป็นแดนเกิด; เมื่อตัณ หามีอยู่ อุปธิก็มีอยู่, เมื่อตัณหาไม่มี อุปธิก็ไม่มี, ดังนี้แล. ***************************************** (๓) - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๓๑/๒๕๗.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! อาหาร ๔ อย่างเหล่านี้ มีตัณหาเป็นเหตุให้เกิด มีตัณหาเป็นเครื่องก่อให้เกิด มีตัณหาเป็นเครื่องกำเนิด มีตัณหาเป็นแดนเกิด. ก็ทุกข์นี้มีขึ้น เพราะอาศัยซึ่งอุปธิทั้งปวง. **************************
ประเด็น
อุปธิ - อุปาทาน ? เหมือน ต่าง อย่างไร? เมื่อกำหนดที่
อัสสุตวตาสูตร ---- กายนี้ ประกอบด้วยมหาภูติ(ธาตุ) สี่ อันตถาคตเรียก ว่า จิตบ้าง มโนบ้าง วิญญาณบ้าง
ที่เนื่องกับ
---- มหาตัณหาสังขยสูตร = สัตว์ที่เกิดในครรภ?มารดา "แล้ว"
--แล้ว เนื่องกับ
"อาหาร (เหตุ) ๔" กับ "จิตนี้ เป็นประภัสสร ฯ" *****************************
หมายเหตุ เดาว่า "หลังไมค์" จะ ถอดระหัสธรรม ได้ "เมื่ออ่าน ข้อความข้างบน" ว่า
(๑) อุปธิ - อุปาทาน ? คือ อย่างนี้ๆ ---- (ที่กายนี้ ตาม พระสูตรที่อ้างเหล่านั้น) (๒) อะไร ยังมี อุปธิ (ตามอาหาร ๔ + "จิตนี้ เป็นประภัสสร ฯ") เป็นเหตุ จึงเกิด "อุปาทาน" --- (ที่ตรัสว่า นันทิใดในขันธ์ใด นันทิคืออุปาทาน)
จากคุณ |
:
F=9b
|
เขียนเมื่อ |
:
10 มิ.ย. 55 13:28:28
|
|
|
|