 |
อาหาร ๔ เป็น สาสวาสัมมาทิฏฐิ คืออย่างไร?
ขอยกพระพุทธภาษิตมาตอบ ดังนี้ ...
ภิกษุ ท.! ถ้ามีราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือคำ ข้าวไซร้. วิญญาณก็เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือคำ ข้าวนั้น ๆ. วิญญาณที่ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ มีอยู่ในที่ใด, การก้าวลงแห่งนามรูปก็มีอยู่ในที่นั้น. การก้าวลงแห่งนามรูป มีอยู่ในที่ใด, ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีอยู่ในที่นั้น. ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีอยู่ในที่ใด, การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็มีอยู่ในที่นั้น. การบังเกิดในภพใหม่ต่อไปมีอยู่ในที่ใด, ชาติ ชรา และมรณะ ต่อไป ก็มีอยู่ในที่นั้น.
(ในกรณีเกี่ยวกับอาหารอีก ๓ อย่าง คือ ก็ตรัสโดยทำนองเดียวกับอาหารคือคำข้าว).
ไม่มีสัตว์ บุคคล เราเขา เป็นแต่เพียงกระแสของปฏิจจสมุบาท
เมื่อ ภูตาสัตว์ มีอวิชชา เป็นปัจจัย ก็ปรุงแต่งสังขารทั้งหลาย เป็นเหตุให้ทำกรรม เมื่อทำกรรมย่อมมีวิบาก แต่มีทิฏฐิที่ถูกต้องว่า .... กรรมนั้น ให้ผลในอัตตภาพใด เขาย่อมเสวยวิบาก (ผล) แห่งกรรมนั้น ในอัตตภาพนั้นเอง. ไม่ว่าจะเป็นไปในทิฏฐธรรม หรือว่า อุปะปัชชะ หรือว่า อประปริยายะ ก็ตาม
*********************************************************
ถ้า มี ข้อความ ต่อไปนี้ เสริม เพิ่ม เพื่อ สัมมาทิฏฐิ ฯ จะเข้าข่าย พระสัทธรรมปฏิรูปหรือไม่หนอท
ถ้า "สัมภเวสี" มีราคะ มีนันทิ มีตัณหา ในอาหารคือคำ ข้าวไซร้. วิญญาณก็เป็นสิ่งที่ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ ในอาหารคือคำ ข้าวนั้น ๆ. วิญญาณที่ตั้งอยู่ได้ เจริญงอกงามอยู่ได้ มีอยู่ในที่ใด, การก้าวลงแห่งนามรูปก็มีอยู่ในที่นั้น.
---- ตรงนี้ เพราะสัมภเวสี มีวิญญาณเป็นปัจจัย จึงมี นามรูป -- ใช่หรือไม่หนอ?---- ---- ตรงนี้ เนื่องกับ "วิญญาณนี้ ย่อมเวียนกลับจากนามรูป ย่อมไม่เลยไปอื่น" ---- ตามที่ตรัส หรือไม่?
เมื่อ เหตุ มี ผล ย่อมตามมา ได้แก่
การก้าวลงแห่งนามรูป มีอยู่ในที่ใด, ความเจริญแห่งสังขารทั้งหลาย ก็มีอยู่ในที่นั้น. ---- (เพราะ สัมภเวสีมี อวิชชา เป็นปัจจัย จึงมี สังขารทั้งหลาย)
ความเจริญ แห่งสังขารทั้งหลาย มีอยู่ในที่ใด, การบังเกิดในภพใหม่ต่อไป ก็มีอยู่ในที่นั้น. (ปฏิจจฯสายเกิด มี มาจนถึง อาการคือ "เพราะมีอุปาทานเป็นปัจจัย จึงมี ภพ (ใหม่)"
การบังเกิดในภพใหม่ต่อไปมีอยู่ในที่ใด, (ภพใหม่ ของสัมภเวสี เกิด อาการ คือ) ชาติ (เป็น ภูตา ทุกข์อริยสัจคือ ) ชรา และมรณะ ต่อไป ก็มีอยู่ในที่นั้น.
สรุป อาหาร ๔ ข้างบน เป็น มิจฉาทิฏฐิ หรือไม่หนอ หรือ เป็น สาสวาสัมมาทิฏฐิ ? หรือเป็น อนาสวาสัมมาทิฏฐิ? --- ล้วน เนื่องกับ "จิตนี้เป็นประภัสสร ฯ + ข่มอุปกิเลสได้ หรือ พ้นวิเศษจากอุปกิเลส ใน ฐานะ อริยสาวกผู้มีการสดับ จิตตภาวนา ย่อมมีแก่อริยสาวก ฯ
ดังนั้น พระสูตร "จิตนี้เป็นประภัสสร" คือ "ยอดของหญ้าปากคอก" ก่อน ลุประตูคอก คือ กระแส โสดา ฯ
จากคุณ |
:
เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b)
|
เขียนเมื่อ |
:
13 มิ.ย. 55 10:53:21
|
|
|
|
 |