ความคิดเห็นที่ 1 ทำไปเรื่อยๆ ปฏิบัติไปเรื่อย    เอาสิ่งที่ได้รู้ ได้เรียน ขณะอยู่ในวัด มาใช้ในชีวิตประจำวัน ค่อยๆ ปรับ  มีสติก็ รู้  ทำไปเรื่อยๆ  สวดมนต์ไหว้พระเป็นประจำ  เดี๋ยวศีล ก็ครบเองหล่ะครับ  เริ่มต้นดีแล้ว   =3 ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:08:25

ความคิดเห็นที่ 2 คิดจะเดินในเส้นทางธรรม ศีล 5 ต้องครบซิครับ หลวงพ่อพุธ ท่านเน้นมากเรื่องศีล 5 ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่ก้าวหน้าในธรรมเลยครับ ก็เป็นแค่คนเข้าวัดเท่านั้น ศีล 5 คือ ความตั้งใจที่จะละเว้นความชั่วทางกายและวาจา เท่านั้น ไม่ครอบคลุมใจนะครับ แต่เป็นฐานที่มั่นคงของผู้ที่ประสงค์ความรุ่งเรืองในธรรม คุณว่า เป็นไปได้มั้ยครับ ว่า นุ่งขาวห่มขาว เข้าวัด นั่งสมาธิ ฝึกสติในชีวิตประจำวัน แต่ศีลไม่ครบ จะสามารถพัฒนาจิตใจให้สูงขึ้น ละเอียดขึ้นได้ คุณถือศีลข้อไหนไม่ได้ละครับ จากคุณ : ไม่รู้อะไรเลยซักอย่างเดียวจริง (ongardnrp) เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:08:56

ความคิดเห็นที่ 3 ศาสนาพุทธเป็นศาสนาของการฝึกตน การที่คุณไม่สามารถปรักษาศีล 5 อย่างเข้มข้นได้ คุณก็จะได้รับวิบากจากการณ์นี้แน่นอน แต่ อย่างน้อยคุณก็รู้ตัว พยายามทำให้มันดีขึ้น ดีขึ้น จนศีล 5 ไม่ด่างพร้อย อาจจะ 1 ปี 2ปี นี่แล่ะครับ ถึงจะได้ประโยชน์จากพุทธศาสนาจริงๆครับ จากคุณ : เป็ดจิ๋ว เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:10:24

ความคิดเห็นที่ 4 ท่านตอบได้ดีจริงๆครับ อย่างน้อยการไปปฏิบัติธรรมก็ทำให้คุณฉุกคิดเรื่องนี้ sensitiveต่อเรื่องศีลเรื่องธรรมมากขึ้น อนาคตคุณจะค่อยๆพัฒนาตนเองไปในทางที่ถูกที่ควรตามกำลังของสติสัมปชัญญะครับ เป็นกำลังใจให้ครับ จากคุณ : Bitter Coffee เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:17:22

ความคิดเห็นที่ 5 ปฏิบัติธรรมที่วัดสัปดาห์ละวันแต่ไม่สามารถรักษาศีล 5 ได้ .....ไม่ได้ผิดมาก แต่ถ้าพิจารณาให้ดี การละเมิดศีล 5 คือการเบียดเบียนทำร้ายผู้อื่น แม้การดื่มสุราก็เป็นการทำร้ายตนเอง และอาจทำร้ายผู้อื่นได้เมื่อขาดสติ ผมคิดว่า ศีล 5 สำคัญกว่าการปฏิบัติธรรม(ที่วัด) เพราะการรักษาศีลก็ถือเป็นการปฏิบัติธรรม ศีลเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เป็นการเว้นขาดจากกิเลสหยาบๆ อย่างเป็นปรกติในชีวิตประจำวัน คงจะดีกว่า ถ้าเราเพิ่มคุณภาพจิตได้ด้วยตนเองทุกวัน โดยไม่ต้องพึ่งวัด ซึ่งต้องเริ่มจากมีศีลที่สมบูรณ์พร้อมก่อน แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 16:21:05 จากคุณ : ชนาธิป - พุทธแท้ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:17:29

ความคิดเห็นที่ 6 โมทนานะคะ อย่างน้อยคุณจขกท.ตั้งใจจะเปลี่ยนมุมมองความคิดด้วยธรรมะ เราช่วยตอบไม่ได้ว่า ผิดมากมั้ย แต่อยากจะให้กำลังใจในมุมของผู้ใฝ่ฝึกตนให้อยู่ในศีล 5 ค่ะ อยากจะกระตุ้นให้จขกท. ตั้งใจหรือปักธงให้แน่วแน่ให้ได้ว่า ต่อไปตัวคุณจะถือศีลให้ครบ 5 ข้อ ข้อใดก็ติดค้างติดขัด ลองพิจารณาดูว่า ลด ละ เลิก ได้หรือไม่ การเริ่มตั้งใจลดละเลิกแล้วใช้เวลากว่าใจคุณจะมั่นใจว่าศีล 5 ครบบริบูรณ์แล้ว เราว่าแต่ละคน ใช้เวลาและความพยายามไม่เท่ากันจริงๆ ค่ะ บางคนอยู่ในสภาพสังคม การทำงาน หรือชีวิตครอบครัว ที่ทำให้ศีล 5 ต้องบกพร่อง ทำอย่างไรก็ไม่ครบซักที อันนี้เราว่าก็ต้องพิจารณาเป็นจุดๆ ไป แต่สิ่งที่สำคัญ พระอาจารย์ท่านแนะนำดีจริงๆ ค่ะ ขอให้คุณค่อยๆ พิจารณาไปนะคะ จากคุณ : หมูห้อย เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 16:27:42

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้ามีสัมมาทิษฐิแล้ว หมั่นทำบุญทำทานไป ซักวันกำลังใจเข้มแข็งพอ ก็จะรักษาศีลได้ จากคุณ : Mateo2000 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 17:04:03

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าคุณมีอาชีพหรือภาระหน้าที่ที่อาจทำให้รักษาศีล 5 ได้ไม่ครบ เบื้องต้นก็ทำไปตามศักภาพที่คุณพอทำได้ไปก่อนครับ ที่คุณคิดได้และเริ่มต้นอย่างนี้ผมก็ว่าดีมากแล้วนะ  ค่อยฝืนค่อยพยายามไปเรื่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิดหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านสอนประมาณว่า คนที่มีอาชีพที่ต้องเบียดเบียนชีวิตผู้อื่นหรือที่อาจทำให้ไม่สามารถรักษาศีลได้ต่อเนื่องตลอดเวลานั้น ท่านว่าก่อนนอนก็ให้พยายามกราบพระตั้งใจสมาทานศีลด้วยตัวเองทุกคืน เพราะอย่างน้อยช่วงเวลาตอนหลับจนตื่นขึ้นตอนเช้าศีลห้าของเราก็สมบูรณ์แน่นอนอยู่แล้ว หรือถ้ามีช่วงจังหวะเวลาไหนที่เราว่างๆ ไม่ได้ทำธุระการงานอื่นใด และเรามั่นใจแน่นอนว่าช่วงเวลานั้นไม่มีเหตุอะไรที่จะทำให้เราต้องละเมิดศีลห้าอย่างแน่นอน ก็ให้ตั้งสัจจะตั้งใจสมาทานศีลเข้าไว้ในช่วงเวลาเช่นนั้น  ทำให้บ่อย ๆ    ท่านว่าชีวิตคนเราไม่แน่นอนจะเป็นจะตายเมื่อไรไม่แน่  หากบังเอิญต้องตายในช่วงเวลาที่เราตั้งใจสมาทานและรักษาศีลห้าอยู่ อย่างนี้ก็ยังได้ชื่อว่าตายในขณะที่ศีลห้าสมบูรณ์อยู่นะครับ จากคุณ : time wait for no one เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 18:23:46

ความคิดเห็นที่ 9 เราเคยได้ฟังพระเทศน์ว่า.. ถ้าศีลไม่ดี..ภาวนาจะดีไม่ได้..ค่ะ จากคุณ : ฝืนได้...ดีได้ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 18:34:17

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้ายังไม่ได้ก็อย่าไปทำตัวคูณน้ำหนักไว้ เช่นไปรับศีล 5 ส่งๆไป มันจะหนักกว่าเดิมเพราะทำไม่ได้ตามนั้น ก่อนจะไปถึงศีล 5 ให้ดูว่า ตนเองมีพระรัตนตรัยถูกต้องหรือยัง เช่น ยังมีนับถือเจ้า กุมารทอง ฤษีเทพเจ้านั่นเทพเจ้านี่ ไหว้รูปปั้นสัตว์ เห็นผ้าสามสีผูกอะไรไว้ไหว้หมด สารพัดไหว้สารพัดบูชาฯลฯ ตนเองมีทานที่ถูกต้องหรือยัง ศึกษาทานสูตร ความเจริญของฆาราวาสศึกษาสิงคาลสูตร ..จบ แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 19:01:19 จากคุณ : Olive2004 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 18:47:39

ความคิดเห็นที่ 11 ศีล 5 จะไปยากอะไร  ผมถือได้มาตั้งแต่อายุ 15-16 ปี ตอนนี้อายุ 57 ปีแล้ว  ก็ยังถือต่อมาไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร โดยเฉพาะข้อ 4 มุสา ซึ่งเป็นข้อที่ยากที่สุดของคนทำงาน ผมก็ยังถือมาได้  เพราะอะไรที่ไม่จริงเราก็เลี่ยงไม่พูดซะ ถ้าศีล 5 ยากซะแล้ว ไปเจอศีล 8 ไม่แย่ไปกว่านี้หรือ  ขอให้คุณ คิดให้ได้ว่าการจะได้กลับมาเกิดเป็นคน  เราจะต้องมีศีล 5 เป็น อย่างต่ำนะครับ จากคุณ : issarasena เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:21:42

ความคิดเห็นที่ 12 รักษาศีลห้าครบ จะมีเรื่องวาจา. คือเราพูดคุยไม่ได้คิดอะไร แต่มานึกได้ว่าคนฟังอาจจะเสียใจ เช่น เล่าเรื่องครอบครัว ความสุขความพร้อมเรื่องทรัพย์ (ไม่ได้พูดโอ้อวด). มานึกได้ว่าบางคน เค้าไม่มี ถ้าฟังเค้าอาจจะสะเทือนใจ นี่ก็คิดว่า จะลดการพูดคุยเกี่ยวกับตัวเองให้น้อยลง เราเข้าวัดน้อยมาก ส่วนใหญ่จะพาแม่ไปทำบุญ วันพระใหญ่ๆที่ได้หยุดงาน แต่ จขกท ก็พยายามได้นะคะ ขนาดได้ไปวัดทุกอาทิตย์ ขยันกว่าเราอีก ^^ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:32:00

ความคิดเห็นที่ 13 อย่างน้อยช่วงที่อยู่วัด ท่านจขกท. ก็ถือศีลห้าได้ครบละครับ ... จากคุณ : ltf06 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 19:50:34

ความคิดเห็นที่ 14              ขอให้ระลึกถึงโทษของการทุศีล, อานิสงส์ของการมีศีล และความเพียรในฐานะ 4 อย่างบ่อยๆ เนืองๆ อาจพอเป็นทาง ให้มีฉันทะในการรักษาศีล 5 ได้ครบถ้วน.              โทษแห่งศีลวิบัติและอานิสงส์แห่งศีลสมบัติ http://84000.org/tipitaka/read/?10/79-80              พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕              อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต              สัพพลหุสสูตร http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=23&A=5127&Z=5167                            ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=23&i=130              คำว่า ปธาน ความเพียร http://84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=ปธาน              หมวดหนังสือธรรมะ              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html แนะนำ :-              อ่านและค้นพระไตรปิฎก ๔๕ เล่ม              อรรถกถาชาดกทั้งหมด ๕๔๗ เรื่อง              พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม     http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/              พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม                สารบัญประเภทธรรม http://84000.org/tipitaka/dic/d_type_index.php?                   หมวดหนังสือธรรมะ http://84000.org/tipitaka/book/              เรื่อง ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ http://84000.org/tipitaka/book/bookpn02.html              เรื่อง สิ่งที่เป็นมงคล (มงคล ๓๘) http://84000.org/tipitaka/book/bookpn06.html              เรื่อง ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก http://84000.org/tipitaka/book/bookpn01.html จากคุณ : ฐานาฐานะ เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:02:15

ความคิดเห็นที่ 15 ศีล สมาธิ ปัญญา มันจะคอยค้ำจุนกันเองครับ ตอนนี้ศีลคุณยังบกพร่อง บ่งบอกว่าปัญญา สัมมาทิฏฐิของคุณยังอ่อนอยู่ แต่ถ้าคุณทำสมาธิไปเรื่อย ๆ ปัญญาก็จะเริ่มออกมา แล้วจะเห็นคุณค่าของศีลหรือความเป็นปกติ แล้วมันก็จะพยายามรักษาศีลให้บริสุทธิ์เอง คุณบอกว่ามีเรื่องรบกวนจิตใจมาก ลองกลับไปพิจารณาทบทวนนะครับว่าเรื่องรบกวนนั้น ๆ มันมาจากศีลที่บกพร่องหรือเปล่า ที่คุณต้องการจะเปลี่ยนความคิดและมุมมองใหม่ เพื่อให้ชีวิตมีความสุขมากขึ้น แล้วมาปฏิบัติธรรมนี้ถูกต้องแล้วครับ พยายามทำให้ยิ่งนะครับ สัมผัสความเย็นจากใจสงบให้ได้ พอใจรู้จักความเย็นแล้วมันจะรู้จักทางหนีความร้อนและเรื่องร้อนได้เองครับ เจริญในธรรมนะครับ จากคุณ : Klaibann เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 20:57:37

ความคิดเห็นที่ 16 พระพูดถูกแล้ว ศีลเป็นแค่วินัยเท่านั้น ถ้ามีจะดี แต่ไม่มีไม่เป็นไร มันคือพื้นฐาน เช่นถ้าศีลของนักเรียนก็ ให้ตัดผมให้หัวเกรียน จะไม่ได้ต้องเสียเวลาดูแลผมมากนักจะได้เอาเวลาไปใส่ใจการเรียนมากขึ้น เป็นต้น ถ้าอยากก้าวขึ้นไปสู่ขั้นปัญญา ก็อย่ายึดติดศีลอยู่   ศีลมีไว้ดี เป็นประโยชน์แก่ตัวเอง และเป็นแบบอย่างของวินัยให้หมู่ชน แต่ไม่ได้มีไว้ให้ยึดติด  มันแค่เครื่องมือที่ทำให้ถึงจุดหมายง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกครั้งไป หลายคนติดศีลเลยไม่ก้าวถึงธรรม แก้ไขเมื่อ 12 มิ.ย. 55 21:48:48 จากคุณ : มังกรจักรวาล เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 21:47:35

ความคิดเห็นที่ 17 ....เจ้าของกระทู้ ถ้าฟังมากแล้วปวดหัว ไม่รู้จะเอาอย่าไร คนโน้นว่าที คนนั้นว่าทีหากบางคนเอามิจฉาทิฎฐิมาบอกในนี้ แล้วไปเชื่อ จะลงนรกตามเค้าซะเปล่าๆก็เข้าไปดูใน"พระไตรปิฏก" ซะให้แน่ชัด จะได้ถึงข้อมูลจริง  เรื่อง "ศีล" ตามที่ คห.14 คุณ "ฐานะฐานะ" ทำ Link ไว้ให้ก็ได้  หรืออยากค้นเองตามข้างล่างนี้ ...ศึกษาปริยัติไปก่อน... ดาวน์โหลด โปรแกรมสำหรับอ่านพระไตรปิฏก http://www.learntripitaka.com/Download.html รายละเอียดการติดตั้ง http://www.learntripitaka.com/download/setup_v2.html ภาพตัวอย่างการค้นหา 1 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12148164/Y12148164-3.jpg ภาพตัวอย่างการค้นหา 2 http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12148164/Y12148164-4.jpg พระไตรปิฏกในรูปแบบอื่นๆ http://etipitaka.com/download ภาพประกอบ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12148164/Y12148164-6.jpg จากคุณ : Olive2004 เขียนเมื่อ : 12 มิ.ย. 55 22:01:54

ความคิดเห็นที่ 19 เราเชื่อว่า จกขท. อีกไม่นาน ศีล5 ครบชัวร์! เพราะคุณ รู้ตัวเองดีว่าไม่ครบ ^^ เรา ตอนนี้ก็ไม่ครบ ขาดแต่ ศีล 1 ฆ่าสัตว์ (แอบปัดมด หลงเหยียบประมาณนี้) และก็ ศีล4 (ไม่ใช่พูดเท็จนะ แต่เป็น พูดไม่มีสาระซะมากกว่า..แบบว่า ติดตลกอ่ะค่ะ ฮาๆๆๆ) จากคุณ : clear_blue เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 03:41:04

ความคิดเห็นที่ 20 มีแต่เรื่องดีทั้งนั้น ผิดตรงไหนอ่ะ แค่คิดปฎิบัติธรรม และเริ่มทำได้ก็สุดยอดแล้ว มีแค่เสมอตัว(หากยังทำไม่ได้)กับเรื่องดีเท่านั้นที่เกิดขึ้น มุ่งมั่นต่อไปเดี๋ยวต้องครบได้แน่นอน จากคุณ : jinandjoy เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 07:45:46

ความคิดเห็นที่ 21 ถ้าสงสัยขึ้นมา ก็สงสัยจะทำได้ครบในเวลาไม่นานค่ะ เพราะเรารู้แล้วว่าไม่ครบ และจิตใจเราก็รู้ลึกๆ ว่ามันสำคัญนะ ที่ผ่านมาทำได้ดีแล้ว  อาจถึงเวลาเลื่อนขั้นแล้วนะคะ อิอิ.. ลองทำศีลให้ครบ แล้วไปภาวนา มันจะต่างกันจนคุณสัมผัสได้เลยค่ะ จากคุณ : chaosy เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 08:08:06

ความคิดเห็นที่ 22 ศีล 5 เป็นศีลปกติของมนุษย์เรา ก็ต้องพยายามค่อยๆ รักษาให้ดีขึ้น เมื่อคุณปฏิบัติภาวนาไปเรื่อยๆ เมื่อสัมมาทิฏฐิ สัมมาสติเพิ่มขึ้น ข้ออ้างของการไม่รักษาศีลจะค่อยๆ น้อยลง จากคุณ : ชาล้นถ้วย เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 08:44:47

ความคิดเห็นที่ 23 ------------ เวลาคุณไปวัด หรือ ปฏิบัติ  คุณตั้งใจรักษาศีล5 ตั้งแต่ตอนนั้น ศีล5 ของคุณก็บริสุทธิ์ ณ เวลานั้น    คุณบริสุทธิ์ได้              ทำว่า การตั้งใจรักษาศีล เปรียบดัง การทำคันกั้นน้ำ เมื่อทำน้ำก็อยู่                ทำได้ตอนไหน ก็สมาทานศีล ตั้งใจด้วยตัวเองได้ตอนนั้น เลย ไม่ต้องรอ จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 10:19:35

ความคิดเห็นที่ 24 ทำไม  ถึงไม่ได้หละคะ  ? การไม่รักษาศีลนี่ซิยากยิ่งกว่า ลองใหม่ มีสติระลึกถึงศีลอยู่เนืองๆ  หัด มีสติ ในชีวิตประจำวันก็ จะมีศีลและ ศีลก็ จะกลับมารักษาเรา  ให้พ้นทุกข์ ปราศจาค ความมัวหมอง  ละซึ่งความชั่ว หลักเบื้องต้นในการปฎิบัติธรม  ศีลนี่จำเป็นมากๆค่ะ ไม่มีศีล นี่ ฝึกเจริญ สติ ภาวนาไม่ได้เลยค่ะ   การปฎิบัติธรรม  นี่ ไม่ได้ ปฎิบัติเพื่อเอาความ สุข  ความสงบนะ   พวกนี้ มันแค่ชั่วครู่ชั่วคราว มันไม่คงทนถาวร  คนมักเข้าใจผิด นะปฎิบัติธรรม เพื่อ   ให้รู้  ว่ากายนี้ ใจนี้มันไม่เที่ยงเปลี่ยนไป เปลี่ยนมา ภายใต้กฎแห่งไตรลักษณ์  ปฎิบัติ ไปให้หลุดพ้น  ซึ่งกิเลส อยู่ที่ไหนก็ปฎิบัติธรรม ได้ค่ะ  ปฎิบัติ ที่กายนี้ ใจนี้  นั่นหละตัวทุกข์ ตัวปรุงแต่งล้วนๆ จากคุณ : honeybfit เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 13:19:03

ความคิดเห็นที่ 25 ขอขอบคุณทุกๆคอมเม้นท์เลยนะคะ ^^ จากใจจริงค่ะ ทั้งคอมเม้นท์ชี้แนะและคอมเม้นท์ให้กำลังใจ มีประโยชน์ต่อดิฉันมากๆเลย .. อ่านหลายรอบเลยเชียวค่ะ ^^ อย่างที่บอก ครั้งแรกที่ดิฉันเข้าวัด ดิฉันไม่ได้นึกอยากจะ "เป็นคนดี" เลยจริงๆค่ะ แค่อยากจะเป็น "คนที่มีความสุข" ... เท่านั้นเอง ซึ่ง ณ ตอนนี้จิตใจของดิฉันก็ดีขึ้น มีมุมมองและทัศนคติต่อสิ่งรอบตัวและคนรอบข้างดีขึ้นอย่างมากๆ ต่อไป .. ดิฉันก็จะพยายามเป็นคนที่ดีขึ้นให้ได้อย่างที่ทุกๆท่านชี้แนะนะคะ ^_^ จากคุณ : จขกท (pooja sadanan) เขียนเมื่อ : 13 มิ.ย. 55 21:07:07