ความคิดเห็นที่ 1 ถ้าเก็บกดมากก็อาจเหมือนผม ต้องจับไปช็อตด้วยไฟฟ้า แถมต้องกินยาตลอดชีวิต สู้ตอบโต้ไปตามสมควรในตอนนี้เลยดีกว่าครับ เจ็บตัวตอนนี้ เดี๋ยวก็หาย ดีกว่าเจ็บใจไปจนตาย จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 17:01:55

ความคิดเห็นที่ 2 อย่าทน กับ สิ่งที่ไม่ควร ทน   แต่ การไม่ทน ก็ไม่ใช่  การตอบโต้ แบบ ผิดศีล หรือ ก้าวร้าว   ทุกปัญหามีทางออกแน่นอนครับ ขอแค่กล้าตัดสินใจ จากคุณ : ramai เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 17:06:54

ความคิดเห็นที่ 3 คนเราเกิดมาเก่งไม่เท่ากัน ถ้าเขาเอาเรื่องที่เขาเก่งมาเล่นงานเราในเรื่องที่เราไม่เก่ง ถือว่าเจตนาไม่ดีทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เป็นจากการที่เขาไม่ยอมปล่อยวางนิสัย และ อารมณ์ของตน ต้องพูดไปดีๆให้เคลียร์ว่ารับทราบว่าต้องทำยังไง แต่ก็ไม่มีสิทธิ์มาใช้อารมณ์และนิสัย การแก้สิ่งผิดด้วยความผิดไม่มีทางแก้ได้ @1 ขอให้หายไวๆนะท่าน ญาติผมก็เห็นภาพหลอนพอเอาไปช็อตนี่ไปเลยกินอาหารเองยังไม่ได้ จากคุณ : Kenlive เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:01:23

ความคิดเห็นที่ 4 คนใกล้ตัวนี่ ใกล้ขนาดไหน แล้วจำเป็นต้องอยู่ด้วยหรือไม่ หากคุยกันไม่ได้ แล้วไม่จำเป็นต้องอยู่ หนี ดีกว่า  บางครั้งเรารู้ว่าสาเหตุคืออะไร ก็ต้องแก้ตรงนั้น ถ้าแก้ไม่ได้ ต้องถอยไปตั้งหลัก จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:03:41

ความคิดเห็นที่ 5 ู^ ^ ผมไม่เคยเห็นภาพหลอนครับ หูก็ไม่เคยแว่ว เพียงแต่คิดเร็วไปหน่อย คุณหมอเลยกรุณา จับไปช็อตให้ จะได้คิดช้าๆลงหน่อย ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ ^^ จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:05:05

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องดูว่าคนใกล้ตัวที่ว่าอยู่ในสถานะอะไร เป็นญาติ ๆ มั้ย เช่น พ่อแม่  พี่น้อง  สามี(แฟน)  ลูก หรือเป็น เจ้านาย  เพื่อนร่วมงาน และคน ๆ นั้นมีอิทธิพลต่อชีวิตเราขนาดไหน การปฏิบัติหรือการตอบโต้ก็จะแตกต่างกัน จึงแนะนำไม่ถูกว่าควรจะ "ใส่เลย"  หรือให้ "อดทน" แล้วปรับทัศนคติใหม่... ------------------- ขอให้คุณสู่ฝันฯ หายเร็ว ๆ เช่นกัน :) จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 18:19:47

ความคิดเห็นที่ 7 อายุอยู่ในช่วงไหนครับ จะได้วิเคราะห์ถูก (ญาติผมเขามีปัญหาแบบนี้ตอนเกษียรจากงานแล้ว) จากคุณ : pepramote เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 19:20:24

ความคิดเห็นที่ 9 ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และผู้พูดว่าเป็นใคร ถ้าเป็นคนที่ต่ำกว่าหรือเท่ากัน  ทนได้ก็ทนไปเถอะ  คิดไรมากกับชีวิต  เพราะชีวิตนะมีอะไรอีกเยอะ  ก็แค่คนๆหนึ่งที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป  มันจบตั้งแต่เขาพูดแล้ว  อย่าแบกอะไรให้มันมากนัก ถ้ายังอยากได้มิตรนะ   เพราะคนเราต้องอยู่ในสังคมต้องพึ่งพาอาศัยกัน   แต่ถ้าทนไม่ไหวก็สวนไปเลย  แรงแต่จบแบบเจ็บๆ  เรียกว่าคงไม่ต้องมองหน้ากันอีก  แบบนั้นก็ได้  เรียกว่าได้ศัตรูมาแทน  ^ ^   แต่ถ้าเป็นคนที่สูงกว่า  ก็ทนๆไปเถอะ  ทำใจไป อย่าคิดอะไรมาก  เป๋็นลูกน้องเขาก็ต้องอดทน  ^ ^ ชีวิตมันมีอะไรอีกเยอะ  แบกแล้วมันหนยัก  วางๆลงบ่้างก็ได้  โลกนะมันกว้างนะ  ^ ^ จากคุณ : tripper 95 เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 22:23:30

ความคิดเห็นที่ 10 การอดทนต่อผู้มีอำนาจมากกว่าหรือกับผู้มีอำนาจเสมอเรา เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ว่ามีความจำเป็นแต่การอดทนต่อผู้ที่ด้อยกว่า เป็นสุดยอดของความอดทนเป็นสิ่งที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญ ผู้ที่คิดร้ายและกระทำต่อผู้ไม่มีใจประทุษร้ายตอบขึ้นชื่อว่าทำกรรมหนัก ลองคิดซะว่าเรากำลังสร้างบารมีคือความอดกลั้นอดทนแต่เขาคนนั้นกำลังทำกรรมหนัก เราเลือกเส้นทางของเราได้ว่าเราจะตอบโต้หรือจะอดทนอดกลั้นต่อไปถ้าเราตอบโต้ เราก็เป็นเพียงคนธรรมดาคนหนึ่งแต่ถ้าเราไม่โต้ตอบและดำรงค์ตนอยู่ในขันติธรรม เราก็จะได้สร้างขันติบารมีที่พระพุทธองค์ทรงยกย่อง จากคุณ : คนกรุงธน เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 22:57:00

ความคิดเห็นที่ 11 มาเสริมหน่อยว่า ตอนแรกเราอาจรู้สึกว่าต้องอดทนอดกลั้นกันพอสมควร แต่พอไปสักระยะ อาจเหมือนนายอะไรซักคนในตำนาน ที่ถูกสาปให้ต้องกลิ้งหินขึ้นภูเขาตลอดเวลา พอมองมัน ไม่เป็นงาน มันก็พอทำได้ :D จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 23:07:40

ความคิดเห็นที่ 12 ต้องตอบโต้ อย่างสมเหตุผล ไม่งั้น ฝ่ายรุกจะได้ใจ จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 55 23:19:32

ความคิดเห็นที่ 13 โต้ตอบตามแนวทางที่สมควรครับ การไม่โต้ตอบเลย เรานะแหละ ที่ละเลยตัวเราเอง แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 00:58:19

ความคิดเห็นที่ 14 ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเป็นสามีของจขกท.นะครับ (ถ้าจำผิดก็ขออภัยเป็นอย่างยิ่งเลยครับ) ผมเห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนต้องทำความเข้าใจข้อมูลจากหลายๆแง่มุมให้ดีที่สุดก่อนให้ความเห็น แต่ถ้าจขกท.เก็บกดมากก็ควรระบายครับ ถ้าไม่อยากระบายใน public ก็อาจระบายกับ diary ก็ยังดีครับ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 02:14:57

ความคิดเห็นที่ 15 1.ควรแผ่เมตตาให้กับเขาคนนั้น เพราะเขาคือเพื่อนร่วมวัฎฎะเราที่น่าสงสาร 2.ควรแผ่เมตตาให้กับเขาคนนั้น เพราะเขาน่าสงสารที่ทำกรรมประทุษร้ายทางวาจาเสมอ 3.ควรยินดีที่จะพิจารณาสิ่งที่เค้าใส่อารมณ์กับเราแบบนั้น เพราะเป็นทางลดกรรมของเราที่มีต่อเขาในอดีตชาติที่เราเคยทำไว้กับเขา เรื่องที่ไม่มีเหตุแต่มีผลย่อมไม่มี 4.ท่านควรเคารพกฎแห่งกรรม แล้วควรให้อภัยเขาทุกครั้งเมื่อเขาทำไม่ดีกับท่าน ท่านยังดีนะครับที่ไม่ถึงกับเขาบันดาลโทสะ ตามหน้าหนังสือพิมพ์ถึงตายเลยทีเดียว 5.ให้พิจารณาถึงรูปขัณท์ ว่าท่านมีหูที่ดีมีผัสสะในการปฎิบัติธรรม จึงเป็นผู้มีปัญญา เป็นผู้เห็นทุกข์และมาเรียนรู้ได้ยิน เอาสติปัญญาพิจารณากรรมทางหู อย่าให้ผ่านหูเข้าไปในใจ(ไม่มีใครนำทุกข์ไปใส่ใจได้นอกจากตัวเราเอง)... เพราะหู เป็นส่วนรับเสียง ได้ยินสักแต่ว่าได้ยิน นั่นคือการปฎิบัติธรรม หรือถ้ายังไม่เก่งก็คิดว่าฝรั่งด่าเราด้วยภาษาเยอรมันแล้วกัน 6.ให้พิจารณาถึงเวทนาขัณท์ สัญญาขันท์ สังขารขันท์ วิญญาณขันท์ ในลักษณะเดียวกันว่า ยึดขันท์แล้วเป็นไง ไม่ยึดขันท์แล้วเป็นไง สุดท้ายให้เจาะลงที่ว่าขันท์5ให้ทุกข์อย่างไรกับท่าน เมื่อไม่มีขันท์ในใจหรือวางขันท์ได้ ทุกข์มีหรือไม่ พยายามเืฉือนขันท์ทิ้งไปทีละขัณท์ เฉือนการยึดทิ้งในใจไปที ละ 0.5 % ท่านจะรู้เริ่มรู้เลยว่า เมื่อขันท์ในใจที่ท่านวางได้บางลง จนพ้นทุกข์จากกรมของท่านในลักษณะนี้ ท่านจะเบิกบานมากแม้ท่านจะทุกข์แค่ไหน จะเป็นผู้เบิกบาน สุดท้ายขออนุโมทนาบุญในการสร้างขันติบารมีของท่านในช่วงชีวิตที่ผ่านมา และขออนุโมทนาบุญในการจะเริ่มสร้างปัญญาบารมีในช่วงชีวิตที่เกิดขึ้นอีกต่อไป จากคุณ : คนที่รักเธอ (คนที่รักเธอ) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 08:16:02

ความคิดเห็นที่ 16 ข้าพเจ้าเลือกแล้วคือ เดินออกจากกัน ไม่รู้อนาคตเหมือนกัน แต่ก็คิดว่ามันเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อยุติการสร้างเวรกรรมต่อไป และก็คอยคิดเข้าข้างและปลอบใจตัวเองว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นมันมีเหตุและปัจจัยทั้งนั้น และมันก็ถึงเวลาแล้ว จากคุณ : เอหิปัสสิโก (จงดูจงเห็น) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 10:45:12

ความคิดเห็นที่ 17 ต้องวีนกลับด้วยครับ ไม่งั้นเค้าจะเคยตัว จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 11:27:22

ความคิดเห็นที่ 18 ถ้ายังไม่ปล่อยวางแล้ว เกิดความรู้สึกโกรธ เจ็บในใจ แล้วไม่ทำอะไร อาจจะเก็บและเจ็บนานครับ คือถ้าใจไม่โล่ง เพราะมีสติ เงียบเพราะคิดว่าเป็นคนดีต้องไม่โต้ตอบ คราวนี้มันจะเผาข้างในเรา เพราะอัตตาเราจะเร่าร้อนว่า ปล่อยให้เค้าทำกับเราอย่างนี้ได้ไง ก่อนปฎิบัติธรรม ผมก็จะเป็นคนที่ ไม่เหลือคาใจ ใครแรงมาแรงคืนสองเท่า เมื่อก่อนคนเค้าบอกว่า เอ๊เค้าแรงมาแค่นี้ ทำไม่เราแรงกลับเยอะจัง เราก็บอกว่า ตอนเรา นิ่งเป็น ศูนย์ เค้าโจมตีมาแรง หนึ่งระดับ แปลว่า 1-0 = 1 ดังนั้นพอเค้าแรงมา 1 เราต้องแรงเป็น 2 จะได้ 2-1=1 ถึงจะถือว่าหายกัน 55 แต่ก็มิตรเยอะ ศัตรูเยอะ จนวุ่นวาย ต้องปล่อยวางสักพัก ฝึกเรื่อยๆ มีสติรู้ตัว แล้วคราวนี้ พอใครว่า ใครนินทา แล้ว ใจเรา คิดทันว่า มีการได้ยิน แต่ไม่มีใครได้ยิน คราวนี้แหละ ไม่โต้ตอบ แต่ไม่โกรธในใจ ไม่มีตัวตนจะโกรธ โล่งลืมได้ แต่ไม่ได้ทำได้ทุกครั้ง ไม่ได้ทำได้ทันทีทุกครั้ง ฝึกอยู่ครับ จากคุณ : Terkrub เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 11:38:37

ความคิดเห็นที่ 19 ต้องตอบกลับ แต่อย่าตอบกลับด้วยความโกรธ ครับ  เพราะความโกรธ จะเหนี่ยวนำให้เกิดความโกรธของอีกฝ่ายที่รุนแรงตามมา เริ่มด้วยการต่อปากต่อคำ แล้วต่อด้วยการลงไม้ลงมือ ก่อนอื่น ต้องฝึกสติให้เรารู้สึกตัว  มีสติบ่อยๆขึ้นก่อน เวลาเขาแสดงอารมณ์ใส่เรา  เราต้องดูอารมณ์เราให้ได้ก่อน  ถ้าเราไม่โกรธ แต่อยู่ด้วยความสงบ ก็บอกกับเขาดีๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ด้วยอาการสงบ ปกติ ว่าพูดกันดีๆหน่อยก็ได้  อันไหนปรับปรุงได้จะปรับปรุงให้ อันไหนไม่ได้ก็ไม่รู้ทำไง จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 17 มิ.ย. 55 18:34:47

ความคิดเห็นที่ 20 เป็นกำลังใจให้นะคะ เอาใจช่วย ขอให้เจอทางออกที่ดี จากคุณ : แมวส้มตาหวาน เขียนเมื่อ : 18 มิ.ย. 55 16:06:57

ความคิดเห็นที่ 21 เวรย่อมระงับด้วยกลรไม่จองเวร จากคุณ : via iPhone (สายลมและแสงดาว) เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 22:33:02