 |
อ่านกระทู้นี้แล้วทำให้นึกถึงพระสูตรนี้เป็นยิ่งนัก !!!
ความสังเวชเป็นเหตุให้ปรารภความเพียร ภิกษุ ท. ! บุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ๔ จำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้ อยู่ ในโลก. สี่จำพวก เหล่าไหนเล่า ? สี่จำพวก คือ :-
๑. ภิกษุ ท. ! บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคน ในกรณีนี้ ได้ยินว่า "ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์ หรือทำกาลกิริยา" ดังนี้ แล้ว เขาก็สังเวช ถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่ม ตั้งความเพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมะ ย่อมทำใหแ้ จ้งซึ่งปรมัตถ สัจจะด้วยนามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา. ภิกษุ ท. ! เรากล่าว บุรุษอาชาไนยผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่พอเห็นเงา ของปฏักก็สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.
๒. ภิกษุ ท. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนใน กรณีนี้ ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ ทำกาลกิริยา, แต่เขาได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วย ตนเอง เขาก็สังเวชถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น ; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความ เพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมมะ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วย นามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนย ผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักที่ขุม ขนแล้ว ก็สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.
๓. ภิกษุ ท. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนใน กรณีนี้ ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ ทำกาลกิริยา, ทั้งเขาไม่ได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วย ตนเอง, แต่ญาติหรือสาโลหิตของเขาเป็นผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยา เขาก็ สังเวชถึงความสลดใจเพราะเหตุนั้น; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความเพียรโดย แยบคาย มีตนส่งไปในแนวธรรมะ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วยนามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วยปัญญา. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญ ชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้าอาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักที่หนังก็ สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น.
๔. ภิกษุ ท. ! จำพวกอื่นยังมีอีก : บุรุษอาชาไนยผู้เจริญบางคนใน กรณีนี้ ไม่ได้ยินว่า ในบ้านหรือนิคมโน้น มีหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือ ทำกาลกิริยา และเขาไม่ได้เห็นหญิงหรือชายผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยาด้วย ตนเอง, ทั้งญาติหรือสาโลหิตของเขาเป็นผู้ถึงความทุกข์หรือทำกาลกิริยา แต่ว่า เขาเองถูกต้องแล้วด้วยทุกขเวทนาที่เป็นไปในสรีระ ซึ่งกล้าแข็ง แสบเผ็ดไม่ น่ายินดี ไม่น่าพอใจ แทบจะนำชีวิตไปเสีย เขาก็สังเวชถึงความสลดใจเพราะ เหตุนั้น; ครั้นสลดใจแล้ว ก็เริ่มตั้งความเพียรโดยแยบคาย มีตนส่งไปในแนว ธรรมะ ย่อมทำให้แจ้งซึ่งปรมัตถสัจจะด้วยนามกาย และเห็นแจ้งแทงตลอดด้วย ปัญญา. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวบุรุษอาชาไนยผู้เจริญชนิดนี้ ว่ามีอุปมาเหมือนม้า อาชาไนยตัวเจริญที่ถูกเขาแทงด้วยปฏักถึงกระดูก ก็สังเวชถึงความสลดใจ ฉะนั้น. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุรุษอาชาไนยผู้เจิญ ๔ จำพวก ซึ่งมีอยู่หาได้ อยู่ ในโลก. - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๕๔/๑๑๓.
คัด จากอริยสัจจากพระโอษฐ์ภาคปลาย หน้า ๑๑๓๖
จากคุณ |
:
ยัยก้อย
|
เขียนเมื่อ |
:
21 มิ.ย. 55 11:47:08
|
|
|
|
 |