ความคิดเห็นที่ 1 อนุโมทนาครับ บางทีเห็นพระที่มีลูกมีเมียแล้วปลง ^^ จากคุณ : สู่ฝัน...อันยิ่งใหญ่ เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:15:04

ความคิดเห็นที่ 2 สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ครับ ผมไปปฏิบัติที่วัดธรรมมงคลในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้เห็นท่าน(พระเจสัน) ยืนอยู่กับหลวงพ่อวิริยังค์ก็ยังคิดว่า สีหน้าท่านดูสงบมากจริง ๆ เลยถ่ายรูปนี้เอาไว้ไม่นึกเลยว่าท่านจะไม่ยอมสึก  ยอมรับว่าตอนนั้นก็คิดอยู่เหมือนกันว่าท่านยังบวชอยู่หรือนี่ไม่ไปแต่งงานหรือไง จากคุณ : จิตสิกขา เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:38:16

ความคิดเห็นที่ 3 อนุโมทนาบุญกับทั้ง 2 ท่านด้วยค่ะ จากคุณ : โมงยามแห่งความสุข เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:52:15

ความคิดเห็นที่ 4 อนุโมทนาด้วยค่ะ   ไม่ว่ารักกันมากมายแค่ไหน สุดท้ายความตายก็ มาพรากไปจากกันอยู่ดี ไม่ช้าเร็ว ยิ่งรักมาก ร่วมทุกข์ ร่วมสุข มาก เวลาจากกันก็ยิ่งทรมาน   ความสุขทางโลก มันยุติธรรมเสมอ ค่ะ  มีความสุข ก็ มีความทุกข์ ไม่เหมือนสุขทางธรรม นะ ยิ่งปฎิบัติ  ยิ่งมีความสุข ความสุขมันละเอียด ปราณีต  กว่าเยอะ .. ชื่นชมพระ   ท่านมีจิตใจที่แน่วแน่ ค่ะ จากคุณ : honeybfit เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 16:55:21

ความคิดเห็นที่ 5 อนุโมทนากับทั้งสองท่านด้วยค่ะ จากคุณ : just another day เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 17:11:11

ความคิดเห็นที่ 6 อนุโมทนา . . . สาธุ กับทั้งสองท่านด้วยครับ อ่านหัวกระทู้ยังนึกว่าเป็นฝรั่ง ไม่ได้คาดว่าจะเป็นดารา/นักร้อง (ไม่แน่ใจท่านทำอะไร)ท่านนี้ จากคุณ : จันทร์สะท้อนเงา เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 17:13:02

ความคิดเห็นที่ 7 ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ต้องบอกว่าคู่หมั้นพระเจสันสุดยอดมากจริง ๆ ขออนุโมทนาบุญท่าน 2 ท่านด้วยนะคะ จากคุณ : แกะกระโดดข้ามรั้ว เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 17:13:54

ความคิดเห็นที่ 8 อนุโมทนาครับ.... จากคุณ : BlueDelphi เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 17:30:18

ความคิดเห็นที่ 9 อนุโมทนาครับ จากคุณ : kraionly1 เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:02:37

ความคิดเห็นที่ 10 ร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยครับ จากคุณ : ชาวมหาวิหาร เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:18:56

ความคิดเห็นที่ 11 อนุโมทนาสาธุครับ เนื้อข่าว เป็นอีกหนึ่งข่าวช็อกวงการบันเทิง ในรอบวันที่ 26 มิถุนายน นี้ เมื่อมีรายงานว่า นักแสดงหนุ่ม เจสัน ยัง ซึ่งขณะนี้บวชเป็นพระ และกำลังปฎิบัติธรรม อยู่ที่วัดป่าห้วยส้มสุก จ. เชียงใหม่ ได้เตรียมแถลงถอนหมั้นอย่างเป็นทางการ กับ ดาริกา จาร์โกต้าร์ คู่หมั้นสาว เชื้อสายอินเดีย โดยมีทั้งญาติของฝ่ายหญิงและฝ่ายชายคือ ตู่ – นพพล โกมารชุน และ ปรียานุช ปานประดับ มาร่วมชี้แจงถึงสาเหตุพร้อมกัน ในวันที่ 27 มิถุนายนนี้ ที่โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก สำหรับ สาเหตุของการถอนหมั้นครั้งนี้นั้น เกิดจากความเต็มใจของฝ่ายหญิง ที่อยากให้ พระเจสัน ได้ศึกษาพระธรรม ซึ่งพระเจสันมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะขออยู่ในผ้าเหลืองตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เจสัน ยัง และ ดาริกา จาร์โกต้าร์ ได้จัดงานหมั้นตามแบบประเพณีไทยเมื่อวันที่ 25 มีนาคมที่ผ่านมา ณ ห้องบอลรูม โรงแรมโซฟิเทล โซ แบงคอก ท่ามกลางบรรยากาศสุดชื่นมื่นของสองครอบครัว สำหรับเส้นทางความรักของทั้งคู่ เจสัน เปิดเผยว่า เจอน้องดาในสถานที่ปฏิบัติธรรม เพราะฝ่ายหญิงเป็นคนชอบนั่งสมาธิและมีไลฟ์สไตล์ที่คล้ายกันมาก ก่อนหน้านี้ทั้งคู่วางแผนจะมีงานวิวาห์ในสิ้นปี 2555 นี้ แต่ เจสัน ยัง ขอบวชเพื่ออุทิศบุญให้กับบิดามารดาก่อน เมื่อวันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา แล้วเดินทางไปปฎิบัติธรรมกับพระอาจารย์ยุทธนา ธีรธมฺโม ณ วัดป่าห้วยส้มสุก ต.สะลวง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ แก้ไขเมื่อ 26 มิ.ย. 55 20:12:38 จากคุณ : x-philes เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:37:24

ความคิดเห็นที่ 12 อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ จากคุณ : nataleeya เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:40:42

ความคิดเห็นที่ 13 น่าปลื้มปิติ และน่าชื่นชมเป็นยิ่งนัก หาได้ยากนัก ขอนุโมทนากับทั้งแฟนสาว และหลวงพี่เจสันด้วยครับ จากคุณ : ธรรมสถิต เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:41:06

ความคิดเห็นที่ 14 อนุโมทนาสาธุ ทั้งคู่มีศีลเสมอกัน เป็นกัลยาณมิตรต่อกัน เป็นความละเอียดอ่อนที่แสนงดงาม ไม่ต้องอยู่ในวังวน  รัก   โลภ   โกรธ    หลง  น้ำตาจะไหลยินดีด้วยที่ผ่านจุดซึ่งน้อยคนที่จะผ่านจุดนี้ได้ สาธุอีกครั้งค่ะ จากคุณ : สามจัทร์ (สามจันทร์) เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 18:53:01

ความคิดเห็นที่ 15 อนุโมทนาทั้งพระและคู่หมั้น ธรรมเกื้อหนุนคะ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 19:02:11

ความคิดเห็นที่ 16 ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ.... พระท่านช่างดูสงบจริง ๆ จากคุณ : Ohm-Good & Mamy เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 19:08:59

ความคิดเห็นที่ 17 อนุโมทนา กับท่านและคู่หมั้นด้วย ท่านเลือกทางสายที่เย็นและเป็นสุขแล้ว จากคุณ : Panjasila เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 19:28:57

ความคิดเห็นที่ 18 ขออนุโมทนา สาธุครับ จากคุณ : ฤดูใบไม้ผลิ เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 20:38:50

ความคิดเห็นที่ 19 อนุโมทนา สาธุ กับทั้ง พระเจสัน  และ คุณดาริกา คู่หมั้น  ทั้งสองท่านเลยครับ จากคุณ : -tak- เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 21:31:16

ความคิดเห็นที่ 20 คู่บุญ จริงๆ อนุโมทนาบุญของทั้งคู่นะครับ จากคุณ : M_moshi เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 21:52:27

ความคิดเห็นที่ 21 อนุโมทนาครับ จากคุณ : luangrit เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:01:02

ความคิดเห็นที่ 22 อนุโมทนาบุญ ขอให้ท่านทั้งสองมีความสุขในเส้นทางธรรมตลอดไป..... สาธุ จากคุณ : ก็บอกแล้วไง เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:02:05

ความคิดเห็นที่ 23 พระมหากัสสปะ เมืองไทย !!! จากคุณ : มีดกรีดใจ เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:07:18

ความคิดเห็นที่ 24 คงเบื่อทางโลก แล้วมั้งคะ แต่ก็น่าแปลกว่า น่าจะบวชก่อนหมั้นนะคะ แบบนี้ ฝ่าย ญ คงเจ็บหนักเพราะ ไม่รู้จะไปหาแฟนที่หล่อๆแบบนี้ ที่ไหน อีก เราเข้าใจพระเจสัน ว่า คงไม่มีแรงจูงใจ ออกมาใช้ชีวิต แบบคนทั่วไปคะ คงเบื่อโลกจริงๆ แบบเราตอนนี้คะ เบื่อโลก เบื่ออย่างบอกไม่ถูกเลยคะ  ว่างๆ จะขับรถไปสนทนา ธรรมกะท่านสักหน่อยคะ วัดอยู่แถวแม่ริมบ่าดาย แต่ว่าพระเจสัน หล่อดีนะคะ มีอีกรูปที่ ออกทีวีบ่อยๆ นั่นก็ ทั้งหล่อทั้งรวย แต่ก็ไม่ขอสึกคะ เทศน์ดีมากเลยคะ จากคุณ : bossy_girl เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:19:25

ความคิดเห็นที่ 25 *** จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 22:21:58

ความคิดเห็นที่ 26 ถ้าท่านมีความตั้งใจ และทำได้อย่างที่ตั้งใจไว้ได้โดยตลอดจริง ๆ ก็ขออนุโมทนากับท่านด้วยครับ -/\- จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 23:00:55

ความคิดเห็นที่ 27 ขออนุโมทนาสาธุ  สาธุ สาธู..... จากคุณ : หญ้าสีเขียว เขียนเมื่อ : 26 มิ.ย. 55 23:11:29

ความคิดเห็นที่ 28 ขออนุโมทนาด้วยค่ะ  สาธุ จากคุณ : suherr เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:20:06

ความคิดเห็นที่ 29 EXCLUSIVE : จดหมายชี้แจงจาก "พระเจสัน ยัง" กรณี...บวชไม่สึก+ถอนหมั้น http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12293055/A12293055.html จากคุณ : 00ลุกขึ้นยืนใหม่00 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 01:22:20

ความคิดเห็นที่ 30 อนุโมทนา สาธุด้วยครับ จากคุณ : JangEX เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 04:08:54

ความคิดเห็นที่ 31 ยินดีในธรรม จากคุณ : เทียน99 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:17:14

ความคิดเห็นที่ 32  ความคิดเห็นที่ 34    บทสัมภาษณ์ท่านก่อนบวชนะคะ   (จากกระปุกค่ะ) แล้วงานบวชล่ะ มีกำหนดที่แน่นอน เมื่อไหร่ ที่ไหน นานแค่ไหน ?           เจสัน ยัง : วันที่ 1 เมษายนนี้ครับ ที่วัดธรรมมงคลสุขุมวิท 101 ก็ตั้งใจว่าไม่เกิน 2 เดือน แต่ไม่ต่ำกว่า 1 เดือนแน่นอน ก็เดี๋ยวดูฤกษ์สึกอีกทีหนึ่ง เข้าเทศกาลวาเลนไทน์ ไม่ถามถึงความรักก็ดูจะแห้งแล้งเกินไป เจสันมีแพลนจะแต่งงานเร็วๆ นี้เมื่อไหร่ค่ะ ?           เจสัน ยัง : เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบอีกทีนะครับ นี่ผมยังไม่บอกใครเลยครับ ไหน ๆ ก็เจอกันแล้วข่าวดีปีนี้หรือปีหน้า ?           เจสัน ยัง : ผมขอบวชก่อนแล้วกันครับ แล้วใกล้ๆ จะบอกกันอีกที ไหน ๆ ก็มีสิ่งดี ๆ เข้ามาในชีวิต ปีนี้หรือปลายปี ?          (หัวเราะ) แต่เห็นลูกตื๊อตาใสของเราแล้วก็จำยอม           เจสัน ยัง : ปลายปีนี้ครับ คบกับแฟนนานหรือยัง ?        เจสัน ยัง : 2 ปี แล้วครับ ระยะเวลาในการคบกัน มีผลแค่ไหนในการตัดสินใจร่วมชีวิตด้วยกัน ?        เจสัน ยัง : นาน ไม่นาน ผมว่าไม่ใช่สูตรนะครับ บางคู่คบกัน 6 เดือน ก็แต่งงานกัน อยู่กินกันมีความสุขจนเฒ่า บางคู่คบกันมา 10 ปีถึงแต่งงาน ก็อยู่กันอย่างมีความสุข   จริง ๆ แล้วมันไม่มีอะไรแน่นอนระยะเวลานั้นบางคนอาจบอกว่ารู้จักกันน้อยไป บางคนอาจบอกว่านานไปแล้วนะ ผมว่านะครับมันเป็นเรื่องของคนสองคนว่ามันคลิกกันไหม คุยกันรู้เรื่องมั้ย ทัศนคติ มุมมอง วิธีคิดไปในแนวเดียวกันไหม ถ้ามันสวนทางกันก็คุยกันไม่รู้เรื่องช่วงแรกคบกันด้วยตัณหามันไปไม่รอดหรอก ก็แค่ฉาบฉวย   เพราะฉะนั้นเนี่ยอยู่ ๆ ไปความรักมันจะเพิ่มพูน เป็นเพื่อนและดูแลกันมันต้องสร้างครอบครัว ต้องเป็นผู้นำ ดูแลลูก เป็นอะไรต่อไปที่มีมากกว่าความรักที่ฉาบฉวย ฉะนั้นความรักของผม จึงไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ณ เวลานี้ครับ เพราะตอนเด็ก ๆ ผมก็คิดไม่ได้ขนาดนี้หรอก แต่มาถึงตอนนี้แล้ว เราก็จริงจังและซีเรียส แต่ก็ดีใจที่เจอคนที่ใช่ที่ถูกใจ ว่าที่เจ้าสาวคือคนที่ใช่และถูกใจตรงไหนคะ ?        เจสัน ยัง : ผมได้เจอน้องเขา (น้องดา เป็นคุณครูสอนเด็กเล็ก INTERNATIONAL SCHOOL สุขุมวิท) ก่อนที่คุณแม่ผมจะเสียได้สักระยะหนึ่ง เราคุยกันเรื่องธรรมะ แล้วเขาเป็นคนที่พาผมไปปฏิบัติธรรมซึ่งเราก็จะได้ยินได้ฟังว่า "ปฏิบัติธรรม" แต่เราไม่เคยไปและไม่รู้ว่าทำยังไง น้องดาก็พาไป ก็เป็นจุดเปลี่ยนในชีวิต ผมมีความสุขที่เกิดแรงบันดาลใจ คือน้องดาเขาทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ทุกวันนี้ก็พยายาม ไม่ได้บอกว่าทำได้นะ เอาเป็นว่าผมพยายาม พยายามที่จะรักษาศีล 5 บริบูรณ์ มีอะไรขาดตกบกพร่องเราก็ต้องมีสติ คือรู้ให้เท่าทันจะได้ไม่ผิดพลาด เหตุนี้จึงไม่เบียดเบียนสัตว์ ? (เจสัน ยัง กินมังสวิรัติ)        เจสัน ยัง : โดยส่วนตัวไม่อยากทานเนื้อสัตว์อยู่แล้ว แล้วบังเอิญน้องเขาไม่ทานเนื้อสัตว์ ซึ่งไม่ทานมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วเราก็คุยกันว่า ทำได้ยังไง ไม่ลำบากเหรอ เขาบอกไม่ลำบากเลย เราก็ได้แรงบันดาลใจลองทำซิ คือตัดหมดเลย ผมเองน่ะไม่ทานเนื้อหมูกับเนื้อวัวมา 15 ปีแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ผมเข้าวงการใหม่ ๆ ส่วนมังสวิรัติจะทานตอนวันเกิด พอไปเรียนเมืองนอก ก็ปล่อยไปตามปกติ แต่มาตัดเนื้อสัตว์ทุกสิ่งอย่างก็ 2 ปีนี่แหละครับ ผมก็แฮปปี้และเขาก็ไม่ได้มาบังคับว่าเราต้องทานเหมือนเขา ไม่เลย แต่ผมได้แรงบันดาลใจจากเขา ก็เนี่ยแหละครับเราคุยกันรู้เรื่อง สิ่งที่ถูกใจนอกเหนือจากนี้ ?        เจสัน ยัง : เขาให้คำแนะนำแก่เราได้ในสิ่งที่เราฟังเขา เขาฟังเรา ก็ฟังซึ่งกันและกัน อย่างนี้แหละครับแฮปปี้ ครอบครัวน้องเขาก็น่ารัก คบกันมาก็อย่างที่บอกเป็นช่วงสุดท้ายของคุณแม่ผม ก่อนที่คุณแม่ผมจะเสีย ผมก็มีโอกาสสร้างบุญสร้างกุศลตรงนี้ให้คุณแม่ เป็นสิ่งที่สุดยอดแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะได้ทำอะไร การทำสมาธิแบบไหนก็ตามนะฮะคือเป็นการสร้างบุญกุศล หนึ่งให้กับตัวเองให้กับคนที่เรารัก บุพการี คุณพ่อคุณแม่ ตรงนี้แหละครับได้โดยตรงเลย คุณแม่อยู่ก็ดูแลอย่างเต็มที่ น้องเขาก็น่ารักมาช่วยดูแลให้ ตอนช่วงที่ผมไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัดเขาก็มาดูแลคุณแม่ คุณแม่อยู่โรงพยาบาล ช่วงที่ท่านช่วยเหลือตัวเองไม่ได้แล้วไม่รู้สึกตัว ก็เป็นหน้าที่คุณหมอ ผมตอนนั้นก็ไปเก็บบุญอย่างเดียวเลย (คุณแม่เสียเดือนพฤศจิกายน 53) ตลอดเวลาที่สนทนา เราเอ่ยคำว่า ดีจังเลย ดีเนอะ อยู่บ่อย ๆ ถึงการไม่เบียดเบียนสัตว์ จนเจสันต้องขอกับเรานิดหนึ่งว่า        เจสัน ยัง : คนที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ มังสวิรัติแล้ว ภาพลักษณ์อาจจะดูดีนะ แต่ผมไม่ได้บอกว่าทำเพื่อให้คนมามองว่าเราเป็นคนดี ไม่ใช่อย่างนั้น เราทำแล้วเราสบายใจ แต่การที่จะเป็นคนดีหรือไม่ดีเนี่ย สิ่งตรงนี้ไม่ใช่ มันก็แค่เปลือก แต่ถ้าทำแล้ว สบายใจก็ทำ มันก็เป็นบุญกุศลอย่างหนึ่งแค่นั้นเอง ครูบาอาจารย์บอก ทำอย่าเพื่อโอ้อวดใคร !!! จากคุณ : ปลาดาว (pladown)    เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 00:09:49  ถูกใจ : mini_me_yo, Omiya, juicy_ice จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:55:27

ความคิดเห็นที่ 33 A12293055 EXCLUSIVE : จดหมายชี้แจงจาก "พระเจสัน ยัง" กรณี...บวชไม่สึก+ถอนหมั้น http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A12293055/A12293055.html#33 จากคุณ : ตรัยพล เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 08:56:07

ความคิดเห็นที่ 34 คห24 ไม่ต้องขับรถไปหาท่านหรอกค่ะ ตอนนี้ท่านอยู่วัดธรรมมงคล ไม่ได้อยู่เชียงใหม่แล้ว และจะตามหลวงพ่อวิริยังค์ไปจำพรรษาที่แคนาดาด้วยค่ะ จากคุณ : Kewalin Rieki เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:18:22

ความคิดเห็นที่ 35 ขออนุโมทนากับท่านด้วยครับ อันนี้พี่สาวผมเล่าให้ฟังว่าทั้งคู่ชอบทำบุญมาก อ่านความคิดเห็น 32 แล้ว คิดว่าทางฝ่ายหญิงเขายินดีมากกว่ามาเสียใจนะครับ คุณความคิดเห็น24 จากคุณ : นาฬิกาปลาดาว เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 09:59:49

ความคิดเห็นที่ 36 ดีแล้วชอบแล้ว ขออนุโมทนาครับ จากคุณ : กระท่อมผักหวาน เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 10:22:35

ความคิดเห็นที่ 37 ขออนุโมทนาด้วยค่ะ จากคุณ : suttimon เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:13:53

ความคิดเห็นที่ 38 ขออนุโมทนาอย่างสุดซึ้ง จากคุณ : Orangeswag เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:22:43

ความคิดเห็นที่ 39     “สาธุ โข ปพฺพชฺชา” การบวชดีนักแล" จากคุณ : goodsthailand เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 11:35:50

ความคิดเห็นที่ 40 สาธุกับ การทำบารมีที่  ยากที่สุด  คือ เนกขัมมบารมี พระอภิธัมมัตถสังคหะ http://abhidhamonline.org/aphi/p9/123.htm ลำดับของบารมี ตอนที่กล่าวถึงเนกขัมมบารมีอันเป็นลำดับที่ ๓ นั้นได้กล่าวว่าเนกขัมมบารมี เป็นหัวใจแห่งบารมี ๑๐ ทัส ก็น่าจะสงสัยว่าเหตุใดจึงไม่ยกหัวใจขึ้นมาแสดงก่อนเป็นลำดับแรก แต่แสดงทานบารมีและสีลบารมีก่อนเป็นลำดับที่ ๑ และ ๒ ที่เป็นเช่นนี้ ก็ด้วยเหตุว่า บุคคลทั้งหลาย ย่อมมีความตระหนี่เป็นนิสสัยสันดานด้วยกันทั้งนั้น ต่างกันแต่ว่ามีมากหรือน้อย การสร้างบารมีต้องทำลายความตระหนี่ให้ลดลงเสียก่อนดังนั้นจึงได้ทรงยกเอาทาน เป็นปฐมบารมี -------------------------------------------------- พันธนาคารชาดก เรือนจำที่แท้จริง http://www.dhammathai.org/chadoknt/chadoknt225.php ! ! ! วันหนึ่ง ฤาษีนั้นขณะนั่งบำเพ็ญเพียรได้รำลึกถึงชีวิตของตนเอง จึงเปล่งอุทานเป็นคาถาว่า "นักปราชญ์ไม่กล่าวเครื่องผูกที่ทำด้วยเหล็ก ทำด้วยไม้ และทำด้วยหญ้าปล้องว่าเป็นเครื่องผูกที่มั่นคง ส่วนความกำหนัดยินดีในแก้วมณีและต่างหูก็ดี ความห่วงใยในบุตรและภรรยาก็ดี, นักปราชญ์กล่าวเครื่องผูกที่ประกอบด้วยกิเลสนั่นว่าเป็นเครืองผูกที่มั่นคง ทำให้สัตว์ตกต่ำ ย่อหย่อนแก้ได้ยาก นักปราชญ์ทั้งหลายตัดเครื่องผูกนั้นได้ขาด หมดความห่วงใย ละกามสุข หลีกออกไปได้" ฤาษีบำเพ็ญเพียรอยู่เช่นนี้จนสิ้นชีวิตไปเกิดที่พรหมโลกในที่สุด นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เรือนจำ (เครื่องผูก) ที่แท้จริงของมนุษย์คือ ลูกภรรยา สามี และทรัพย์สินศฤงคาร --------------------------------------- http://www.abhidhamonline.org/Ajan/article.htm ผู้ถึงกระแสพระนิพพาน http://www.abhidhamonline.org/Ajan/Sua/krasae.doc บวช มาจากคำว่า ปวช (ปะ-วะ-ชะ) แปลว่า ออกจาก ไม่ได้แปลว่าโกนหัวเลย ไม่ได้แปลว่าห่มเหลือเลย ไม่ได้แปลว่าเที่ยวขอเลย แล้วชีวิตของเราถ้าไม่ออกจากจะคลุกคลีอยู่กับอะไร อยู่กับ โลภ โกรธ หลง อยากได้ อุปาทาน ยึดมั่นแสวงหาที่เกิด แต่ผู้ออกจาก คือออกจากโลภ โกรธ หลง และการเสวงหาการเกิด แล้วอะไรที่เป็นตัวการให้อยู่กับพวกนี้ ก็คือ รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ผู้ที่ออกบวชจึงเป็นผู้ปวารณาตัว ออกจากกามตัณหา ความยินดีติดใจในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ปวารณาออกจากความยึดมั่นในเรื่องไร้สาระ เช่น ลาภยศต่าง ๆ ออกจากความยึดมั่นในอารมณ์อันเป็นสุขเป็นทุกข์ ผู้ที่บวชในพระพุทธศาสนามีกิจอย่างเดียวเท่านั้นเอง คือกิจที่ต้องพยายามออกจากการพัวพันชีวิตไว้กับรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ไม่มีชิวิตเนื่องด้วยตัณหา อุปาทาน จึงจะเป็นนักบวชที่แท้จริง ดังนั้น พระอรหันต์จึงครองชีวิตอยู่ในความยึดมั่นหรือครองเรือนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว เพราะรู้ว่าเป็นภัยเป็นโทษ เปรียบเสมือนไฟกำลังไหม้บ้าน ควันก็เข้าตา ร้อนก็ร้อน ใครจะทน มีใครทนไหม ร้องหาทางหนี อยู่ไปก็ตายแน่ เพราะรู้ว่านี่ก็เป็นกิเลส ทำให้ต้องมีการเกิด นี่ก็เป็นโทษ นี่ก็เป็นภัย เมื่อเป็นผู้กลัวภัย จึงต้องพาตนเองออกจากภัยนั้น บวชจึงเท่ากับออกจาก ไม่ใช่ว่าจะต้องโกนหัว เพราะว่าพระอรหันต์ไม่ได้สำเร็จในเพศชาย ผู้หญิงก็สำเร็จได้ -------------- แด่สมณะ......ผู้เพียรละกิเลส http://larndham.org/index.php?/topic/17560-%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B9%88%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%AA/ ผู้เขียนได้มีโอกาสชื่นชมกับบุรุษเพศ ที่มานั่งคุกเข่าขอขมาลาบวชกับ “ หลวงพ่อ “ ท่าที่นั่งประนมมือ พร้อมผ้าไตรจีวรที่ประคองอยู่บนแขนนั้น เป็นภาพที่น่าอนุโมทนายิ่ง และที่มีค่าพิเศษเหนือกว่านั้นคือ คำพรและคำสอนของหลวงพ่อที่มีให้ นับเป็นข้อเตือนใจอันดีเยี่ยมต่อผู้ที่กำลังจะละออกจากการยึดติดอยู่ในโลกธรรมทั้งหลาย คำสอนของท่านล้วนมีมนต์ขลังดึงดูดใจให้พวกเราดื่มด่ำไปในอารมณ์นั้น บางครั้งผู้เขียนรู้สึกสะเทือนใจ เสียดาย และน้อยใจในบุญวาสนาของตนเอง ที่ไม่มีโอกาสเช่นท่านเหล่านั้นได้ แต่ก็นับว่ายังมีวิบากดีที่กุศลเก่าได้ผลักพาให้ชีวิตได้มีโอกาสมาพบเห็น และรับฟังเรื่องราวของการก้าวเข้าสู่ “ ตระกูลโคตรมะ “ อันจะเป็นกำลังใจให้เกิดการอธิษฐาน “ ขอชาติหน้าจงได้มีโอกาสเช่นนี้บ้าง “ ทุกครั้งที่อยู่ในเหตุการณ์ ผู้เขียนจะนึกไปถึงผู้ที่ครองกายอยู่ในสมณะเพศ ท่านเหล่านั้นจะโชคดีได้พบพระที่ให้อารมณ์เช่นนี้หรือไม่ ภาพพระในรูปแบบต่าง ๆ ได้ปรากฏขึ้นเป็นภาพทางใจ เกิดการสะท้อนใจนึกไปถึงพุทธทำนาย เพราะขณะนี้เวลาก็ล่วงเลยมาเกินกึ่งพุทธกาลแล้ว ข่าวคราวทั้งหลายที่ปรากฏทางหน้าหนังสือพิมพ์ ดูเหมือนจะเป็นแผนทำลายพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพวกเรา หลาย ๆ ฝ่ายน่าจะร่วมมือร่วมใจช่วยกันพยุง และผดุงให้คงไว้ โดยเฉพาะบุคคลที่ควรจะเป็นผู้นำคอยค้ำยันพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ได้นานที่สุด ก็คือ ผู้ที่ได้ปวารณาตัวออกบวช จนได้รับการยกย่องว่าเป็น “พระ “ ควรจะสอดส่องดูแล และหาหนทางกำจัดคนบาปที่แอบแฝงในผ้าเหลืองให้ออกไปจากตระกูลสงฆ์ให้จงได้ ผู้เขียนได้เคยพูดคุยกับหลาย ๆ ท่านที่ได้บวชเรียน และสึกออกมา บางรายก็เป็นเพื่อน บางรายก็เป็นศิษย์ ได้ทราบความเป็นไปในหลายสิ่งหลายอย่าง บางคนบวชไปตามประเพณี บางคนบวชเพื่อหนีภาระ บางคนบวชเพื่อละกิเลส แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะบวชอย่างมีเป้าหมายเช่นที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ ผู้เขียนได้รับฟังแล้วนึกเสียดายเวลาอันเป็นนาทีทองที่ท่านได้ปล่อยให้ผ่านไป จะพูดว่าเปล่าประโยชน์ก็ไม่ได้ เพราะอย่างน้อยท่านก็ได้กระทำกิจที่เป็นกุศล อันเป็นบุญมากมายกว่าพวกเราหลาย ๆ เท่า แต่ที่น่าเสียดายคือ ความนึกคิดในการวางชีวิตอยู่กับการปฏิบัติในขณะที่ท่านครองผ้ากาสาวพัสตร์อยู่นั้น หากท่านได้พบกับพระพี่เลี้ยง หรือพระอุปัชฌาย์ ที่สามารถให้อารมณ์และข้อแนะนำ ดังที่พวกเราได้รับฟังจากหลวงพ่อ ย่อมเป็นการดีสำหรับท่านที่จะกระทำตนให้มีค่าสูงขึ้น ดังนั้นการได้รับฟังคำสอนของหลวงพ่อที่ให้กับผู้ที่มาขอบวชแต่ละครั้ง ทำให้ผู้เขียนอดใจไม่ได้ที่จะคิดถึงพระที่ปฏิบัติดีทั้งหลาย ============ จากคุณ : เฉลิมศักดิ์1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:17:33

ความคิดเห็นที่ 41 พระพุทธศาสนาจากพระโอษฐ์ http://www.84000.org/true.html 232 ควรบวชเมื่อหนุ่มหรือเมื่อแก่ http://www.84000.org/true/232.html ปัญหา การบวชในเมื่อยังหนุ่มแน่น กับบวชเมื่อแก่ อย่างไหนจะดีกว่ากัน ? พุทธดำรัสตอบ “......ภิกษุบวชเมื่อแก่ เป็นคนละเอียดหาได้ยาก เป็นผู้มีมารยาทสมบูรณ์หาได้ยาก เป็นพหูสูตรหาได้ยาก เป็นธัมมกถึกหาได้ยาก เป็นวินัยธรหาได้ยาก... เป็นผู้ว่าง่ายหาได้ยาก เป็นผู้คงแก่เรียนหาได้ยาก เป็นผู้รับโอวาทด้วยความเคารพหาได้ยาก....” ทุลลภสูตร ๑-๒ ป. อํ. (๕๙-๖๐) ตบ. ๒๒ : ๙๐ ตท. ๒๒ : ๗๘-๗๙ ตอ. G.S. III : ๖๔-๖๕ จากคุณ : เฉลิมศักดิ์1 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 12:37:41

ความคิดเห็นที่ 42 นี่คือข้อความของคุณดาริกา ที่ส่งจดหมายแจ้งข่าวการถอนหมั้นไปถึงสื่อมวลชนครับ "ความรักคือการให้   การให้ที่ยิ่งใหญ่คือการให้ด้วยความรัก" ส่วนพระเจสัน ท่านพูดก่อนท่านบวชถึงคุณ ดาริกาว่า " น้องดาเป็นคนที่มีคุณธรรม ศีลธรรม มีธรรมะ ศีลของเขาละเอียดและบริสุทธิมาก " เป็นข่าวบันเทิงที่ตั้งใจอ่าน  แล้วทำให้ใจยิ้มตาม ครับ   : ) จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 15:15:33

ความคิดเห็นที่ 43 รบกวนถามนิดนึงนะคะ คือเมื่อเช้าเราพบคณะพระสงฆ์หมู่ใหญ่ที่สนามบิน ดูเหมือนท่านกำลังเดินทางไปต่างประเทศกันค่ะ แล้วเราก็เห็นพระสงฆ์รูปที่เดินนำหน้า เหมือนหลวงพ่อวิริยังค์มากค่ะ ไม่ทราบว่าช่วงนี้ท่านเดินทางไปที่ไหนหรือเปล่าคะ จากคุณ : Select Star เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 16:00:00

ความคิดเห็นที่ 44 สาธุ อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : คุณสุชานันท์ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 18:05:10

ความคิดเห็นที่ 45 แถลงข่าวล่าสุดครับ http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000078905 ส่วนหนึ่งจากการคำแถลง ที่น่าจะตอบคำถาม ของความคิดเห็นต่างๆ ด้านบนได้บ้างนะครับ จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า บวชไม่สึก กับบวชไม่มีกำหนดสึก  “พระเจสัน” เจตนาอย่างไร?         ดา : “จริงๆ เรื่องนี้ดาบอกไม่ได้ แต่สิ่งที่ท่านพูด คือ ท่านอยากครองอยู่ในผ้าเหลืองไม่มีกำหนด และไม่ปรารถนาทางโลกแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะไม่สึกหรือยังไง ดาไม่ได้อยากพูดถึง เพราะเป็นเรื่องของอนาคตค่ะ เรื่องที่ท่าน ตัดสินใจแบบนี้ เราก็พูดคุยกันตลอดหลังจากที่ครบกำหนด1เดือน ท่านก็ได้พูดคุยกับครอบครัวดา ว่าท่านไม่ได้ปรารถนาทางโลก อยากให้เราร่วมอนุโมทนา มีการพูดคุยกันตลอด ซึ่งท่านจะไปแคนาดาช่วงสิงหาคมนี้ แต่ดาก็ไม่ทราบจะอยู่นานแค่ไหน” อย่างไรก็ขออนุโมทนากับทั้งพระ ทั้งโยม และครอบครัวญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยครับ _/|\_ จากคุณ : He-Who-Must-Not-Be-Named เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:41:43

ความคิดเห็นที่ 46 ขอร่วมโมทนา สาธุ ด้วยครับ ^_^ สาธุ สาธุ สาธุ โมทนามิ จากคุณ : /nse38 เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:44:54

ความคิดเห็นที่ 47 "...เราพบกันเพราะธรรมะ ตอนนี้ก็จบลงด้วยธรรมะ ถึงแม้เราไม่ได้ใช้ชีวิตคู่ แต่เราก็ยังเป็นกัลยาณมิตรต่อกัน.." ส่วนหนึ่งจากคำแถลงครับ :) จากคุณ : He-Who-Must-Not-Be-Named เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:52:45

ความคิดเห็นที่ 48 ท่านได้สุขแท้แล้ว ดีจริงๆที่ฝ่ายหญิงก็สนับสนุน จากคุณ : nuch_tre เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 19:57:29

ความคิดเห็นที่ 49 ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : Mahasati Neo เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:09:24

ความคิดเห็นที่ 50 อนุโมทนาสาธุทั้งคู่เลยครับ จากคุณ : Vaffancuro เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:14:10

ความคิดเห็นที่ 51 อนุโมทนาสาธุค่ะ พึ่งไปกราบหลวงพ่อวิริยังค์เมื่อวันที่ 25 เห็นพระเจสันคอยดูแลหลวงพ่อ ท่านดูเรียบร้อยสำรวมมากค่ะ จากคุณ : ศรารัศมิ์ เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 20:25:12

ความคิดเห็นที่ 52 อนูโมทนาบุญค่ะ อยากให้มีข่าวแบบนี้ ในสังคมเยอะๆ จากคุณ : Glico_strawberry เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 22:09:50

ความคิดเห็นที่ 53 อนุโมทนาบุญกับ พระเจสัน ค่ะ  และอนุโมทนากับ คุณดาริกา  และครอบครัวด้วยค่ะ  _/\_ เนื่องจากคุณแม่ของเราได้เรียนครูสมาธิ กลางปีที่เดียว รุ่นเดียวกับพระเจสัน(แต่คนละวัดสาขา) เลยทราบว่าเมื่อเป็นฆารวาส  ท่านก็ได้ออกไปมินิธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์ กับพระอาจารย์วิริยังค์มาด้วย ป.ล. ขออนุญาตนำรูปของคุณจิตสิกขา  คห. 2 ไปลงในห้องเฉลิมไทยนะคะ     ป.ล. สอง  ไม่ทราบว่าพระอาจารย์วิริยังค์ ท่านจะอยู่ที่วัดธรรมมงคลถึงวันไหนคะ  อยากจะพาคุณแม่ไปกราบค่ะ _/\_ จากคุณ : ปักกะเป้า เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:05:05

ความคิดเห็นที่ 54 _/|\_ _/|\_ _/|\_ สาธุ อนุโมทนาบุญครับ Credit : http://www.naewna.com/entertain/11917 จากคุณ : Uccayo เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:25:54

ความคิดเห็นที่ 55 อนุโมทนาบุญนะค่ะ จากคุณ : onearth เขียนเมื่อ : 27 มิ.ย. 55 23:26:58

ความคิดเห็นที่ 56 อนุโมทนา กับทั้ง2 ท่าน ถึงแม้ไม่ได้ครองคู่ แต่ดิฉันถือว่า เป็นคู่บุญ คือเกิดมาเพื่อเกื้อหนุนทางธรรมะ กันและกัน อนุโมทนาค่ะ จากคุณ : pantitandham เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:50:59

ความคิดเห็นที่ 57 ศาสนา จากคุณ : ทองหว่อง เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 00:56:54

ความคิดเห็นที่ 58 ขออนุโมทนา ทั้งพระเจสันและคุณดาริกาค่ะ เป็นข่าวที่น่าชื่นใจ บุคคลที่มีธรรมะด้วยกัน มักจะไม่ขัดแย้งกัน และส่งเสริมกันและกัน สาธุ สาธุ สาธุ จากคุณ : จิตรพร เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 01:22:41

ความคิดเห็นที่ 59 ไม่มีกำหนดสึก ไม่ได้บอกว่า ปวารณาครองผ้าเหลืองตลอดชีวิต นี่หน่า แต่ก็ดีครับ อนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : สระนาฬิเกร์ เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 07:51:14

ความคิดเห็นที่ 60 คุณ สระนาฬิเกร์ #59 ลองอ่านเนื้อข่าวครับ  พระท่านว่า ท่ามีความปราถนาครองผ้าเหลืองตลอดชีวิตนี่ครับ   แต่ท่านไม่ได้บอกว่าจะบวชตลอดชีวิต  เพราะ ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน  ท่านจึงใช้คำว่า ไม่มีกำหนดสึก      : ] จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:01:16

ความคิดเห็นที่ 61 ขออนุโมทนาบุญด้วยจริง ๆ ค่ะ _/\_ จากคุณ : orathaialnd (orathailand) เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 08:41:01

ความคิดเห็นที่ 62 โมทนาสาธุด้วยครับ จากคุณ : buchido85 เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 10:59:30

ความคิดเห็นที่ 63 ผมเฉยๆ นะ ก็แค่การเลือกเส้นทางชีวิตของคนคนหนึ่ง เป็นเรื่องส่วนตัวของเขา จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 12:31:28

ความคิดเห็นที่ 64 ------ ในโลกนี้ คนมากหลาย เสียคนรักไป หลายๆแบบ ---------------  การเสียไปครั้งนี้   ขอให้เป็นแรงมุมานะ เอาจริง   ปฏิบัติธรรม ได้พบสิ่งที่ดีงามอันยิ่ง  ที่อาจจะหาไม่ได้เมื่อครองคู่ คารวะแก่ท่านทั้งสอง http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=4766&Z=4794&pagebreak=0 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค                                         ๓. อัสสุสูตร             [๔๒๕] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่าน อนาถบิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียก ภิกษุทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้อง ต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พวกเธอจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน น้ำตาที่หลั่ง ไหลของพวกเธอผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอ ใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้ กับน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ สิ่งไหนจะมากกว่ากัน ฯ             ภิกษุเหล่านั้นทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พวกข้าพระองค์ ย่อมทราบ ธรรมตามที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงแล้วว่า น้ำตาที่หลั่งไหลออกของพวกข้า- *พระองค์ ผู้ท่องเที่ยวไปมา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะการประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะการพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ โดยกาลนานนี้แหละ มากกว่า ส่วนน้ำใน มหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ฯ             [๔๒๖] พ. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถูกละๆ พวกเธอทราบธรรมที่เรา แสดงแล้วอย่างนี้ ถูกแล้ว น้ำตาที่หลั่งไหลออกของพวกเธอ ผู้ท่องเที่ยวไปมา ฯลฯ โดยกาลนานนี้แหละ มากกว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย พวก เธอได้ประสบมรณกรรมของมารดาตลอดกาลนาน น้ำตาที่หลั่งไหลออกของเธอ เหล่านั้น ผู้ประสบมรณกรรมของมารดา คร่ำครวญร้องไห้อยู่ เพราะประสบสิ่ง ที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ นั่นแหละ มากกว่า ส่วนน้ำใน มหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย พวกเธอได้ประสบมรณกรรมของบิดา ... ของ พี่ชายน้องชาย พี่สาวน้องสาว ... ของบุตร ... ของธิดา ... ความเสื่อมแห่งญาติ ... ความเสื่อมแห่งโภคะ ... ได้ประสบความเสื่อมเพราะโรค ตลอดกาลนาน น้ำตา ที่หลั่งไหลออกของเธอเหล่านั้น ผู้ประสบความเสื่อมเพราะโรค คร่ำครวญร้องไห้ อยู่ เพราะประสบสิ่งที่ไม่พอใจ เพราะพลัดพรากจากสิ่งที่พอใจ นั่นแหละมาก กว่า ส่วนน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไม่มากกว่าเลย ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็เหตุเพียงเท่านี้ พอทีเดียวเพื่อจะเบื่อหน่ายในสังขารทั้งปวง พอเพื่อจะคลายกำหนัดพอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๓          --------------------------------------------------------- จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:32:15

ความคิดเห็นที่ 65 http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=5016&Z=5022&pagebreak=0 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค                                         ๖. ภาตุสูตร              [๔๕๒] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ- *บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้น เบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่ชายน้องชาย โดยกาลนานนี้ มิใช่หา ได้ง่ายเลย ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๖ http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=5023&Z=5029&pagebreak=0 พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๖  พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค                                         ๗. ภคินีสูตร              [๔๕๓] พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุ ทั้งหลาย ... แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้อง ปลายไม่ได้ ฯลฯ สัตว์ที่ไม่เคยเป็นพี่หญิงน้องหญิง โดยกาลนานนี้ มิใช่หาได้ ง่ายเลย ดังนี้ ฯ จบสูตรที่ ๗   จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:39:59

ความคิดเห็นที่ 66 ตอบ คห 53 ไม่แน่ใจว่าพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ท่านจะอยู่ถึงวันไหนนะคะ แต่เท่าที่ทราบ หลักสูตรสมาธิชั้นสูง จะเรียนถึงวันที่ 28 กรกฏาคม 2555 และวันที่ 29 จะมีสวดมนต์ที่พารากอนด้วยค่ะ ลองพาคุณแม่ไปสวดมนต์ก็ได้นะคะ จากคุณ : น้ำค้างยามเย็น เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 14:47:55

ความคิดเห็นที่ 67 ตามจดหมายที่มาจากท่านเอง บอกว่า พระท่านไม่ได้จะบวชตลอดชีวิตค่ะ แต่บวชอย่างไม่มีกำหนด ! ไม่อยากให้เข้าใจผิดๆ กลัวท่านออกมาแล้วถูกโจมตี ขออนุโมทนาบุญด้วยคนค่ะ จากคุณ : น้องสาวพ่อมด เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 20:02:44

ความคิดเห็นที่ 68 สวัสดีค่ะ เพื่อนๆ สมาชิกที่เคารพทุกท่าน ดิฉัน Ounslanbong ขออนุโมทนาบุญกับสิ่งที่พระเจสันได้ปรารถนาไว้ อนึ่ง ดิฉันเคยรัก (อดีต) ชายหนุ่มคนหนึ่ง เราทั้งสองรักกันมานาน รักกันมาสิบปี แต่อดีตคนรักของดิฉันเลือกเดินทางธรรม โดยได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า ถ้าบวชแล้ว จะไม่สึก  ซึ่งดิฉันขออนุโมทนาบุญกับทั้งสองท่านด้วยค่ะ จากคุณ : Ounslanbong เขียนเมื่อ : 28 มิ.ย. 55 22:33:32

ความคิดเห็นที่ 69 อนุโมทนาบุญกับทั้ง 2 ท่านครับ จากคุณ : ผู้เดียว เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 04:20:39

ความคิดเห็นที่ 70 ขอร่วมอนุโมทนาบุญอย่างสุดใจครับผม จากคุณ : หล่อร้อยหลา เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 09:11:50

ความคิดเห็นที่ 71 สาธุครับ จากคุณ : ต่อmcu เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 13:40:42

ความคิดเห็นที่ 72 ขอร่วมอนุโมทนาสาธุด้วยคนนะคะ จากคุณ : PoppyMay เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:24:52

ความคิดเห็นที่ 73 อยู่ในสมณะเพศ "โดยไม่มีกำหนด"  ไม่ใช่  "ตลอดชีวิต" คนละความหมายกัน จากคุณ : Tandon เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 16:33:48

ความคิดเห็นที่ 74 ขอบคุณ #33 กับ #73 ครับ ที่แท้พระคุณเจ้าพระเจสันท่านตั้งใจอยู่ในสมณะเพศโดยไม่มีกำหนด ไม่ใช่บวชตลอดชีวิต อนุโมทนากับพระเจสันและคุณดาครับ จากคุณ : ทุกวินาที เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:24:06

ความคิดเห็นที่ 75 ขออนุโมทนาด้วยครับ จากคุณ : จอมดาบโซโล เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 09:48:57

ความคิดเห็นที่ 76 ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ กุศลบุญเดิมส่งเสริมให้ท่านได้ถึงพร้อมในเวลานี้  สาธุ จากคุณ : flower_knm เขียนเมื่อ : 30 มิ.ย. 55 21:04:44

ความคิดเห็นที่ 77 ท่านถอนหมั้นกับกิเลส แต่จิตของทั้งสองท่าน สมรสกับกุศล สาธุๆ จากคุณ : ใจพรานธรรม เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 01:02:14

ความคิดเห็นที่ 78 อนุโมทนาครับ.......อยู่กับปัจจุบัน จิตนี้เป็นกุศล จากคุณ : ดาบส เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 11:52:36

ความคิดเห็นที่ 79 อนุโมทนา สาธุครับ จากคุณ : Mr.Somboon เขียนเมื่อ : 1 ก.ค. 55 17:20:12