คุณ benypotter ถวายน้ำให้พระท่านก็ด้วยเจตนาที่เป็นห่วงว่าท่านจะกระหายน้ำ
ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี เป็นบุญกุศลครับ
และการถวายน้ำ(หรือแม้แต่เพียงก้อนดิน)แก่พระภิกษุสงฆ์ด้วยเจตนาบริสุทธิ์ด้วยความเลื่อมใสศรัทธาต่อพระรัตนตรัยนี้
ก็ชื่อว่าเป็นบุญที่มีอานิสงส์มากนับประมาณมิได้
----------------------------------------------------------------------
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒๔
ขุททกนิกาย อปทาน ภาค ๑
ตุวรทายิวรรคที่ ๒๕
ตุวรัฏฐิทายกเถราปทานที่ ๑ (๒๔๑)
ว่าด้วยผลแห่งการถวายก้อนดินแดง
[๒๔๓] ในกาลก่อน เราเป็นนายพรานเนื้อ (เที่ยว) อยู่ในป่าใหญ่ เราเห็นดิน
แดง จึงถือเอามาถวายแก่สงฆ์ ในกัลปที่ ๙๑ แต่กัลปนี้ เราได้ถวายทาน
ใด ในกาลนั้น ด้วยทานนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวาย
ก้อนดินแดง คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และ
อภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้.
ทราบว่า ท่านพระตุวรัฏฐิทายกเถระได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ด้วยประการฉะนี้แล.
จบ ตุวรัฏฐิทายกเถราปทาน.
(อรรถกถา)
บทว่า ภริตฺวา ตุวรมาทาย ความว่า เราได้ถือเอาดินแดงด้วยภาชนะ แล้วได้ถวายแก่พระสงฆ์ผู้อยู่ในท่ามกลางป่า.
----------------------------------------------------------------------
เมื่อได้ทำทาน หรือจาคะแล้ว เราก็สามารถ เจริญ จาคานุสสติ ระลึกถึงบุญนั้นๆได้ด้วย
(จาคานุสสติกถา)
พึงระลึกเนือง ๆ ถึงการบริจาคของตน ด้วยสามารถแห่งคุณมีความเป็นผู้ปราศจากมลทินและความตระหนี่เป็นต้นอย่างนี้ว่า
......ในเมื่อประชาชนถูกความตระหนี่และมลทินครอบงำอยู่ การที่เราเป็นผู้มีใจปราศจากมลทินและความตระหนี่อยู่ เป็นผู้มีการเสียสละอย่างเด็ดขาด เป็นผู้มีมืออันสะอาด เป็นผู้ยินดีในการเสียสละ เป็นผู้ควรในการขอ เป็นผู้ยินดีในทานและการแบ่งปัน นั่นนับว่าเป็นลาภของเราหนอ เราได้ดีแล้วหนอ ฉะนี้.............
.......ก็แหละ ภิกษุโยคีบุคคลผู้ประกอบเนือง ๆ อยู่ซึ่งจาคานุสสติกัมมัฏฐาน ย่อมเป็นผู้น้อมจิตไปในการบริจาคโดยประมาณยิ่ง เป็นผู้มีอัชฌาสัยไม่โลภ เป็นผู้มีปกติกระทำอันสมควรแก่เมตตาภาวนา เป็นผู้องอาจแกล้วกล้า เป็นผู้มากล้นไปด้วยปีติและปราโมทย์ ก็แหละ เมื่อไม่อาจแทงตลอดซึ่งคุณวิเศษยิ่ง ๆ ขึ้นไป (ในชาตินี้ ) ก็จะเป็นผู้มีสุคติเป็นที่ไปในเบื้องหน้า
แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 21:04:46
แก้ไขเมื่อ 28 มิ.ย. 55 20:52:45