ความคิดเห็นที่ 1 [เป็นบทความต่อเนื่องจาก แผ่นต้นกระทู้] ผู้แทนจากสมาคมชาวโรฮิงยาพม่าแห่งประเทศไทย ผมมีความกังวลในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตลอดชีวิตของผมทำงานเพื่อประชาธิปไตย ถึงแม้ว่าหลายคนไม่รู้ว่าประชาธิปไตยคืออะไร ผมทำงานในชุมชนมาตลอดชีวิต ผมเป็นมุสลิมและพยายามทำงานเพื่อประชาธิปไตย โดยไม่ได้แบ่งแยกว่าตนเองเป็นมุสลิมและคนอื่นเป็นพระพุทธศาสนา แต่ทุกคนอยู่ร่วมกันเพื่อประชาธิปไตย นั่นคือการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ เอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน แสดงความรัก เคารพสิทธิซึ่งกันและกัน มีการเรียนรู้แลกเปลี่ยนกัน อยู่อาศัยกันเป็นชุมชน ผมเคยให้ข้อมูลกับสื่อหลายแห่ง ทั้งสื่อในประเทศไทยและสื่อต่างประเทศ นักข่าวหลายคนให้ความสนใจกลุ่มของตนเอง เมื่อปีที่แล้ว มีข่าวออกมาว่า ชาวโรฮิงยาจมทะเลเสียชีวิตระหว่างการเดินทางลี้ภัยมาทางเรือ ซึ่งเป็นการหนีร้อนมาพึ่งเย็น เพื่ออยู่ภายใต้ประชาธิปไตย ส่วนใหญ่ชาวโรฮิงยาในรัฐอาระกัน หรือในรัฐใกล้คียงต่างๆ หลายๆกลุ่มนั้น เริ่มมีการจับอาวุธ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับพม่าทั้งในอดีตและปัจจุบันด้วย ชาวโรฮิงยาเป็นกลุ่มเล็กๆ ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพม่า และไม่ได้อาศัยอยู่อย่างสันติ กรณีสื่อที่นำเสนอข่าวออกไป เขาไม่รู้จักสิทธิของชนกลุ่มน้อย ชาวโรฮิงยาไม่ได้รับสิทธิความเสมอภาค ความเท่าเทียมกันในประเทศพม่า พวกเขาถูกกีดกันทุกๆด้าน ทั้งด้านศาสนา บุคคล ทุกอย่างขึ้นอยู่กับรัฐบาลพม่า และกลุ่มอำนาจทหารพม่า หาก ย้อนมองประวัติศาสตร์ ในช่วงที่นักศึกษาในพม่าก่อการปฏิวัติขึ้นมา ตนเองก็ถูกจับกุมตัวพร้อมกับนักศึกษาพม่าด้วย ผมก็ต่อสู่ร่วมกับนักศึกษาพม่าเหมือนกัน ชาวโรฮิงยาก็เช่นเดียวกัน ต่อสู้กับรัฐบาลพม่าเหมือนกัน ปี 1948-1962 เป็นช่วงที่เรามีประชาธิปไตยที่คุ้มกันคนกลุ่มน้อยของเรา นั่นเป็นกฎหมายคุ้มครองคนโรฮิงยา หลังจากนั้นมีปรากฏการณ์ทางการเมืองเกิดขึ้น เกิดการกดขี่ข่มแหง เกิดการห้ามไม่ให้ใช้กฎหมายคุ้มครองประชาชน มีผู้นำทางการทหารเกิดขึ้นและมีการกำจัดประชาธิปไตย ปี 1989 มีการประท้วงเกิดขึ้นอีกครั้ง โดยกลุ่มนักศึกษา พยายามเรียกร้องสิทธิ กำจัดอำนาจทหาร มุ่งหวังให้ประชาธิปไตยกลับคืนมาเพื่อคุ้มครองปกป้องทุกคน ทุกศาสนา ในพม่า ซึ่งมีกลุ่มประชาสังคมทำงานร่วมกับนักศึกษาเพื่อนำไปสู่การเมืองการปกครอง แบบประชาธิปไตย ประมาณปี 2000 เราอยู่ด้วยกันอย่างสันติ ผู้นำในรัฐต่างๆ เราทำงานร่วมกันตลอด และทำงานต่อต้านรัฐบาลทหารพม่าเพื่อประชาธิปไตยต่อไปเรื่อยๆ หลังจากปี 2010 ผมได้รับการสนับสนุน และได้รับเลือกให้เป็นผู้แทนจากคนในรัฐอาระกัน เพื่อทำงานเป็นตัวแทนของพวกเขา ชาวโรฮิงยามักถูกเรียกว่า "กะลา" และคำเรียกนั้นเป็นผลทำให้พวกเขารู้สึกแย่ ซึ่งเป็นชื่อที่ถูกดูหมิ่นและเหยียดหยาม กรณีเหตุการณ์ผู้หญิงถูกฆ่าข่มขืน จนเกิดการปะทะโต้ตอบกันทำให้มีคนตายกว่า 10 คน ด้านสื่อเองก็มีการนำเสนอข่าวสารที่มุ่งไปยังกลุ่มโรฮิงยา ทำให้เกิดความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ผมต้องการเห็นการยุติการฆ่าผู้บริสุทธิ์ เราต้องร่วมกันหาวิธีการยุติการฆ่ากลุ่มคนเหล่านี้ในรัฐอาระกัน ปัจจุบันยังมีการต่อสู้กันระหว่างทหารพม่าและชนกลุ่มน้อยในรัฐต่างๆ ซึ่งชนกลุ่มน้อยเหล่านี้พยายามจะปกครองตนเอง ส่วนในรัฐอาระกันผมไม่แน่ใจว่าจะเป็นอิสระในการปกครองตนเองได้หรือไม่ เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นครั้งที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นผลจากการขาดผู้นำที่มีคุณสมบัติ ที่มีจิตวิญญาณที่จะทำงานร่วมกับกลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มต่างศาสนาต่างๆ หลังจากการเลือกตั้งในพม่า อองซานซูจีได้ถูกปลดปล่อย นั่นเป็นสัญญาณที่ดีที่ทุกคนจะทำงานเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตย แทนที่จะมีกำลังทหารในประเทศ แต่ยังมีกลุ่มหัวรุนแรง กลุ่มขวาจัด และมีการใช้อำนาจทางการทหารเข้ามา ทำให้คนประมาณหนึ่งล้านคนในรัฐอาระกัน ทั้งกลุ่มพุทธ มุสลิม และอื่นๆ ได้รับผลกระทบจากความรุนแรง เป็นผู้ได้รับความทุกข์ยาก แม้ว่าสหประชาชาติเข้ามา แต่ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ อย่างไรก็ตาม พม่ายังไม่มีความจริงใจที่จะทำให้เกิดความสันติอย่างถาวร หรือดำเนินการให้เป็นรูปธรรม กลุ่มพม่ามุสลิมพยายามเสนอการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น แต่พม่าพยายามกดทับข้อเสนอ เห็นชัดเจนว่าพม่ายังมีอำนาจและพยายามใช้อำนาจทางทหารเดิมในการควบคุม การกดทับชนกลุ่มน้อยและชาวโรฮิงยาด้วย ทั้งนี้รัฐบาลพม่ายังละเลยกลุ่มศาสนาอื่นๆ ทั้งมุสลิม ฮินดู เป็นต้น ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับจากผู้นำ ผมยังมองไม่เห็นข้อยุติด้านความแตกแยกทางศาสนา และการฆ่าล้างโคตรของกลุ่มโรฮิงยา เผ่าพันธุ์ ศาสนาต่างๆ ผู้แทนจากสำนักข่าวอิระวดี กล่าวถึงบทบาทของอินเตอร์เน็ตที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรงในรัฐยะไข่ ผมจะพูดเกี่ยวกับเรื่องสื่อในพม่าและสื่อในปัจจุบัน สิ่งที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ ประเทศพม่า เป็นเรื่องอื้อฉาวมาก โดยเฉพาะสื่อที่นำเสนอข่าว การปฏิวัติที่เกิดขึ้น สื่อมีบทบาทดูสถานการณ์ที่มันเกิดขึ้น และนำเสนอข่าวสารออกไป สถานการณ์ปัจจุบันในการนำเสนอข่าวในเว็บไซต์ ผมพยายามเสนอข่าวอย่างตรงไปตรงมา กรณีสื่อรายงานข่าวสถานการณ์ผู้หญิงชาวอาระกันถูกข่มขืนและถูกฆ่าตาย โดยผู้ชายมุสลิมสามคน หลังจากนั้นเป็นผลทำให้เกิดความรุนแรงขึ้น คือคนมุสลิม 8 คน ถูกฆ่าตาย จากฝีมือชาวพุทธ นอกจากนี้คนประมาณอีก 9,000 คน ได้รับผลกระทบ บ้านเรือนถูกเผา และชาวอาระกันจำนวน 900 คน ถูกทำร้ายร่างกาย สื่อหนังสือพิมพ์ของรัฐบาลพม่าเสนอข่าวกรณีหญิงชาวอาระกันถูกชายมุสลิม 3 คน ข่มขืนและฆ่า โดยใช้คำว่า"มุสลิมกะลา" ซึ่งคำว่ากะลา เป็นคำที่เรียกชาวโรฮิงยาอย่างดูถูกดูหมิ่น ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ของรัฐบาลพม่า เริ่มนำเสนอโดยใช้คำ "กะลา" แทนคำว่า มุสลิมในรัฐยะไข่ หลังจากนั้นก็มีการนำเสนอข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับการข่มขืนและการถูกเฉือดคอ ปรากฏการณ์เหล่านี้เพิ่มความเลวร้ายต่อผู้อ่าน หลังจากนั้นก็มีข่าวสารเผยแพร่ทางอินเตอร์เน็ต เฟสบุค และทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ มีกลุ่มมุสลิมประมาณหนึ่งพันคนที่เผาและทำลายบ้านของชาวพุทธในรัฐยะไข่ รัฐบาลกลางพม่าได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ไม่สามารถยุติการก่อการร้ายที่เกิดขึ้นได้ และมีคนถูกฆ่าตาย นั่นเป็นวงจรอุบาทว์ที่เกิดขึ้น  การนำเสนอข่าว การให้ข่าว การใช้คำในการนำเสนอข่าว ในสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น สามารถส่งผลกระทบในทางลบ เพิ่มความรุนแรง เกิดการเปลี่ยนแปลงจากคนเคยอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ในความหลากหลายทางศาสนา ชาติพันธุ์ แต่ตอนนี้เกิดความขัดแย้ง แตกแยกในทางศาสนาและชาติพันธุ์ กระจายไปทั่ว เป็นสถานการณ์ที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่ก็เกิดขึ้น กลุ่มคนในอาระกันเริ่มนำเสนอข้อมูลต่างๆออกมา เป็นผลทำให้เกิดกลุ่มคนที่มีอารมณ์ร่วมเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามกลุ่มสื่อของผมพยายามทำความเข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และแยกแยะในสิ่งที่จริงและไม่จริง ผมมองว่ากลุ่มนักหนังสือพิมพ์ไม่สามารถเข้าถึงแก่นแท้ของสถานการณ์ได้ ข้อมูลในเฟสบุค หรือสิ่งตีพิมพ์ในพม่าไม่สามารถเข้าถึงข้อเท็จจริงเพื่อจะนำเสนอต่อไปได้ ในฐานะที่ผมทำงานข่าวในอิระวดี ผมและกลุ่มนักข่าวที่เป็นนักข่าวมืออาชีพ จึงจำเป็นต้องใช้หลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อตัดสินใจ กรั่นกรองในการนำเสนอข่าว อีกทั้งการนำเสนอข่าวจากสถานการณ์ต่างๆที่มีความอ่อนไหวในพื้นที่ นักข่าวเองจะต้องศึกษาประวัติศาสตร์หรือความเป็นมาของแหล่งข่าวในพื้นที่ต่างๆ ด้วย อย่างไรก็ตามในฐานะที่ผม[ผู้แทนจากสำนักข่าวอิระวดี] เป็นผู้สื่อข่าว ผมก็จะนำเสนอตามข้อเท็จจริงและมีความระมัดระวังในการนำเสนอเรื่องที่จะส่งผล กระทบต่อความรู้สึก และจะทำงานให้มีความระมัดระวังเกี่ยวกับประเด็นที่อ่อนไหวผ่านสื่อต่างๆด้วย. Credit@ นำมาจาก ประชาธรรม:สถานีประชาชน/วันที่ ๒๘ มิ.ย. ๒๕๕๕ แล้ว-แล้ว ท่านสมาชิกฯชาวห้องศาสนาคือเราๆท่านๆ คิดว่า ๑ ชาวห้องศาสนาฐานะธรรมดา ๆ ๑ คนนี้ คนที่ไม่เคยมีพื้นฐานใดๆรองรับว่า ได้กระทำคุณูประโยชน์~อนันตปการใดๆ ให้แก่อุดมการณ์อันประกาศกู่ก้อง ว่าเพื่ออะไร-แก่ใคร กอบกู้สังคม~ชุมชนคนไทย ณ ที่ไหนบนอาณาจักรโลกนี้ อันปรากฏให้เห็นได้บนโลกออนไลน์ ที่กว้างไกลมหาศาลเท่า แสนโกฏิจักรวาล นี้ จะทำอย่างไร ???         คือ...-ใช้อะไรเป็นฐานข้อมูล กลั่นกรอง เรื่องราวใดๆนั้นๆให้ปรากฏขึ้นมาอย่างเป็น ธรรมตามจริง ที่เราท่านทั้งหลายพึงจะพิจารณายอมรับได้ด้วยเหตุด้วยผล/ตามเหตุ-ปัจจัย จากความจริง-ข้อเท็จจริง ใดๆนั้นๆ ??? อีกหลายวัน...อาจจะมี คำตอบ/ความจริง...         ใช่ครับ คงจะอีกหลายวัน-กว่าที่ กรองคำ จะได้กลับออกมาจาก เมืองพม่า ซึ่งชาวบ้านชาวเมืองทั้งหลายเขาก็ยังผ่านเข้า-ออกด้วยช่องทาง ด่านมดแดง/บ้านปะหล่อง,ดอยอ่างขาง ได้กันเป็นปรกติดีอยู่ เหตุผลที่น่าใส่ใจที่จะต้องเข้าไป-นั้นก็คือ มีหลายสิ่งอย่างที่ ๑ ชีวิตของคนเราต้องเดินเอาตัวตนของเราเข้าไปพบเจอกับ สิ่งนั้น/เรื่องนั้น จริง-จริง         จะทำเพียงแค่นั่งเทียน-นั่งลงเขียนเอาตามจินตนาการ-ความต้องการให้เป็น ของตนเอง เช่นกับบางคนที่คิดเขียนนิทานแข่งกับ มหากาพย์เรื่องเพชรพระอุมา-นั้น มันออกจะเป็นการลงทุนใช้ปัญญาที่ ไร้สาระเกินไป-ว่ามั๊ยครับท่านสมาชิกชาวห้องศาสนา ฯ ปล.  เนื้อหาสาระในกระทู้นี้ [ถ้ามี~ถ้าเป็น สาระ-นะ]  ย่อมยังต้องมีต่อมา ด้วยความเกี่ยวเนื่องของเรื่องราวใดๆที่จะได้พบเจอ จากการแสวงหา...        ซึ่งคงจะมีตามมาตามลำดับ , ตามความเหมาะสมแก่สถานะสภาพของห้องศาสนา ณ พันทิปดอทคอม แห่งนี้-นะ Credit@ นำมาจาก tvthainetwork.com    ร้องสื่อเสนอข่าวโรฮิงยาโดยปราศจากอคติ นักวิชาการคาดความขัดแย้งยืดเยื้อ « เมื่อ: มิถุนายน 25, 2012, 05:12:26 » จากคุณ : กรองคำ เขียนเมื่อ : 29 มิ.ย. 55 14:02:32