 |
คุณ Faradayสวัสดีดรับ
สวัสดีทุกๆท่านด้วยคร้บ ตื่นขึ้นมาก็เห็นคำถาม ที่สำคัญที่คุณ ฟาราเดย์ ตั้งขึ้น ซึ่งคำถามเช่นนี้หายไปนานแล้ว ห้องศาสนาก็เงียบ สงบดี^-^
แต่อย่างไรก็ตามผมยังมองเห็นคุณฟาราเดย์ ในแง่ Positiveอยู่ คือ ว่าถ้า มุสลิม และ คริสเตียน สามารถที่จะตอบได้ โดยที่ไม่มี ความรู้สึก Sensitive จนเกินไปแล้ว และไม่มีการย้อนถามกลับไปลบหลู่ซึ่งกันและกันแล้ว และทั้งพุทธสมาชิกมุสลิม,ยิว และคริสเตียน ต่างก็อธิบายหลักการในความเชื่อของตน และ ต่างคนต่างก็รับฟัง ด้วยความเคารพต่อกัน เพื่อประดับความรู้, ผมว่า มันจะ Clear air แห่งความ Negative ของกระทู้ออก และเรา จะได้คุยกัน ในเชิงวิเคราะห์ ได้
ตามที่คุณฟาราเดย์ให้ข้อคิดว่า
"พระเจ้ามีจริงความเชื่อในแต่ละศาสนาควรจะต้องตรงกัน และแต่ละศาสนาก็มักจะมีข้อจำกัดในการโต้แย้ง แม้แต้คำสอนก็ต่างกัน นิยามบุญบาปก็ต่างกัน จึงกล่าวสรุปได้ว่าเป็นเรื่องไม่จริง โดยผู้กล่าวสอนเองก็หลงไปว่าเป็นความจริง"
คำถามนี้อาจจะมองดูแล้วเห็นว่าคุณฟาราเดย์ ถามแบบโต้แย้ง "สรุปได้ว่าเป็นเรื่องไม่จริง" เอาความคิดคุณเอง ถามเอง ตอบเอง ซึ่งอาจจะโดยไม่มีความตั้งใจ ที่จะลบหลู่ มันจึงทำให้ ดูไม่สวยงามนัก แต่พอเข้าใจได้ ว่ามีเจตนาบริสุทธิ์
พระเจ้า,อัลลอฮ์ และชื่ออื่นๆ ที่มนุษย์ ผู้ที่ศรัทธาต่อ "เอกพลานุภาพที่สูงสุด" ตังชื่อให้ "อานุภาพ"ดังกล่าวนั้น ซึ่งทำให้ เรามองเห็นว่าเป็นสภาวะที่มีรูปร่างไป เนื่องจากมนุษย์เราไม่อาจจะ สื่อ ตามภาษามนุษย์ได้ให้เข้าใจถึงสภาวะ ของ "เอกพลานุภาพที่สูงสุด" ได้ และเมื่อนำ "บุรุษสรรพนาม" ที่มนุษย์ ใช้กันระหว่างมนุษย์กัน มาใช้กับ"เอกพลานุภาพที่สูงสุด" นั้น เลยทำให้ สภาวะนั้น กลายเป็น มี "รูปร่าง" ไป ดังนั้น บางศาสนาจึงใช้คำว่า "วิญญาณบริสุทธิ" หรือ HOLY SPIRIT หรือ "เอกพลานุภาพที่สูงสุด" ฯลฯ
เมื่อเรากล่าวเช่นนี้แล้ว เราพอจะ หาสิ่งต่างๆหรือ สัญญาณต่างๆ ที่มนุษย์ สามารถเรียนรู้ได้โดยสมอง อันจำกัด จาก ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อง นำมาหาทางอธิบายว่า "สภาวะดังกล่าวนั้นมีอยู่จริงหรือไม่และ อย่างไร?
ถ้าเราคุยกันในลักษณะดังกล่าว โดยไม่เอาความศรัทธาว่า ของใครว่าถูกต้องกว่าใคร ซึ่งเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่อยู่นอก วิสัยของผู้ต่างศรัทธาจะเข้าใจ หรือ เห็นด้วยกับ เหตุผลของกันและกันได้
ก่อนอื่น ผู้ศรัทธาใน "วิญญาณบริสุทธิ" หรือ HOLY SPIRIT หรือ "เอกพลานุภาพที่สูงสุด" ฯลฯ จะต้อง ตอบคำถาม ของคุณฟาราเดย์ ตามความศรัทธาของตน เพื่อประโยชน์ที่ผู้ที่ไม่เข้าใจ จะได้เช้าใจว่า ศาสนาต่างๆนั้นสอนกันอย่างไร ในเรื่องนี้ และผู้ฟังก็รับฟังเพื่อความรู้ ส่วนว่า จะเชื่อหรือไม่นั้น เก็บไว้ในใจ ตามมารยาท ในการสนทนา และผู้ที่ศรัทธาต่อพระเจ้าก็ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับ ให้ คุณฟาราเดย์หรือผู้อื่นเชื่อตาม
สำหรับสมาชิกทางพุทธศาสนาก็อธิบายเรื่อง กฏของกรรม ตามความศรัทธา ซึ่งตัวผมเองก็สนใจอยู่มาก ในเรื่องนี้ และไม่เคยคิด ว่า การเชื่อของพุทธสมาชิกเป็นเรื่องเหลวไหล ซึ่งมนุษย์สามารถจะหลุดพ้นได้และจะพบกับความสุขที่แท้จริง ซึ่งการหลุดพ้นนี้เป็นระยะหัวเลี้ยวหัวต่อที่น่าสนใจ
ถ้าสมาชิกทุกๆศาสนาสามารถที่จะสนทนากันอย่างเคารพด้วยกันและกันแล้ว, กระทู้นี้อาจจะนำมาซึ่งความเข้าใจอันดีต่อกันได้
จากคุณ |
:
แมทท์
|
เขียนเมื่อ |
:
8 ก.ค. 55 00:06:24
|
|
|
|
 |