ความคิดเห็นที่ 1 สวัสดีครับ     ไม่มีหลักการใดที่จะกีดกันความมีน้ำใจดีและรักใคร่กัน ด้วยมิครภาพในการตักเตือนให้ผู้ที่เรารักและห่วงใยปฏิบัติ ความดี นับถือ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 00:15:15 จากคุณ : แมทท์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 00:14:04

ความคิดเห็นที่ 2 สมัยขึ้นมาเรียนหนังสือที่กรุงเทพใหม่ๆ  ผมมีเพื่อนมุสลิมชอบกินหมู ๒/๓คน  เพียงแต่เตือนมันว่า "มรึงเหลือให้คนอื่นๆกินบ้างโว๊ย ...อย่าล่อคนเดียวแทบหมด"  ..ผมรู้ว่าหมูกะทะกินอร่อยก็เพราะมันนี่แหละ จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 00:26:54

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ อืม... แผนกจิตเวชก็บอกว่ามีมุสลิมติดเหล้ามาเยอะเหมือนกันนะ ไม่รู้ยังไง เห็นมีข่าวยาเสพติดระบาดในโรงเรียนสอนศาสนาด้วยนิ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 00:45:04

ความคิดเห็นที่ 4 ผมว่าเรื่องศาสนาต้องสอนด้วยเหตุผล ถ้าสอนด้วยความ "กลัว" แล้ว ถ้าไปเจอ คนที่ไม่กลัวและขาดเหตุผล เข้าแล้วผล ก็คือ คำสอนจะไม่มีความหมายสำหรับ เขาผู้นั้น ..คุณๆเห็นว่าไง? จากคุณ : แมทท์ เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 01:16:49

ความคิดเห็นที่ 5 พี่แมทท์ครับ .... ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะเลิกเลย แต่โดยความรู้สึกส่วนตัว การเสพยาไอซ์ ในช่วงเดินบวช ผมก็ว่ามันทะ:-)ๆพิกล พอพูดมาเขาก็ว่า ทีบุหรี่ยังสูบหลังออกบวชได้ ทำไมไอซ์จะไม่ได้ .... ศาสนาไม่ได้กำหนดห้าม มันเลยแย้งๆในใจ เพราะคำตอบเขา ไม่กินกับปัญญาโง่ๆอย่างผมเท่าไหร่เลยครับ แต่แน่ๆตามสิ่งที่เป็น ไอซ์เมากว่าเหล้าแน่นอน จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 05:49:18

ความคิดเห็นที่ 6 ท่าน Itoursab ในฐานะที่พี่จิม ...เคยทำโครงการหลายอย่างเพื่อดึงเยาวชนออกจากยาเสพติด เราต้องมาเข้าใจมูลฐาน ของเยาวชนที่ติดยา มีพอสังเขปดั่งนี้คือ -ขาดการดูแลเอาใจใส่ จากสถาบันครอบครัว สาเหตุก้เพราะเศรษฐกิจปากท้องนั้นแหละครับ -ขาดการปลูกฝังทางด้านจริยธรรม ศีลธรรมทาง และบทบัญญัต อย่างเอาจริงเอาจัง ทางด้่านศาสนา -สังคม เศรษฐกิจ การเมือง -ความอยากลอง ของใหม่ ในกมลสันดานของมนุษย์ ต้องยอมรับอย่างนึงว่า มนุษย์ชอบลองของใหม่ มนุษย์ชอบตั้งข้อสังเกตุ และการพิสูจน์ ในที่นี้ผมขอพูดถึง สังคมของมุสลิม ด้วยหลักปรัชญา ที่ใดแข็งมากก็เปราะบางมาก จะมีจุดอ่อนในจุดแข็งเสมอ ศาสนาอิสลาม มีคำสอนที่เข็มงวด ดังนั้นสิ่งที่ห้ามมีมากมาย ด้วยสันดานมนุษย์ ด้วยความอยากลอง ก็ต้องทดลองทดสอบ ถ้าเยาวชนนั้นขาดภูมิคุ้มกันอย่างบูรณาการ หมายถึงภูมิคุ้มกัน - อันดับแรกคือสถาบันครอบครัว ขาดความเอาใจใส่ต่อบุตรหลาน - ไม่ได้รับการเรียนรู้ศาสนาและข้อบัญญัติทางศาสนาอิสลาม อย่างถึงแก่นของศาสนา -ครูที่ให้ความรู้ทางศาสนาอิสลาม ขาดองค์ความรู้ ในสิ่งเร้าของทางโลก ย่อมเป็นการง่ายที่ทำให้เยาวชนมีเวลาว่าง มีเวลาตั้งบทพิสูจน์ด้วยตนเอง ขาดการแนะนำขั้นตอนพิสูจน์และทดลอง หรือแม้นกระทั่งการยกกระบวนการผลลัพท์ที่สำเร็จรูป มาอรรถาธิบายให้เข้าใจ ถึงผลดีผลเสียอย่างไร ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้เยาวชนมุสลิมไทย ติดยาเสพติด อยากลอง อยากรู้ ว่า คำว่าเมา นั้นคืออะไร เมาแล้วเป้นอย่างไร ? อาการเมานั้นทำให้ประสาท มันหลอนหรือไม่ หลอนอย่างไร ตามหลัก 5 W 1 H นั่นแหละครับ กระบวนการทางสังคมของไทย โดยรวมทุกศาสนาหรือแม้นกระทั่งผู้ที่ไม่มีศาสนา ขาดการปลูกฝังถึงกระบวนการ คิด แบบ 5W1H ให้อยู่ในกระบวนคิดแบบฝังในสายเลือดและวิญญาน เยาวชนไทยจึงเป็นได้แค่เครื่องมือ ของกลุ่มคนบางพวก ที่จะใช้ยาเสพติดและสิ่งมึนเมาในการชี้นำสังคม ตอนนี้ ขอกล่าวแต่เพียงเท่านี้ในเบื่้องต้นเสียก่อน ที่จะมาคุยวิธีการแก้ใขปัญหา และการป้องกัน แบบสามประสาน แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 06:52:42 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 06:51:21

ความคิดเห็นที่ 7 เตือนยังไงก็ได้ค่ะ  เตือนดี ๆ แต่เค้าจะฟังไม่ฟังก็อีกเรื่องหนึ่ง(T-T) ตามหลักวิชาการจะมีการกิยาส ยาเสพติดกับเหล้าจัดเป็นประเภทเดียวกันนั่นแหละ *********** อิสลามได้กำหนดบทบัญญัติต่างๆ ทั้งที่เป็นข้อปฏิบัติและข้อห้าม โดยมีจุดประสงค์เพื่อรักษาผลประโยชน์พื้นฐานของมนุษย์ทั้งห้าประการคือ ศาสนา ชีวิต ทรัพย์สิน สติปัญญา และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การที่อิสลามมีบทบัญญัติห้ามสิ่งเสพติดก็เพื่อประโยชน์ในการดูแลสติปัญญาของมนุษย์ซึ่งเป็นหนึ่งในห้าประการดังกล่าวไม่ให้เสียหาย เพราะสิ่งเสพติดทุกชนิดเป็นโทษต่อระบบสมองของผู้เสพ ทำให้ผู้เสพ มึนเมาไม่ได้สติ อาจจะก่ออาชญกรรมร้ายแรง ละเมิดต่อศีลธรรมอันดีงาม และมีผลกระทบต่อระดับสติปัญญาของผู้เสพในระยะยาว นอกจากนี้ เมื่อผู้เสพได้รับสารเสพติดเข้าไปในร่างกายแล้วอาจจะทำให้ก่อความผิดอย่างอื่นได้อีก เพราะไม่ได้สติจากฤทธิ์ของยาที่เสพเข้าไป จะเห็นได้ว่ายาเสพติดนอกจากจะให้โทษต่อร่างกายผู้เสพแล้ว บางครั้งอาจจะก่อผลเสียต่อผู้อื่นหรือต่อสังคมอีกด้ว อ่านต่อ http://www.islamhouse.com/p/57542 ****** คนที่เสพ อาจจะเพราะขาดความรู้ที่ถูกต้อง ครอบครัวไม่เอาใจใส่  ครูผู้สอนขาดความรู้  สภาพแวดล้อม เพื่อน คำว่าเรียนศาสนา มันกว้างค่ะ เรียนยังไง เรียนที่ไหน เรียนแบบไหน เรียนอะไร นอกจากนี้ก็มีคนที่เป็นมุสลิมแต่ปาก  อาจจะเพราะ  ไม่มีศรัทธาที่หนักแน่น  หรือไม่มีความรู้  หรือรู้แค่ว่าบาป  แต่ทำไมถึงบาป นั้นไม่รู้(และไม่คิดจะรู้ด้วย) แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 07:14:32 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 07:13:48 จากคุณ : เดอะลิง เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 07:08:56

ความคิดเห็นที่ 8 ก็มักได้ยินอะไรแปลกๆ คาดไม่ถึง ของคนมุสลิม จากคุณ ไอ้ตัวแสบ ที่มาเล่าในบอร์ดศาสนาอยู่บ่อยเหมือนกัน และอันนี้ก็แปลกใจอีกครั้ง ว่ามีด้วยหรือ ที่มุสลิมบอกว่า การติดยาเสพติด หรือ  การเสพยา  ไม่ผิดหลักศาสนา แต่ "เหล้ามารดาแห่งปวงบาปเท่านั้นที่ห้าม" .... อย่าว่ายาเสพติดให็โทษร้ายแรง อย่างอื่น แค่ บุหรี่ ก็ผิดแล้ว และ บุหรี่ เค้าก็ฟัตวามานาน หลายปีแล้ว ว่ามันผิดหลัก ไม่ว่าจะเป็นผู้รู้ นักวิชาการ จากไทย หรือ ต่างประเทศ คงไม่ต้องยกมาให้ดู หาในกูเกิ้ลก็เจอ เยอะแยะ ปล. การตักเตือนกัน ให้กระทำในสิ่งที่ดี ไม่ผิดบทบัญญัติ อิสลามหรอกค่ะ ไม่ว่าจะกาเฟร หรือ มุสลิมผู้ศรัทธาด้วยกัน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องขอ ชมเชย คุณไอ้ตัวแสบ ที่อย่างน้อยก็ได้ ตักเตือน ห้ามปราม เค้าผู้นั้น ให้ออกห่าง ค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 08:05:00 จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 08:01:36

ความคิดเห็นที่ 9 คห.3 คุณแมวเก้าแต้ม ใน รร.เอกชนสอนศาสนาอิสลาม ก็มีบ้างค่ะ และก็คิดว่าตอนนนี้ในไทย ตามสถานศึกษาอื่นๆ  ก็คงมีหลายแห่ง มุสลิมก็คนอ่ะ มีทั้ง ดี มีทั้ง เกเร ไม่เชื่อฟัง ตอนสมัย เรียน รร. ธรรมวิทยา ยะลา ก็เคยมีนะ  มุสลิมชาย แอบเอาบุหรี่เข้าใน รร. แต่เผอิญ ถูกจับได้ แต่พวกยาเสพติดอื่นๆ ไม่เคยเจอน่ะค่ะ จากคุณ : Ms.Kohlanta เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 08:12:47

ความคิดเห็นที่ 10 การที่เราจะดึงใครให้มาคิดแบบเรา อย่างแรก เราต้องไม่ฟันธง ว่าผิดหรือถูก การที่ดึงใครสังคนที่ติดลบ ต้องดึงเค้ามาอยู่ ตรง 0 ให้ได้ก็เก่งแล้ว ทฤษฎีบท ที่พี่จิม...ใช้และได้ผลมาตลอด คือ 1. ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่า เราไม่ใช่ปฏิปักษ์ต่อเค้า 2. ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่า เรานั้นยืนเคียงข้างเขาเสมอ 3. ต้องทำให้เค้ารู้สึกว่า เรานั้นยินดีรับฟังเค้าทุกเรื่อง มิใช่เรื่องที่เราโฟกัสเพียงอย่างเดียว 4. ค่อยๆแลกเปลี่ยนแนวคิดว่าจริงๆแล้ว สิ่งที่เราโฟกัส และสิ่งที่เราคิดนั้น ไม่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผิด หรือถูก แต่เป็นสิ่งที่ควร ทำ เพื่อตัวเค้าเอง เมื่อวันใด เราเข้าไปนั่งในหัวใจเค้าได้ ความพอใจย่อมมาก่อนความถูกต้องเสมอ ด้วยความเคารพครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 08:28:41

ความคิดเห็นที่ 11 ปล่อยพวกเขาไปเถิดถ้าเค้าไม่สร้างความเดือดร้อนให้คุณ คุณไปตักเตือนมากๆเค้าจะโกรธเอา ส่วนมากคำอ้างของเค้าคือ "มันเป็นเรื่องระหว่างผมกับอัลเลาะห์ ไม่เกี่ยวกับคุณ " นี้คือคำตอบที่ดูเป็นมิตรไมตรีที่สุด ถ้าเค้าเคารพคุณระดับหนึ่ง คนพวกนี้คือ คนพาล ห่างๆ ดีที่สุด จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 09:51:07

ความคิดเห็นที่ 12 ก็ต้องแยกให้ออกว่า ยาเสพติดที่ว่าคืออะไร ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโรอีน ฝิ่น ยานอหลับ ยาลดความอ้วน เหล้า บุหรี่ หมากพลู ... น้ำชา กาแฟ กระท่อม หญ้าฮา .. 9 สิ่งแรกยาเสพติดอันตราย มีพิษร้ายทำลายร่างกายและสังคม ไม่น่าเข้าใกล้ ไม่น่าคบหา 4 สิ่งหลังเป็นวิถีชีวิตชาวเล ปลอดภัยไร้พิษสง เป็นธรรมดาไม่ควรถือสา.. จากคุณ : ตาลโตน เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 10:31:17

ความคิดเห็นที่ 13 จาก คห ของท่านตานโตน ผมมาต่อยอด ทางกระบวนการคิด มิใช่หลักการศาสนา คนชอบเอาไปปนกันระหว่างกระบวนการทางศาสนา และกระบวนการทางความคิด คำว่ายาเสพติด นั้น อะไรถ้าเสพแล้วติด นั่นคือสิ่งเสพติดทั้งนั้น ข้าว ก็คือสิ่งเสพติด เสพมากเกินขนาด อาจถึงตายได้ ยาแก้ปวด เสพบ่อยๆมากเกินไปก้ติด ปวดนิดปวดหน่อย ก็หายากินแล้ว มอร์ฟีน เสพผิดที่ผิดทาง ก็เป็นยาเสพติด เสพถุกทางใช้ในทางการแพทย์ กระท่อม คนสมัยโบราน เอาไว้ลดคลอเรสเตอรอล และไขมัน ยาขยันแอนเฟตามีน เมื่อก่อน ก้ไม่ผิดกฎหมาย งานวัด งานสุเหร่า หลังจากเลิกงาน คืองานเก็บกวาดปัดล้าง ก็ใส่ในคูลเล่อร์ น้ำเย็น ขัดหม้อกันนี้เงาแวบเชว ถ้าไม่กิน ขี้เกียจขัด แต่มันกลายพันธืเป็นยาบ้า เพราะดันทะลึ่งเอาอะไรต่อมิอะไรใส่เข้าไปมันเลยบ้า 4 คูณร้อย อีก ยาแก้ไอน้ำดำ ไว้แก้ไอ ดันผสม ยากันยุง ยาฆ่าหญ้าลงไป ใบกระท่อมลงไป กลายเป็น บ้าตับแลบ ลูกอม ฮอล์ อมไว้ในปาก ดื่ม น้ำอัดลม เฉพาะ สไปร์ท ก็เมากลิ้งได้เช่นเดียวกัน พอมายุคนึง บอกว่าเป็นสิ่งเสพติด ทุกอย่างมันอยู่ที่ อุปสงค์อุปทาน และวิธีการนำไปใช้ ในสังคมนั้นๆ หรือบางคราบางตัว ดันไป ขัดขวางอุตสาหกรรมยา นั้นแหละครับ ดังนั้นผู้เสพย์ คือผุ้ที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่ความ Rayam มันอยู่ที่คนทำ คนผลิตนั้นแล แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 10:55:03 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 10:54:45

ความคิดเห็นที่ 14 ^ ^ ^ ^ ^ พี่จิมครับ ขอขัดนิดนึงเรื่องน้ำกระท่อม หรือ ที่พี่จิมเรียกว่า  4 x 100 มันประกอบด้วยส่วนผสม 4 อย่าง คือ 1.) น้ำต้มใบกระท่อม 1.25 ลิตร ปริมาณใบที่ต้มตามชอบใจ ยิ่งใส่เยอะยิ่งเมาแต่ขม 2.) น้ำอัดลมโคล่า 1/2 - 1 ขวด ตามความชอบหวานน้อย หวานมาก 3.ยาแก้ไอ  ( ป.ล. บอกความจริงร้านขายยาไปว่าคุณ ไปทำ 4 x 100 เค้าจะได้จัดยาให้ถูก ถ้าเป็นยาแก้ไอน้ำดำ หรือยาที่ไม่ควบคุมจะไม่เมา า ) 4.น้ำตาลสด ( ที่ขายตามร้านของชำ ) 1 ขวด จะไม่ใส่ก็ได้สำหรับพวกที่ไม่ชอบหวาน ส่วนผสมมันมีแค่นี้ 4 อย่าง ตามชื่อ 4 x 100 ส่วนยากันยุงแบบขด นั้นเรื่องของเรื่องคือ พวกวัยรุ่นมักแอบกินในเวลากลางคืน ผลคือยุงกัดเลยจุดยากันยุงกันยุง กลางวันก็ต้องจุด กันยุงลาย เพราะสถานที่ๆแอบกินคือสวนปาล์ม สวนยาง บ้านร้าง สุสาน หรือที่ปลอดคนอื่นๆ และหลอดประหยัดไฟแบบขดที่ขายใน7-11 มักเจอในสภาพแตกและมีรอยขูดเอาสารสีขาวในหลอดออก จริงๆแล้วเป็นอุปกรณ์ ( หลอดที่ใช้ดูดควัน ) ของยาไอซ์ แต่มักถูกคนที่มาพบร่องรอยเหมารวมว่าเอาไปใส่ 4  x 100 รวมถึงซองยากันยุงด้วย ป.ล. ลูกอมฮอลล์กับสไปร์เมาจริงหรือ ผมเพิ่งเคยได้ยิน แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 18:08:21 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 18:05:37 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 17:59:31 จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 17:36:59

ความคิดเห็นที่ 15 ท่าน Lamelz วัยรุ่นสมับผม มันอมกัน เข้าห้องเรียน แล้วอมสไปร์ท ค่อยๆกลืน มันจะมึนๆสนุกดดี 4 คูณร้อย บางมี ก็ผสม D4 ลงไป แล้วแต่สูตรของมัน สไปร์ทเมากรึม ดีกว่าโค้ก โค้กออกฤทธ์ช้า จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 19:19:45

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณพี่จิมครับ แค่อารมณ์ฉุนเล็กๆ พอได้ยินคำตอบจากเค้าแบบนั้น ถ้าเขาบอกว่า รู้ว่าไม่ดี แต่หยุดเลยยังไม่ได้ไรงิ ผมก็คงไม่อารมณ์เสียนะครับ ขอบคุณครับทุกท่าน ปล. จริงอ่ะครับ ไม่เคยลอง ฮอลต้องรสอะไรครับ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 19:24:43

ความคิดเห็นที่ 17 พี่จิม D4 คือไรอะครับ คงไม่ใช่ชื่อรุ่นของกล้องนิกอนนะ จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 19:57:44

ความคิดเห็นที่ 18 ท่าน Itoursab ฉุนก็จามเดะ  เอิ้กๆๆๆๆ อย่าไปเอาเป็นอารมย์ เข้าหูซ้าย ทะลุหูขวา สังคมตรงนั้นเค้าบอกว่ากินขี้ดีกว่ากินข้าว ก็ต้องปล่อยเค้ากินไป ฮอล สมัย พี่จิม มีรสเดียว สดใสซาบซ่าส์ครับ เมนทอล เท่านั้น และถ้าอยากให้เมาลึก สั่งเบียร์มาขวดนึง ดูดเบียร์ด้วยหลอดกาแฟ ในปากอมฮอล แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 22:38:21 แก้ไขเมื่อ 08 ก.ค. 55 22:38:03 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:37:18

ความคิดเห็นที่ 19 ท่าน  Lamelez  D4  คือ Toyata D4D ครับ 555ล้อเล่น  D4  คือไดซีแพรม ครับ ยาคลายเครียด จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 8 ก.ค. 55 22:39:46

ความคิดเห็นที่ 20 - 18 ฮัดชิ๊วววววววว ผมเป็นโรคจิตพอควรมังครับ พอพูดอะไรที่มันรู้สึกบิดเบือนบางเรื่อง จะรู้สึก ฉุนเฉียวโดยไร้สาเหตุ สงสัยต้องหาที่ ลดๆ อัตตาตนเอง เอิ๊กๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 00:32:16

ความคิดเห็นที่ 21 ท่าน itoursab พี่จิมก็เป็นโรคจิต่นกัน ครับ คนทุกคนในโลกนี้เป็นโรคจิตทุกคน คนที่ไม่เป็นโรคจิคือคนที่ตายแล้ว อาการฉุน ฮัดเช้ยๆๆ เป้นธรรมดาของคน หนอยพวกมาเขกกบาลไม่รู้สึก คนมาด่าให้ไม่รึ้สึกน้้นแหละผิดปกคิ อย่างแรง คนไม่มีความรู้สึก อยู่ในสังคมไม่ได้ ครับ เพราะอะไร อาทิเช่น ใครจะขึ้นช้างลงมาอย่างไร ข้าฯไม่สน จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 06:21:12

ความคิดเห็นที่ 22 พี่จิมกินฮอลล์กับเบียร์มันก็เมาเบียร์สิท่าน  ทำไปได้55555 จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 08:42:33

ความคิดเห็นที่ 23 Lamelez มันเมาลึก เมาเร็วกว่านะ นักเรียนช่างกล สมัยก่อน ชอบกัน แฟนต้าน้ำแดง 2ขวด เหล้าขาว ขวดนึง น้ำเงาะกระป๋อง 1 ป๋อง น้ำแข็งกระป๋องน้ำแข็งนึง กรรมวิธี - เอากระป๋องน้ำแข็ง พร้อมน้ำแข็ง 1/2 ป๋อง - เอาเหล้าขาวเทลงไปขวดนึง - น้ำเงาะกระป๋อง เทลงไป จะเอาเงาะใส่ลงไปด้วยก็ได้ - เอาน้ำอัดลมมา อย่าเทลงไป เอาปากขวดจุ่มลงไปแล้ว วนๆๆ จนน้ำอัดลมลงไปผสมกันหมด ทำแบบนี้ 2 ขวด จากนั้น พวกนักเรียนช่างกลเอาหลอดจิ้มดูดกัน บางพวกแสบหน่อย เอาใส่ถุงพลาสติค เดินถือกัน ดูดจ้วบๆเข้าโรงเรียน เข้าห้องเรียนกัน หุหุหุ  เป็นนักเรียนช่างกล หน้าตาอย่างโจร มันถือน้ำแดงคนละถุง เข้าโรงเรียนห้องเรียนกันเป็นแถวๆ เมากรึ่มกันทั้งวัน พอได้ที่เอา ซิคแคนนอล มากิน พอความเมาจนบรรลุ ได้ที่ เอามีดคัทเตอร์มากรีดแขน กัน สนุกปานขึ้นสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์เชวละ เพื่อนผมคนนึง ชื่อ ไอ้เมา ไอ้นี่พ่อมันเป้นผู้พิพากษา ไม่รักษาหน้าพ่อเล้ย มันเมาทั้งวัน จน ริมฝีปาก นี่ขึ้นเป้นตุ่มๆๆ หุหุหุ  ผมงี้ต้องคอยหิ้วปีกมันเข้าห้องเรียน เสมอๆ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 10:18:23

ความคิดเห็นที่ 24 พี่จิมเป็นเด็กช่างมาก่อนหรือครับ สูตรที่พี่จิมกล่าวยังมีอยู่นะ แต่แค่ไม่ใส่เงาะกระป๋อง เหลือแต่เหล้าขาวกับน้ำอัดลม เพื่ออำพรางว่ากินน้ำอัดลมอยู่ ส่วนยาเสพติดอื่นก็มีแบบเดียวกับข้างนอกสถานศึกษา จากคุณ : Lamelez เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 13:54:52

ความคิดเห็นที่ 25 คุณแมวฯ นักเรียนใน กทม.นี่น่าเป็นห่วงที่สุดแล้วครับ ถ้าจะวัดที่ผลการศึกษาศาสนา ก็ไม่รู้ผลการสอนศาสนาของโรงเรียน และทางบ้านเป็นอย่างไร?? ++++++++++++ คนรู้สึกว่ายาเสพติดระบาดหนักในสถานศึกษา โดยเฉพาะโรงเรียนในกรุงเทพฯ             ผลการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์ 2553 ประชาชนร้อยละ 51.3 ระบุว่ามีปัญหา โดยผู้ที่ระบุว่ามีปัญหาเห็นว่าปัญหาที่มีอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ร้อยละ 4.6 กล่าวคือ ระดับมากที่สุดร้อยละ 0.6 ระดับมาก ร้อยละ 4.0 เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในเดือนกุมภาพันธ์  2552 พบว่า มีปัญหาการแพร่ระบาดยาเสพติดในโรงเรียน/สถานศึกษา เพิ่มขึ้น ซึ่งมีร้อยละ 19.2 (กุมภาพันธ์ 2552) เป็นร้อยละ 51.3 (กุมภาพันธ์ 2553) ประชาชนส่วนใหญ่ ร้อยละ75.2 ระบุว่า โรงเรียน/สถานศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร ให้ความเห็นว่ามีปัญหามากที่สุด รองลงมาคือ ภาคใต้ ร้อยละ 56.2 ภาคกลางร้อยละ 51.2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ44.3 และภาคเหนือ ร้อยละ 39.7 http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/special_report/15984   แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 55 14:38:39 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 14:37:20

ความคิดเห็นที่ 26 ตุณจิม ถ้ามุสลิมกิยา d4(Diazepam) 5 มิลลิแกรม ทุกๆวันตามหมอสั่ง แล้วเขาจะทำละหมาดได่ไหม?   เพระ d4(Diazepam) จัดอยู่ในสารเสพย์ติด ในจำพวก สุรา ที่ควบคุม จิตใจ الْخَمْرِ  มีความรู้สึกเหมือน ดื่มเบียร์ 2 กระป๋อง ซึ่งไม่เมา คุยกันและทำงานได้ตามปกติ สั่งงาน จ่ายเงิน และนับเงินในหน้าที่เถ่าแก่ อย่างคุณจิมได้ เมื่อถึงเวลาทำละหมาด ละหมาดจะ เซาะหรือไม่? ตอบตามอารมณ์สนุกและมีเหตุผล ตามสไตล์ของคุณได้เลย ผมชอบฟังภาษาไทยแบบง่ายๆของคนหนุมๆอย่างคุณ แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 55 14:42:52 จากคุณ : แมทท์ เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 14:41:23

ความคิดเห็นที่ 27 ต้องแยกแยะ เจตนา และ ความจำเป็นในการบริโภคควบคู่ไปด้วย ความบริสุทธิ์ใจครับ http://www.ideaforlife.net/health/drug/0075.html คุณแมทท์มีความจำเป็นต้องใช้ สุรา หรือ เบีนร์ ในการบำบัดรักษาโรคด้วยหรือเปล่าล่ะ? แก้ไขเมื่อ 09 ก.ค. 55 14:52:26 จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 14:50:06

ความคิดเห็นที่ 28 สูบบุหรี่ ฮารอม (ต้องห้าม) จริงหรือ? http://www.iqraforum.com/forum/index.php/topic,3074.0.html จากคุณ : laliklalee เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 15:06:01

ความคิดเห็นที่ 29 อัซซาลามูอาลัยกุมครับคุณ อา ยาไดซีแพรม ผมก็เคยใช้ สมัยก่อนหมอจัดให้ การละหมาดเซาะห์แน่นอน เพราะเจตนาผมไม่ได้เอาไว้เพื่อเสพย์ให้เกิดความสนุก สนาน ส่วนแล้วแต่เอกองค์อัลเลาะห์จะตัดสินอย่างไรนั้นเป้นสิทธ์ของพระองค์ นี่คืออีกเรื่องนึง การที่ผมกล่าวว่าเซาะห์ แน่นอน นั่นคือการย้ำบอก ย้ำเตือนตนเอง และบอกย้ำกับองค์พระผุ้อภิบาล ว่าเรามีเจตนาใช้เพื่อเป็นยา รักษาอาการนอนไม่หลับ ซึ่งเป็นไปตามคำวินิจฉัยของแพทย์ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ใช้เพื่อให้เกิดอาการมึนเมา สนุกสนาน อิสลาม สอนไว้ เรื่องเจตนา คือเรื่องหลักการ โดยเฉพาะ เราอมลูกอม แล้วเราเจตนา ให้มันเมา มันก็คือ คอมัร หรือสิ่งมึนเมา นั่นเองครับ เรากินข้าวเหนียว กินข้าวเยอะๆ ไม่ใช่วัตถุประสงค์ว่า เพื่อประทังชีวิต แต่เพื่อต้องการกินเพื่อให้เมาข้าว สะเงาะสะแงะ มันก็คือ สิ่งเสพย์ ละหมาดยังไง ก็ไม่เซาะห์ ครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:29:33

ความคิดเห็นที่ 30 ท่าน Lamelez พี่จิม.....เรียนช่างอุตสาหกรรม สาขา อีเลคโทรนิคส์ เซนต์จอห์น รุ่นที่ 1 เรียนตั้งแต่ เซนทรัลลาดพร้าวยังไม่มีเลยครับ ตีหัวหมา ด่าแม่เจ็กแถวนั้น ฉายาของผมคือ "จิมสปาร์ต้า" ขาใหญ่แห่งทุ่งลาดพร้าว   จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:34:19

ความคิดเห็นที่ 31 ระเบียบโรงเรียน คือเสื้อขาว กางเกงสแลคดำ แต่ผมใส่กางเกงยีนส์ดำ รองเท้าเชคโก กระเป๋าหลัง เหน็บขวดนม พร้อมนม ขนาด 4 ออนซ์ เดินไปไหน เป็นแกงค์ หนีบขวดนมดื่มโชว พาว นักเรียนไทยสุริยะ ไทยวิจิตรศิลป์ เรียกว่า "แกงค์ขวดนม" ครับ ตอนวัยรุ่น ผมกวนตีน อย่างไร ตอนนี้ผมก็คงมีสันดานกวนตีน แบบนั้น สำหรับคนที่อยากกวนด้วยเหมือนตอนนั้นเลยละครับ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:38:04

ความคิดเห็นที่ 32 พอใกล้จบ เปลี่ยนกิจกรรม จากการตีหัวหมาด่าแม่เจ็ก มาขับรถแรลลี่แทน สมัยผมใช้ Ford escort  กับแลนเซอร์ไฟ แอล มาแต่งกัน ผมลงรุ่นโอเพ่น แข่งกับปรีชา ทรัพย์คง ด้วยนะครับ สิบอกให้ จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 55 16:41:29

ความคิดเห็นที่ 33 - 30 แต่สมัยผมเรียนถ้าเพื่อนชวนไปตีกัน หากสอบทานแล้วเหตุไร้สาระ เช่น เขามาตบหัวเข็มขัด (ผมก็ไปแจ้งครูประจำโรงเรียนนั้นๆ ครูใหญ่เพื่อนพ่อเกือบทั้งนั้น) เขามาแย่งแฟน (อันนี้ช่างหัวมัน ความรักใครชักจูงกันได้) หากต้องไป ผมก็ไปห้องน้ำก่อน แล้วโทรแจ้ง 191 พอถึงที่... คริกๆ ไม่เคยได้ตีกะใครซักทีถ้าไม่จำเป็น แง่บๆ จากคุณ : itoursab เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 00:52:01

ความคิดเห็นที่ 34 itoursab แบบ คุณ นั้นแหละวิธีการที่ถุกต้อง ของพี่จิม.....สมัยวัยรุ่น ใจ มัน ฮ้อตกว่านี้เยอะ ขาดการยับยั้งชั่งใจ ศักด์ศรี เรื่องใหญ่ แต่ผมไม่เคยหาเรื่องใครก่อน นอกจากใครมาทำเพื่อนเรา ไปเอาคืน แต่ผมไม่เหมือนนักเรียนสมัยนี้ เอาคืนผิดฝาผิดตัว ของผมจะจำหน้าแล้วไปเอาคืนถูกตัว หมาหมู่ไม่เอา เค้ามาน้อยกว่า เรามากกว่า จัดคนให้ฟัดกันเท่าๆกันครับ อาวุธ ก้เท่าๆกัน ไม่ใช่อีกข้างมือเปล่าอีกฝ่ายมีอาวุธ ผมก็ไม่เล่นด้วย ถ้ามีอีดาบ ก้ต้องดาบ ไม่ใช่อีดาบ อีกฝ่ายปืนหรือระเบิด อย่างนี้รบไป เอาหัวไปชนกำแพงตายดีกว่า ส่วนผมเอง ถึงผมน้อยกว่าหรือผมคนเดียว ผมก็สู้ แบบโง่ๆของผม โง่ๆแบบใช้สมอง 5555 แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 55 07:22:03 จากคุณ : พี่จิม (Jimbovy) เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 55 07:20:43