ตอบคุณโขตาน
พระอาจาร์ยมั่น ภูริทัตโต เป็น พระอาจาร์ยใหญ่ ของสายพระป่า
ทั่วประเทศ คำสอนของท่านมาจากการปฏิบัติ สามารถอ้างอิงกับ
พระไตรปิฏกได้ ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้น
นิพพานแล้วไม่สูญไปไหน
ในพระไตรปิฏกกล่าวถึงนิพพานไว้น้อยมากว่าคืออะไร
๑. ปฐมนิพพานสูตร
[๑๕๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ
พระวิหารเชตวันอารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัย
นั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงชี้แจงให้ภิกษุทั้งหลายเห็นแจ้ง ให้สมาทาน ให้อาจ
หาญ ให้ร่าเริงด้วยธรรมมีกถาอันปฏิสังยุตต์ด้วยนิพพาน ก็ภิกษุเหล่านั้นกระทำ
ให้มั่น มนสิการแล้วน้อมนึกธรรมีกถาด้วยจิตทั้งปวง แล้วเงี่ยโสตลงฟังธรรม
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ทรงเปล่ง
อุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ดูกรภิกษุทั้งหลาย "อายตนะนั้นมีอยู่" ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญ
จายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ
โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์ และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มีในอายตนะนั้น
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็น
การไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุปบัติ อายตนะนั้นหาที่ตั้งอาศัยมิ
ได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้นี้แลเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ฯ
ความเห็นของพระอาจาร์ยมั่น ต่อพระนิพพาน
คำตอบของ พระนิพพาน โดย พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต
พระธรรมเจดีย์ ถามว่า :
ข้าพเจ้าเคยได้ยินเขาพูดกันถึงเรื่องพระนิพพานว่า อายตนะอันหนึ่งมีอยู่ แต่ไม่ใช่ดินไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่ลม ไม่ใช่อากาศ ไม่ใช่วิญญาณ ไม่ใช่ตัวตน เช่นนั้นพระนิพพานก็ศูนย์เปล่าเขาจึงไม่อยากไปพระนิพพาน
พระอาจารย์มั่น ตอบว่า :
กามทั้งหลายไม่มีในพระนิพพาน ผู้ที่กำหนัดในกาม ยังมีความพอใจในรูปเป็นต้น จึ่งไม่ยินดีในพระนิพพาน
พระนิพพาน คือ ความสิ้นราคะ โทสะ โมหะและดับตัณหาที่เป็นเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้น เสียได้ ทุกข์เป็นผลมีชาติเป็นต้นก็ดับไป เพราะฉะนั้น พระนิพพานแม้จะชื่อว่าเป็นอนัตตา แต่คงศูนย์เพราะกิเลส กับทุกข์เท่านั้น
ส่วน นิพพานธรรม ซึ่งเป็นธรรมที่เที่ยง ที่สุข นั้นยังคงมีอยู่
พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) ถาม
พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ตอบ
โดย: ธรรมโอสถ