Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
หลวงพ่อชา กับ ศิษย์พระยามาร ติดต่อทีมงาน

ในสมัยแรกที่เริ่มสร้างวัดหนองป่าพง มีชาวบ้านก่อคนหนึ่งชื่อ “พ่อหนูผี” เป็นคนที่มีนิสัยชอบใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษา และเป็นที่รู้จักของคนในหมู่บ้านว่า อัตตา และทิฏฐิมานะสูง ไม่ยอมรับใครง่าย ๆ ถึงแม้ว่าเคยมาฟังธรรมจากหลวงพ่อบ้างแต่ก็ยังคิดและพูดโต้แย้งเสมอ จนกระทั่งในที่สุดหลวงพ่อได้อนุญาตให้พ่อหนูผีว่า

“มีอะไรก็ให้พูดอย่างเปิดอก ไม่ต้องเกรงใจ จะได้รู้เรื่องกันสักที”

“ถ้าผมพูดอย่างเปิดอก เกรงว่าหลวงพ่อจะโกรธผม เพราะคำพูดของผมมันไม่เหมือนคนอื่นเขา” พ่อหนูผีออกตัว

“พูดมาตามสบายเถอะ อาตมาไม่โกรธหรอก”

เมื่อหลวงพ่อเปิดทางให้ พ่อหนู่ผีซึ่งรอโอกาสนี้มานานแล้ว จึงนึกในใจว่า... เมื่อท่านรับรองเช่นนี้ หากเราพูดแรง ๆ ไป ถ้าท่านโกรธ เราจะต่อว่าให้สาสมเลยว่า พระกรรมฐานอะไร ช่างไม่มีความอดทนเสียเลย แล้วพ่อหนูผีก็เริ่มระบายความในใจออกมา

“หลวงพ่อเคยพูดว่า ผมเป็นคนหลงผิด แต่ผมว่าหลวงพ่อนั่นแหละหลงผิดมากกว่า เพราะศาสนาทุกศาสนาไม่มีจริง เป็นเรื่องที่คนแต่งขึ้น สมมุติขึ้น เพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อตาม และของทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ ก็มีแต่ของสมมุติทั้งนั้น เช่น ควาย นี่เราก็สมมุติชื่อให้มัน ถ้าเราจะเรียกมันว่าหมูก็ได้ ควายก็ไม่ว่าอะไร... คน สัตว์ สิ่งของทุกอย่างก็สมมุติเอาทั้งนั้น แม้แต่ศาสนาก็เป็นเรื่องสมมุติเหมือนกัน ทำไมหลวงพ่อจะต้องกลัวบาปกรรม จนต้องหนีเข้าป่าเข้าดง ไปทรมานร่างกายให้ลำบากเปล่า ๆ ผมไม่เชื่อเลยว่า บาปบุญมีจริง เป็นเรื่องหลอกเด็กมากกว่า กลับไปอยู่วัดตามบ้านตามเมืองเหมือนพระอื่น ๆ เสียเถอะ หรือทางที่ดีก็ควรสึกออกมาเสีย จะได้รับความสุขและรู้รสกาม ดีกว่าอยู่อย่างทรมานตัวเองอย่างนี้ ไม่เห็นมีประโยชน์อะไร”

พ่อหนูผีสรุปแนวความคิดของตน แล้วถามหลวงพ่อ “ผมคิดของผมอย่างนี้... หลวงพ่อล่ะมีความเห็นอย่างไร?”

หลังจากปล่อยให้พ่อหนูผีพูดจนสะใจแล้ว หลวงพ่อซึ่งนั่งนิ่งรับฟังอยู่นาน จึงกล่าวขึ้น

“คนที่คิดอย่างพ่อหนูผีนี้ พระพุทธเจ้าท่านทิ้ง โปรดไม่ได้หรอก เหมือนบัวใต้ตม ถ้าพ่อหนูผีไม่เชื่อว่าบาปมีจริง ทำไมไม่ทดลองไปลักไปปล้น หรือไปฆ่าเขาดูเล่า จะได้รู้ว่าเป็นอย่างไร”

“อ้าว... จะให้ผมไปฆ่าเขาได้อย่างไร เดี๋ยวญาติพี่น้องเขาก็ตามล่าผม หรือไม่ก็ติดคุกน่ะซิ!”

“นั่นแหละผลของบาป รู้มั๊ย?”

พ่อหนูผีชักลังเล เมื่อเจอเหตุผลอย่างนี้ แต่ก็ยังยอมรับอยู่ในทีว่า

“บางทีบาปอาจจะมีจริงก็ได้ แต่บุญล่ะ... หลวงพ่อมาอยู่ป่าทรมานตัวเองอย่างนี้ ไม่เห็นว่าจะเป็นบุญตรงไหนเลย?”

“พ่อหนูผีจะคิดอย่างนั้นก็ได้ แต่อาตมาจะเปรียบเทียบให้ฟัง ที่อาตมาประพฤติตามพระธรรมวินัยอยู่อย่างนี้ ถ้าบาปไม่มี... บุญไม่มี ก็เสมอทุน แต่ถ้าบาปมี บุญมี อาตมาจะได้กำไร... คนหนึ่งเสมอตัวหรืออาจได้กำไร กับคนที่มีแต่ทางขาดทุน ใครจะดีกว่ากัน”

พ่อหนูผีเริ่มคล้อยตามบ้าง แต่ก็ยังตอบแบบไว้เชิง

“ไอ้เรื่องบาปเรื่องบุญนี้ ผมคิดจนปวดศรีษะมานานแล้ว จะเชื่อก็ยังไม่แน่ใจ ไปถามพระรูปไหน ก็พูดให้ผมเข้าใจไม่ได้ แต่ที่หลวงพ่ออ้างเหตุผลมานี่ ผมก็พอจะรับได้บ้าง แต่ถ้าบาปบุญไม่มีจริง หลวงพ่อจะให้ผมทำอย่างไร”

“ทำยังไงก็ได้” หลวงพ่อตอบ

“ถ้าบาปไม่มีจริง ผมตายไป ผมจะมาไล่เตะหลวงพ่อนะ?”

“ได้! แต่ข้อสำคัญพ่อหนูผีต้องละบาปแล้วมาบำเพ็ญบุญจริง ๆ จึงจะได้รู้ว่าบาปบุญมีจริงหรือไม่”

“ถ้าอย่างนั้น หลวงพ่อเทศน์โปรดผมด้วย ผมจะได้รู้จักวิธีทำบุญ”

“คนเห็นผิดอย่างพ่อหนูผีนี้ โปรดไม่ได้หรอก เสียเวลาเปล่า ๆ”

เมื่อถูกหลวงพ่อเหน็บเอาเช่นนี้ พ่อหนูผีผู้มากด้วยปฏิภาณและโวหาร จึงย้อนกลับไปว่า

“คนในโลกนี้ ใครมีปัญญาและวิชาความรู้เลิศกว่าเขาทั้งหมด พระพุทธเจ้าใช่ไหม ถ้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้เลิศจริง หลวงพ่อก็เป็นศิษย์พระพุทธเจ้า ส่วนผมเป็นศิษย์พระยามาร เมื่อเทศน์โปรดผมไม่ได้ ก็โง่กว่าพระยามารซี่”

“ถ้าพ่อหนูผีอยากต้องการอย่างนี้จริง ๆ ก็ขอให้ตั้งใจฟัง จะให้ธรรมะไปคิดพิจารณา แล้วทดลองปฏิบัติตามดู จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ให้ทำดูก่อน เรื่องศาสนาที่พระสงฆ์เคยสอนมา พ่อหนูผีไม่เชื่อใช่ไหม?”

“ใช่... ผมไม่อยากเชื่อใครเลย นอกจากตัวเอง”

“ถ้าไม่เชื่อคนอื่นแล้ว ก็ไม่ต้องเชื่อตนเองด้วย พ่อหนูผีเป็นช่างไม้ใช่ไหม เคยตัดไม้ผิดหรือเปล่า?”

“เคยครับ”

“เรื่องอื่น ๆ ก็เหมือนกัน พ่อหนูผีเคยมีแต่คิดถูก ทำถูกอย่างเดียวหรือว่าเคยคิดผิด ทำผิดมาบ้าง”

“ใช่... ทำถูกก็มี ทำผิดก็เคย” พ่อหนูผียอมรับ

“ถ้าอย่างนั้น ตัวเราเองก็ยังเชื่อไม่ได้ เพราะมันพาทำผิด พูดผิด คิดผิดได้เหมือนกัน”

พ่อหนูผีรู้สึกพอใจต่อเหตุผลของหลวงพ่อ จึงขอคำแนะนำว่า “ผมควรจะประพฤติตนอย่างไรดีครับ?”

“อย่าเป็นคนคิดสงสัยมาก และอย่าพูดมากด้วย” หลวงพ่อตอบ

หลังจากวันนั้น พ่อหนูผีจะไปอยู่ที่ไหน คำพูดของหลวงพ่อติดตามไปทุกหนทุกแห่ง ทั้งที่พยายามไม่ให้ใจคิด แต่ก็ต้องคิด เมื่อคิด ๆ ไปก็ยิ่งเห็นจริงตามคำสอนของหลวงพ่อ และของพระพุทธเจ้ามากขึ้นทุกที พระพุทธองค์ตรัสไว้อย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีทางคัดค้านได้เลย

ต่อมา พ่อหนูผีจึงคลายพยศ ลดมานะ ละทิฏฐิ ทิ้งนิสัยหัวรั้นหัวแข็ง เข้ามาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ แล้วรักษาศีลห้าอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งฝึกหัดปฏิบัติภาวนา จนกลายเป็นพ่อหนูผีคนใหม่ ที่มีอัธยาศัยดี ช่วยกิจการงานวัดอย่างแข็งขันด้วยความจริงใจตลอดมา....

แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 08:37:36

จากคุณ : XeRaMos
เขียนเมื่อ : 16 ก.ค. 55 16:54:08




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com