ความคิดเห็นที่ 1 บาปหรือไม่ ไม่ได้เกี่ยวกับขนาดของตัวสัตว์ครับ แต่มันอยู่ที่ มีเจตนาในการฆ่าหรือเปล่า ถ้ามีเจตนาฆ่าเหมือนๆกัน สัตว์ขนาดใหญ่กว่าจะบาปมากกว่า แต่ถ้าไม่มีเจตนาในการฆ่าเลย สัตว์มันตายของมันก่อนนานแล้ว ต่อให้เป็นไดโนเสาร์ก็ไม่บาปแม้แต่น้อยครับ เพราะสัตว์ที่ตายแล้ว มันคือซากศพดีๆนี่เอง การที่เรากินซากของสัตว์ที่ตายไปแล้ว ผมมองไม่ออกเลยว่ามันบาปตรงไหน เพราะเจตนาฆ่าก็ไม่มี คุณลองเปรียบเทียบดูเอาละกัน สัตว์ที่กินซากทั้งหลาย อีแร้งก็ดี หนอนก็ดี สัตว์พวกนี้ต่างก็รอให้สัตว์กินเนื้อที่เกิดมาเพื่อเป็น ผู้ล่า "ฆ่า" ก่อนทั้งสิ้น จากนั้นพอผู้ฆ่าทิ้งซากไป สัตว์ทีกินเนื้อที่เหลือก็แค่มาอาศัยประโยชน์ จากซากที่เหลือนั้นก็เท่านั้นเอง จากคุณ : Generals เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:16:28

ความคิดเห็นที่ 2 อ่านให้เยอะขึ้นกว่านี้อีกครับ จะได้มีข้อมูลครบถ้วน เท่าที่ผมอ่าน เข้าใจว่า จขกท  ยังได้ข้อมูลเอียง ๆ อยู่ครับ ยังไม่กลางเท่าไหร่ หมายเหตุ: ผมก็พยายามทานมังสวิรัติน่ะ  แต่ไม่ได้เกี่ยวกับบาบ บุญคุณโทษอะไร แค่รู้สึกว่ามันดีต่อสุขภาพ ก็เท่านั้นเอง จากคุณ : วิริยารัมภะ (XeRaMos) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:31:06

ความคิดเห็นที่ 3 อ้าว นี่ตกลงโยนบาปไปให้คนฆ่าเหรอครับ  คุณความคิดเห็นที่ 1 . . แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 10:34:41 จากคุณ : สรยุด (nanasuyoru) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:34:26

ความคิดเห็นที่ 4 คุณ จขกท ครับ คุณจะไปซีเรียสอะไรกับความเชื่อหละครับ เหตุผลของคุณ มันชัดเจนแล้ว จากคุณ : RouteRaideR เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:45:05

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน ไม่ได้รับรู้ว่าเขาฆ่าเพื่อเรา จัดมาก็รับประทานไป เพื่อยังชีวิตให้อยู่ได้ ไม่มีก็กินผักกินหญ้าไปตามเรื่อง จะดิ้นรนแสวงหาของกินอร่อยลิ้นก็หาไม่ มีเพื่อนร่วมงานคนนึงกินเจตลอดชีพ ไปไหนมาไหนทีเดือดร้อนหมู่คณะมาก (จำเป็นต้องไปด้วยกันเพราะหน้าที่ ธรรมดาน่ะเหรอ ไม่ชวน!) ส้มตำต้องล้างครก ยำก็เอาแต่วุ้นเส้นกับผักไม่ใช้น้ำปลาให้ใช้ซีอิ้วขาวเท่านั้น ผัดผักไม่ใส่กระเทียม ไม่มีก็ยอมอด ทำเอาหมู่คณะรู้สึกผิดไปตาม ๆ กัน บางคราวถึงกับต้องย้ายร้านเลยก็มี   สิบคนต้องย้ายร้านเพราะคน ๆ เดียว ในใจของแต่ละคนคงอนุโมทนากันถ้วนหน้า ฮ่า... ใครจะกินเจ กินมังสวิรัติ กินสัตว์เล็กสัตว์ใหญ่ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เป็นความพึงพอใจของเขา บาปไม่บาปรู้อยู่แก่ใจ แต่ถ้าการเลือกกินนั้นทำให้หมู่คณะเดือดร้อน ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นบุญหรือบาปกันแน่   ยุ่งฉิบเป๋ง! เอวังแวร์ซาย. จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 10:51:11

ความคิดเห็นที่ 6 สัตว์ทุกตัวรักชีวิตนะครับ อย่าเข้าใจว่ามันเกิดมาเพื่อเสียสละตัวเองให้มนุษย์ได้กินอิ่มสบายท้อง เห็นตอนไล่ต้อน จับขึ้นเขียงเชือดนี่ วิ่งหนีร้องครวญครางทุกตัว ส่วนเรื่องสัตว์ใหญ่เล็กก็หนึ่งชีวิตนั้น อยากให้เข้าใจว่ามองที่การฆ่าครับ ไม่ใช่การกินเนื้อ ฆ่าสัตว์ใหญ่บาปกว่าฆ่าสัตว์เล็กแน่นอน  เพราะใช้ความพยายามมากกว่า แต่การกินเนื้อเป็นอีกเรื่อง คุณกินซากที่ตายแล้วของสัตว์ใหญ่หรือเล็กก็ไม่บาปแม้แต่น้อย ถ้าไม่ได้เห็น ไม่ได้ยิน และไม่ใช้ให้ฆ่าแล้วรอกิน มาถึงเรื่องพืชผักต้นไม้  ถึงแม้เจริญเติบโตได้ แต่ในทางพุทธถือว่าเป็นเพียงรูปเท่านั้นไม่มีวิญญานครอง การกินหรือทำลายพืช จึงไม่ถือว่าบาปครับ ผมเข้าใจว่า จขกท.มีความเห็นที่เป็น"อัตโนมัติ"อยู่ในบางเรื่อง  อย่าเพิ่งแน่ใจว่าใช่ ถ้าเป็นชาวพุทธก็ขอให้สอบทานกับพระไตรปิฏกซึ่งเป็นคำสอนแท้ ๆดูก่อนครับ จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:01:51

ความคิดเห็นที่ 7 โดยส่วนตัว การบาปไม่บาปอยู่ที่เจตนา      ถ้าเราจำเป็นต้องฆ่าเพื่อการดำรงชีพของเรา หลังจากฆ่าเสร็จ ก็ขออโหสิกรรมให้เขา เพราะเขามีประโยชน์ให้เราต้องดำรงชีพของเราต่อไป      แต่ถ้าฆ่า เพื่อความสนุกสาน ผมว่าอันนี้แหละบาปแน่ๆ ผมเคยสนทนาธรรมกับพระเรื่องแบบนี้เหมือนกัน พระท่านตอบว่า คนเรามีทางเลือกเสมอ ถ้าเกรงในบาปก็ให้เลือกทานเจไป แต่ถ้าไม่มีทางเลือกก็ขอให้เรารำลึกบุญคุณของขีวิตที่ให้เรากิน ให้เรามีชีวิตอยู่ต่อไป และให้เราขอโหสิกรรม.  แผ่เมตตา หรือกรวดน้ำและระลึกถึงเขาที่ให้คุณกับเรา จากคุณ : songyot001 (songyot001) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:18:07

ความคิดเห็นที่ 8 สมมติผมฆ่าฮิปโปกิน ได้ 5 บาป รุ่งขึ้น ผมทำบุญปล่อยปลาวาฬ ได้ 15 บุญ (ได้บุญมากเนื่องจากมวลปลาวาฬเยอะ) หักลบกันแล้ว ผมก็จะเหลือ 10 บุญ แบบนี้เท่ากับผมได้ไปสวรรค์ Win Win ใช่มั๊ยครับ จากคุณ : สรยุด (nanasuyoru) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 11:51:44

ความคิดเห็นที่ 9 ถาม จขกท แล้วกินเนื้อคนบาปกว่าเนื้อสัตว์ไหมคะ ? แล้วเนื้อพ่อแม่ เนื้อลูกคุณเองล่ะคุณจะกินไหม ? เนื้อคนอร่อยที่สุดนะ สนใจไหม? จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:03:06

ความคิดเห็นที่ 10 ถ้าคิดว่าฆ่าสัตว์เล็กหรือใหญ่ไม่ต่างกัน ฆ่าพ่อแม่ก็ไม่ต่างจากฆ่ามด ลองดูไหม? แล้วฆาตกรเลือดเย็นฆ่ามาแล้วเป็นสิบศพ ใจบาปเท่ากับคนฆ่ามดสิบตัวใช่ไหม ? แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 12:08:03 จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:05:23

ความคิดเห็นที่ 11 #8 ไม่ใช่จ้า บุญกับบาป บวกลบกันอย่างนั้นไม่ได้ สมมติ ในอนาคต คุณเป็นมะเร็ง แต่อาจได้หมอดีมารักษาทัน จากต้องทรมานจากความเป็บปวด แต่มีบุญมาพบหมอ พบยา ทำให้ไม่ทรมาน แก้ไขเมื่อ 17 ก.ค. 55 12:25:11 จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:07:07

ความคิดเห็นที่ 12 ขอน้อม เอาคำสอนหลวงปู่ชา มาให้จขกท อีกครั้ง กินเจ...กินเนื้อ - "กบ" กับ "คางคก" พระโพธิญาณเถร (หลวงพ่อชา สุภัทโท) วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี วันหนึ่งมีคนมาถามหลวงพ่อชา เกี่ยวกับเรื่องการกินเจ กับการกินอาหารเนื้ออาหารปลาต่างกันอย่างไร อย่างไหนถูก อย่างไหนผิด เพราะปัจจุบัน มีสำนักปฏิบัติที่ถือข้อวัตรปฏิบัติต่างกันมากมายหลายแห่ง บางแห่งถือว่าการกินเนื้อสัตว์เป็นบาปเป็นกรรมร่วม เพราะเท่ากับเป็นการยุให้เขาฆ่าสัคว์ ที่นั้นจะต้องถือมังสวิรัติ เว้นการฉันเนื้อฉันปลาอย่างเด็ดขาด บางแห่งว่าการกินเจเป็นข้อวัตรของเทวทัตที่เคร่งครัดเกินไป จนพระพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาต เขาจึงสงสัยว่าอย่างไรจะถูกอย่างไรจะผิด ในระหว่างข้อวัตรปฏิบัติทั้งสองแบบนี้ ท่านตอบว่า “เหมือนกบกับคางคกนั่นแหละ โยมว่ากบกับคางคกอย่างไหนมันดีกว่ากัน ความจริงแล้ว พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร ไม่ได้เป็นอะไร ในจิตของท่านไม่มีอะไรเป็นอะไรอีกแล้ว การบริโภคอาหารเป็นสักแต่ว่า เป็นเครื่องหล่อเลี้ยงร่างกายพอให้คงอยู่ได้ ท่านไม่ให้ติดในรสชาติของอาหาร ไม่ให้ติดอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่าง ให้รู้จักประมาณในการบริโภค ไม่ให้บริโภคด้วยตัณหา นี่เรียกว่า พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ฉันอะไร ไม่มีอะไร ไม่เป็นอะไรแล้ว ถ้าคนกินเนื้อไปติดอยู่ในรสชาติของเนื้อ นั่นเป็นตัณหา ถ้าคนไม่กินเนื้อ พอเห็นคนอื่นกินเนื้อ ก็รังเกียจและโกรธเขา ไปด่าว่านินทาเขา เอาความชั่วของเขาไปไว้ในใจตัวเอง นั่นก็เป็นคนโง่กว่าเขา ทำไปตามอำนาจของตัณหาเหมือนกัน การที่เราไปโกรธเกลียดเขานั้น มันก็คือผีที่สิงอยูในใจเรา เขากินเนื้อเป็นบาปเราโกรธเขา เราก็เป็นผีเป็นบาปอีกเหมือนกัน มันยังเป็นสัตว์อยู่ทั้งสองฝ่าย ยังไม่เป็นธรรมะ อาตมาจึงว่าเหมือนกบกับคางคก” “แต่ทางที่ถูกนั้น ใครจะกินอะไรก็กินไป แต่ให้มีธรรมะ คนกินเนื้อ ก็อย่าเห็นแก่ปากปากท้อง อย่าเห็นแก่ความเอร็ดอร่อยจนเกินไป อย่าถึงกับฆ่าเขากิน ส่วนคนกินเจก็ให้เชื่อมั่นในข้อวัตรของตัวเอง เห็นคนอื่นกินเนื้ออย่าไปโกรธเขา รักษาตัวเราไว้ อย่าให้คิดอยูในการกระทำภายนอก พระเณรในวัดนี้ของอาตมาก็เหมือนกัน องค์ไหนจะถือข้อวัตรฉันเจก็ถือไป องค์ไหนจะฉันธรรมดาตามมีตามได้ก็ถือไป แต่อย่าทะเลาะกัน อย่ามองกันในเง่ร้าย อาตมาสอนอย่างนี้ ท่านก็อยู่ไปด้วยกันได้ ไม่เห็นมีอะไร ให้เข้าใจว่า ธรรมะที่แท้นั้น เราจะเข้าถึงได้ด้วยปัญญา ทางปฏิบัติที่ถูกก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าเราสำรวมอินทรีย์ คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจไว้ดีแล้ว จิตก็จะสงบ และปัญญาความรู้เท่าทันสภาพของสังขารทั้งหลาย ก็จะเกิดขึ้น จิตใจก็เบื่อหน่ายจากสิ่งที่น่ารักน่าใคร่ทั้งหลาย วิมุตตก็เกิดขึ้นเท่านั้น” (คัดลอกบางตอนมาจาก “ใต้ร่มโพธิญาณ” ใน ข่าวสารกัลยาณธรรม ปีที่ ๕ ฉบับที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๕๓ , หน้า ๕๔-๕๕) ###### ฆ่าสัตว์บาปทั้งนั้น แต่สัตว์ ที่มีคุณประโยชน์ ต่อมนุษย์ ยิ่งบาปขึ้น จากคุณ : กอบัวสวรรค์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:23:14

ความคิดเห็นที่ 13 โห ความเห็นที่ 12 คือว่า ยาว ไม่อ่าน จากคุณ : สรยุด (nanasuyoru) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:34:59

ความคิดเห็นที่ 14 แล้วตอบคำถามเราได้ไหมล่ะ ตอบไม่ได้ล่ะสิ จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 12:58:01

ความคิดเห็นที่ 15 อะไรของคุณครับ คุณแมวเก้าแต้ม กระทู้ผมถกกันด้วยเหตุและผลนะครับ ว่ากันตามความจริงที่จับต้องได้ คุณอย่าเอาอารมณ์มาเป็นใหญ่ ตั้งคำถามแดกดันประชดประชันกันแบบนี้เลย มันดูไม่ดีเอาซะเลยครับ จากคุณ : สรยุด (nanasuyoru) เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:01:30

ความคิดเห็นที่ 16 อืม  จขกท  เขียนยาวมากเลย  อ่านแค่ 4 บรรทัดอ่ะ แต่ของ คห.12 เราอ่านจบอ่ะ  แปลกจัง จากคุณ : ประดับดาว เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:06:18

ความคิดเห็นที่ 17 จขกท นับถือศาสนาอะไรครับ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:08:07

ความคิดเห็นที่ 18 ที่แท้ก็ตอบไม่ได้ หึๆ คําถามเรามันยากตรงไหน สําคัญคือกล้าตอบหรือเปล่า จากคุณ : แมวเก้าแต้ม เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:15:22

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบความเห็นที่ 17 ตามบัตรประชาชน นับถือศาสนาพุทธครับ จากคุณ : nanasuyoru เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:15:32

ความคิดเห็นที่ 20 ตามบัตรประชาชนถือพุทธ  แล้วในใจนับถือศาสนาไหนเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ ^^ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:17:45

ความคิดเห็นที่ 21 ผมให้โอกาสทุกศาสนาเท่าเทียมกันครับ จากคุณ : nanasuyoru เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:24:29

ความคิดเห็นที่ 22 พวกลัทธิ 5บาป ลบ 15บุญ เท่ากับ 10บุญ... นี่ผมเคยผ่านตาว่าเป็นคำสอนของมหายานนิกายหนึ่งครับ ส่วนจขกท.ระวังสีข้างร้อนนะ^_^ จากคุณ : Up_To_You เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:58:25

ความคิดเห็นที่ 23 พระอรหันต์ที่ยังดำรงขันธ์อยู่ (สอุปปาทิเสสนิพพาน) ก็ต้องกินนะครับ ต้องขับถ่าย ต้องดำรงชีพไปตามยถา ดังนั้นผมขอสรุปเอาง่าย ๆ นะครับว่า การกินก็คือการกิน ไม่ว่าจะกินเนื้อ กินเจ กินมังฯ กินสัตว์เล็ก สัตว์ใหญ่ ไม่บาปไม่บุญ เป็นเพียงกิริยา แต่บาปหรือบุญเกิดขึ้นที่จิตใจ เช่นกินด้วยความอยาก ความสนุกสนาน ติดในรสชาติ เป็นต้น อย่างนี้บาป กินด้วยความคิดว่าเราไม่เบียดเบียนเนื้อสัตว์ (กินเจ) อย่างนี้เป็นบุญ แต่ว่าถ้ากินเจแต่ติดในรส นี่ก็กิเลสครับ บาปเหมือนกัน และบาปกว่าคนกินเนื้อที่สักแต่กินเพื่อดำรงชีพ ไม่ติดในรส ด้วยซ้ำไป ทั้งหมดนี้เกิดจากจิตที่ปรุงแต่งไปเท่านั้นครับ คือ อภิสังขาร 3 1.ปุญญาภิสังขาร         ปรุงแต่งเป็นบุญ 2.อปุญญาภิสังขาร       ปรุงแต่งเป็นบาป 3.อเนชาภิสังขาร         ปรุงแต่งไม่หวั่นไหว ปล. การพรากชีวิตสัตว์ คือสังขารที่มีใจครอง มากิน หรือกินเป็น ๆ อย่างนี้บาปแน่นอน      การกินซากสัตว์ คือสังขารไม่มีใจครอง ไม่บาป (ถ้ากินด้วยการมีสติปัญญาแห่งธรรม) จากคุณ : ชีพชาวพุทธ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 13:59:50

ความคิดเห็นที่ 24 บัวใต้ตรมจริงๆ จขกท. อ่านดูแล้ว รู้ไม่จริงเลยซักเรื่อง คิดจะโพสก้อควรศึกษาศาสนาให้มันแจ่มแจ้งกว่านี้หน่อยค่ะ   อยากกิน อยากสวาปามอะไรก้อเรื่องของคุณ ตะกละอะไรก้อกินเข้าไป จะมาโพสถามทำไมคะ ให้กิเลสมันนำชีวิตคุณต่อไป แล้วก้อเวียนว่ายอยู่แบบนี้อ่ะสมควรแล้ว เบื่อกระทู้แบบนี้จริงๆ   จากคุณ : kasikit3511 เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:12:40

ความคิดเห็นที่ 25 คุณความคิดเห็นที่ 24 เอาอะไรมาตัดสินว่าผมอยู่ใต้ตมเหรอครับ ทำไมคนสมัยนี้ชอบเอาไม้บรรทัดของตัวเองมาวัดคนอื่นจังนะ จากคุณ : nanasuyoru เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 15:17:47

ความคิดเห็นที่ 26 เรากิน ผักเพื่อสุขภาพ เท่านั้นคะ ยังกิน อาหารทะเลบ้าง บางครั้ง แต่ หมู หมา กา ไก่ ไม่กิน มาสิบกว่าปีแล้ว เพราะไม่คิดอยากกินคะ กลัวเป็นมะเร็งสารพัดมะเร็ง เรามาตรองๆดูนะ พวกที่เป็นมะเร็งเกิดจากการกินเนื้อสัตว์ และคงจะเป็น เวรกรรมด้วยมั้งคะ ดุพวกฝรั่งสิคะ กิน เนือ้วัวแกะ กินทุกเนื้อเลย คะ เราไปเมืองนอก เมื่อสองปีที่แล้ว มาเขเรากินเนื้อฟาน เนื้อสัตว์ป่า พวกฝรั่งปาดเอาๆ เราเอียนมากเลยละ กินแล้ว พุงโย้ไป เย้มา เพราะ กินโปรตีนเยอะเกินไป อีกอย่างกระเพาะย่อยยากมากเลยคะ คนเป้นโรค ลำไส้กระเพาะน่าจะหลีกเลี่ยงคะ หันมาทานข้าวกล้อง งาบดดีกว่า Macrobioitcs ดีกว่า คนสมัยนี้ เป็นโรค สป๊ะโรค บางโรคไม่รู้สาเหตุก็ เกิดจากการกิน ทั้งนั้นเลยค่ะ อาหารขยะนี้เราไม่กินเลย  สารเคมีเยอะมากเลยคะ เราไม่ยึดความ อร่อยหรือไม่อร่อย พยายามเคี้ยวๆ ช้าๆ แล้วกลืน เพือให้ มีชีวิตอยุ่เท่านั้น ค่ะ กลับบ้ารพยายาม บอกพ่อแม่พี่น้องให้กินข้าวกล้องกินผัก แต่ยากมากเลยคะ จากคุณ : bossy_girl เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 18:47:34

ความคิดเห็นที่ 27 จขกท เองก็มีไม้บรรทัดมาวัดคนอื่น หลายอันซะด้วย แถมบางอันก็หงิกๆงอๆ คดๆ ใจแคบจังที่ไม่ฟังคนอื่น เอแต่เราก็ดั๊นมาเขียน ว่าจะไม่แล้วเชียว จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 19:59:43

ความคิดเห็นที่ 28 ลืมบอก. จขกท ลองอ่าน คห 12 อย่างมีสติ ตัดความอคติ น่าจะได้คำตอบ นอกเสียจากว่าตั้งกระทู้ มาบ่นเอามันส์ก็สุดแท้แต่ท่าน โชคดีนะ จากคุณ : anindita เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 20:03:32

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่รู้อ่ะ..อะไรบาปมากบาปน้อย เพราะกินซากเท่านั้น ไม่สนใจที่มา จากคุณ : บุษกรจันทร์ เขียนเมื่อ : 17 ก.ค. 55 21:22:36

ความคิดเห็นที่ 30 กรุณางดใช้ศัพท์เทคนิคเฉพาะทางครับ ไม่รู้เรื่อง จากคุณ : nanasuyoru เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 08:02:27

ความคิดเห็นที่ 31 ความเห็นส่วนตัว กินไปเถอะไม่บาป ตราบใดสัตว์นั้นสัตว์ที่ตายแล้ว ตราบใดที่คุณไม่ไปสั่งฆ่า หรือมีเจตนาเบียดเบียนชีวิตสัตว์พรากชีวิตสัตว์ หรือทำอาการให้ปรากฎว่าอยากกินตัวนี้ ตัวนั้น จนทำให้คนขายต้องทุบหัวปลาเพื่อคุณ  คือไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับการตายของสัตว์ไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง ส่วนคนที่ต้องมาเป็นชาวประมง คนฆ่าสัตว์ ผมไม่ได้โยนบาปให้เขา แต่มันเป็นวิบากกรรมของเขาเอง ที่ผูกรัดกันมา ที่คุณว่าอีกอย่าง ผมว่าสัตว์ใหญ่นี่ เราฆ่า 1 ชีวิต สามารถทำเป็นอาหารเลี้ยงได้หลายสิบชีวิต คุ้มกว่าอีกนะผมว่า สมมุติ เรา ล้มวัว 1 ตัว สามารถ ทำอาหารได้หลากหลายชนิด ทั้งทีโบนสเต๊ก ริปโบนบาบีคิว เนื้อแดดเดียว ลาบ โหย ตีคร่าวๆ ก็อิ่มกันไป 30 หัวได้ แล้วถ้าวัวบอกว่าขวิดคุณตายคนนึง พวกวัว ควาย กุ้ง หอย ปู ปลา เป็ดนก หนู หมู หมูป่า ไก่ เต่า และฮิปโป คงปลอดภัยกันอีกเยอะหละ ทำไมคุณไม่เป็นฝ่ายตายบ้างหละ ทุกชีวิตเกิดมาก็รักตัวกลัวตาย ถ้ามันเกิดมาเพื่อเป็นอาหาร มันจะหนีทำไม มันจะดิ้นรน ทุรนทุรายทำไม ทำไมมันไม่คิดว่าโอ้ธรรมชาติ เขาสร้างมาให้เป็นอาหาร ถึงเวลาแล้วมันก็เดินมาหาคุณ เอาหัวฟาดกับต้นมะพร้าวตาย เราก็ไม่ต้องหงุดหงิดไล่จับด้วย ส่วนคุณไม่กลัวบาป อันนี้เป็นเรื่องของคุณ  ดวงจิตวิญาณมีนับไม่ถ้วนจะทุกคนมาเข้าใจในแบบเดียวกันหมดคงเป็นไปไม่ได้  ยังไงกรรมที่ทำไปแล้วมันแค่รอเวลาให้ผล ตราบใดที่ยังไม่สู่พระนิพพาน จากคุณ : ดำดง เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:01:39

ความคิดเห็นที่ 32 วัวขวิดผมไม่ตายครับ ผมเป็นอมตะ เพราะผมทำบุญกับธรรมกึยถึงเป้าแล้ว จากคุณ : nanasuyoru เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 12:23:13

ความคิดเห็นที่ 33 เข้ามาสอบอารมณ์ :) จากคุณ : satori (myriostigma) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 13:14:17

ความคิดเห็นที่ 34 ผมอ่าน คห.ของจขกทหลายๆคห.แล้วผม รู้สึกตลกดีครับ ผมเห็นด้วยกับ คห.12 ครับ จากคุณ : เป็นเสือตัวเล็กนะไม่ใช่แมว เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 16:54:01

ความคิดเห็นที่ 35 #10 เขาไม่ได้ประชดอแดกดันะไรเลย แค่ตั้งเป็นคำถามให้คิด โดยคำถามมันมีคำตอบตามหลักเหตุผลของมันอยู่แล้ว ส่วน #8 นั่นไม่ใช่หลักพุทธครับ หลักพุทธจะเป็นยังงี้ คุณจะตกนรกเพราะฆ่าฮิปโป 5 บาป และพอพ้นโทษจากนรกแล้ว คุณจะได้ขึ้นสวรรค์เพราะปล่อยปลา 15 บุญ อาจจะสลับขึ้นสวรรค์ก่อน แล้วค่อยตกนรกก็ได้ สุดท้ายก็ต้องถึงที่หมายเหมือนกัน ส่วนคำถามจขกท. "เค้า" ว่ามันบาป เลยต้องไปาถาม "เค้า" ครับว่ากินสัตว์เล็กบาปป่ะ เพราะตามหลักพุทธแล้วกินโดยไม่รู้ไม่เห็นที่มาไม่บาป ส่วนคนฆ่าบาปแหง๋ๆ แนะนำให้เปลี่ยนอาชีพซะ #3 ไม่ได้โยนบาปให้คนฆ่าครับ เพราะไม่ได้ไปสั่งไปบังคับเขาให้ฆ่านี่นา ตรงกันข้ามแนะนำให้เขาเปลี่ยนอาชีพด้วยเขาจะได้ไม่บาป หยุดฆ่ากันทั้งประเทศเลยจะไปตลาดจะได้มีแต่ผัก+ผลไม้กิน เย่........................... #29 หิวเลยฟ่ะ จากคุณ : โอ่อี๊โอ (oiooo) เขียนเมื่อ : 18 ก.ค. 55 19:41:21