ตอบคุณฟันเฟื่องนะครับ เรื่องหัวใจ ปรึกษาผมได้
ก่อนอื่นคุณต้องทำความเข้าใจคำว่า รัก ก่อนว่า คืออะไร
และคำต่อมาคือคำว่าใช้ชีวิตร่วมกัน เป้นคำที่สองตามมา
รัก กับการครองเรือนนั้นคนละเรื่องกัน
หลังจากการแต่งงานกันแล้ว นางฟ้าอาจ กล่ยเป็นนางยักษ์ ก็ได้
เทพบุตร อาจเป็นซาตาน ได้ เช่นเดียวกัน
การแต่งงานไม่ใช่ปลายทางของความรัก หรือความสำเร็จของการรักกัน
แต่การแต่งงานหรือการครองเรือน นั่น คือจุดเริมต้น ของการเป็นหุ้นส่วนชีวิตกัน
การเป็นหุ้นส่วน ในทุกอย่างในโลกนี้ เมิ่อมีสมองของคนมากว่า 1 คน นั่นหมายถึง มีประเด็นที่จะมานั่ง ขบกันแล้ว ว่า จะปรับจูนความเห็นเข้าด้วยกันได้อย่างไร
ศาสนา ก็คือ 1 ในระบบคิดที่เป้นปัจจัยนึงในชีวิตคู่
สิ่งหลายๆอย่างที่ไม่เหมือนกัน ยิ่งระบบคิดของอิสลาม ก็แตกต่างกันแบบหาเส้นบรรจบด้วยกันยาก
นอกจากว่า อีกฝ่ายจะอ่อนเป็นเป็ดง่อย นั้นเอง
ถ้าคุณ ดึงเค้ามาไม่ได้ เค้าก้ดึงคุณไป หลักการแค่นี้เองครับ
ถ้าคุณไม่ได้ไปด้วยใจ ในใจยังขัดแย้งอยู่ ก็ไปเรียน ยังไม่ต้องรีบร้อน เรียนจนใจพร้อม ตัวพร้อม
เรื่องการครองเรือน ยังไม่ต้องเอามาคิด ตัดไปเลย
เมื่อเรียนแล้วศรัทธาแล้วด้วยใจ ค่อยมาเป้นอิสลาม จากนั้นค่อยมาดู ว่า คุณสองคนไปได้ด้วยกันไหม ถ้าไปไม่รอด สถานะความเป้นมุสลิมคุณยังอยู่
แต่เมื่อเรียนแล้วไม่ศรัทธา ก็ไม่ต้องไปฝืน ต่างคนต่างอยู่ ต่างคนต่างรักกัน
ความรักไม่ใช่การที่ต้องครอบครอง รักนั้นคือการให้
คุณให้เค้าเดินตามทางศาสนา ของเค้า
เค้าให้คุณเดินตามศาสนาของคุณ มีอะไรก้ยังคงช่วยเหลือกันได้ ความรู้สึกดีๆก็ยังคงอยู่ ตลอดไป
ถ้าอยู่กันไปแล้วไปไม่รอด จากคนรักอาจกลายเป้นคนที่เหม้นขี้หน้ากันที่สุดก็ได้ครับ
ลองเอาไปทบทวนดูนะครับ
ชาวพุทธจงดูว่าอิสลามมันหมิ่นพระพุทธศาสนาแค่ไหน ดูกันให้เต็ม ๆ ตา
