ความคิดเห็นที่ 1 ประเด็น -- -- ใครเป็น ศาสดาของท่าน ? "เตชปญฺโญ ภิกขุ" จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 06:51:29

ความคิดเห็นที่ 2 เอาเลย  งานนี้ขอสนับสนุนเฒ่าเซนเต็มที่   จัดการบักสีดา What am I?  ให้เต็มที่เล๊ยยย ... จากคุณ : โขตาน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 07:15:06

ความคิดเห็นที่ 3 กาลมสูตรแน่ๆ เป็นศาสดา. จากคุณ : สะพานหัน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 07:55:03

ความคิดเห็นที่ 4 งง ผมไม่ได้ติดตามผลงานคุณ What am I มาตั้งแต่ต้น มันมีเรื่องอะไรกันครับ จากคุณ : ซุปเปอร์เดปอร์ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 09:47:54

ความคิดเห็นที่ 5 ขออนุญาตแสดงความไม่เห็นด้วยกับท่าน (What am I?) นะครับ ในประเด็นที่ท่านแสดงความเห็น  ที่ จขกท. ยกมา ......... ถ้าสิ่งใดมันไม่เทียง (อนิจจัง) ต้องทนอยู่ (ทุกขัง) สิ่งนั้นก็ไม่ใข่ตัวเรา(อนัตตา) ในทางตรงกันข้าม ถ้าสิ่งใดมันเที่ยง (นิจจัง) ไม่ต้องทนอยู่(สุขัง) สิ่งนั้นจึงจะเป็นตัวเรา(อัตตา) ผมเห็นว่า ไม่ตรงต่อคำสอนของพระพุทธเจ้าครับ โดยเฉพาะต่อคำที่ตรัสว่า "สัพเพธัมมา อนัตตา" ซึ่งมีความหมายว่า "สรรพสิ่ง ล้วนเป็นอนัตตา" ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างโดยสภาพจึง "อนัตตา" ทั้งหมดครับ แต่หากนำทุกสิ่งทุกอย่างมาพิจารณาอีกที ก็จำแนกได้เป็น "สังขตธรรม" และ "อสังขตธรรม" สิ่งที่เป็น "สังขตธรรม" คือสิ่งที่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงมีลักษณะสำคัญคือ อนิจจัง (เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา) และ ทุกขัง (ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้) ส่วนสิ่งที่เป็น "อสังขตธรรม" คือสิ่งที่ไม่มีปัจจัยปรุงแต่ง จึงมีลักษณะสำคัญคือ นิจจัง (ไม่มีการเปลี่ยนแปลง) และ สุขขัง (อยู่ในสภาพเดิมตลอดเวลา) ขอเสนอมาเพื่อพิจารณาครับ. จากคุณ : สุทธิธรรม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 09:57:34

ความคิดเห็นที่ 6 คิดอะไรกันมากมาย เรื่องเที่ยง เรื่องบ่าย มันเที่ยง แล้วมันก็บ่าย แล้วก็ค่ำ ค่ำแล้วก็เช้า แล้วก็วนไปหาเที่ยง...บ่าย...ฯลฯ วัฏจักรของมันเป็นอยู่อย่างนี้ไมมีที่สุด.... ความเที่ยงมันอยู่ตรงนี้เอง...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 10:03:41

ความคิดเห็นที่ 7 ก่อนจักวาลเกิด เช้า สาย บ่าย เที่ยง ไม่มี อย่าลืมครับ เช้า สาย บ่ายเที่ยงเย็นย่ำ ค่ำ มืด เป็น สมมุติบัญญัติด้วยซ้ำนะครับ สิ่งอันไม่ทุกข์ เที่ยง สิ่งเดียวคือ นิพพาน และเป็นปรมถธรรมด้วย แต่ทั้งหลายทั้งปวง สัพเพธรรมมา อนัตตา จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 10:35:48

ความคิดเห็นที่ 8 คคห 13 เรื่องตรรกะง่ายๆแค่นี้ทำไมคุณเซนฯคิดไม่เป็น พระพุทธเจ้าสอนให้เรานำเอาขันธ์ ๕ ของเรานี้มาพิจารณาดูว่า ถ้าสิ่งใดมันไม่เทียง (อนิจจัง) ต้องทนอยู่ (ทุกขัง) สิ่งนั้นก็ไม่ใข่ตัวเรา(อนัตตา) ในทางตรงกันข้าม ถ้าสิ่งใดมันเที่ยง (นิจจัง) ไม่ต้องทนอยู่(สุขัง) สิ่งนั้นจึงจะเป็นตัวเรา(อัตตา) แล้วมันมีสิ่งในขันธ์ ๕ ที่เทียงบ้าง? หรือคุณเซนฯไม่ยอมรับตรรกะนี้? จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 21 ก.ค. 55 20:23:28 [แก้ไข] ที่ผมแดงไว้ข้างบน นี่ใช้ตรรกะเดียวกับลัทธิบางลัทธิ เมื่อไหร่กล่าวว่า สิ่งใดเป็นอัตตา เมื่อนั้นตกอยู่ในมิจฉาทิฐิทันที สัพเพธรรมมาอนัตตา นี่เป็นคำยืนยันจากพุทธพจน์ ชัดเจนครับ ไม่มีอัตตาในสัมมาทิฐิ ศาสนาพุทธ ไม่บิดเบือน ไม่แต่งเติมครับ แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 10:41:37 แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 10:39:17 จากคุณ : สายลมเหงาแห่งขุนเขา เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 10:38:00

ความคิดเห็นที่ 9 เค้าก็บอกแล้วว่า เค้าไม่รู้จริง  วัดดวงเอา ถ้าเองดี ข้าก็บ้า ถ้าเองบ้า ข้าก็ดี ไม่ทั้งเองข้า ก็บ้ากันทั้งคู่ ^^ ก็บอกเกี่ยวกับตัวเขาเยอะแล้ว จากคุณ : saengdaed เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 10:54:24

ความคิดเห็นที่ 10 ........ก่อนจักวาลเกิด เช้า สาย บ่าย เที่ยง ไม่มี..... ยังงั้นเลยเหรอครับ....ขอบคุณครับ ! เผอิญว่ามันอยู่เหนือความรู้   อยู่เหนือการมองเห็นของผม เพราะผมเกิดทีหลังจักรวาลอ่ะครับ...!! จากคุณ : ~นายเฉิ่มศักดิ์~ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 11:12:16

ความคิดเห็นที่ 11 น่าจะตั้งตนเป็นศาสดาไปซะเลย ไหนๆก็คิดเอง ทำเองอยู่แล้ว จากคุณ : via iPhone (Vees) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 12:15:03

ความคิดเห็นที่ 12               (ไม่สามัญแก่ธรรมที่เป็นอสังขตะ คือวิสังขาร ซึ่งมีเฉพาะลักษณะที่สาม คืออนัตตาอย่างเดียว ไม่มีลักษณะสองอย่างต้น); http://www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?text=%C5%D1%A1%C9%B3%D0&detail=on ไตรลักษณ์ ลักษณะสาม อาการที่เป็นเครื่องกำหนดหมายให้รู้ถึงความจริงของสภาวธรรมทั้งหลาย ที่เป็นอย่างนั้นๆ        ๓ ประการ ได้แก่            ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง            ๒. ทุกขตา ความเป็นทุกข์หรือความเป็นของคงทนอยู่มิได้            ๓. อนัตตตา ความเป็นของมิใช่ตัวตน        (คนไทยนิยมพูดสั้นๆ ว่า อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา และแปลง่ายๆว่า “ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา”)        ลักษณะเหล่านี้มี ๓ อย่าง จึงเรียกว่า ไตรลักษณ์,        ลักษณะทั้ง ๓ เหล่านี้มีแก่ธรรมที่เป็นสังขตะ คือสังขารทั้งปวง เป็นสามัญเสมอเหมือนกัน จึงเรียกว่า สามัญญลักษณะ       (ไม่สามัญแก่ธรรมที่เป็นอสังขตะ คือวิสังขาร ซึ่งมีเฉพาะลักษณะที่สาม คืออนัตตาอย่างเดียว ไม่มีลักษณะสองอย่างต้น);      ลักษณะเหล่านี้เป็นของแน่นอน เป็นกฏธรรมชาติ มีอยู่ตลอดเวลา จึงเรียกว่า ธรรมนิยาม        พึงทราบว่า พระบาลีในพระไตรปิฎก เรียกว่า ธรรมนิยาม (ธมฺมนิยามตา) ส่วน ไตรลักษณ์ และสามัญลักษณะ เป็นคำที่เกิดขึ้นในยุคอรรถกถา ---------------------------------------------------------------------------------------------     ธัมมนิยาม  อีกธรรมคือ  ปฏิจจสมุปบาท http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=16&A=590&Z=641&pagebreak=0   สังขารทั้งหลาย อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เป็น ธัมมนิยาม http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/sutta_name.php?book=1&bookZ=45&name=อุปปาทสูตร&book=20&bookZ=20   http://www.google.com/search?q=%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A1+84000&rls=com.microsoft:th:IE-SearchBox&ie=UTF-8&oe=UTF-8&sourceid=ie7&rlz=1I7_____en-GB [86] ธรรมนิยาม 3 - 84000 พระธรรมขันธ์ 84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=86 - Cached - Translate this page You +1'd this publicly. Undo [86] ธรรมนิยาม 3 (กำหนดแห่งธรรมดา, ความเป็นไปอันแน่นอนโดยธรรมดา, กฎธรรมชาติ — orderliness of nature; natural law) 1. สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา ... ธรรมนิยาม - 84000 พระธรรมขันธ์ www.84000.org/tipitaka/dic/v_seek.php?... - Cached - Translate this page Not helpful? You can block www.84000.org results when you're signed in to search.www.84000.org Block all www.84000.org results You +1'd this publicly. Undo ธรรมนิยาม กำหนดแน่นอนแห่งธรรมดา, กฎธรรมชาติ, ความจริงที่มีอยู่หรือดำรงอยู่ธรรมชาติ ของมัน ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงค้นพบแล้วทรงนำมาแสดงชี้แจงอธิบายให้คนทั้งหลายให้รู้ตาม มี ... ปฏิ จ จ ส มุ ป ปาท กถา - 84000 พระธรรมขันธ์ www.84000.org/tipitaka/.../v.php?B... - Cached - Translate this page You +1'd this publicly. Undo ... เป็นธรรมฐิติ เป็นธรรมนิยาม คือความที่ ธรรมนี้เกิดขึ้นเพราะธรรมนี้เป็นปัจจัย พระตถาคต ตรัสรู้ด้วยปัญญา ... สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๓๗ http://www.84000.org/tipitaka/read/? แก้ไขเมื่อ 22 ก.ค. 55 13:03:58 จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 12:40:52

ความคิดเห็นที่ 13 เมื่อเช้าข้ามฝั่งไปเกาะสีชังไปพบท่าน what am I? ท่านว้อทไม่ได้อยู่วัดแต่อยู่กันตามลำพังกับภิกษุ ที่ไม่ได้คล้อยตามท่านประมาณสององค์ สถานที่ไม่จัดว่าเป็นสำนักสงฆ์ตามกฏหมาย ท่านว้อทคงรักอิสระจึงมาอยู่กันแบบนี้ ไม่ได้พบญาติโยมที่ศรัทธาต่อคำสอนของท่าน พวกรถรับจ้างจะรู้จักท่านว้อทในนามพระเล่นเนต มาอยู่บนเกาะมายี่สิบกว่าปีแล้ว บวชมาหลายปีแล้วศึกษางานเขียนหลวงพ่อพุทธทาสอย่างจริงจัง ศาสดาของท่านว้อทคือหลวงพ่อพุทธทาส ท่านเซนต์กับท่านว้อทเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันนะขอรับ จากคุณ : คนกรุงธน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 13:55:55

ความคิดเห็นที่ 14 ขอบพระคุณที่ท่านคนกรงธน ได้กรุณาไปหาความจริง และกรุณาส่งข่าวให้ทราบครับ ขอบพระคุณครับ จากคุณ : วงกลม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 13:59:01

ความคิดเห็นที่ 15 บวชมาหลายปีแล้วศึกษางานเขียนหลวงพ่อพุทธทาสอย่างจริงจัง ศาสดาของท่านว้อทคือหลวงพ่อพุทธทาส ------------------------------------------------------- ศีกษางานท่านพุทธทาสแบบไหนกันถึงเป็นไปได้ถึงเพียงนี้ จากคุณ : นิแรน เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 14:16:27

ความคิดเห็นที่ 16 ขอบคุณ คุณคนกรุงธน ค่ะ ไม่ทราบว่าได้สนทนากับภิกษุที่พบไหมคะ ท่านว่าอย่าไรบ้างคะ? จากคุณ : เอิงเอย เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 14:26:31

ความคิดเห็นที่ 17 การใช้ตรรกะไม่ถูก ก็ทำให้ไขว้เขวได้เหมือนกัน เช่น ช้างเป็นสัตว์ คนไม่ใช่ช้าง คนก็เลยไม่ใช่สตว์ อย่างนี้เป็นการใช้ตรรกะไม่ถูก ลองวาดภาพวงกลมในใจ วาดวงกลม 2 วง ซ้ายวงนึง ขวาวงนึง แล้วก็วาดวงกลมใหญ่คลุมสองวงกลมไว้ วงกลมซ้าย คือ ช้าง วงกลมขวา คือ คน วงกลมใหญ่ คือ สัตว์ ทีนี้ก็น่าจะเข้าใจได้ดีขึ้น ว่า ช้างไม่ใช่คน คนไม่ใช่ช้าง แต่คนและช้างก็เป็นสัตว์ ลองเปรียบเทียบกับไตรลักษณ์ วงกลมซ้าย คือ ทุกข์ วงกลมขวา คือ สุข วงกลมใหญ่ คือ อนัตตา เห็นไหมว่าทั้งสุขและทุกข์ก็เป็นอนัตตา ตามที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ ตรกกะที่บอกว่า สิ่งใดเป็นสุข สิ่งนั้นเป็นอัตตา จึงใช้ไม่ได้ จากคุณ : ภูมิธรรม เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 15:21:55

ความคิดเห็นที่ 18 ขอขอบคุณ  คุณกรุงธน  ที่นำข้อมูลมาเผยแพร่ว่าคุณ what am i เป็นพระภิกษุ เห็นความคิดแผลงๆ คุณ what am i นึกว่าคนบ้ามาป่วนห้องศาสนา จากคุณ : ringside เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 16:18:26

ความคิดเห็นที่ 19 คคห ๑๓ มั่วเสียแล้ว  ---- ข้อความ---------   ศาสดาของท่านว้อทคือหลวงพ่อพุทธทาส ท่านเซนต์กับท่านว้อทเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันนะขอรับ ประเด็นกระทู้นี้ " "เตชปญฺโญ ภิกขุ" -- ใครเป็น ศาสดาของท่าน ?" คุณคนกรุงธน---- อ่าน ไม่เข้าใจ ตรงไหน ครับ อย่าเสนอ คคห ที่ไม่ตรงประเด็นกระทู้ จากคุณ : เซนเเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:44:12

ความคิดเห็นที่ 20 ผม เสนอ แด่ คุณนิแรน ในกระทู้ข้างล่าง  (หาเอง) ว่า ผม นิยม สำนวนแปลพระสูตรเป็นไทยของท่านพุทธทาส ฯ --- จึงไม่ควรถูกตราหน้า (จากใครนั้น) ว่า  "ผม คือ พุทธทาสนิยม แบบ ข้อความที่คุณ คุณกรุงธน  เสนอว่า --- ศาสดาของท่านว้อทคือหลวงพ่อพุทธทาส ท่านเซนต์กับท่านว้อทเป็นศิษย์อาจารย์เดียวกันนะขอรับ คุณคนกรุงธน  และ ท่านอื่นๆ  โปรด "สำเหนียก"  ตาม ข้อความข้างบน และข้างล่างนะครับ เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม ---- จึง ไม่ใช่ "พุทธทาสนิยม"  และ "ธัมมกายนิยม" จากคุณ : เซนเเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:49:32

ความคิดเห็นที่ 21 ใครเป็นศาสดาของท่าน  "ท่านสมาชิก"  ที่เข้ามา  แสดง คคห  กระทู้นี้ ---- ? ข้างบน  มิใช่ คำถาม แตกประเด็นฯ ประเด็นกระทู้ ---  "เตชปญฺโญ ภิกขุ" -- ใครเป็น ศาสดาของท่าน ? จากคุณ : เซนเเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 17:52:40

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณ คุณคนกรุงธน ครับ จากคุณ : yvrhere เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 18:18:00

ความคิดเห็นที่ 23 ประเด็น -- -- ใครเป็น ศาสดาของท่าน ? "เตชปญฺโญ ภิกขุ" จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b)     เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 06:51:29   ************** คติประจำใจของอาตมาคือ "อย่าเชื่อใคร แม้แต่ตัวเอง" ศาสดา (ผู้สอน) ของอาตมาคือ "ตรรกะ" (แต่ก็ไม่ได้เชื่อตรรกะ เพราะตรรกะเป็นเพียงบันไดไปสู่ความจริง) สิ่งที่อาตมาเชื่อก็คือ ความจริงที่ได้พิสูจน์จนเห็นผลอย่างแน่ชัดแล้ว ส่วนศาสดาของคุณซนฯ คือ "ตำรา" ใช่หรือไม่? จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:08:28

ความคิดเห็นที่ 24 นักบวชวอทท่านพิสูจน์อย่างไรครับ อยากจะรู้ เพื่อจะไปพิสูจน์ตาม : ) จากคุณ : OnceWakeUp เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:19:32

ความคิดเห็นที่ 25 นักบวชวอทท่านพิสูจน์อย่างไรครับ อยากจะรู้ เพื่อจะไปพิสูจน์ตาม : ) จากคุณ : OnceWakeUp   เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:19:32    ******************* พิสูจน์หลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้าว่า ดับทุกข์ใจในปัจจุบันได้จริง หลักการก็คือ (๑) การพิจารณาขันธ์ ๕ ให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งว่า "แท้จริงมันไม่ได้มีตัวเราหรือตัวตนของใครๆอยู่จริง" แล้ว (๒) นำเอาความเข้าใจนี้มาเพ่งดูจากสิ่งที่สมมติเรียกกันว่าเป็นตัวเรา-ของเรา (คือจากขันธ์ ๕) อย่างตั้งใจที่สุด (ด้วยสมาธิ) ถ้าจิตมันคลายความยึดมั่นถือมั่นว่าร่างกายและจิตใจนี้คือตัวเรา-ของเราลงจริงๆ (แม้เพียงชั่วคราว) และความทุกข์ทางใจแม้เพียงเล็กน้อยก็ดับหายไปจนหมดสิ้น (แม้เพียงชั่วคราว) ก็แสดงว่าหลักอริยสัจ ๔ ของพระพุทธเจ้านี้ใช้ดับทุกข์ได้จริงๆ เพราะเราได้พิสูจน์จนเห็นผลอย่างแน่ชัดแล้ว แต่ถ้าความทุกข์ใจนี้มันไมได้ดับลงจริง(แม้เพียงชั่วคราว) ก็แสดงว่า หลักการนี้ผิด เพราะใช้ดับทุกข์ไมได้จริง  ก็อย่าเชื่อ แต่คุณ OnceWakeUp เข้าใจเรื่อง "แท้จริงมันไม่ได้มีตัวเราหรือตัวตนของใครๆอยู่จริง"  แล้วหรือยัง? ถ้ายังลองไปศึกษาจากเว็บของอาตมาดู http://www.whatami.net/ จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:41:56

ความคิดเห็นที่ 26 หลวงพี่ เตชปญโญ    พระพุทธองค์บอกว่า ต่อไป พระธรรม จะเป็นศาสดา (ตัวแทน) สืบต่อไปอะครับ...  ตรรกะมันไม่แน่นอนนะ... ก็ดีไม่เชื่อตรรกะ  เอามาเป็นแค่ตัวกำหนด เงื่อนไข ผู้ใดเห็นธรรม ก็เห็นตถาคต...   ดีครับที่หลวงพี่ หลุดจากตำราได้ จากคุณ : นบนอบ เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:52:14

ความคิดเห็นที่ 27 หลวงพี่ เตชปญโญ    พระพุทธองค์บอกว่า ต่อไป พระธรรม จะเป็นศาสดา (ตัวแทน) สืบต่อไปอะครับ...  ตรรกะมันไม่แน่นอนนะ... ก็ดีไม่เชื่อตรรกะ  เอามาเป็นแค่ตัวกำหนด เงื่อนไข ผู้ใดเห็นธรรม ก็เห็นตถาคต...   ดีครับที่หลวงพี่ หลุดจากตำราได้ จากคุณ : นบนอบ   เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 20:52:14    ************* ถูกต้องที่ว่า "ต่อไป พระธรรม จะเป็นศาสดา (ตัวแทน)สืบต่อไป" แต่พระธรรมที่แท้จริงนั้นอยู่ที่ไหน? อันนี้เป็นปัญหาที่เราต้องแก้ ถ้าบอกว่า อยู่ในตำราพระไตรปิฎก ก็อย่าลืมความจริงที่ว่า "แม้ตำราพระไตรปิฎก ก็อาจถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงให้ผิดเพี้ยนไปจากต้นกำเนิดได้" ดังนั้นมันจึงมีความเสี่ยงที่เราจะได้พบกับพระธรรมที่ผิดเพี้ยน แต่ถ้าเราเอาตรรกะมาใช้ในการศึกษา เราก็จะเข้าใจถึงหลักคำสอนที่แท้จริง(หรือพระธรรม)ของพระพุทธเจ้าได้ และจากความเข้าใจนี้ เราก็เอามาพิสูจน์หรือทดลองปฏิบัติ เมื่อพบว่ามันใช้ดับทุกข์ได้จริง (คือพระพุทธเจ้าสอนเรื่องการดับทุกข์ทางใจของเราในปัจจุบัน หรืออริยสัจ ๔) เราก็แน่ใจได้เลยว่าเราพบพระธรรมที่แท้จริงเข้าแล้ว แต่ถ้ามันใช้ดับทุกข์ไม่ได้จริง เราก็รู้ได้เลยว่านี่ไม่ใช่พระธรรมที่แท้จริง จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 21:04:44

ความคิดเห็นที่ 28 อุปัขฌาจารย์ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) คือ ท่านใด? ตอบให้ตรงคำถามไหม : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) กิเลสตัวไหน : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) ที่ ทำให้  ตอบไม่ตรงคำถามกระทู้ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 21:11:07

ความคิดเห็นที่ 29 อุปัขฌาจารย์ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) คือ ท่านใด? ตอบให้ตรงคำถามไหม : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) กิเลสตัวไหน : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) ที่ ทำให้  ตอบไม่ตรงคำถามกระทู้ จากคุณ : เซนเถรวาทปฐมสังคายนานิยม (F=9b)     เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 21:11:07   ****************** ถ้าตอบแล้วคุณเซนฯจะเกิดดวงตาเห็นธรรมแล้วทิ้งตำราได้หรือเปล่า? จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 21:14:36

ความคิดเห็นที่ 30 ขอเชิญคุณเซนฯไปถามอีกที่กระทู้ใหม่ http://www.pantip.com/cafe/religious/topic/Y12409013/Y12409013.html#6 จากคุณ : เตชปญฺโญ ภิกขุ (What am I?) เขียนเมื่อ : 22 ก.ค. 55 21:15:51

ความคิดเห็นที่ 31 ไม่มีอะไร........บ้าเห่อธรรมะ และเน็ตมากกว่า จากคุณ : ไม่คิดมาก เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 10:09:45

ความคิดเห็นที่ 32 ผมเหมือนนั่งดูคนที่ "คิดเอง" .. "ตัดสินเอง" .. "กำหนดเอง" .. และก็ "ยกตัวเอง" .. อะครับ .. สนุกดีครับ เหมือนอ่านนิทานเรื่องนึงเลย อย่างไรซะ .. ผมก็ยังยืนยันว่า "ตำรา คือสิ่งที่ ผุ้ทรงภูมิ ในเรื่องนั้น ๆ เป็นคนถ่ายทอดเรื่องราว, ความคิดต่าง ๆ ลงสู่กระดาษ หรือ ตำรา นั้น ๆ เพื่อสืบทอดความคิดต่อไป" .. ตำรา ไม่ใช่คน จะเป็น "ศาสดา" ได้อย่างไร? เรื่องแค่นี้ ยังแยกแยะไม่ออก .. ก็ไม่ต้องไปพูดเรื่องอื่นแล้วครับ .. มีใครบ้าง ยึดถือ "ตำราเป็นศาสดา?" เพ้อเจ้อเหรอครับ? ถ้าเป็นตัวแทนก็ว่าไป .. หรือระลึกถึงองค์ศาสดา หรือ ใด ๆ ก็ตามก็ว่าไป ถามคำถามแบบนี้ "ตำราคือศาสดาใช่หรือไม่?" .. ปัญญาอ่อนไปนิดครับ .. ใช้สมองคิดก็รู้แล้วว่า คำตอบคืออะไร ทำไมต้องตั้งเป็นคำถาม? หรือว่าแยกแยะไม่ออกจริง ๆ ?? ป.ล. ไม่ต้องใช้ธรรมะบทไหน ยกอะไรมาอ้างหรอกครับ คิดแบบ คอมมอนเซนส์ ก็พอแล้ว .. เฮ้อออ จากคุณ : tothza_one เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 55 12:31:34