ความคิดเห็นที่ 1 จากเด็กเลี้ยงแก่สู่กษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ หลังจากที่พระเจ้าทรงเลิกสนับสนุนกษัตริย์ซาอูล ก็ทรงส่งซามูเอลไปหาเจสสีผู้เป็นพ่อของดาวิด เพื่อแสดงความประสงค์ว่า พระองค์จะทรงเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ ของอาณาจักรอิสราเอลต่อจากกษัตริย์ซาอูล และผู้ที่ถูกเลือกคือลูกคนเล็กของเจสสี ซึ่งกำลังเลี้ยงแกะอยู่ และเจิมดาวิด เพื่อเป็นกษัตริย์พระองค์ต่อไป จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:24:28

ความคิดเห็นที่ 2 ดาวิดขึ้นปกครองเป็นกษัตริย์ของยูดาห์และอิสราเอล ได้รวบรวมแผ่นดินของท่านขึ้นเป็นปึกแผ่น และยึดเอา เมืองเยบุสและตั้งขึ้นเป็นเมืองหลวง โดยให้ชื่อใหม่ว่าเยรูซาเล็ม ทรงสร้างพระราชวังสำหรับตนเอง และดำริจะสร้างพระนิเวศน์ให้กับพระเจ้า จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:25:14

ความคิดเห็นที่ 3 พระองค์ได้บรรดาเมืองต่าง ๆ รอบด้าน เป็นเมืองขึ้น รบกับพวกอัมโมนและมีชัย แต่ยังไม่ได้เข้าไปยึดครองเต็มตัว พวกอัมโมนถอยหนีไปตั้งหลักในเมืองรับบาห์ เมื่อฤดูร้อนมาถึง กษัตริย์ดาวิดทรงส่งกองทัพอิสราเอล นำโดยโยอาบไปล้อมเมืองรับบาห์นี้ไว้ รอเวลาให้ชาวอัมโมนยอมแพ้ไปเอง กษัตริย์ดาวิดไม่อยากออกไปนอนคอยที่ค่ายทหารในทุ่งโล่งนอกเมือง พระองค์เลือกที่จะประทับอยู่ในพระราชวังกรุงเยรูซาเล็มแทน จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:26:49

ความคิดเห็นที่ 4 กษัตริย์ดาวิดทรงตื่นจากบรรทมสาย ๆ และเตรียมตัวเข้าบรรทมอีกในตอนเย็น พระองค์ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปบนชั้นดาดฟ้าหลังคาของพระราชวัง มองลงไป เห็นสตรีงามนางหนึ่ง กำลังอาบน้ำอยู่ เป็นพิธีชำระตัวให้พ้นมลทิน เพื่อทำตามธรรมบัญญัตติ นางไม่ได้จงใจทำตัวไม่เหมาะสม นางกำลังอาบน้ำในตอนค่ำ และเนื่องจากความจน นางจึงไม่มี ห้องหับเป็นส่วนตัว กษัตริย์มีพระราชวังที่อยู่สูงกว่าคนทั่วไป จึงสามารถมองลงมาเห็นได้ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:29:14

ความคิดเห็นที่ 5 กษัตริย์ดาวิดตะลึงในความงามของนาง จึงส่งคนออกไปสืบเสาะว่านางเป็นผู้ใด เมื่อรู้ว่านางเป็นใคร และรู้ด้วยว่านางแต่งงานแล้ว กับอุรียาห์ คนฮิทไทต์ นายทหารของพระองค์เอง กษัตริย์ดาวิด ก็น่าจะยุติเรื่องนี้ลง แต่กลับไม่ พระองค์ทรงส่งคนไปนำนางมาที่พระราชวัง และบรรทมกับนาง เมื่อนางชำระตัวให้สิ้นมลทินแล้ว นางจึงกลับบ้านไป เรื่องน่าจะยุติลง เพราะกษัตริย์ดาวิดไม่ได้ต้องการสนมเพิ่ม ไม่ได้แม้อยากจะสานต่อเรื่องราวนี้อีก พระองค์เพียงทอดพระเนตรมองหาความตื่นเต้นเร้าใจ เหมือนกับที่ในสนามรบ แต่เป็นที่บรรจถรณ์! จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:30:23

ความคิดเห็นที่ 6 เรื่องกลับตาลปัตร เมื่อบัทเชบา ส่งคนมาส่งข่าวว่า นางตั้งครรภ์ กษัตริย์ดาวิดหาทางปกปิดบาปของพระองค์เอง ด้วยการสั่งโยอาบให้ส่งอุรียาห์กลับมาบ้าน หยุดพักงานชั่วคราว ทำทีเหมือนว่ากลับมารายงานเรื่องสงคราม พระองค์ทรงพยายามทำแผน เพื่อให้อุรียาห์กลับบ้าน ไปหลับนอนกับภรรยา ประหนึ่งเป็นความใจดีของพระองค์ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:31:42

ความคิดเห็นที่ 7 แต่เมื่อแผนไม่สำเร็จ พระองค์เริ่มเปลี่ยนเป็นขู่แกมบังคับ และหนักข้อขึ้นไปอีกด้วยการมอมเหล้าให้เมา เพื่อจะทำในสิ่งที่ ถ้าปกติดีจะไม่ประสงค์จะทำ เมื่อแผนการทั้งหมดต่างล้มเหลวไม่เป็นท่า เพราะบุคคลิกที่ซื่อตรงของ อุรียาห์ กษัตริย์ดาวิดจึงส่งอุรียาห์กลับไปหาโยอาบ พร้อมกับคำสั่ง ให้พยายามทำให้เขาไปตายในสนามรบ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:32:41

ความคิดเห็นที่ 8 โยอาบ ทำตามคำสั่งและส่งคนกลับไปรายงาน ให้กษัตริย์ดาวิดทรงทราบ "งานสำเร็จลงแล้วพะย่ะค่ะ" เมื่ออุรียาห์ตายลง บัทเชบาตอบสนองต่อการตายของสามีตามที่เราคาด และหวังเอาไว้ จากในพระคัมภีร์ นางไม่มีส่วนรู้เห็นใด ๆ ต่อแผนการที่กษัตริย์ดาวิดคิดร้ายต่อสามีของนางเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการฆาตรกรรม ไม่ต้องสงสัย นางรู้เรื่องข่าวการตายของสามีเหมือนกับหญิงม่ายคนอื่น ๆ รู้ ไม่ว่าจะในสมัยนั้นหรือสมัยนี้ เมื่อได้รับแจ้งอย่าง เป็นทางการว่า สามีสิ้นชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ในราชการ นางคร่ำครวญและไว้อาลัยให้กับอุรียาห์ นางคร่ำครวญ ถึงการตายของสามี เพราะความรักที่นางมีต่อเขา จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:34:43

ความคิดเห็นที่ 9 ส่วนกษัตริย์ดาวิด ไม่ได้แสดงอาการเสียใจ เลย ไม่ได้แม้กระทั่งแกล้งทำเป็นโศกเศร้า ตามปรกติ เมื่อนักรบคนเก่งของอิสราเอล ตายลง กษัตริย์ดาวิดจะนำให้คนทั้งชาติไว้อาลัยในการสูญเสีย พระองค์ทรงคร่ำครวญถึงการตายของซาอูลและบุตร ที่ถูกฆ่าตายในระหว่างสงครามกับฟิลิสเตีย (2 ซามูเอล 1) พระองค์ทรงคร่ำครวญต่อการตายของอับเนอร์ ที่ถูกโยอาบ ฆ่าตายอย่างทารุณ (2 ซามูเอล 3:28) พระองค์ทรงส่งคณะผู้แทนไปในพิธีไว้อาลัยให้กับนาหาช กษัตริย์ของอัมโมน (2 ซามูเอล 10) แต่เมื่ออุรียาห์ ถูกฆ่าตาย "ในสงคราม" กษัตริย์ดาวิดไม่ตรัสวาจาแม้สักคำเดียวจากพระโอษฐ์ของพระองค์ ถึงการสูญเสียในครั้งนี้ พระองค์ไม่ได้รู้สึกโทมนัส พระองค์ทรงบรรเทาพระหฤทัยต่างหาก จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:35:38

ความคิดเห็นที่ 10 แทนที่พระองค์จะทรงจัดพิธีไว้อาลัยให้กับอุรียาห์ พระองค์กลับส่งข่าวกลับ ไปให้โยอาบว่า ไม่ต้องเป็นกังวลนัก เมื่อการไว้อาลัยของบัทเชบาสิ้นสุดลง กษัตริย์ดาวิดทรงส่งคนไปรับนางมาเพื่อให้เป็นพระสนม ทำไมกษัตริย์ดาวิดถึงยอมไปรับนางมาให้อยู่ที่บ้าน ในฐานะพระสนม? พระองค์ไม่ประสงค์จะ "ปกปิด" บาปอีกต่อไป มันสายเกินไป จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:36:29

ความคิดเห็นที่ 11 พระครรภ์ ของนางคง ใหญ่พอที่จะเห็นได้ชัดแล้ว และคงไม่ยากเกินไป สำหรับคนอิสราเอลที่จะเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้น กลายเป็นว่า มาถึง ตอนนี้ กษัตริย์ดาวิดไม่ประสงค์จะปกปิดอีกต่อไป แต่พยายามแก้ไขให้เป็นเรื่องถูกต้อง ไม่ว่าเหตุผลใดก็ตาม คงไม่ใช่ เรื่องฝ่ายวิญญาณหรอกครับ แต่เป็นเรื่องสนองตัณหาตัวเองมากกว่า จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:37:11

ความคิดเห็นที่ 12 ประกาศกนาธันแสดงการตอบสนองต่อการตายของอุรียาห์ด้วย อยู่ในตอนต้นของบทที่ 12 แต่ขอให้รอไว้ก่อน ให้เรา มาดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นในชีวิตของกษัตริย์ดาวิดบ้าง ที่ไม่มีการบันทึกไว้ และผู้เขียนพระธรรมซามูเอลไม่ได้เล่าถึง แต่กษัตริย์ดาวิดเองเปิดเผยให้เรารู้จากพระธรรมสดุดีที่ท่านเขียน สะท้อนให้เราเห็นภาพของเหตุการณ์ในตอนนี้ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:38:13

ความคิดเห็นที่ 13 กษัตริย์ดาวิดเตรียมตัวจะกลับใจ (สดุดี 32:3-4) 3 เมื่อข้าพระองค์ไม่แจ้งบาปของข้าพระองค์ ร่างกายของข้าพระองค์ ก็ร่วงโรยไป โดยการคร่ำครวญวันยังค่ำของข้าพระองค์ 4 พระหัตถ์ ของพระองค์หนักอยู่บนข้าพระองค์ทั้งวันทั้งคืน กำลังของข้าพระองค์ ก็เหี่ยวแห้งไปอย่างความร้อนในหน้าแล้ง สดุดีบทที่ 32 เป็นหนึ่งในสองบท (อีกบทคือบทที่ 51) ที่กษัตริย์ดาวิดได้สะท้อนให้เราเห็นถึง ความบาปของท่าน การกลับ ใจ และการกลับคืนสู่สภาพดี ข้อ 3-4 ของบทที่ 32 มุ่งไปที่สิ่งที่ผมกำลังจะบอกว่าเกิดเหตุการณ์ ใดขึ้นในตอนนี้ พระธรรมสองข้อนี้ตรงกับเหตุการณ์ในบทที่ 11 และ 12 ของ 2 ซามูเอล จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:39:08

ความคิดเห็นที่ 14 การที่ประกาศกนาธันผู้เผยพระวจนะ มาเผชิญหน้ากับดาวิดตามที่บันทึกอยู่ใน 2 ซามูเอลบทที่ 12 เป็นเหตุทำให้กษัตริย์ดาวิดสำนึกผิด และ สารภาพบาป แต่การสารภาพนี้ไม่ได้เป็นผลมาจากการที่ถูกประกาศกนาธันตำหนิ แต่เป็นการที่ดาวิดตอบสนองต่อ การกระทำของพระเจ้าในจิตใจท่าน ก่อนที่ท่านจะสารภาพบาป ในขณะที่ท่านกำลังพยายามจะปกปิดมัน พระธรรมสองข้อนี้ กษัตริย์ดาวิดแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพระเจ้ากำลังทำการอยู่ ถึงแม้จะไม่ปรากฏให้เห็นภายนอกก็ตาม จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:40:16

ความคิดเห็นที่ 15 ในระหว่างที่กษัตริย์ดาวิดพยายามปกปิดบาปของตน พระเจ้ากำลังทำการอยู่โดยให้สำแดงชัดแจ้งในจิตใจท่าน มัน ไม่ใช่เวลาแห่งความสุขสักนิดเดียว อย่างที่พวกมารมันชอบให้เราคิด แต่เป็นวันคืนที่น่าเศร้า กษัตริย์ดาวิด ระทมอยู่ในความรู้สึกผิด ท่านนอนไม่ได้ และกินไม่ได้ด้วย กลางคืนท่านไม่หลับ เริ่มอ่อนเพลีย น้ำหนัก ลดลง จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:41:09

ความคิดเห็นที่ 16 ไม่ว่ากษัตริย์ดาวิดจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม พระเจ้ากำลังทำการอยู่ในท่าน อย่างน้อยท่านก็รู้ตัวว่า ตกอยู่ใน ความระทมทุกข์ ความทุกข์นี้แหละที่ทำให้ท่านอ่อนลง พระเจ้าทรงเตรียมท่านสำหรับคำตำหนิ ที่จะมาจากประกาศกนาธัน และจะทำให้ท่าน สำนึกและกลับใจ กษัตริย์ดาวิดไม่ได้กลับใจ แต่เป็นการแทรกแซงของพระเจ้า ท่านจมลึกลงไปในบาปจนนึกคิดอะไรไม่ออก พระเจ้ากำลังทำการอยู่ในชีวิตของท่าน ทำให้ท่านต้องใจแตกสลาย และนำท่านกลับมาสู่พระคุณของพระองค์ เมื่อประกาศกนาธันเล่าเรื่องแกะให้อดีตเด็กเลี้ยงแกะฟัง (อ่านต่อวันพรุ่งนี้นะครับ) (http://bible.org/seriespage) จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 28 ก.ค. 55 11:43:24

ความคิดเห็นที่ 17 จะตามอ่านในวันต่อไป พระธรรมเก่าไม่ค่อยมีใครพูดถึงมากนัก ขอบคุณท่าน FOB ที่นำมาแบ่งปัน จากคุณ : เฮโรด (Youth In Asia) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 06:09:51

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณครับ คุณเฮโรด นึกว่าจะไม่มีคนอ่านเสียแล้ว พระธรรมเก่า หาบทความยากมากเลยครับ บาปนี้ของดาวิด ผมประทับใจมาก และ เก็บไว้สอนตัวเองอยู่เสมอ เวลาประสพความสำเร็จ เรามีโอกาสทำบาปมากกว่าตอนที่เราล้มเหลวนะครับ บาปหยิ่งจองหอง ทำให้เกิดบาปอื่น ๆ ได้ง่าย พอทำบาปหนึ่ง เราก็จะไหลไปตามบาป เราไม่รู้ตัวเลย ทิ้งวัด ทิ้งสวด ทิ้งความดีทุกอย่าง กว่าจะรู้สึกตัว ก็แทบลุกจากบาปไม่ขึ้นแล้ว ผมขออนุญาตต่อพรุ่งนี้นะครับ เรื่องที่ผมเตรียมไว้อยู่ที่คอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ไม่ได้อยู่ที่บ้านครับ ตอนต่อไปก็เศร้าพอกัน คนที่ได้ทุกอย่างจากพระ แล้วทรยศพระนี่ เขารู้สึกอย่างไร ประกาศกนาธัน พูดจนพระองค์ทรงฉีกพระภูษาสวมเสื้อกระสอบ เอาเถ้าโรยศีรษะเลย จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 07:04:38

ความคิดเห็นที่ 19 ติดตามอ่านด้วยคนครับ    แต่ไม่ค่อยได้โพสครับ   ขอขอบคุณท่าน จขกท.ด้วยครับที่หาบทความดีๆมาให้อ่านกัน จากคุณ : Arrow frog เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:58:37

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณครับ คุณ Arrow frog ขอเรียนว่าผมมิได้ต่อว่านะครับ เพียงแต่ผมกลัวว่าเนื้อหาที่นำมาจะยาวเกินไป ยากเกินไป แล้วก็เนื้อหาอิงประวัติศาสาตร์มากกว่าศาสนา จะทำให้ผู้อ่านเบื่อได้ครับ พรุ่งนี้ผมจะนำบทสรุปมาลงให้จบครับ ขอพระเจ้าอวยพรทุกท่านครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 15:33:14

ความคิดเห็นที่ 21 เป็นหนึ่งในเรื่องที่ชอบที่สุดในพระคัมภีร์เก่าเลยค่ะ ขอบคุณมากๆนะคะ ขอพระอวยพรค่ะ จากคุณ : being last on your list เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:15:33

ความคิดเห็นที่ 22 กรุณาติดตามอ่านต่อที่กระทู้ใหม่ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 11:20:35

ความคิดเห็นที่ 23 ขอบพระคุณครับ คุณ being last on your list เป็นเรื่องโปรดของผมเช่นกันครับ แต่ปรกติผมจะไม่กล้าอ่าน เพราะเจ็บปวดเหมือนมีมีดแทงกลางใจทุกครั้ง พระคัมภีร์เก่า เรียกร้อง ความสำนึกผิดบาป ขณะที่พระคัมภีร์ใหม่ มอบความรักของพระเจ้า ไม่ทราบน้ำตาของความสำนึกผิด กับ น้ำตาของความซาบซึ้งในพระคุณ อย่างไหนจะให้ความสุขแก่เรามากกว่ากันนะครับ ขอพระอวยพร คุณ being last on your list ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 12:06:13

ความคิดเห็นที่ 24 ความอัศจรรย์ของพระคัมภีร์ประการหนึ่ง คือ ความทันสมัยอยู่เสมอนะคะ จะกี่ร้อยกี่พันปี ก็สามารถนำมาใช้ได้เสมอเลย เสียดายแทนที่คนไม่ค่อยจะสนใจอ่านพระคัมภีร์ มีพระคุณซ่อนอยู่อย่างอุดมเลย ขอบพระคุณ คุณFOB ที่เรียบเรียงออกมาให้เข้าใจง่าย และเชื่อว่าต้องมีหลายคนที่อ่านนี้ กลับไปค้นหาพระคัมภีร์มาอ่านค่ะ จากคุณ : being last on your list เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 14:26:56

ความคิดเห็นที่ 25 รู้สึกดีใจครับ ที่มีคนชอบ พระคัมภีร์เดิม มีอีกหลายเรื่องเลยที่น่าประทับใจ เพียงแต่ว่าแต่ละเรื่องยาวไปหน่อย พระคัมภีร์เดิม คล้ายกับเป็นนิทาน เป็นประวัติศาสตร์ มากกว่าเป็นเรื่องสั้น อย่างในพระคัมภีร์ใหม่ ไม่ค่อยเหมาะที่จะเขียนลง Blog เลย กลัวคนอ่านจะเบื่อ ครั้นจะไม่ปูพื้นถึงที่มา ก็เกรงว่าจะไม่เข้าใจ เดิมผมจะนำเนื้อหาจากพระคัมภีร์มาลงด้วย เหมือนกระทู้อื่น ๆ แต่เกรงว่าจะยาวไป คนอ่านจะยิ่งเบื่อครับ เลยตัดทิ้งไป ทำให้ต้องลำบากไปหามาอ่านอีก แต่ก็ดีอย่างหนึ่งครับ จะได้อ่านเรื่องอื่น ๆ ด้วย พระคัมภีร์ ยิ่งอ่านยิ่งเข้าใจ ยิ่งอ่านยิ่งรักนะครับ ขอบพระคุณมากครับ คุณ  being last on your list ที่กรุณาแวะมาอ่านและให้ความเห็นครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 21:27:32

ความคิดเห็นที่ 26 พระคัมภีร์เดิมสนุกค่ะ จำได้ว่ายายอ่านเป็นนิทานก่อนนอนให้ฟังตั้งแต่เล็ก เลยชอบพระคัมภีร์เดิมค่ะ จากคุณ : being last on your list เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 15:12:31

ความคิดเห็นที่ 27 ฟังคุณ being last on your list เล่าให้ฟังถึงเรื่องสมัยเด็กแล้ว อดจะรู้สึกอิจฉาคริสตังนอนไม่ได้ครับ เหมือนกับประชากรที่พระเจ้าทรงเลือกไว้แล้ว ให้ได้รับพระพรก่อนคนอื่น ๆ แต่บางคนกลับบอกว่า คนที่มารู้จักพระตอนโตนี่ศรัทธาแรงนะ ขยันไปวัด ขยันสวดภาวนา สวดสายประคำ ก็รู้สึกขอบคุณพระนะครับ ที่ทรงก้มลงมามองเรา สิ่งสร้างผู้ต่ำต้อยนี้ ให้เราได้มีโอกาสใกล้ชิดพระองค์ ไว้ผมจะหานิทานมาเล่าให้ฟังนะครับ จะได้คิดถึงคุณยายไปด้วย ขอพระเมตตาคุณ being last on your list ครับ จากคุณ : FOB เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 20:25:51