ผมว่าความจริงไม่ควรใช้คำว่า "โง่" หรือ stupid " กับผู้ใดเลย,
ตามคำอธิบายในบทความก็อธิบายไว้แล้วว่า
( "yet by simple chance we are going to occasionally come
across) people who we find stubborn, irrational, or just
plain annoying."
ซึ่งบุคลที่มีลักษณะดังกล่าว เราจะเห็นได้อยู่เสมอ อาจจะจัดได้ว่า เป็นผู้ที่ มี "mindset"
คือหมายความว่า
ถ้าเขาฝังใจอย่างมั่นคง เชื่อว่า "เขามีความเฉลียวฉลาดและความสามารถที่เหนือกว่าผู้อื่นแล้ว" นั้นคือเปรียบเสมือนว่า, ทัศนะคติของเขา ฝังแน่นในจิตใต้สำนึก,ดุจดั่งสลักไว้ในแผ่นศิลา, ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เขาอาจจะมีความฉลาดอย่างที่ เขาคิดว่า เขามี, หรือ เขา อาจจะไม่มีความฉลาดอยู่เลยก็ได้,
จึงทำให้เขา ต้องพิสูจน์ตัวของเขา เองอยู่อย่างซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อพยายามทำให้ผู้อื่นเห็นว่า เขาเป็นคนฉลาด และมีสติปัญญาเฉียบแหลมอย่างที่เขาคิด,ในทุกๆวิถีทางที่เขาจะทำได้,ถึงแม้จะหมดตัวก็ยอม, สิ่งนี้เป็นหนทางที่นำไปสู่ความเฉื่อยชาและความล้มเหลวของชีวิตในที่สุด(ซึ่งเป็นอาการของโรคจิตอย่างหนึ่ง)
แต่ถ้าหากเขา เปิดโอกาสให้สติปัญญาของเขาเจริญเติบโต,โดยไม่ฝังแน่นจนเป็นอุปนิสัยดังกล่าวมาแล้วข้างต้น,พรสวรรค์ที่เขามีอยู่สามารถที่จะพัฒนาความสามารถและสติปัญญาของเขาให้เจริญมากขึ้น,ซึ่งจะเป็นหนทางซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิตของเขา
หรืออาจจะกล่าวได้ว่าขบวนการดังกล่าวเป็นสิ่งที่ทำให้บุคคลมีทัศนคติในทางบวกหรือทางลบได้, ถ้าหากเขาไม่เข้าใจตัวเขาเอง
ถ้าเราถูกเขาดูหมิ่นว่า โง่ ให้คิดว่านั้นเป็นการท้าทายที่ทำให้เราพยายามเข้าใจความรู้สึกของเขาและพยายามที่จะมองหาส่วนที่เป็นความดีของเขา
บุคคลประเภทนี้จะไม่มองความผิดพลาดของตนเอง สิ่งใดก็ตามถ้าเขาทำผิดพลาด เขาจะกล่าวโทษ สิ่งแวดล้อมที่ทำให้เกิดความผิดพลาดหรือความไม่เข้าใจในคำอธิบายของเรา เช่น จะกล่าวว่า "It is not my day" หรือ "คุณทำให้ฉันงงหมดแล้ว", หรือนั้นเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า, หรือโทษเวรโทษกรรม, โดยไม่ยอมรับว่า ความผิดพลาดเกิดมาจากการตัดสินใจของเขา หรือ การขาดความรู้ความเข้าใจของเขา