ความคิดเห็นที่ 1 ความเดิม ซากปรักหักพังของวัดเชิงเลน ปรากฏอยู่ริมคลองชักพระ แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ ๕ ไร่ ๒ งาน ๖๐ ตารางวา ตามที่ได้สอบถามและตามที่ชาวบ้านและผู้เฒ่าผู้แก่บอกเล่ากันต่อๆ มา ทราบว่าเคยเป็นวัดเก่าแก่มีอายุนานเกินกว่า ๔ ชั่วคน ตั้งแต่เริ่มจำความได้ก็เห็นวัดอยู่ในสภาพหักพังและรกร้างอยู่แล้ว จากการตรวจสอบอิฐที่ก่อสร้างวัดและวิธีการก่อสร้าง พบว่าเป็นอิฐและวิธีการก่อสร้างวัดในสมัยอยุธยา จึงเชื่อแน่ว่าวัดนี้ควรมีอายุไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ ปี และเนื่องจากวัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองใหญ่ซึ่งเป็นที่ดินที่ลุ่มมาก ดินภายใต้ที่ตั้งวัดเป็นเลนที่มีความอ่อนตัวง่ายจึงได้ชื่อว่า “วัดเชิงเลน” บริเวณที่ตั้งวัดทุกวันระดับน้ำในคลองจะขึ้นลงอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะในฤดูน้ำหลากจะมีน้ำท่วมขังคราวละเป็นเวลานาน จึงเป็นเหตุให้บริเวณวัดทรุดตัวลงอย่างรวดเร็วจนสิ่งปลูกสร้างต่างๆ หักพังทลายลงในที่สุด แม้ต่อมาจะมีการพยายามบูรณะฟื้นฟูหลายครั้งแต่ในเวลาไม่นานสิ่งปลูกสร้างก็หักพังทลายลงไปอีกหมดกำลังที่จะบูรณะต่อไปอีก จึงจำต้องปล่อยทิ้งให้รกร้างมาเป็นร้อยปี จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:16:00

ความคิดเห็นที่ 2 การมาพบซากวัด ในเดือนมีนาคม ๒๕๓๒ ได้พบวัดนี้โดยบังเอิญ สภาพที่พบครั้งแรกบริเวณวัดเป็นบึงหญ้ากว้างใหญ่กลางบึงเป็นพงต้นอ้อขึ้นสูงกว่าที่อื่น ใต้พงอ้อสังเกตเป็นกองอิฐปะปนอยู่ สอบถามจากชาวบ้านทราบว่าเป็นวัดร้างบริเวณพงอ้อนั้นคือซากโบสถ์ ส่วนบริเวณวัดส่วนอื่นได้จมลงไปเกือบหมดลงเหลือแต่ซากเจดีย์ริมคลองซึ่งจะปรากฏขึ้นเวลาน้ำลดเท่านั้น ตามข้อเท็จจริงชาวบ้านไม่สามารถทำสวนมานานแล้ว เพราะน้ำท่วมจึงได้แต่อาศัยที่หน้าวัดบริเวณริมคลองปลูกบ้านเป็นที่อยู่อาศัย เมื่อได้เข้าไปสำรวจและแผ้วถางหญ้าบริเวณที่เป็นโบสถ์พบซากโบสถ์มีกองอิฐและกองไม้โครงหลังคาซึ่งหักพังลงมากองทับรวมกันอยู่และเหลือซากกำแพงบางส่วนตัวโบสถ์โผล่พ้นน้ำเพียงนิดเดียว ในฤดูน้ำคงท่วมซากโบสถ์เกือบมิด เพราะสังเกตบ้านผู้เช่าวัดปลูกยกพื้นบ้านสูงกว่าระดับที่ตั้งโบสถ์มาก จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:17:22

ความคิดเห็นที่ 3 นอกจากซากโบสถ์ยังพบพระพุทธรูปเศียรขาด ๓ องค์ ทราบว่าถูกลอบตัดไปนานแล้ว เวลาที่ถูกตัดเป็นเวลากลางคืนชาวบ้านเล่าว่าในคืนที่พระพุทธรูปถูกลอบตัดเศียรมีลมพายุพัดรุนแรง ฝนตกหนักฟ้าร้องฟ้าผ่าเสียงดังสนั่นหวั่นไหวทั้งคืนเหมือนกับเทพยาดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ได้แสดงความโกรธกริ้วและโศกสลดต่อการกระทำของมนุษย์ใจบาปพวกนั้น นอกจากนี้จากการสำรวจรอบๆ บริเวณโบสถ์ซึ่งไม่กว้างนักยังพบใบเสมาที่ทำด้วยหินเกรนิตหนึ่งใบและพบหลุมฝังลูกนิมิตรรอบโบสถ์ ซึ่งได้ก่อเจดีย์เล็กๆ ครอบปิดหลุมไว้ มีสภาพชำรุดทรุดโทรมมากมีต้นไทรและต้นโพธิ์ขึ้นเต็มทั้งองค์เจดีย์ บริเวณโบสถ์นี้นานมาแล้วเคยถูกถางให้เตียนและก่อสร้างหลังคาสังกะสีคลุมไว้โดยนักเล่นหวยเบอร์ที่เข้ามาขอหวยและถูกหวยใต้ดิน ต่อมาเมื่อไม่ถูกหวยแลหมดทุนแทงหวยแล้ว สภาพก็ถูกปล่อยทิ้งร้างไว้โดยปราศจากผู้ดูแลกลายเป็นสถานที่เด็กๆ ในละแวกนี้ใช้เป็นสถานที่ละเล่นต่างๆ เช่น ทอยกอง โยนห่วง บางครั้งใช้เศียรพระพุทธรูปเป็นหลักโยนให้ห่วงคล้อง มีการกระโดดข้ามพระพุทธรูปไปมาเป็นที่สนุกสนานโดยไม่คิดอะไรตามภาษาเด็ก ตกเย็นๆ บางวันก็เป็นสถานที่พบปะของวัยรุ่นหนุ่มคะนองเพื่อดื่มสุรายาเมา เมื่อเมาได้ที่ก็ใช้กำแพงโบสถ์ทั้งภายในและภายนอกรอบๆ บริเวณโบสถ์เป็นที่ถ่ายหนักเบาไปทั่ว จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:18:13

ความคิดเห็นที่ 4 บังเกิดความคิดและศรัทธาจะบูรณะฟื้นฟูสภาพซากปรักหักพังขึ้นคืนเป็นวัด เมื่อได้เห็นสภาพวัดร้างและได้ทราบเรื่องราวเกี่ยวกับวัดร้างนี้ทำให้เกิดความรู้สึกสลดหดหู่ใจเป็นที่สุดไม่นึกเลยว่าใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของประเทศไทยมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ สิ่งปลูกสร้างอันเป็นตัวแทนที่ระลึกถึงพระคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ พระพุทธศาสนาจะถูกย่ำยีและถูกทอดทิ้งโดยปราศจากการดูแลถึงขนาดนี้ ซึ่งหากปล่อยไว้เช่นนี้ในที่สุด ซากวัดนี้คงชำรุดทรุดโทรมจมลงใต้น้ำในที่สุด และชื่อวัดเชิงเลนคงจะหายไปจากความจำของคนรุ่นหลังแน่นอน ความรู้สึกที่ได้รับความกดดันทางจิตใจอย่างยิ่ง จากเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้นทำให้เกิดความคิดและความตั้งใจอย่างแรงกล้าว่าจะต้องดำเนินการบูรณะฟื้นฟูภาพปรักหักพักของวัดนี้ให้คืนสภาพเป็นวัดให้สำเร็จให้จงได้ ทันทีที่เกิดความคิดนี้ได้ปรากฏเหตุมหัศจรรย์ท้องฟ้าที่สว่างไสวอยู่พลันมืดครื้มโดยปราศจากเมฆหมอกเกิดกระแสลมเย็นพัดกรรโชกมากระทบร่างกายทำให้เกิดอาการขนลุกซู่และสบายอย่างประหลาดจึงมีความมั่นใจว่าการบูรณะฟื้นฟูวัดนี้จะต้องสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแน่ เมื่อได้นำความคิดบูรณะฟื้นฟูวัดเชิงเลนกลับไปปรึกษากับเพื่อนฝูงญาติโยมและผู้ใหญ่กับครูบาอาจารย์ที่เคารพนับถือทุกท่านต่างเห็นดีด้วยและจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:19:19

ความคิดเห็นที่ 5 โดยได้กำหนดหลักการบูรณะวัดดังกล่าวไว้ ๓ ประการคือ 1.จะดำเนินการก่อสร้างเสนาสนะเฉพาะที่จำเป็นเช่น โบสถ์ หอฉัน กุฏิ โรงครัว เป็นต้น จะปลูกต้นไม้ยืนต้นมากๆ และจะรักษาสภาพเดิมและซากเดิมของวัดให้มากที่สุดเพื่อเป็นอนุสรณ์และคงความเก่าแก่ไว้ 2.ปัจจัยและอุปกรณ์ต่างๆ จะบูรณะจะดำเนินการให้ได้มาโดยบอกเล่าถึงสภาพและความประสงค์ในการบูรณะแก่ญาติโยมแล้วสุดแต่ผู้ใดจะศรัทธาร่วมกันบูรณะโดยไม่มีการเรี่ยไรใดๆ ทั้งสิ้น 3.เมื่อบูรณะเสร็จก็จะยกเสนาสนะทั้งหมดถวายแก่พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีประพฤติชอบเพื่อใช้สถานที่วัดนี้เป็นที่จำศีลภาวนา เป็นที่ปฏิบัติธรรมของญาติโยมผู้ใฝ่ธรรมและให้ใช้เป็นที่เผยแผ่ และทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป การก่อสร้าง การเริ่มดำเนินการก่อนการบูรณะคือการได้ใช้ความพยายามอยู่หลายเดือนในการติดต่อขอแบ่งเช่าที่ดินซึ่งเป็นบริเวณวัดส่วนใหญ่ที่ชาวบ้านทิ้งไว้ไม่ใช้เนื้อที่ ๔ ไร่ ๓ งาน จากชาวบ้านที่เช่าอยู่เดิมแล้ว จึงได้เจราจาขอทำสัญญากับกรมการศาสนาจนสำเร็จ อุปสรรคที่ตามมาคือช่างผู้รับก่อสร้าง เพราะเนื่องจากที่ตั้งวัดเป็นที่ลุ่ม การก่อสร้างยากมาก รอบๆ วัดเป็นป่าหญ้าและบึงน้ำมียุงมากมาย การหาอาหารการกินลำบาก ผู้รับเหมาที่ไปดูงานส่วนใหญ่ไม่อยากรับงาน ส่วนผู้ที่รับงานก็เรียกร้องราคาสูงมากสุดจะสู้ราคาไหว จนในที่สุดจึงตัดสินใจหาหัวหน้าช่างผู้หนึ่งมาเป็นผู้รับผิดชอบงานนี้และรับสมัครคนงานเองกับจัดซื้อวัสดุก่อสร้างเอง โดยให้ช่างส่วนหนึ่งปลูกที่อยู่อาศัยในบริเวณวัด อีกส่วนหนึ่งทำงานเองกับจัดซื้อวัสดุก่อสร้างเอง โดยให้ช่างส่วนหนึ่งปลูกที่อยู่อาศัยในบริเวณวัด อีกส่วนหนึ่งทำงานเช้าไปเย็นกลับ เมื่อได้ช่างแล้วการบูรณะจึงเริ่มขึ้น ระยะเวลาที่เริ่มบูรณะนั้นเป็นช่วงเข้าฤดูฝนจึงลำบากมากและอยู่ในภาวะที่วัสดุก่อสร้างหายาก โดยเฉพาะเสาคอนกรีตที่จะนำมาตอกเพื่อปูเป็นทางเดินปูนเข้าในบริเวณวัด วัสดุทุกอย่างต้องขนไปทางเรือและใช้แรงคนแบกหามไปที่จุดก่อสร้างบางครั้งต้องชะลอการทำงานเพราะขาดวัสดุ บางครั้งฝนตกหนักงานก่อสร้างบางส่วนคนงานต้องทำงานในน้ำต้องแช่ในน้ำโคลนน้ำเลนเกือบทั้งวัน ร่างกายสกปรกเลอะเทอะ บางครั้งขาดคนงานเพราะสถานที่ก่อสร้างกันดารไม่มีใครอยากอยู่ประกอบกับงานก่อสร้างทั่วๆ ไปขณะนั้นหางานง่าย และงานมีความสะดวกสบายกว่างานก่อสร้างที่วัดมากคนงานเปลี่ยนไปหลายชุด โชคดีที่หัวหน้าช่างไม่เปลี่ยน จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:20:43

ความคิดเห็นที่ 6 เมื่อเริ่มคิดที่จะบูรณะวัดเชิงเลนนั้น ไม่เคยคิดถึงเรื่องปัจจัยและวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างเลยว่าจะได้มาอย่างไรและจากไหน แต่เป็นที่อัศจรรย์ว่าเมื่อเริ่มบูรณะบรรดาปัจจัยและวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างและสิ่งจำเป็นนั้นๆ หลั่งไหลเข้ามาเหมือนกระแสน้ำ ญาติโยมจากทุกทิศทางที่ได้ทราบข่าวและเรื่องราวในภายหลังต่างมีศรัทธาและร่วมบริจาคและอนุโมทนาในความมุ่งหมายดังกล่าวทุกคน แม้แต่ร้านส่งวัสดุก่อสร้างให้วัดยังศรัทธาบริจาควัสดุอุปกรณ์ในการก่อสร้างกุฏิ ๑ หลัง สำหรับพระประธานนั้นเมื่อแรกพบซากวัดไม่ปรากฏว่ามีอยู่แต่ภายในซากโบสถ์ปรากฏพระพุทธรูปปูนปั้นเศียรขาดอยู่ ๓ องค์ ซึ่งมีสภาพชำรุดทรุดโทรม สอบถามชาวบ้านทราบว่าเศียรพระถูกลอบตัดไปทั้ง ๓ เศียร ในวันเวลาเดียวกันภายหลังลงมือบูรณะวัดไประยะหนึ่งมีผู้นำเศียรพระห่อผ้าขาวใส่พานมาให้ลองสวมดูกับองค์เดิมใส่ได้พอดี จึงดำเนินการบูรณะพระพุทธรูปทั้ง ๓ องค์ใหม่ การบูรณะได้ทำโดยช่างปั้นจากจังหวัดกาฬสินธุ์ สิ้นเวลา ๔ เดือน จึงบูรณะเสร็จ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:21:42

ความคิดเห็นที่ 7 การก่อสร้างได้ดำเนินไปด้วยดีจนสำเร็จเสร็จสิ้นในประมาณเดือนมกราคม ๒๕๓๓ สิ้นเวลาทั้งสิ้น  ๖ เดือน  ๑๗ วัน และได้มีพิธีถวายสิ่งปลูกสร้างเสนาสนะทั้งหมดให้แก่พระสงฆ์ไปแล้วในวันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓ ในวันงานมีผู้ไปร่วมงานทั้งภิกษุสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกามากมายจากใกล้ไกลและมาจากทุกทิศ หลังจากนั้นอีก ๔ เดือน ญาติโยมได้จัดสร้างพระประธานสำเร็จ มีพิธีฉลองพระประธานในเดือนมิถุนายน ๒๕๓๓  ในวันงานก็ได้มีญาติโยมไปร่วมงานกันอย่างมากมายเช่นเดียวกับวันถวายวัด การบูรณะฟื้นฟูวัดเชิงเลนจึงเป็นอันสำเร็จสมบูรณ์ด้วยประการฉะนี้ สิ้นค่าใช้จายไปเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ ๓,๔๙๐,๐๐๐ บาท โดยไม่รวมวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้าง เครื่องใช้ต่างๆ ในวัดซึ่งมีผู้ศรัทธาบริจาคสมทบอีกมากมาย สรุปสิ่งก่อสร้างที่ได้จัดทำเสร็จเรียบร้อย ถวายแก่สงฆ์ไปแล้วมีดังนี้ 1.ศาลาหอฉัน 2.โบสถ์ที่บรูณะใหม่ 3.กุฏิ ๖ หลัง 4.ศาลาฟังธรรมแปดเหลี่ยม 5.โรงครัว 6.ที่พักคนเฝ้าวัด 7.ทางเดินคอนกรีตที่ยกเหนือน้ำเข้าวัด และเชื่อมโยงระหว่างกุฏิและสิ่งปลูกสร้างทั้งมวล ในปี ๒๕๓๓ ต่อเนื่องกับปี ๒๕๓๔ ได้พัฒนาวัดเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่องคือได้ปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้รอบๆ วัดและได้ทำการถมดินเสริมคันดินรอบๆ วัด ให้สูงขึ้นเพื่อเป็นเขื่อนรอบๆ วัด เฉพาะค่าถมดินสิ้นเงินไปทั้งสิ้น ๓๘๘,๐๐๐ บาท ดินที่ถมนี้ขึ้นมาจากต่างจังหวัด (อ่างทอง,อยุธยา, ฯลฯ โดยทางเรือแล้วมาจอดเทียบที่ท่าเรือหน้าวัด แล้วใช้แรงคนงานแบกดินคราวละหนึ่งบุ้งกี๋เดินไปถมรอบๆ วัด ซึ่งต้องใช้เวลาและความมานะอดทนมากแต่ไม่พ้นความมานะพยายามและความศรัทธาของญาติโยมสิ้นเวลาไปถึง ๘ เดือน การถมดินเป็นเขื่อนรอบๆ วัดจึงสำเร็จ ต่อไปเป็นการปลูกต้นไม้บนสันเขื่อน ในช่วงเทศกาลกฐิน ได้มีญาติโยมและบุคคลทั่วไปที่ศรัทธาได้ไปร่วมทำบุญกันอย่างเนืองแน่นทุกๆ ปี จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:23:59

ความคิดเห็นที่ 8 ต่อไปเป็นภาพถ่ายวัดป่าเชิงเลนในวันนี้ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:27:15

ความคิดเห็นที่ 9 . จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:28:55

ความคิดเห็นที่ 11 .. จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:31:10

ความคิดเห็นที่ 12 . จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:32:42

ความคิดเห็นที่ 14 .. จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:34:53

ความคิดเห็นที่ 15 ... จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:36:17

ความคิดเห็นที่ 16 . จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:37:40

ความคิดเห็นที่ 17 .. จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:39:08

ความคิดเห็นที่ 18 ... จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:40:40

ความคิดเห็นที่ 19 . จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:45:19

ความคิดเห็นที่ 20 .. จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:46:45

ความคิดเห็นที่ 22 . จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:48:15

ความคิดเห็นที่ 23 ... จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:49:34

ความคิดเห็นที่ 24 http://www.youtube.com/watch?v=bczBYvOjrLo&autoplay=1 จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:55:13

ความคิดเห็นที่ 25 ขอบคุณข้อมูลจาก  http://www.watpachoenglane.com/ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 11:57:01

ความคิดเห็นที่ 27 ขอบคุณ คุณ ongchai_maewmong  กิ๊ฟหมดซะแล้ว (กระทู้นี้อยู่นานหน่อย ฟังเพลงเพลิน) จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 12:38:48

ความคิดเห็นที่ 28 ^26  เข้าใจว่าจขกท.นำเพลงมาประกอบการชมภาพน่ะ (วางแบบเล่นอัตโนมัติ) ตาดู  หูฟัง....   อยู่นาบัวนานหน่อย มีฟามสุข....   ภาพหมดแล้วเหรอฮะ? แก้ไขเมื่อ 29 ก.ค. 55 13:15:58 จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 13:15:21

ความคิดเห็นที่ 30 ภาพสวยดีคะ จากคุณ : dikmor เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 13:22:51

ความคิดเห็นที่ 31 yvrhere , Bg-view  dikmor ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์ครับ คุณBg-view #26 นี้ไม่ธรรมดานะ  ถือว่าบรรลุทางโลกแล้วก็ว่าได้  เอ หรือว่าบรรลุทางธรรมด้วยรึเปล่าหว่า?? yvrhere #29   จากเสียงดนตรีในคลิป จขบ.เพิ่งเข้าใจว่า kitaro เขาสีซอก็วันนี้ละครับ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 13:28:59

ความคิดเห็นที่ 32 กระทู้นี้ไม่ได้ซับซ้อนอะไรนะ เท่าที่ดู จขกท.ไปวัดป่าเชิงเลนมา แล้วถ่ายรูปมาฝาก ดูจาก MM ที่เป็นชื่อจขกท. ปรากฎบนภาพ โดย... 1. เสนอประวัติที่มาที่ไปของวัด (ถ้าจะไปอยู่ไม่ไกลจากกทม.) 2. เสนอบรรยากาศรอบ ๆ วัด ธรรมชาติสงบ ร่มรื่น 3. ได้ทำบุญถวายสังฆทาน (คห.23) 4. มีเพลงประกอบกระทู้ (เชื่อว่าหลายคนฟังเพลง แล้วอยากไปวัด !) การสื่อสารโดยใช้ภาพหรือเสียง ก็ให้ความหมายเหลือเฟือ กระทู้นี้จึงฉีกรูปแบบกระทู้อนุโมทนาแบบเดิม ๆ เยี่ยม! จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 14:47:12

ความคิดเห็นที่ 33 ^ จาก#32ข้างบน ...  โอยๆๆ  ที่นี้มั่นใจละว่าท่านBg-viewต้องเป็นผู้บรรลุแล้วแน่นอน กระผมขอคาระวะ  (ด้วยภาพถ่ายดอกกล้วยไม้จากวัดป่าเชิงเลน) ขอรับ จากคุณ : MM (ongchai_maewmong) เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 16:49:16

ความคิดเห็นที่ 34 เด๋ว ๆ ๆ  คุณ MM Bg-view หาได้บรรลุอะไรใด ๆ จนถือเป็นแก่นสารไม่ จึงมิอาจรับการคารวะจากผู้ใด๋ได้  มีแต่จะไปคารวะผู้อื่น ส่วนดอกไม้น่ะเอา ฮ่า... เปิดกระทู้ได้สวยด้วยรูปดอกบัวชัดตื้น ชอบสุดคือรูประฆัง ร่องรอยสึก บ่งบอกความยาวนานที่วัดนี้ได้ประกาศธรรมออกไป โดยมีต้นไทรเป็นสักขีพยาน  แฮ่ม ! ชอบอ่ะ ^^ จากคุณ : Bg-view เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 20:27:51

ความคิดเห็นที่ 35 เพิ่งกลับจาก ตวจ. เหนื่อยๆ มาได้ยินเพลงบรรเลงซึ่งเป็นเพลงที่เราชอบมากๆ เพลงหนึ่ง แต่ทำไมหนนี้ฟังแล้วเรารู้สึก "เหงาและวังเวงใจ" จังค่ะ   จากคุณ : Smiling-girl เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 23:02:37

ความคิดเห็นที่ 36 สวัสดี MM,         Long time no see... ส่งยิ้มให้กว้างๆ ซัก 2-3 ที แทนความคิดถึงเด้อ ขอบคุณประวัติดีๆ ภาพสวยๆ เพลงเพราะๆ ให้บรรยากาศ วันพระใหญ่ที่ใกล้จะถึง ดูสงบเงียบ ร่มรื่น เย็นตา เย็นใจ เป็นบรรยากาศที่หาได้ยากสำหรับวัดในตัวเมือง.. ผนวกฝีมือถ่ายภาพระดับ MM แล้ว.. อืมม สื่อด้วยภาพนั่นล่ะ กดไลค์ให้กิฟท์ เก็บเข้าคลัง ตามระเบียบ :) . วันพระใหญ่ติดกันหลายวัน ไปปฏิบัติ หรือทำบุญที่ไหนไหม .. หากมีภาพสวยๆ เก็บมาฝากกันเน้อ.. ท่านช่างภาพใหญ่ ในสไตล์ MM ฝนตก ระวังหวัดทักทาย จะไม่สบายด้วย Take care ja ;)       จากคุณ : เลื้อย เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 23:06:03

ความคิดเห็นที่ 37 เคยไปวัดนี้ตามคำแนะนำจากคนในห้องนี้ น่าจะเป็นจขกท. ผมเข้าไปทางจรัญสนิทวงค์ 37 ถ้าจำซอยไม่ผิด ระหว่างทางในซอยมีมูลนิธิหลวงปู่มั่นด้วย ผมขับรถไปสุดทาง เป็นทางเข้าสวนใครไม่รู้ แต่เจ้าของใจดีเปิดประตูทิ้งไว้ให้ขับรถทะลุผ่าน ขับไปจนสุดทาง เจอคลองขวางก็จอดรถไว้ในสวนนั้น เดินไปทางขวามือ ผ่านบ้านคน เจอบึงบัวตามรูป บรรยากาศนี่เหมือนหลุดไปอยู่อีกโลกนึง ผมไปคนเดียว เลยเหวอๆ แอบกลัวเล็กน้อย แต่มันธรรมชาติมากๆ เดินเข้าไปเหมือนเป็นวัดลอยน้ำ อีกส่วนนึงเป็นเกาะ เหมาะแก่การปลีกวิเวกสุดๆ ไปนั่งสมาธิ เดินจงกรม อยู่ครึ่งชม. ก็กลับ เสียดายได้ยินว่าไฟไหม้ไม่รู้ว่าซ่อมเสร็จยัง จากคุณ : เส้นขอบฟ้าเวลาพระอาทิตย์ตกดิน เขียนเมื่อ : 29 ก.ค. 55 23:33:43

ความคิดเห็นที่ 38 เคยไปมาค่ะ เป็นวัดเล็กๆ ที่บรรยากาศดีมาก ตอนนั้นที่ไป ได้มีโอกาสพบครูบาอาจารย์ ให้แนวธรรมะ ได้ไปกราบพระอาจารย์เปลี่ยนที่วัดป่าเชิงเลนด้วยค่ะ ถามท่านเรื่องการปฏิบัติที่ยังงงงง ก็ได้แนวทางกลับมาค่ะ เสียดายตอนนี้ไม่ค่อยได้ไป เพราะเข้าไปยาก หาเวลาไม่ค่อยได้ ขอบคุณจขกท นะคะ เห็นภาพแล้วนึกถึงวัด ว่างไจะเข้าไปทำบุญค่ะ แก้ไขเมื่อ 30 ก.ค. 55 00:35:27 จากคุณ : จิตรพร เขียนเมื่อ : 30 ก.ค. 55 00:34:59

ความคิดเห็นที่ 39 อนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ^_^สาธู๊สาธู๊สาธู๊ จากคุณ : ศิษย์ตถาคต (Fiat06060606) เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 13:24:32

ความคิดเห็นที่ 40 รบกวนผู้รู้ ช่วยชี้ทางไปหน่อย ต้องไปเส้นไหน อะไรยังไง จากคุณ : แฟนนายแบบ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 14:23:24

ความคิดเห็นที่ 41 อยากให้กิฟท์จัง  แต่หมดอ่ะค่ะ ขอบคุณ สำหรับรูปสวย ๆ และประวัติของวัดนะคะ _/\_ จากคุณ : แม่กุ๊บกั๊บกับเก๋ากี้ เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 16:28:00

ความคิดเห็นที่ 42 ใช่ค่ะวัดนี้สงบร่มรื่นมาก  ดิฉันไปทำบุญประจำตลอด 6-7 ปีที่ผ่านมา  จากศาลาเก่าจนกลายเป็นศาลาใหม่ดังรูป ช่วงเช้าจะมีการตักข้าวสวยใส่บาตรพระ  ส่วนอาหารคาวหวานต่าง ๆ ก็ถวายไว้ที่โต๊ะรวม มีการสวดมนต์บทสั้น ๆ  แล้วต่อด้วยการนั่งสมาธิ  เสร็จแล้วอาหารที่เหลือจากการถวายพระ ญาติโยมก็จะตักทานกัน แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 18:03:24 แก้ไขเมื่อ 31 ก.ค. 55 18:02:17 จากคุณ : ป้าแก่คนสวย เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 17:59:59

ความคิดเห็นที่ 43 จรัญสนิทวงศ์ ซอย 37 ข้าง makro จรัญ ครับ ถ้ากลัวหลง จ้าง มอไซค์ ปากซอยนำไปได้ครับ จากคุณ : view2306 เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 55 20:52:53

ความคิดเห็นที่ 44 เห็นภาพของคุณ MM แล้ว ชวนอยากไปวัดนี้มากๆ เลยค่ะ เคยได้อ่านประวัติของวัดนี้มาประมาณนึง เห็นทีต้องตั้งใจไปสักครั้งให้ได้แล้ว จากคุณ : bongboeaw เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 18:18:02

ความคิดเห็นที่ 45 เจ๋งมากครับ ตอนแรกงง เพลงมาจากไหน จากคุณ : M_moshi เขียนเมื่อ : 1 ส.ค. 55 23:56:45

ความคิดเห็นที่ 46 ผมอยากได้ดนตรีประกอบ ตอนที่พกาพรหมเล่นซ่อนหากับพระพุทธเจ้าครับ ใครพอมีลิ้งดนตรีบ้างครับ จากคุณ : M_moshi เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 00:04:42

ความคิดเห็นที่ 47 โอ้ว .. ดูสงบมากครับ น่าไปนั่งสมาธิ วิปัสนามากเลย จากคุณ : tothza_one เขียนเมื่อ : วันอาสาฬหบูชา 55 12:32:32

ความคิดเห็นที่ 48 โบสถ์ใช้ถังเป็นทุ่นหนุนให้ลอยใช่ไหมครับเนี่ย ผมก็คิดว่า ถ้าน้ำเยอะจริงๆ ควรทำแบบนี้แหละ จะได้ไม่ต้องบำรุงรักษากันบ่อยๆ จากคุณ : ป้อม (Bgate) เขียนเมื่อ : 4 ส.ค. 55 01:24:09